9 คำถามที่จะทำให้ชีวิตการงานของคุณดีขึ้น
ข้อคำถามต่อจากนี้ คือ สิ่งที่คุณควร(กล้า) ถามหัวหน้างาน เพื่อให้โอกาสในการทำงานของคุณเปิดกว้างและขับเคลื่อนไปได้โดยสะดวก แต่แนะนำว่า อย่าถามคำถามทั้ง 9 ข้อในเวลาเดียวกัน (เพราะเจ้านายอาจไม่มีเวลาตอบได้หมด)
★ 1.เจ้านายวัดความสำเร็จของการทำงานจากอะไรและอย่างไร บ่อยครั้งที่พนักงานหรือลูกน้องหลงลืมไปว่า ผลงานของตัวเองจะถูกประเมินหรือวัดความสำเร็จจากอะไร ทางที่ดีควรเตือนตัวเองเป็นระยะ และไม่รีรอที่จะถามเจ้านาย เพื่อคุณจะได้จัดลำดับความสำคัญของงานแต่ละชิ้น ตลอดจนเลือกวิธีการทำงาน ให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ที่จะทำต่อไปได้อย่างถูกต้อง
★ 2.ถ้าอยากจะก้าวหน้าในหน้าที่การงาน คุณต้องพัฒนาขอบข่ายงานส่วนไหนบ้าง เพราะคงปฎิเสธไม่ได้ว่าเจ้านายหรือหัวหน้างาน เป็นผู้กำอนาคตส่วนหนึ่งของคุณอยู่ คุณควรทำความเข้าใจกับเจ้านายให้ชัดเจนว่า เป้าหมายที่เจ้านายคาดหวัง ขณะเดียวกัน ถ้าคุณมีเป้าหมายของตนเองก็ควรนำมาปรึกษา เจ้านายคงพอจะให้คำตอบแก่คุณได้ว่า ขอบข่ายการทำงานในส่วนใดบ้างที่จะทำให้คุณไปถึงเป้าหมาย
★ 3.เจ้านายพอใจหรือต้องการให้คุณแก้ไขการทำงานอย่างไรบ้าง อย่ากังวลกับจุดด้อยของตัวเองจนเกินไป หันมามองจุดแข็งที่คุณมี แล้วพยายามทำให้เป็นจุดเด่นจนกลบข้อด้อยไปเลยยิ่งดี บางทีเจ้านายอาจมีมุมมองและความคิดเห็นที่แตกต่างจากคุณก็ได้ อีกอย่างคำถามข้อนี้ ยังเป็นโอกาสดีที่จะแสดงให้เจ้านายของคุณเห็นว่า คุณมีความตั้งใจมุ่งมั่นในการทำงานขนาดไหน
★ 4.มีการประเมินผลงานของพนักงาน (เช่นคุณ)บ่อยครั้งแค่ไหน และใครเป็นคนประเมิน คำถามที่ดูแสนจะธรรมดาแต่สำคัญนักเชียว เพราะคำตอบจะทำให้คุณเห็นภาพว่ากลวิธีไหนที่สำคัญสุดในการทำ โปรเจคท์งานแต่ละอย่าง รวมถึงสามารถวางเป้าหมายการทำงาน เพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาในการประเมินงาน ของผู้ประเมิน ให้คุณทำงานในแต่ละวันได้อย่างสมดุลและคุ้มค่าเหนื่อยด้วย
★ 5.ปัจจัยที่จะทำให้คุณมีโอกาสก้าวหน้าในบริษัทนี้ ประกอบด้วยอะไรบ้าง เมื่อทำงานไปได้สัก 2-3 ปี การกลับมาตั้งคำถามนี้อีกครั้งกับเจ้านายนั้นถือเป็นเรื่องดี เพราะเมื่อเวลาผ่านไป โครงสร้างของบริษัทอาจมีการเปลี่ยนแปลง คุณก็ควรจะปรับแผนการทำงานให้สอดคล้องกับนโยบายมากขึ้น
★ 6.ย้อนถามตัวเองว่าเข้าใจงานที่ทำถูกต้องแล้วหรือไม่ โดย เฉพาะเวลาทำงานที่ต้องประสานงานกับหลายๆ ฝ่าย ควรมั่นใจว่าคุณเข้าใจโปรเจคต์นั้นๆ อย่างถ่องแท้ รวมถึงควรเช็คความเข้าใจในเรื่องนี้กับเจ้านายด้วย แต่มีข้อควรระวังอยู่เหมือนกันว่า :อย่าใช้คำถามเชิงลบ เช่น “ผม/ดิฉันไม่เข้าใจเรื่องนี้” หรือ “ผม/ดิฉันคิดว่าวิธีการทำงานส่วนนี้ยังไม่ชัดเจน” ฯลฯ ควรอดทนอดกลั้นกับคำถามนี้ เพราะอาจทำให้เจ้านายรู้สึกว่า คุณไม่ชอบวิธีมอบหมายงานให้ลูกน้องของเขา
ทางที่ดีควรถามไปในทำนองว่า “ที่ดิฉัน/ผมทำมานี้ถูกต้องตามที่เจ้านายต้องการหรือไม่” หรือ “เจ้านายอยากให้เพิ่มเติมอะไรอีกหรือเปล่า” จะดีกว่า
★ 7.เจ้านายต้องการให้คุณช่วยเรื่องใดหรือไม่ แม้ว่าบางครั้งคุณอาจช่วยอะไรไม่ได้เลย แต่เจ้านายจะระลึกถึงความเป็นคนมีน้ำใจของคุณไว้เสมอ เพราะตำแหน่งหัวหน้าอาจทำให้เจ้านายต้องโดดเดี่ยว และไม่ยอมสุงสิงกับลูกน้องง่ายๆ เพื่อป้องกันเสียงครหาว่าลำเอียง ฉะนั้นเมื่อใดที่คุณถามคำถามนี้ มีความเป็นไปได้สูงว่าคุณอาจเป็นคนแรกๆ ที่เจ้านายจะนึกถึง
ข้อควรระวังคือ อย่าถามพร่ำเพรื่อจนเกินงาม มิฉะนั้นคุณอาจโดนเพ่งเล็งว่ากำลังเลียขาเก้าอี้เจ้านายได้
★ 8.สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกคือ ... พนักงานบางคนไม่กล้าถามคำถามนี้ เพราะอาจทำให้ดูเหมือนไม่รู้วิธีจัดลำดับความสำคัญของงาน ที่จะทำก่อนหลัง แต่ในทางตรงข้าม นี่เป็นคำถามที่จะสะท้อนถึงความใส่ใจและความรับผิดชอบต่องานของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเวลาที่คุณมีงานอยู่ในมือหลายโปรเจคท์ และหัวหน้างานยังคิดจะมอบหมายงานอีกชิ้นให้คุณ แต่เชื่อเถอะว่าเจ้านายยินดีจะฟังเสียงสะท้อนจากลูกน้อง เพื่อให้งานลื่นไหลและประสบผลสำเร็จโดยเร็วที่สุด
★ 9.ผม/ดิฉันของเสนอตัวรับงานนี้จะได้ไหม บางทีเจ้านายก็มีตารางงานที่เยอะจนลืมนึกถึงเรื่องของลูกน้อง ฉะนั้นอนาคตจึงเป็นสิ่งที่คุณต้องไขว่คว้าด้วยตัวเอง ทั้งการมองหางานใหม่ๆ ที่จะเสริมทักษะด้านต่างๆ ที่คุณยังขาดอยู่ การเสนอตัวช่วยงานเจ้านาย ก็เป็นอีกวิธีที่จะเพิ่มประสบการณ์ ให้กับตัวคุณเองได้เร็วและดีที่สุดด้วย
ที่มา //board.palungjit.com
Create Date : 12 มีนาคม 2552 |
|
0 comments |
Last Update : 13 เมษายน 2553 0:45:16 น. |
Counter : 768 Pageviews. |
|
|
|