40 ความคิดวิธีสร้างบวกกับดำรง วงษ์โชติปิ่นทอง
3 ปีกับงานเขียน 24 เล่ม ภายใต้นามปากกา ดำรงค์ วงษ์โชติปิ่นทอง หรือที่รู้จักในตำแหน่งประธานกรรมการ เรสเตอร์ กรุ๊ป หรืออีกภาพลักษณ์ในหลักสูตรสัมมนาโดย อ.ดำรงค์ วงษ์โชติปิ่นทอง ซึ่งครั้งนี้เจ้าตัวมาในมาดนักเขียนรุ่นใหม่ที่หนังสือมียอดสูงติดอันดับต้นๆในการดูแลของ สำนักพิมพ์ เรสเตอร์ บุ๊ค พร้อมเปิดตัวหนังสือเล่มใหม่ เป็นการนำประสบการณ์วิธีคิดที่สร้างความสุขให้ผู้อ่าน โดยเปิดใจกับงานเขียนอย่างหมดเปลือก
หนังสือของผมส่วนใหญ่เป็นแนวปรัชญาชีวิต มีข้อคิดให้ในตอนท้าย เรื่องแรกๆ ที่เขียนคือ เกาสมอง โดยชุดนี้จะมีทั้งหมด 4 เล่ม เกาสมอง เกาเวลา เกาโลก และ เกาสำเร็จ เนื้อหามาจากประสบการณ์ในการทำงาน และการมองโลก
ทั้งนี้ในหนังสือหนึ่งหน้าจะมีตัวหนังสือไม่เยอะ ทำให้คนอยากอ่านเหมือนจิตวิทยา ถ้าเกิดหนังสือเต็มไปหมด เราจะไม่รู้ว่าเน้นตรงไหน อย่างเช่น ผมจะเน้นตรงคำว่าตา ก็จะเขียนตัวใหญ่ๆ เพราะผมอยากให้คนรู้ว่าผมให้ความสำคัญกับตานะ ทัศนคติต่างกัน ทำให้เรามีมุมมองต่างกัน แม้มันจะมีดวงตาดวงเดียวกัน / หู ทัศนคติต่างกัน ทำให้เรารับฟังไม่เหมือนกัน แม้เรามีใบหูคล้ายๆ กัน / ปาก ทัศนคติต่างกัน ทำให้เรามีคำพูดไม่เหมือนกัน แม้เรามีปากแบบเดียวกัน / หัวใจ ทัศนคติต่างกัน ทำให้เรามีความรู้สึกไม่เหมือนกันแม้เรามีหัวใจเหมือนกัน นี่แหละครับ ไม่มีคนเขียนแบบนี้ หนังสือของผมจะทำให้คนมองโลกในอีกแบบ อย่างตัวผม ผมพยายามอยากรู้ว่า เอ๊ะ ทำไมฝนถึงตก ทำไมคนเกาหลีชอบกินกิมจิ ผมก็สังเกตไปเรื่อย ทำให้มีมุมมอง เวลาคิดอะไรซับซ้อน ทำให้มีความสุขตรงนั้น หนังสือที่ผมเขียนจะไม่เหมือนใคร ซึ่งหนังสือปรัชญาชีวิตของเมืองไทยมักจะแฝงไปด้วยความเศร้า หนังสือที่ได้รางวัลเยอะแยะ อ่านยิ่งเศร้า ยิ่งเศร้ายิ่งร้องไห้ ทำไมต้องเศร้าขนาดนั้น ผมก็ไม่เข้าใจ แต่ของผมเป็นแนวปรัชญาชีวิตที่อ่านแล้วมีรอยยิ้ม
ผลงานชุดแรก เกาสมอง ตีพิมพ์ออกไปแล้วกระแสตอบรับดี จนต้องพิมพ์ถึง 16 ครั้ง จากที่เขียนแนวปรัชญาชีวิต ต่อมาก็เปลี่ยนเขียนเป็นนิทาน นิทานแบบคำคม โดยเกิดจากจินตนาการ ผมพยายามบอกว่ามนุษย์มีความฝัน แล้วความฝันเนี้ย พอพระเจ้าสร้างโลกเสร็จภายในเวลา 6 วัน สร้างมนุษย์สร้างโน้นนี่ พอวันที่ 7 พระเจ้าก็สร้างความฝันขึ้นมา ความฝันจะอยู่บนหัวเรา และหนังสือเล่มใหม่ที่เพิ่งวางไปชื่อ 40 ความคิดวิธีสร้างบวก พูดถึงคิดบวกๆๆ คิดไปทำไม บอกได้เลยว่า ที่คนหลายคนพูดว่าคิดบวก เขาต้องการมีความสุข ง่ายๆ นิดเดียวเลย คิดบวกแล้วจะมีความสุข หลายคนไม่รู้ บอกว่าฉันรวย ฉันไม่รู้ ฉันมีเงินซื้อโน้นนี่ แล้วทำไมแค่นี้ก็มีความสุขแล้ว ผมบอกเลยว่าความสุขเวลาช้อปปิ้ง มันสุขตอนได้เลือก ตอนที่ควักกระเป๋าจ่ายแล้วหิ้วของนั้นกลับบ้าน พอถึงบ้านก็เอาของนั้นทิ้งๆ ขว้างๆ ชุดบางชุดซื้อมาก็ไม่ได้ใส่ แต่ขอให้ฉันได้เป็นเจ้าของมันก่อน เนี่ย ทุกคนเป็นแบบนี้หมด คิดว่าเงินจะซื้อความสุขได้ แต่มันไม่ใช่ ไม่รู้ว่าความสุขอยู่ตรงไหน ผมก็เคยอยู่ในภาวะนี้เหมือนกัน ระหว่างที่ผมไปค้นหาความสุข กับความสำเร็จ ผมก็ซื้อ ผมอยากได้อะไรก็ซื้อเลย เข็มขัดแพงๆ ปากกาแพงๆ รถอะไร เสื้อผ้า ใช้เงินซื้อเลย กลับมาไม่มีความสุข แล้วจะทำยังไงกับชีวิต ความสุขไม่ต้องมีขั้นมีตอน อยู่ดีๆ มันก็จะมีความสุขได้ ถ้าคุณรู้จักว่ามีความสุข การคิดบวกเป็น จุดเริ่มต้นของความสุข ความสุขเป็นการเริ่มต้นของความสำเร็จ
หนังสือของผมที่เป็นนิทานจะถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษ, จีน, ญี่ปุ่น โดยจะเริ่มวางขายที่อินเดีย กับ สิงคโปร์ เพราะที่นั้นประชากรประเทศนั้นนิยมการอ่านหนังสือ และผมเขียนเสร็จแล้วชื่อ life is in your hands หรือชื่อไทย ชีวิตอยู่ในมือคุณ เนื้อหาที่เขียนขึ้นมาใหม่เป็นภาษาอังกฤษในแนวปรัชญาชีวิต โดยเราสามารถกำหนดชีวิตของเราเองได้ เหมือนกับที่ผมกำหนดชีวิตว่าจะเขียนหนังสือให้ได้ซักร้อยเล่ม นี่ได้ 24 แป๊บเดียวเอง ที่ถามว่าผมจะเปลี่ยนแนวเขียนไหม ถ้าเป็นนักเขียนต้องมีความสามารถ เหมือนคนถามว่า ถ้าให้ไปเป็นวิทยากรคุยเรื่องนี้ๆ พูดได้ไหม ผมจะบอกกับคนที่เชิญผมไปว่า วิทยากรทุกคนเขาพูดได้หมดแหละ วิทยาการพอพูดเรื่องลีดเดอร์ ก็พูดเรื่องเมเนจเมนท์ได้ ในเครือข่ายแบบนี้ได้ ทุกคนทำได้หมดครับ เหมือนนักข่าว ผมเข้าใจว่าถ้าเขียนเรื่องแบบนี้ได้ ก็น่าจะเขียนเรื่องแบบอื่นได้เหมือนกัน ผมอยากจะเขียนเรื่องที่มันขำๆ ฮาๆ สำหรับความสำเร็จในการเป็นนักเขียนที่ผมคิดไว้ คือช่วยให้คนฉลาดขึ้น คิดมากขึ้น ถ้าเมื่อไหร่ ผมเขียนหนังสือแล้วทำให้คนฉลาด หรือมีความสุข ก็เท่ากับผมถึงจุดหมายของผมแล้วครับ
credit : dailyworld
Create Date : 29 ธันวาคม 2554 |
|
0 comments |
Last Update : 29 ธันวาคม 2554 13:49:34 น. |
Counter : 2009 Pageviews. |
|
|
|