แหล่งกบดาน
<<
กรกฏาคม 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
11 กรกฏาคม 2554

[Books] Bringing Home the Birkin : Michael Tonello



พลิกมาอ่าน non-fiction กันบ้าง เล่มนี้เพื่อนให้ยืมมาค่ะ ลองค้นดูพบว่ามีแปลไทยแล้วชื่อ ปฏิบัติการสุดฮาล่าแบรนด์ดัง

เรื่องย่อจากเว็บศูนย์หนังสือจุฬา
นี่คือเรื่องจริงของการไล่ล่าซื้อสินค้าแบรนด์เนมเพื่อนำมาขายต่อในอีเบย์ กลายเป็นอาชีพที่คนให้ความสนใจกันมากทุกวันนี้ เพราะรายได้ดี สนุก และได้เดินทางไปตามเมืองต่างๆ รอบโลก แต่เบื้องหลังยังมีรายละเอียดอีกมากมายที่น่าสนใจและคุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนจนกว่าจะได้อ่านหนังสือเล่มนี้ ผู้เขียน คือไมเคิล โตแนลโล อดีตนักประชาสัมพันธ์และช่างแต่งหน้างานโฆษณาแห่งเมืองโพรวินซ์ทาวน์ อเมริกา เขาตัดสินใจย้ายไปตั้งรกรากเพื่อทำงานที่บาร์เซโลนา สเปน แต่พอไปถึงจริงๆ กลับตกงานอย่างไม่คาดคิด ไมเคิลจึงต้องดิ้นรนหาอาชีพใหม่ทำในประเทศที่ไม่คุ้นเคย โดยเริ่มนำเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้มียี่ห้อที่เขาสะสมไว้แต่ไม่ได้ใช้มาขายในเวปไซต์ของอีเบย์ เมื่อขายไปเรื่อยๆ เขาก็ได้รู้ว่ามีกลุ่มคนที่คอยไล่ล่าตามหาสินค้าอะไรก็ได้ที่เป็นของแบรนด์เนม และคนกลุ่มนี้ก็มีกำลังซื้อแบบไม่จำกัดเสียด้วย วันหนึ่งเขาก็ได้รับอีเมล์จากกลุ่มผู้หญิงฐานะร่ำรวยมหาศาลที่กระเหี้ยนกระหือรืออยากได้กระเป๋ารุ่นเบอร์กิ้นของแอร์เมส ซึ่งเป็นกระเป๋าที่เป็นยิ่งกว่าสัญลักษณ์ของคนมีระดับ ฐานะร่ำรวยสุดขีด และมีชื่อเสียงโด่งดังว่าหาซื้อได้ยากเย็นเข็ญใจเป็นที่สุด ถึงมีเงินก็ใช่ว่าจะซื้อได้ ใครที่คิดอยากได้ต้องเข้าคิวรอ ว่ากันว่าต้องรออย่างต่ำๆถึง 2 ปี เป็นกระเป๋ายอดฮิตของดาราและไฮโซชั้นสูง ไมเคิลตัดสินใจว่านี่แหละคือโอกาสทองของเขาและรับเป็นตัวแทนซื้อกระเป๋าเบอร์กิ้นมาขายให้กลุ่มลูกค้า ช่วงแรกเขาไม่ประสบความสำเร็จเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ก็ลองผิดลองถูกจนประสบความสำเร็จในที่สุด ธุรกิจเบอร์กิ้นของไมเคิลเติบโตมากเสียจนเขาต้องเดินทางแทบจะรอบโลกเพื่อซื้อเบอร์กิ้นมาขายต่อ และต้องใช้กลยุทธมากมายในการเกลี้ยกล่อมให้พนักงานในร้าน ไปจนกระทั่งว่าจ้าง “สาย” หรือคนในพื้นที่ให้คอยซื้อกระเป๋าส่งให้เขาจากทุกมุมโลก จนทำให้เกิดเรื่องชุลมุนวุ่นวายต่างๆนาๆ ตั้งแต่วิธีการรับมือกับพนักงานขายสุดโหด กรณียึดกระเป๋าเป็นตัวประกัน ความมีน้ำใจเหลือเชื่อของลูกค้ามหาเศรษฐี ฯลฯ

ชื่อเต็มของหนังสือคือ Bringing Home the Birkin : My Life in Hot Pursuit of the World's Most Coveted Handbag เราไม่เคยอ่านหนังสือที่ตัวเอกเป็นเกย์มาก่อน สำนวนเธอขำหน้าตายดีจริงๆ รูปประกอบก็น่ารักน่าหยิก ยิ่งตอนแบ่งประเภทพนักงานขาย ถึงขั้นฮาพรืดออกมาเลยล่ะ

เรารู้จักกระเป๋าเบอร์กิ้นครั้งแรกจากเรื่อง Sex and the city ตอนที่ซาแมนธาอยากได้กระเป๋ามากจนต้องอ้างชื่อ Lucy Liu พูดจริงๆว่าเรามองดูยังไงก็ไม่เห็นว่าเบอร์กิ้นสวยตรงไหน



โอเคว่ามันไม่ได้ขี้เหร่ แต่ก็ไม่ได้ปิ๊งเป็นพิเศษ (อย่าเชื่อเรามากนะคะ เพราะเราก็ไม่เคยรู้สึกว่า LV สวยตรงไหนเหมือนกัน) เอาเป็นว่าขอชมแผนการตลาดของแอร์เมสว่าเป็นสุดยอดของสุดยอดละกัน


รูปข้างๆนี่เป็นชุดออกศึกของคนเขียนเวลาเข้าร้านแอร์เมส

ชอบ
- บรรยายซะอยากไปบาร์เซโลนา กับคาปรี ;o;

- อารมณ์ย้ายบ้านใหม่ ประเภทที่เข้าไปถึงแล้วแต่น้ำไฟยังไม่มา ซาบซึ้งเรื่องนี้จริงๆ

- เวลาคนเขียนจิกกัดราคาเว่อร์ๆของแบรนด์ดังๆ อย่างตอนที่เข้าไปในร้านแอร์เมสครั้งแรกแล้วบอกว่าตัวเองกำลังอยู่ในรายการ The Price Is (Can’t Be) Right ทำให้รู้สึกว่าเป็นพวกเดียวกันดี ถ้าคนเขียนกรีดกราดไปกับแบรนด์เราคงเข้าไม่ถึงอารมณ์

- Birkins-per-capita ratio, “Designer drug”

- I figured if I pitched a slow one, Hannah might hit it out of the park for me. ก๊ากเลย

- ตอนประมูล เธอแจ๊ดแจ๋มาก นึกภาพตามออกเป็นฉากๆเลย

- การแบ่งประเภทพนักงานขายแอร์เมส พร้อมรูปประกอบ

- กรณียึดกระเป๋าเป็นตัวประกัน

สรุปว่าเป็นหนังสือที่อ่านแล้วชอบมากเล่มนึงในช่วงที่ผ่านมา ^^


Create Date : 11 กรกฎาคม 2554
Last Update : 25 ธันวาคม 2562 11:22:48 น. 1 comments
Counter : 4379 Pageviews.  

 
ไม่รู้จักยี่ห้อน่ะค่ะ


โดย: jackfruit_k วันที่: 13 กรกฎาคม 2554 เวลา:23:49:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Froggie
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 29 คน [?]




[Add Froggie's blog to your web]