เมื่อฉันต้องอยู่แบบ 3 คนผัวเมีย..ฉันจะหาทางออกอย่างไรดี!!

สวัสดีค่ะป้าแก้ว หนูเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบเพจของป้าแก้ว และเข้ามาอ่านแล้วทำให้ได้รู้เรื่องราวต่างๆมากมาย ในหลากหลายแง่มุม และวันนี้หนูมีเรื่องของพี่สาวที่รู้จักมาแบ่งปันค่ะ และ พี่ท่านนี้ได้อนุญาตให้เอาเรื่องราวของพี่เขาลงถามสมาชิก ได้เลยค่ะ เพราะ พี่เขาอยากได้คำแนะนำว่าเขาควรจะหาทางออกอย่างไร 

เริ่มเรื่องเลยนะคะ

เมื่อฉันต้องอยู่แบบ 3 คนผัวเมีย..ฉันจะหาทางออกอย่างไรดี!!

ตาล แม่หม้าย วัย19 ปี และมีลูชายวัย 4 ขวบ เธอได้รู้จักและแต่งงานกับชายต่างชาติโดยการแนะนำของญาติคนหนึ่ง ชายคนนี้เป็นคนอายุห่างจากเธอมาก เขาอายุ 60 ปี ในตอนที่แต่งงานกัน

หลังจากแต่งงานกันได้ไม่นาน ตาลก็ได้หอบเอาลูกย้าย ไปอยู่เมืองนอกกับสามี ในชีวิตช่วง 4-5 ปีแรก ชีวิตของตาลกับลูกดูเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดี สามาีรักเธอรักลูกเธอ ดูแลเทคแคร์เป็นอย่างดี

แต่หลังจากนั้น ทุกอย่างจะค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ เลวร้ายลงเรื่อยๆ เริ่มจาก สามีเริ่มหงุดหงิดบ่อยขึ้น เจ้าอารมณ์มากขึ้น เอาแต่ใจตัวเองมากขึ้น อาจจด้วยเพราะ วัยของเขาด้วยก็ได้ที่ทำให้นิสัยของเขาเปลี่ยนไป แต่สามีของตาล ไม่เจ้าชู้ ไม่ได้มีผู้หญิงคนใหใ่แต่อย่างใด แต่สามี จะชอบดื่มหนัก จู้จี้ขี้บ่น และเริ่มมีปัญหากับเพื่อนบ้าน อยู่เป็นประจำ เขาจะเป็นคนที่ชอบพูดจาเสียงดังไม่เกรงใจใครพูดไม่รักษาน้ำใจใครเลย และชอบด่าว่าตาลและลูกของเธอ โดยไม่แคร์ว่ามันจะเป็นที่ไหน จะเป็นข้างถนน ในห้าง หรือแม้แต่บ้านญาติพี่น้อง บ้าเพื่อนของเขา ทุกอย่างค่อยๆเริ่มเปลี่ยนไปและเพิ่มมากขึ้นหลังจากที่เขาเกษียนและมาอยู่บ้านเฉยๆ หลังเกษียน สามีจะมีแค่เงินช่วยจากรัฐ เพียงแค่ 2500 kr เท่านั้น

สามีเริ่มหงุดหงิดใส่อารมณ์กับเธอและลูก ไม่สนใจ ไม่ห่วงใย ไม่แคร์ เธอเลย แม้แต่เมื่อตอตนที่เธอไม่สบาย ก็ขอร้องให้สามีพาไปหาหมด แต่ เขากลับตอกหน้ากลับมาว่า" ก็ยังไม่ตายนี่นา ยังเดินได้ พูดได้อยู่ แต่ถ้าจะให้ดี รีบๆตายไปเลยจะดีกว่าจะได้ไม่เป็นภาระของฉันอีกต่อไป "

เมื่อสามี ดื่มและเมา ก็จะหาเรื่องทะเลาะกับตาลเป็นประจำ และเริ่มเพิ่มความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนวันหนึ่ง ตาลก็ต้องหอบลูก ออกจากบ้านกลางดึก เพราะสามี จะทำร้ายร่างกายเธอและลูก ตาลหนีไปขออาศัยอยู่กับเพื่อน และให้เขาหาบ้านเช่าให้

หลังจากย้ายออกมาได้ประมาณ 2-3 เดือน สามีก็ตามมาง้อขอคืนดีและ ขอร้องให้เธอและลูกกลับไปอยู่ด้วยกัน เขาสัญญาว่าจะกลับตัวใหม่ เธอเลยยอมกลับไป ตาลมีเหตผล ที่ต้องยอมกลับไปอยู่กับสามี เพราะ เธอไม่มีงานทำ และไม่มีรายได้อะไร

แต่เขาก็ดีได้ไม่นาน ก็กลับมาดื่มหนักเหมือนเดิม และสันดานเดิมก็กลับมา และหนักข้อขึ้นทุกวัน ป้าเชื่อหรือเปล่าคะว่า ถ้าลูกของตาล จะหยิบจับหรือทำอะไรก็จะโดนด่าโดนว่าตลอด แม้แต่ จะเอาแค่ไข่ 1 ฟอง มาทอดกิน หรือ โค๊กแค่ 1 กระป๋อง เขาก็ตะคอกและบอกว่า มาเอาของฉันไปกินทำไม ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เด็กขออนุญาตเขาแล้ว แต่พอเอาออกมาทำกิน ก็จะมีปัญหา เด็กต้องได้แอบกินตอนที่เขาหลับ หือไม่อยูบ้านเท่านั้น เพื่อเลี่ยงปัญหา  

ดูเหมือนว่าเขามีปัญหาด้านความจำด้วย อาจจะเพราะด้วยอายุที่มากขึ้นและเหล้าที่เขากรอกปากทุกๆวัน มันเลยทำให้สมองเสื่อมไว

ตาลต้องเจอและทนกับสามีที่ทำร้ายจิตใจเธอและลูกเรื่อยมา โดยไม่มีทางเลือก และวันหนึ่งเธอก็ ได้งานทำ และออกไปทำงาน ไม่รู้ ชะตากลั่นแกล้ง หรือ เป็นเพราะพรหมลิขิต ทำให้เธอได้พบและเจอกับผู้ชายคนใหม่ที่ทำงานในที่เดียวกันเขาเป็นคนดี ดูแล เอาใจใส่ ถามไถ่สารทุกสุขดิบเธอ ซึ่ง เธอไม่เคยได้รับจากสามีของเธอเลย 

ดังนั้นเธอเลยเผลอใจรักเขา และ เรื่องราวก็เกินเลย เลยเถิดไปมีความสัมพันธ์กัน และเธอก็ไม่เคยบอกว่าเธอมีสามีที่ยังอยู่อาศัยด้วยกัน และยังไม่ได้หย่าขาดขาดจากกัน เธอบอกเขาเพียงว่า เธอมีลูกชายเท่านั้น และทุกครั้ง เธอจะเป็นฝ่ายออกไปหาเขาเอง เขาไม่เคยรู้ว่าบ้านเธออยู่ที่ไหน ถึงแม้เขาจะพยายามถามแต่ตาลก็เลี่ยงเรื่อยมา จนเหตการณืล่วงเลยมาเข้าปีนี้ จะเป็นปีที่ 2 แล้ว

ตาลต้องอยู่ในสภาพ 1 หญิง 2 ชาย โดยที่ฝ่ายสามี และชายคนใหม่ไม่เคยรู้ระแคะระคายเลยว่า เธอ มีใครอีกคน อยู่

ตาลให้เหตผลว่าที่ไม่ยอมขอหย่าจากสามี เพราะ สงสาร อีกอย่างเมื่อก่อนหน้านี้สามีก็ดีกับตนและลูก ถาจะทิ้งเขาไป ก็กลัวไม่มีคนดูแลสามี

แต่ถ้า จะบอกความจริงกับคนใหม่ ก็กลัวเขารับไม่ได้ และเธออาจจะสูญเสียเขาไปซึ่งเธอบอกว่า เธอทนไม่ได้ ใครจะว่าเธอเห็นแก่ตัวเธอก็ยอม เพราะเธอโหยหาความรักความห่วงใย แบบนี้มานานเหลือเกิน หลังจากที่สามีเปลี่ยนไป

เธอบอกทิ้งท้ายไว้ว่า เธอขอ เก็บเกี่ยว และ ขอยื้อเเอาช่วงเวลาแห่งความสุขแบบนี้เอาไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้จนกว่าเรื่องจะแดงขึ้นมา เธอบอกว่า เธอเหมือนกับคนที่เดินหลงอยู่ในทะเลทรายอันแห้งแล้ง มองไปทางไหน ก็ไม่มีหนทาง มีแต่ความว้างเปล่า และสิ้นหวัง และมีแต่ความโหยหิว และความอดอยาก ความกระหายน้ำ และ วันหนึ่งได้มาพบเจอ โอเอซิส ซึ่งเหมือน สิ่งที่เข้าช่วยเติมเต็ม และช่วต่อชีวิตของเธอไปได้อีกระยะหนึ่ง

ตอนนี้สามีของตาล 74 ปี และ ตาล มีอายุเพียงแค่ 33 ปีแค่นั้น เธอทนกับสามี  มาได้เกือบ 14 ปี 

ป้าแก้วค่ะเรือ่งที่หนูเล่ามาทั้งหมดนี้

1. ป้าแก้วมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างค่ะ

2.ตาลควรทำอย่างไรต่อไปนี้ 

รบกวนป้าแก้วและเพื่อนช่วยแนะนำหรือแสดงความคิดเห็นดว้ยนะคะ เพื่อว่าบางทีพี่แพทจะได้ทางออกที่ดีสำหรับชีวิตค่ะ เรื่องยาวไปหนอ่ยรบกวนช่วยอ่านด้วยนะค่ะ ขอบคุณป้าแก้วและเพื่อนๆทุกคนค่ะ.

------------------------------------------------------

หลังจากอ่านเรื่องราวของตาลจบลง

ในความคิดเห็นของอีป้านะคะ ป้าแก้วว่า ตาล เขาควรบอกความจริงเล่าทุกอย่างให้ คนใหม่รับรู้ ถ้าเขารับได้ และอยากให้เขาไปอยู่ด้วย และรับผิดชอบเลี้ยงดู ก็ตัดสินใจเลิกกับแฟนเถอะค่ะ เขาไม่ได้มีส่วนดีอะไรให้ เหลือเยื่อใยอีกต่อไปเลยค่ะ ถ้าตามที่เล่ามานะคะ และถ้ามันไม่ใช่ข้ออ้างในการที่จะไปมีคนใหม่แล้วไม่ต้องไปสงสารสามีหรอกค่ะ สงสารตัวเองดีกว่า อย่าอยู่อย่างอดสูใจแบบนี้เลยค่ะ 

อย่าอยู่กับความรู้สึก และการกระทำที่ผิด ที่ตัวเองออกจากบ้านไปแล้ว ก็ไปนอนกับผู้ชายอีกคนหนึ่ง พอกลับมาบ้านก็มานอนกับผู้ชายอีกคนหนึ่ง

ถึงจะไม่มีเรื่องเซ็กก็เถอะ มันน่าสงสารนะคะกับการใช้ชีวิตแบบนี้และมันบาปด้วย เพราะถ้าเกิดเรื่องขึ้นมา น้องเขาจะไม่เหลือใครสักคนเลย และคนที่จะได้รับกรรมต่อการกระทำนี้ก็คือลูก

ยังไงป้าแก้ว ยูเค.ขอฝากเอาเรื่องนี้ไว้ให้ทุกๆท่านได้คิดด้วยนะคะ และรบกวน เข้ามา หาทางออกช่วยตาลกันด้วยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

ขอขอบคุณเรื่องเล่าหลังไมค์

หยิบเอามาเล่าโดย

ป้าแก้ว ยูเค.

Create Date : 20 สิงหาคม 2557		0 comments
Last Update : 20 สิงหาคม 2557 16:25:25 น.
Counter : 10166 Pageviews.
Share Tweet