Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2558
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
27 ธันวาคม 2558
 
All Blogs
 

สาธร เป็นพันธุ์ไม้พระราชทานประจำนครราชสีมา

ต้นไม้ประจำจังหวัด   :    ต้นสาธร (เดิมคือต้นราชพฤกษ์) ต้นไม้พระราชทานประจำจังหวัดนครราชสีมา (สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงโปรดพระราชทานกล้าไม้มงคล พระราชทานประจำจังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2537 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และจังหวัดได้ทำพิธีปลูกเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2537 ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา)
ข้อมูลทั่วไปของต้นสาธร

-    ชื่อวิทยาศาสตร์  Millettia leucantha Kurz.

-    ชื่อสามัญ Papilionaceae

-    วงศ์ LEGUMINOSAE

-    ชื่ออื่น กระเจ๊าะ ขะเจ๊าะ


ลักษณะทั่วไป

-    ไม้ยืนต้น ผลัดใบ สูง 18-20 เมตร เปลือกสีเทา เรือนยอดเป็นพุ่มทึบ

-    ใบอ่อนและยอดอ่อนมีขนยาว ใบ ประกอบแบบขนนกปลายเดี่ยว เรียงสลับ ใบย่อยติดเป็นคู่ตรงกันข้าม 3-5 คู่ แผ่นใบย่อยรูปรีกว้าง 3.5 - 5 เซนติเมตร ยาว 5-12 เซนติเมตรปลายแหลม โคนมน

-    ดอก สีขาว รูปดอกถั่วสีชมพูอ่อน ออกเป็นช่อตามง่ามใบและปลายกิ่ง เดือนมีนาคม พฤษภาคม และฝักแก่ เดือนพฤษภาคม – สิงหาคม

-    ผล  เป็น ฝัก แบน กว้างประมาณ 2 เซนติเมตร ยาว 4-10 เซนติเมตร (แบนคล้ายฝักมีด)

-    เมล็ด รูปโล่ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.3 เซนติเมตร

นิเวศวิทยา  :  ชอบอยู่ตามสภาพดินร่วน แสงแดดจัด ต้องการน้ำและความชื้นมาก พบขึ้นในป่าเบญจพรรณใกล้แหล่งน้ำทั่ว ๆ ไป ขยายพันธุ์ โดยเมล็ด

ประโยชน์    :  เนื้อไม้ใช้ในการก่อสร้างและเครื่องเรือน


ภาพ topicstock.pantip.com

  • สาธร เป็นพันธุ์ไม้พระราชทานเพื่อปลูกเป็นมงคลของจังหวัดนครราชสีมา
  • ชื่อวิทยาศาสตร์: Millettia leucantha Kurz
  • วงศ์: Leguminosa-Papilionoideae
  • ชื่ออื่น: ขะเจ๊าะ กะเซาะ ขะแมบ กระเจา ขะเจา
  • ลักษณะ: ไม้ต้นขนาดกลาง ผลัดใบ สูง 18 - 20 เมตร เรือนยอดกลมหรือทรงกระบอก
  • เปลือก: สีเทาเรียบหรือแตกเป็นสะเก็ดแล็ก ๆ ตื้น ๆ เนื้อไม้สีขาวอมน้ำตาล แก่นสีน้ำตาลอมดำ เรือนยอดเป็นพุ่มทึบ ใบอ่อนและยอดอ่อนมีขนยาวอ่อนนิ่มคล้ายเส้นไหมปกคลุมอยู่
  • ใบ: ประกอบรูปขนนกเรียงสลับ ใบย่อยติดเป็นคู่ตรงกันข้าม 3 - 5 คู่ ปลายสุดเป็นใบเดี่ยวแผ่นใบย่อย รูปรี กว้าง 3 - 5.5 เซนติเมตร ยาว 5 - 12 เซนติเมตร ปลายแหลม โคนมน ด้านล่างใบสีอ่อนกว่าด้านบน ใบแก่เกลี้ยง
  • ดอก: ดอกช่อ สีขาว แบบช่อกระจายแยกแขนง ยาวประมาณ 20 ซม. ออกพร้อมใบอ่อน รูปดอกถั่ว กลีบดอก 5 กลีบ กลีบเลี้ยง 4 กลีบติดกันเป็นหลอดสั้น ออกรวมกันเป็นช่อตามง่ามใบและปลายกิ่ง
  • ผล: เป็นฝักแบน รูปขอบขนานคล้ายฝักมีด มีเปลือกแข็ง กว้างประมาณ 2 เซนติเมตร ยาว 4 - 10 เซนติเมตร ฝักแก่แตกเป็น 2 ซีก ฝักหนึ่ง ๆ มี 1 - 3 เมล็ด เมล็ดสีน้ำตาล รูปร่างแบนคล้ายโล่ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.3 เซนติเมตร
  • นิเวศวิทยา: พบขึ้นในป่าเบญจพรรณใกล้แหล่งน้ำทั่ว ๆ ไป ในพื้นที่ที่สูงจากระดับน้ำทะเลไม่เกิน 600 เมตร
  • ออกดอก: มีนาคม - พฤษภาคม ฝักแก่ พฤษภาคม - สิงหาคม
  • ขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด ควรนำเมล็ดแช่น้ำประมาณ 1 คืน ก่อนนำไปเพาะ เมล็ดงอกใช้เวลาประมาณ 10 - 15 วัน
  • ประโยชน์: เนื้อไม้และแก่นมีลักษณะสวยงามใช้ในการก่อสร้าง ใช้ทำเครื่องเรือน และด้ามเครื่องมือเครื่องใช้ เช่น เสาเรือน ขื่อ รอด เพลา เกวียน เครื่องนอน ครก สาก
  • ถิ่นกำเนิด: ในไทยทางภาคกลาง ภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ ต่างประเทศพบที่พม่าและลาว
  • จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี




 

Create Date : 27 ธันวาคม 2558
0 comments
Last Update : 27 ธันวาคม 2558 9:09:57 น.
Counter : 17708 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Rain_sk
Location :
Upper Midwest United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [?]





"ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ส่งผล
คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง
เมื่อใดบาปให้ผล คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น"
ขุ.ธ. 25/15/24
เวลา 4.57PM :sat,Mar 29,2557



BlogGang Popular Award # 9


BlogGang Popular Award # 10


BlogGang Popular Award # 11


BlogGang Popular Award # 12


Friends' blogs
[Add Rain_sk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.