แหล่งกบดาน
<<
พฤศจิกายน 2560
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
24 พฤศจิกายน 2560

[Books] อาหารไทย มาจากไหน - สุจิตต์ วงษ์เทศ



อาหารไทยมาจากไหน - สุจิตต์ วงษ์เทศ
สำนักพิมพ์: นาตาแฮก

เป็นหนังสือสารคดีอาหารไทยที่คล้ายๆจะเป็น pop-history แต่ยังมีกลิ่นงานวิชาการพอสสมควร ผู้เขียนอัดข้อมูลไล่อธิบายมาตามลิสท์ ไม่ได้ผูกเรื่องราว หรือกระตุ้นคนอ่านด้วยสำนวนคมคายอะไร แต่รูปแบบการนำเสนอเป็นระบบ และภาษาตรงไปตรงมาทำให้สามัญชนคนธรรมดาอ่านเข้าใจง่าย คำอธิบายกระชับแค่พอสังเขป เนื้อหาสนุก แล้วยังเน้นภาพถ่าย หลายหน้าตัวอักษรค่อนข้างน้อย อ่านแป๊บเดียวก็จบ ส่วนบางตอนที่จัดหนักไปถึงชื่อวิทยาศาสตร์วงศ์พืช หรือสรรพคุณยาสมุนไพร เราก็อ่านผ่านๆไป

ช่วงแรกๆปูพื้นเรื่องข้าวก่อน เพราะเป็นอาหารหลัก พร้อมกับเล่าตำนานต่างๆของข้าว ซึ่งมักจะเกี่ยวกับการกำเนิดมนุษย์ไปด้วย ตำนานช่วงนี้เพลิดเพลินหนุกหนาน มีทั้งหมาเป็นบรรพชนของมนุษย์ ควายให้กำเนิดคน และคนเราสืบสายเลือดจากกบ (กบจริงๆนะ ไม่ใช่ตัวข้าพเจ้า)

อ่านแล้วเราคิดว่าอาหารไทย/สุวรรณภูมิ พอจะแบ่งได้เป็น 3 ยุค คือยุคดึกดำบรรพ์ ยุคอิทธิพลแขกกับจีน และยุครับพรรณพืชจากโลกใหม่

1. ยุคดึกดำบรรพ์ กินข้าวเหนียวบั้งหลาม และสิ่งที่เรียกภายหลังว่า "กับข้าว" ได้แก่ ปลา เกลือ สัตว์เล็กๆ ผักหญ้า ปรุงสุกด้วยการเผา ปิ้ง ย่าง และเทคโนโลยีถนอมอาหารสุดศิวิไลซ์ที่เรียกว่า "เน่าแล้วอร่อย"

ขยายความ : อันว่า "เน่าแล้วอร่อย" นี้ถือเป็นของกินที่มีคนนิยมสูงสุดในอุษาคเนย์ เช่น ปลาแดก กะปิ ปลาร้า น้ำปลา น้ำบูดู น้ำพริก ฯลฯ กำเนิดการกินของเน่าน่าขนลุกมาก เพราะน่าจะเกิดจากการกินศพญาติกันเอง คนอุษาคเนย์เชื่อว่าคนตายแล้วขวัญไม่ตาย แค่หายไป ต้องพักศพรอไว้ให้ขวัญกลับมา เลยมีกรรมวิธีต่างๆในการทำศพ (ที่โคตรจะคล้ายกับการแปรรูปอาหาร) และตั้งศพไว้หลายวัน คอยเป่าปี่ตีฆ้องให้ขวัญกลับร่างถูก

คาดว่าระหว่างนั้นก็บ่มศพให้เน่าอร่อยไปพลางๆด้วย ToT

2. ยุคอิทธิพลแขกและจีน เริ่มประมาณ 2000 ปีก่อน มีข้าวเจ้าจากอินเดีย (กินในชนชั้นสูง เลยเรียกข้าวเจ้า) วัตถุดิบ เครื่องเทศ มีวิธีปรุงแปลกๆ เช่น บดเครื่องเทศ ต้มแกง ทอดน้ำมัน

3. ยุครับพรรณพืชจากโลกใหม่ (ทวีปอเมริกา) ได้พริก มะเขือเทศ มะละกอ ประสมประสานได้เสมอเมื่อมีโอกาสและกินอร่อย

จะว่าไป ส้มตำมะละกอนี่เป็นวิวัฒนาการขั้นสุดยอดมาก เเป็นพืชจากอเมริกาใต้ พันธุ์ที่โปรตุเกสเอาไปปลูกที่มะละกา (เลยกลายเป็น มะละกอ) ปลูกในไทยโดยคนจีน เอามาตำส้ม (ตำของรสเปรี้ยว) โดยคนลาวในกรุงเทพ และพลิกแพลงให้มีรสเผ็ด ซึ่งแต่เดิมไม่มีในวัฒนธรรมลาว

ตอนอ่าน ทำไมแฮมเบอร์เกอร์จึงไม่มีแฮม กับคุณหมอชัชพล เราเคยบอกว่า อยากอ่านหนังสืออธิบายศัพท์ภาษาไทยบ้าง เล่มนี้ได้ที่มาที่ไปของศัพท์อาหารไทยบางส่วนนะ อย่างเช่นคำว่า แกง แปลว่า ทำให้ตาย เป็นที่มาของ อย่าฆ่าแกงกัน ตะแลงแกง หรือ พริก มาจากคำมอญว่า เมรก หมายถึงพริกไทยดำ เป็นคำยืมจากภาษาบาลี มริจ แล้วก็พวกคำจากมุสลิม อย่าง การบูร องุ่น สบู่ บุหรี่ กาแฟ ฯลฯ คำจีนอย่าง เกาเหลา จันอับ โป๊ ฯลฯ ตรงนี้กบน้อยหนุกหนานเพลิดเพลินยิ่งนัก

ไม่แน่ใจว่าหนังสือเล่มนี้ผู้เขียนผสมเอาจากหลายบทความหรือเปล่า เพราะบางตอนก็พูดถึงซ้ำๆ อย่างเช่น ตำนานเรื่องน้ำเต้า เล่าซ้ำหลายหน แต่เราก็โอเคนะ เหมือนทบทวนไปด้วย

หนังสือมีภาพประกอบมากมาย (ภาพปลากรอบอันลือชื่อก็มี!) น่าสนใจทั้งนั้น เราชอบภาพดึกดำบรรพ์ตามถ้ำคนโบราณเป็นพิเศษ มันเหมือนการ์ตูนน่ะ มีรูปนึงเป็นควายอ้วนปั้ก น่ารักโพดๆ <3

4 ดาว

ป.ล. เล่มนี้ได้มาจากงานหนังสือ เขาว่าไม่มีวางขายในร้านทั่วไป ถ้าอยากได้ต้องสั่งทางเว็บเอา




Create Date : 24 พฤศจิกายน 2560
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2560 17:09:37 น. 4 comments
Counter : 2018 Pageviews.  

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณjackfruit_k, คุณruennara, คุณJim-793009, คุณnewyorknurse


 
โห น่าอ่านมาก ชอบหนังสือที่อ่านแล้วได้สาระแบบนี้ครับ
เรื่องอาหารแม้มองว่าใกล้ตัว แต่ไม่ค่อยรู้ที่มา เล่มนี้จึงน่าสนใจ ขอบคุณที่นำมารีวิว ยังไงจะลองหามาอ่านดูบ้างครับ


โดย: ruennara วันที่: 25 พฤศจิกายน 2560 เวลา:1:07:42 น.  

 
แนะนำค่า อ่านง่ายด้วยละ


โดย: Froggie วันที่: 25 พฤศจิกายน 2560 เวลา:7:08:07 น.  

 
น่าสนใจมาก ๆ เลยครับ เมื่อช่วงเดือนตุลาคมเห็นรุ่นพี่คนหนึ่งซื้อมาทั้งชุดเลย มีหลายเรื่องมาก ขนาดเรื่องอาหารที่นำมารีวิวยังดูสนุกมากนะครับ ความรู้เพียบเลย ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ


โดย: Jim-793009 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2560 เวลา:11:36:10 น.  

 
เราหยิบเพราะคำว่า อาหาร เลยค่ะ XD


โดย: Froggie วันที่: 27 พฤศจิกายน 2560 เวลา:17:50:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Froggie
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 29 คน [?]




[Add Froggie's blog to your web]