แหล่งกบดาน
<<
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
11 กุมภาพันธ์ 2552

[trip] เส้นทางสายไหม ช่วงต้น + มองโกเลียใน

รียูสจากบ๊อกตัวเองที่อื่น แหะ แหะ หาเรื่องอัพบล็อกน่ะ ไม่มีไร

เป็นสรุปทริปที่ข้าพเจ้าไปล่องเส้นทายสายไหม (ช่วงต้น) + มองโกเลียใน เมื่อปีก่อนค่ะ

ทริปที่่ว่าเป็นทริปที่แสนยาวและมาราธอนมหาโหดมาก เราไปตั้งต้นที่นครฉางอาน (หรือซีอัน สมัยนี้) ลัดเลาะไปเรื่อยๆจนถึง เมืองตุ้นหวง ซึ่งเป็นด่านสุดท้ายทางตะวันตกของประเทศจีนในสมัยก่อน วกกลับมาปักกิ่ง จากนั้นด้วยชะตาฟ้าลิขิตกับการตัดสินใจปุบปับ จึงชิ่งทริปต้าถง ไถลขึ้นเหนือไปจบชีวิต เอ๊ย จบทริปอย่างสงบเอาที่มองโกเลียใน

งวดนี้สรุปความประทับใจสั้นๆเฉพาะสามเมืองหลักละกัน ถ้าใครสนใจรู้เรื่องราวส่วนไหนเพิ่มเติม เม้นต์ไว้ได้นะคะ จะหาโอกาสกลับมาเขียนต่อ แต่ขอไม่ร่ายนิราศตั้งแต่ต้นจนอวสาน เพราะความจำเลอะเลือนแล้วประการหนึ่ง และยืดยาวจนคนเล่าอาจเมาคีย์บอร์ดได้อีกประการหนึ่ง


ซีอัน


ซีอันเปรียบไปก็คล้ายบัณฑิตใหญ่ผู้น่าเกรงขาม ที่พร้อมจะกระหน่ำความอลังการแห่งประวัติศาสตร์จีนเข้าใส่จนเราต้องแอ๊ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นเมืองสบายๆที่ทำให้ผู้มาเยือนยังเพลิดเพลินกับมันได้ หากไม่สนใจเกร็ดพงศาวดาร สรุปว่า เป็นเมืองที่มีอะไรให้ดูเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆ ถึงมากที่สุด ต่อให้คนที่ไม่ได้สนใจประวัติศาสตร์ก็ยังเที่ยวสนุก ว่างั้นเหอะ อย่างเช่น บุฟเฟ่ต์เกี๊ยวเป็นสิบๆชนิด เดินไปชิมไปบนถนนมุสลิม ขี่จักรยานเล่นบนกำแพงเมือง ไต่เจดีย์ห่านป่าใหญ่ ขึ้นไปตีกลองเคาะระฆังบนหอโบราณอายุหกร้อยกว่าปี ชมทัศนียภาพอันแสนเป็นเอกลักษณ์ของนครซีอัน ตื่นตาตื่นใจกับการแสดงคีตศิลป์สมัยถัง(เริ่มฟังเหมือนขายทัวร์เข้าไปทุกที) เอาเป็นว่า เมืองนี้ถ้าหาข้อมูลสักหน่อย มาเที่ยวเองได้สบายๆเลยนะ


ถามสิ่งที่เราประทับใจที่สุด ก็คงจะเป็น การที่ได้ขึ้นไปเดินเล่นบนกำแพงรอบเมืองซีอันอันเก่าแก่และโอ่อ่ากว้างขวาง ลมเย็นๆเดินคุยกันไป ชื่นชมกับประวัติศาสตร์ของก้อนหินอายุพันสามร้อยกว่าปี (เอง) ไป มองข้างซ้ายข้างขวา ทัศนาหลังคาบ้านเรือนของชาวเมือง หรือกิจกรรมพักผ่อนยามเย็นของชาวบ้านรอบๆกำแพง ทั้ง รำพัดหลากสี ร้องงิ้วจีน โขกหมากรุก เตะลูกขนไก่ เดินไปเรื่อยๆ เมื่อยก็ขึ้นจักรยาน หรือนั่งซดน้ำชา หม่ำซาละเปา แสนจะสำราญอย่างบอกไม่ถูก


ตุ้นหวง


เป็นปราการด่านสุดท้ายของจีนในสมัยก่อน จึงเป็นโอเอซิสที่คณะเดินทางบนเส้นทางสายไหมจะมาหยุดพักเพื่อเก็บเสบียงเตรียมลุยดินแดนตะวันตกอันทุรกันดารต่อไป จุดสำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้มาเยี่ยมชมที่นี่ก็คือ ถ้ำม่อเกา (ฟังแล้วคันๆมะ) ซึ่งเป็นถ้ำพุทธศิลป์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ในจีนมีถ้ำประมาณนี้อยู่สามแห่ง โดดเด่นกันไปคนละอย่าง ที่ตุ้นหวงนี่ดังในเรื่องภาพเขียนสี ถ้าใครจำมาสคอตห้าสีของโอลิมปิกจีนได้ เรดเรนเจอร์ที่อยู่ตรงกลาง ที่มีผมเป็นลูกไฟนั่น ดีไซน์รูปไฟก็ได้มาจาก รูปเขียนสีภาพเปลวไฟที่งดงามวิจิตรในถ้ำม่อเกานี่เอง


(รูปนี้ไม่ได้ถ่ายเอง)

ถ้ำนี้ให้ถ่ายรูปไม่ได้ แต่บอกเลยว่า ภาพเขียนสีถ้ำมันสุดยอดดดด แสดงให้เห็นว่าคนสมัยก่อนเค้าศรัทธากันแรงกล้าจริงๆ ยิ่งน่าประทับใจหนักเข้าไปอีกตรงที่ ปกติอะไรเว่อร์ๆอย่างนี้ต้องสร้างด้วยบัญชากษัตริย์ แต่ถ้ำม่อเกานี้ริเริ่มโดยชาวบ้านร้านตลาดที่ศรัทธาในพุทธศาสนา (ซึ่งสมัยนั้นยังไม่ได้รุ่งเรือง) ผู้แสวงบุญที่ดั้นด้นมาถึงตุ้นหวง รวมทั้งนักเดินทางทั้งหลายบนเส้นทางสายไหม ควักกระเป๋าบริจาคเงินกันออกมาเอง


(นี่ก็ไม่ได้ถ่ายเอง เพราะเขาไม่ให้ถ่ายรูปข้างใน)

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ข้าพเจ้าจะยกยอถ้ำนี้เสียเลิศเลอขนาดนี้ แต่ถ้าท่านไม่ได้สนใจประวัติศาสตร์ หรือพุทธศิลป์จีน ก็อาจจะรู้สึกว่ามันเป็นเพียง หินผุ รูปถลอก และคัมภีร์เก่า เท่านั้นเอง

ที่่ตุ้นหวงยังมีอะไรน่ารักๆอีกอย่างคือ ทะเลสาบพระจันทร์



(รูปที่สองนี่ข้าพเจ้าปรับเคิร์ฟอย่างแรง เพราะถ่ายตอนเย็น แสงไม่พอ)

ที่นี่ก็ข้าพเจ้าก็โปรดปราน โอเอซิสกลางทะเลทราย ซึ่งมีทะเลสาบน้อยๆโค้งเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว แต้มด้วยตำหนักจีนอยู่ตรงกลาง จะไปถึงที่นี่ได้ต้องนั่งน้องอูฐไปตอนเย็นๆ เพราะกลางวันร้อนนรก ขนาดว่าแดดร่มลมตกแล้ว ผิวเรายังถูกเผาซะเราเกรียมเป็นเนื้อแดดเดียว ต้องใส่หมวก กางร่ม เอาผ้ามาพันหน้าพันตาเป็นเบดูอิน นั่งอูฐโขยกเขยกไป

กิจกรรมหลักอย่างหนึ่งที่เล่นกันในทะเลทรายก็คือ ไต่เนินทราย ขึ้นไปเล่นสไลเดอร์ลงมาด้วยไม้กระดาน (โปรดสังเกตเนินทรายสูงๆที่ภาพข้างบน นั่นแหละลากสังขารขึ้นไปเพื่อไถลลงมา) เป็นบรรยากาศแปลกใหม่ที่หนุกหนาน และหอบซี่โครงบานที่ยิ่ง


(น้องอูฐชอบเอาคางเกยกันมาก ไม่รู้เป็นไร)

หลังจากนั้นเราก็กลับไปปักกิ่ง จากเดิมคิดว่าจะไปต้าถง ซึ่งเป็นที่ตั้งของถ้ำพุทธศิลป์อีกแห่งที่มีชื่อเสียงในด้านประติมากรรมสลัก (ที่ตุ้นหวงดังเรื่องจิตรกรรม) ก็เปลี่ยนเป็น ขึ้นเหนือไปมองโกเลียในแทน


มองโกเลียใน


เหตุที่อยากไป เพราะเจอฝรั่งสาธยายถึงทริปมองโกเลียนอก (ประเทศมองโกเลีย) ซึ่งพรมแดนติดกับเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ของประเทศจีน

ฝรั่งคนนั้นโชคดี ไปเที่ยวตอนเทศกาลนาดัม ซึ่งเป็นเทศกาลประจำปีที่ครึกครื้นที่สุดของชาวมองโกล จะมีเผ่าต่างๆมาแข่งขี่ม้า ยิงธนู และมวยปล้ำ แถมเขายังบอกว่า อย่าลืมตีตั๋วเช่ารถจี๊ปวิ่งกวดไปกับการแข่งขี่ม้าข้ามทุ่งหญ้าของพวกเด็กๆ อ๊าซซซ อยากไป๊ๆๆๆๆๆๆ นั่นแหละ เลยคิดว่า เอ๊า ยังไปมองโกเลียนอกไม่ได้ (ต้องขอวีซ่า) แต่อยู่เมืองจีนแล้ว ฉันไปลองเซิฟๆมองโกเลียในก่อนก็ได้ฟะ

ถึงจะจั่วหัวไว้อย่างนั้น แต่ที่เราไปจริงๆจังๆก็แค่เมืองหลวง ซึ่งมีชื่ออันแสนประหลาดว่า ฮูฮอต หรือ ชื่อภาษาจีนที่ชวนจั๊กจี้มากยิ่งขึ้นว่า หูเหอเฮ่าเท่อ จุดมุ่งหมายของการเดินทางมาที่นี่ไม่ใช่ตะลุยทะเลทรายโกบี (อันนั้นเค้าจะรอวันที่ได้ไปประเทศมองโกเลีย) แต่เป็นการสนองกิเลสของตัุวเองที่อยากไปขี่ม้าวิ่งเล่นในทุ่งหญ้าสีเขียว ท่ามกลางท้องฟ้าสีครามสุดลูกหูลูกตา ชมดอกไม้ป่าในทุ่งหญ้า นอนกระโจมมองโกล จิบนมแพะ ตื่นขึ้นมารับพระอาทิตย์สีส้มสาดแสงสีทองไปบนผืนหญ้ายามเช้าตรู่ ซึ่งก็...ได้ทำอย่างที่ตั้งใจไว้ทุกประการ ถึงแม้ทุ่งหญ้าที่ได้ไปจะไม่ใช่ที่ที่เจ๋งที่สุด หญ้าเขียวที่สุด หนาที่สุด ม้าเยอะที่สุด แต่มันก็เดินทางไปสะดวกที่สุด (แพลนกระทันหันก็ยังงี้แหละ)



เสียดายว่าวันที่ไปเมฆเยอะมาก เลยถ่ายรูปไม่ค่อยสวย



คุณม้าของเราว่านอนสอนง่ายน่ารักมาก แต่บทจะควบก็ใช่ย่อยเชียวล่ะ ขี่ได้สี่ชั่วโมง ลงจากหลังม้า แทบทรุด เมื่อยเข่าสุดๆ เพราะกล้ามเนื้อขาข้าพเจ้าไม่ค่อยมี



แถมนิดนึง ที่เกลียดที่สุดในทริปนี่คือคนทิ้งขยะค่ะ ไม่ว่าที่ไหน ทิ้งได้ทุกที่ โดยเฉพาะในทุ่งหญ้า มันเสียบรรยากาศมากเลยรู้มั้ย แล้วคนที่ทิ้งร้อยละ 99 ก็คนจีนเองนั่นแหละ เค้าจะว่าก็ไม่กล้า เจ้าของประเทศเค้าทำเองเลยอ้ะ ก๊าซซซซซซ (กบซิลล่าพ่นไฟ)

ทริปจีนที่อยากไปมากๆ ตอนนี้คงเหลือแค่ ธิเบต กับ ซินเจียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคานาสือ หรือทะเลสาบคานาสสุดเริ่ดพิสดาร



ใครก็ได้หาวันหยุดให้เค้าที



Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2552 9:20:35 น. 9 comments
Counter : 3176 Pageviews.  

 
จบแล้วเหรอคะเอาอีกๆๆๆ เดือนมีนาจะไปซีอานพอดีเลยค่ะ


โดย: flymom IP: 75.168.249.172 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:11:02:33 น.  

 
กำลังจะไปมองโกเลียในเหมือนกันค่ะ
แต่แพลนไว้ช่วงกลางปี
ช่วงนั้นจะมีทุ่งหญ้าจะกลายเป็นสีเหลืองอร่ามด้วยสักดอก
ทริปนี้น่าสนใจ เดี๋ยวจะกลับเข้ามาอ่านใหม่จ้า
เผ่นไปทำงานก่อน


โดย: ริมยมนา (ริมยมนา ) วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:11:32:41 น.  

 
สวยจังเลยค่ะ น่าไปเที่ยวมากๆ อิจฉาจัง


โดย: grippini วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:19:11:12 น.  

 
สวยจังเลยค่ะ อยากไป ๆ


โดย: Picike วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:6:07:34 น.  

 
ชอบอ่านพวกไปเที่ยวมากๆเลยค่า เพราะว่าไปเองไม่ได้ หนึ่งไม่มีตังส์ สองเป็นพวกเมาทุกอย่างแม้แต่แพ

ว่าแต่สงกรานต์ปีนี้พี่กบได้ไปเที่ยวไหนหรือเปล่า หรือว่าเที่ยวเมืองไทยอยู่เอย


โดย: องุ่น IP: 202.44.8.100 วันที่: 11 เมษายน 2552 เวลา:18:46:54 น.  

 
ถ้าจะเดินทางไปมองโกเลีย ต้องเดินทางกับสายการบินอะไรคะ รบกวนด้วยค่ะ


โดย: NaNa IP: 222.123.54.5 วันที่: 1 กรกฎาคม 2552 เวลา:16:30:00 น.  

 
ขออนุญาต นำไปเผยแพร่ต่อนะครับ ที่ facebook/tawanyimchang

ขอบคุณครับ


โดย: อ้วน IP: 119.42.99.149 วันที่: 12 สิงหาคม 2553 เวลา:1:30:34 น.  

 
ไม่ทราบว่าไปช่วงไหนคะ


โดย: กัน IP: 10.7.51.253, 202.28.181.200 วันที่: 22 ธันวาคม 2553 เวลา:23:58:21 น.  

 
คุณกัน >> เราไปหน้าร้อนค่ะ ช่วง ก.ค.


โดย: Froggie วันที่: 23 ธันวาคม 2553 เวลา:9:59:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Froggie
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 29 คน [?]




[Add Froggie's blog to your web]