Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2556
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
11 มิถุนายน 2556
 
All Blogs
 

อริยสัจจากพระโอษฐ์ .. การเกิดของเวทนา เท่ากับ การเกิดของทุกข์

.




ภิกษุ ท.!
- การเกิดขึ้น
- การตั้งอยู่
- การเกิดโดยยิ่ง
- และความปรากฏของเวทนา

อันเกิดแต่สัมผัส ..
- ทางตา
- ทางหู
- ทางจมูก
- ทางลิ้น
- ทางกาย
- และทางใจ

ใด ๆ นั่นเท่ากับ ..
- เป็นการเกิดขึ้นของทุกข์
- เป็นการตั้งอยู่ของสิ่งซึ่งมีปรกติเสียดแทงทั้งหลาย
- และเป็นความปรากฏของชราและมรณะแล.
.
.
.
ขนฺธ. สํ. ๑๗/๒๘๔/๔๘๗.




หมายเหตุ จขบ.

ตัวอักษรสีน้ำเงิน คือการยืนยันว่า .. ทุกข์ทั้งปวงเกิดขึ้นหลังการสัมผัสทางทวารทั้ง 6 แล้วนั้น ..

- เป็นการเกิดที่จิต
- เป็นการตั้งอยู่ คงอยู่ที่จิต
- เป็นการค่อยๆเหี่ยวแห้ง ดับไปจากจิต

ยิ่งอ่านพระพุทธวจนะมากเท่าใด จะยิ่งเกิดสัมมาทิฏฐิมากเท่านั้น จากความรู้ที่ถูกต้องจากผู้ตรัสรู้เอง ..

เรื่องเพ้อเจ้อนอกเหนือจากนี้ เป็นการปรุงแต่งขึ้นมาของคนรุ่นหลังที่เข้าใจพุทธธรรม อย่างไม่รู้จริง

บุญ กุศล บาป นรก สวรรค์ ชาติก่อน ชาติหน้า การเวียนว่ายตายเกิด เทพ อสุรกาย ฯลฯ .. เหล่านี้เป็นเพียงอุบายธรรมเพื่อสอนคนในยุคที่วิทยาการยังไม่เจริญ ในยุคที่คนยังขาดเหตุผลอยู่มากและใคร่ครวญเรื่องราวไม่ได้ ..

ความสัมพันธ์ของเหตุการณ์หรือปรากฎการณ์ที่ไม่อาจนำมาสืบต่อนับเนื่องถึงกันได้แต่ยังมีผู้เชื่อถืออยู่นั้น ย่อมเกิดจากการตีความด้วย ศรัทธาจริต ทั้งสิ้น

เมื่อโลกทั้งภายในและภายนอกตัวถูกรับรู้ .. ย่อมเป็นการรับรู้ผ่านทวารทั้ง 6 คือ ตา หู จมูก ลิ้น ผิวหนัง สมอง (ความคิด-ใจ) ดังนั้นการกระทบสัมผัสกับโลกย่อมเกิดที่ทวารทั้ง 6

และปัญหาหลังการกระทบสัมผัส เกิดจากจิตที่ขาดความเข้าใจธรรมชาติของสรรพสิ่ง - สภาพที่ปราศจากความรู้ - อวิชชา

ว่า .. สรรพสิ่งที่กระทบสัมผัสอยู่นั้น มันเป็นเช่นนั้น (ของมัน) เอง ไม่อาจเป็นเช่นที่เราอยากให้เป็นได้

เพราะ "ความอยากของเรา" กับ "ความที่มันเป็นมัน" ไม่ได้มีส่วนที่สัมพันธ์กันโดยตรงในลักษณาการที่จะเป็นเหตุปัจจัยต่อกันแต่อย่างใด

พระสงฆ์ที่มีผลงานเกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับพระพุทธวจนะโดยตรงอย่างถ่องแท้ เยี่ยงท่านพุทธทาส เยี่ยงพระอาจารย์คึกฤทธิ์แห่งวัดนาป่าพง .. ย่อมอยู่ในสัมมาทิฏฐิที่ไม่ว่าจะตีความข้อธรรมเรื่องใด จะยังอยู่ในหลักไตรลักษณ์เสมอไป คือ
- เกิดขึ้น
- ตั้งอยู่
- ดับไป
อันไม่เที่ยงคือ .. อนิจจัง
หากจับยึดจะเป็นทุกข์ .. ทุกขัง
ไม่เป็นตัวเป็นตนอะไร เป็นเพียงภาวะชั่วคราว .. อนัตตา

ส่วน วิญญาณเวียนว่ายตายเกิดนั้น ..
- มีมาก่อนแล้วในอดีตกาล .. ในร่างอื่น
- กำลังเป็นอยู่ .. ในร่างปัจจุบัน
- และจะมีต่อไปในอนาคต .. ในร่างใหม่
เป็นอัตตา เป็นเท็จ และเป็นมิจฉาทิฏฐิ .. เป็นความเชื่อที่ยากจะยกขึ้นสู่ทางไปนิพพาน เป็นความเชื่อของผู้มืดบอด ที่เหมือนเดินในถ้ำที่ไม่เห็นแสง .. พูดแบบอุบายธรรม ก็คือ ขุมนรกนั่นเอง

การเวียนว่ายตายเกิด หรือ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ย่อมเกิดที่ เวทนา 6 นี้เอง จนกว่าจิตจะเข้าใจโลกแวดล้อมได้ถ่องแท้และยกขึ้นพ้นรอบแห่งเวทนาเสียได้

เท่านี้เอง

เลิกสนใจเรื่องราวปรัมปรา เรื่อง ทศชาติ ศตชาตินั่นซะ แล้วจะเข้าใจธรรมได้ถูกได้ตรง แล้วปล่อยวางได้ง่าย เพราะมันเป็นลำดับขั้นของพัฒนาการแห่งจิตที่จะเป็นไปเช่นนั้น




 

Create Date : 11 มิถุนายน 2556
0 comments
Last Update : 11 มิถุนายน 2556 14:18:25 น.
Counter : 913 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.