'หัวใจ๋ข้า หัวใจ๋เจ้า ห้อยอยู่เก๊าเดียวกั๋น' *
*คลิกเพื่ออ่านคำแปลเจ้า :)

~รอยรักยมทูต : ปฐมบทแห่ง...รอยนิรันดร์ โดย'ริญจน์ธร' ~





รอยรักยมทูต
ผู้เขียน : ริญจน์ธร
ผู้พิมพ์ : สนพ.อรุณ (ส.ค. ๒๕๕๖)
๓๐๗ หน้า ราคา ๒๔๕ บาท


โปรยปก :



เขาคือเทพแห่งความตายที่แสนเย็นชา
ส่วนเธอคือวิญญาณดวงน้อยไร้กายา
แต่โชคชะตากลับดลสองดวงใจให้พบกัน

เพราะเนื้อแท้ของความรักคือการได้เห็นผู้เป็นที่รักมีความสุข
การตามหาความรักของใครบางคนจึงไม่ใช่เพื่อครอบครอง

'ธานาทอส' เทพบุตรหนุ่มผู้มีชีวิตแสนยาวนานอยู่ภายใต้ความมืดมนของยมโลก
บุรุษที่แสนเย็นชาและเดียวดาย สมนามเทพแห่งความตาย
ขณะกำลังคุมเหล่ายมทูตล่าวิญญาณที่เพิ่งตายสู่ยมโลก
เขาได้พบกับ 'ขวัญชีวา' ดวงจิตบริสุทธิ์ที่ต่างจากดวงวิญญาณทั่วไป
เธอไร้เดียงสาและมีชีวิตเป็นปริศนา เมื่อตัวตนของเธอไม่มีแม้โชคชะตาให้เหล่าตุลาการแห่งยมโลกตัดสินความ
เรื่องราววุ่นวายจึงตกอยู่กับธานาทอส เพระเขาไม่อาจตัดใจทิ้งเธอ
จึงช่วยเหลือและพามาสู่ปราสาทในยมโลก

ทุกอย่างควรจะจบลง ถ้าขวัญชีวาไม่อยากค้นหาความหลังแห่งตัวตน
เธอวอนขอต่อเทพเฮเดสเพื่อขึ้นมาตามหาความจริงบนโลกมนุษย์
และไม่รู้ทำไม เทพเจ้าผู้ไม่เคยสนใจวิญญาณดวงไหนอย่างธานาทอส
ถึงไม่กล้าปล่อยเธอไกลห่าง จนต้องตามขึ้นมาดูแลและปกป้องอย่างชิดใกล้

และนี่คือจุดเริ่มต้นของรอยนิรันดร์บทใหม่จากการตามหาความจริงที่ขาดหาย
อดีต ความรัก และความตาย กำลังจะย้อนกลับมาพิสูจน์สองดวงใจอันเปี่ยมด้วยอานุภาพแห่งรักแท้!







อีกเล่มกับแฟนตาซีแบบไทย ๆ ที่แอบอิงโครงเรื่องของเทพปกรณัมกรีกโบราณ
ต่อเติมเสริมแต่งด้วยเรื่องรักหวาน ๆ ตามจินตนาการ(และสไตล์)ส่วนตัวของคนเขียน
ร้อยเรียงออกมาเป็นนิยายรักที่แสนจะโรแมนติก...

นิยายเล่มนี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็นภาคที่ต่อเนื่องมาจากนิยายชุด"นิรันดร์แห่งรัก"ทั้งสามเล่มที่เคยอ่านผ่านไป
อันได้แก่ "ดุจดั่งดวงใจ" - "หทัยแห่งสุริยัน" - และ"ตราบนิรันดร์คือเธอ"
แต่ทั้งสามเรื่องนั้นเป็นเรื่องราวของเทพระดับสูง เป็นองค์ราชันแห่งโลกต่าง ๆ

ในขณะที่ในเล่มนี้(และน่าจะรวมถึงอีกสองเล่มที่กำลังจะติดตามมาในชุดเดียวกัน)
เป็นเรื่องราวของเทพบุตรในระดับรอง ๆ ลงมา...
อย่างเรื่องนี้ พระเอกเป็นเทพแห่งความตายผู้เย็นชา'ธานาทอส'
ซึ่งในขณะที่เขากำลังปฏิบัติงานในการคุมบริวารเก็บดวงวิญญาณที่เพิ่งเสียชีวิต
เขาก็ได้พบกับวิญญาณสาวผู้แสนจะไร้เดียงสา"ขวัญชีวา"
ด้วยท่าทีหวาดหวั่นของเธอทำให้เขาเกิดความสงสาร
จนถึงขั้นพาตัวเข้าไปพัวพันตามติดช่วยเหลือเธอหลายอย่าง
กระทั่งพาเธอเข้าพบกับเทพเฮเดส เจ้าผู้ครองยมโลก เนื่องจากเธอมีปูมชีวิตที่เป็นปริศนา
และออกจะซับซ้อนจนเขาต้องออกโรงพาเธอกลับขึ้นมายังโลกมนุษย์
เพื่อตามหาปริศนาการตายของเธอ...

จากนั้นก็เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนโลกมนุษย์
เมื่อขวัญชีวาได้รับพรพิเศษจากเทพฮาเดสให้สามารถมีร่างกายของมนุษย์ชั่วคราว
เพื่อสืบหาสาเหตุการตายของตัวเอง

และตอนนี้เองก็มีฉากน่าลุ้นน่าติดตาม
เพราะเขามีสอดแทรกปมความรักความแค้นและการหักหลังของอดีตคนรักของขวัญชีวา...
ตามด้วยปมฆาตกรโรคจิตต่อเนื่องที่ขวัญชีวากับเทพบุตรธานาทอสต้องช่วยกันสืบหาตัวฆาตกรไปพร้อม ๆ กับฝ่ายตำรวจ...
และดูเหมือนว่ายิ่งสืบสาวไปเรื่อย ๆ เทพบุตรหนุ่มกับวิญญาณสาวยิ่งผูกพันกันมากขึ้นจนยากที่จะแยกจากกันได้...






ความรู้สึกหลังอ่าน...
แม้เรื่องราวจะออกแนวเหลือเชื่อเกินจริงอยู่บ้าง(จริง ๆ แล้วไม่แค่'บ้าง'ล่ะ มากเลยแหละ)
โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นแฟนตาซี จนใครหลายคนอาจจะอ่านได้ไม่อิน...
ก็เล่นจับเอาเทพแห่งความตายบ้าง เทพแห่งบาดาลบ้าง
ยมทูตบ้าง มาเป็นพระเอก พบรักกับสาวไทย...อะไรพรรค์นี้...
แหม ...ทำไปได้!

แต่สิ่งที่ทำให้เรา"อ่านอยู่ได้" กับนิยายแนวเหลือเชื่อแบบนี้ก็เห็นจะเป็นสำนวนภาษาของคนเขียนน่ะค่ะ...
ช่างวิจิตรบรรจง ไม่ว่าจะเป็นการบอกเล่าเรื่องราว การสร้างฉากดินแดนแห่งเทพต่าง ๆ อันสุดแสนอลังการ
การบรรยายถึงบุคลิกลักษณะตัวละครทั้งฝ่ายเทพฝ่ายมนุษย์ที่ทำได้ค่อนข้างลื่นไหล ให้ภาพชัดเจน...
บทสนทนาก็ออกแนวยี่เกหน่อย ๆ มีการใช้ราชาศัพท์เพคะเพขิง...

อ่านแล้วออกจะทึ่งในจินตนาการ ความคิดความฝันของคนเขียนเขาน่ะค่ะ
บทรักหรือก็หวานไหวชวนเคลิบเคลิ้ม...
ฟินอะ ได้อ่านบทรักของเทพแห่งความตายกับสาวน้อยใสซื่อ...

อ้อ...ในเรื่องยังมีตัวละครอีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจ นั่นก็คือฮิปนอส เทพแห่งการหลับใหล
แฝดผู้น้องของธานาทอสนั่นเอง
เขาเป็นเทพขี้เล่น ช่างแหย่เย้า และเป็นผู้เปิดดวงตาดวงใจให้ธานาทอสได้รู้จักรู้ใจตัวเอง

นอกเหนือไปจากเรื่องราวรักหวาน ๆ ระหว่างเทพกับอมนุษย์
(ซึ่งแอบมีปมเรื่องความแตกต่างระหว่างชนชั้นเข้ามาเกี่ยวด้วยเล็ก ๆ )
ในเรื่องนี้เค้าก็มีแฝงไว้ด้วยหลักธรรมคำสอนทางพุทธศาสนาว่าด้วยกฏแห่งกรรม
อันเป็นหลักธรรมดาโลกที่มนุษย์ยึดถือเป็นคติความเชื่อในการดำรงอยู่และดำเนินไปแห่งชีวิต แอบอยู่แบบเนียน ๆ ด้วยล่ะ

จุดนี้เองที่ทำให้นิยายดูดีมีสาระ ไม่ถึงกับเบาหวิวจนเหลือทนค่ะ
เรียกว่าจะอ่านเล่น ๆ ชิล ๆ ก็ชวนฝันพาเพลิน...
จะอ่านแบบจินตนาการตามก็ชวนฟิน...
หรือจะอ่านเอาเนื้อหาสาระ เขาก็มีให้ได้ฉุกใจคิดไม่มากไม่น้อย

ชวนอ่านกันค่ะ















 

Create Date : 31 ตุลาคม 2556    
Last Update : 31 ตุลาคม 2556 11:37:58 น.
Counter : 5803 Pageviews.  

~ ป่าร้อน...สายลมรัก :ไฟป่าฤาจะร้อนเท่าไฟรัก โดย "อัยย์" ~






ป่าร้อน สายลมรัก
ผู้เขียน : อัยย์
ผู้พิมพ์ : พิมพ์คำ (ครั้งแรก/ก.พ. ๒๕๕๕)
๓๒๘ หน้า ราคา ๒๒๐ บาท


โปรยปกหลัง:


ไฟป่าเผาทำลายทุกสิ่ง ไฟรักกลับยิ่งเผาผลาญใจคนสองคน
ชายหนุ่มหัวหน้าสถานีฯไฟป่าไม่เคยคิดว่าภารกิจพิเศษที่เพิ่มมา
คือต้องคอยดับไฟปรารถนาของตัวเองไปพร้อม ๆ กับงานดับไฟอันแสนหนัก

"วสุธา" ต้องการจะให้ชาวบ้านในเขตนี้ช่วยกันป้องกันไฟป่า
"งานของเขา" ต้องการ "ชาวบ้านของเธอ"
แต่ผู้ใหญ่บ้านสาวแกร่งอย่าง "ฟ้าวรุณ" จะให้ความร่วมมือด้วยดีได้อย่างไร
ในเมื่อรู้อยู่แก่ใจว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่ถ่อยเถื่อนที่ชอบใช้กำลัง

เขาเป็นนักอนุรักษ์ เธอเป็นนักปกครอง ต่างฝ่ายต่างถือดีเกินกว่าจะปรองดอง
แต่วันนั้นกลางสายน้ำตกอันเย็นฉ่ำ และคืนนั้นในราวป่าอันมืดมิด...
ไฟเสน่หากลับจุดติดจนยากจะดับ








เรื่องย่อเพิ่มเติมนิด ๆ ...
วสุธาหรือดิน เพิ่งย้ายเข้าไปรับตำแหน่งหัวหน้าสถานีไฟป่าที่หมู่บ้านวังป่าแดงได้ไม่นาน
เขาก็ได้รู้จักกับผู้ใหญ่บ้านสาวคนเก่ง...ฟ้าวรุณ ที่เขามองว่า
ด้วยปัญหาความขัดแย้งในเรื่องงานทำให้ทั้งคู่ต่างมีอคติต่อกันตั้งแต่แรกพบหน้า
เธอมองว่าเขาดิบ เถื่อนและโหด ชอบใข้กำลังกับชาวบ้านที่หาเช้ากินค่ำอย่างลูกบ้านของเธอ
ส่วนเขาก็มองว่าเธอเหมือนเด็กมัธยมปลายมากกว่า...
และที่เป็นผู้ใหญ่บ้านได้ก็คงเพราะมีพ่อเป็นนายกอบต. เรียกได้ว่าเป็นมาเฟียเล็ก ๆ ในชุมชนนั่นเอง

แต่ด้วยสภาพสังคมชนบทเล็ก ๆ กับหน้าที่การงานที่ต้องเกี่ยวข้องกัน
พวกเขาจึงไม่อาจหลีกเลี่ยงการพบปะเจอะเจอ...
แม้จะต่างวางท่าปั้นปึ่งต่อกันแต่ต่างก็แอบแลเห็นแง่มุมที่ดี ๆ ของกันและกันได้
ติดอยู่ที่ว่า...ผู้ใหญ่ฟ้ามีเพื่อนหนุ่มที่มีดีกรีเป็นถึงครูใหญ่หมายปองอยู่
ส่วนหัวหน้าดินเองก็หยิ่งเกินกว่าจะแย่งชิงผู้หญิงของคนอื่นมาครอบครอง...








หลังอ่าน...
อีกเล่มกับการลองของใหม่(สำหรับตัวเอง)...
ได้ยินชื่อเสียงนักเขียนนามนี้มาสักระยะหนึ่งแล้ว เพิ่งจะมีโอกาสลิ้มลองนี่แหละ
ค่อนข้างชอบทีเดียวค่ะ

เป็นนิยายสะท้อนสังคมชนบท ที่สมจริงสมจังพอประมาณ
ผสมผสานกับเรื่องราวความรักที่...มาเร็วเคลมเร็วแต่เร่าร้อนและอ่อนหวานรัญจวนใจ

พล็อตง่าย ๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่พุ่งเป้าสู่ประเด็นที่ต้องการนำเสนออย่างตรงไปตรงมา
การดำเนินเรื่องกระชับฉับไวดีค่ะ ด้วยสำนวนภาษาที่ลื่นไหล อ่านไม่สะดุด...
บทสนทนาก็ทันสมัย และเป็นธรรมชาติ

ตัวละครค่อนข้างสมจริง สอดคล้องกับบรรยากาศและโทนของเรื่อง
ชอบมุกการ"แย่งชิง"ชาวบ้านระหว่างคู่พระนางที่สอดแทรกเข้ามาในเรื่อง
ทำให้มองเห็นภาพการทำงานของฝ่ายปกครองส่วนท้องถิ่นที่ต้องประสานกับข้าราชการจากส่วนกลาง
เรื่องของการดูแลทุกข์สุข ปากท้องของชาวบ้านควบคู่ไปกับ
การสร้างจิตสำนึกในการปกป้องดูแลและอนุรักษ์ธรรมชาติ

อาจจะเป็นด้วยคนอ่านใช้ชีวิตอยู่ในชนบทที่มีฉากและเรื่องราวชีวิต
สภาพสังคมและปมปัญหาต่าง ๆ แบบบ้านนอก ๆ คล้าย ๆ กับเนื้อหาในนิยายก็เลยทำให้อ่านแล้วอินได้ง่าย ๆ

ส่วนพัฒนาการของความรู้สึกและความสัมพันธ์ของคู่พระ-นางที่ดูเหมือนจะ"ไว"ไปสักนิด
ก็ไม่รู้สึกขัดแย้ง แปร่งแปลกหรือเกินจริงแต่อย่างใด
เพราะคนเขียนเขาก็สามารถสร้างเรื่องสร้างราวไว้รองรับจนสมเหตุสมผลเป็นอันดี
ชอบการต่อปากต่อคำของคนคู่นี้อะ ด้วยต่างคนต่างถือดี
แล้วก็ให้บังเอิญต่างก็ได้รับรู้จุดด้อยของอีกฝ่ายให้หยิบมาบลัฟซึ่งกันและกัน

แต่เมื่อมีโอกาสใกล้ชิดกันมากขึ้น ได้ช่วยเหลือเกื้อกูลกันในยามคับขัน
ได้ร่วมเผชิญปัญหาและอันตรายร่วมกัน...
ความรู้สึกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไป
และเมื่อรู้จิตรู้ใจตัวเองแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องรั้งรออะไรอีก
เพราะต่างฝ่ายต่างก็โต ๆ ถึงพร้อมทั้งวุฒิภาวะและสถานะทางสังคม

จุดที่จะเว้น ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือเลิฟซีนค่ะ
จัดหนักจัดเต็มสมคำร่ำลือ (ตอนแรกที่ลังเล ๆ ไม่กล้าอ่านก็เพราะเสียงลือเสียงเล่าอ้างเรื่องฉากรักหนักหน่วงนี่แหละ)
แต่...ยอมรับค่ะว่าคนเขียนเค้ามือถึง เอาอยู่
ทำให้บทรักทีมาอย่างยินยอมพร้อมใจและถูกจังหวะจะโคนออกมาไม่น่าเกลียด
สำนวนภาษาที่ใช้เปรียบเทียบบรรยายก็ให้อารมณ์เหมือนอ่านบทอัศจรรย์ในวรรณคดี...
แม้ไม่สละสลวยเป็นบทกวี แต่ก็ฟินอ่ะ...
ข้อสำคัญ ไม่ยัดเยียด ไม่พร่ำเพรื่อ ไม่ถึงกับต้องใส่เรทให้

สุดท้าย...
ขอหยิบยกเอาบทสรุปจากหน้าคำนำสำนักพิมพ์มาแปะไว้ตรงนี้ด้วย
เป็นการตอกย้ำยืนยันความน่าอ่านของนิยายเล่มนี้ค่ะ

...........

'ป่าร้อนสายลมรัก' จึงไม่ได้ถ่ายทอดเฉพาะเรื่องรักหวาน ๆ ของหัวหน้าดินที่แสนดุจนลูกน้องเกรง แต่สอดแทรกแง่คิดและปลูกฝังให้ใส่ใจถึงภยันตรายรอบข้าง รู้จักป้องกันและรอบคอบ เพราะธรรมชาติไม่ใช่สิ่งที่เราสามารถควบคุมได้...เฉกเช่นเดียวกับความรักนั่นเอง

ชวนอ่านค่ะ
















 

Create Date : 25 ตุลาคม 2556    
Last Update : 25 ตุลาคม 2556 15:14:57 น.
Counter : 3557 Pageviews.  

~ 'แต่งกับผียังดีกว่านาย' : โรแมนติกคอเมดี้อ่านสนุกโดย "เอื้องอลิน" ~





'แต่งกับผียังดีกว่านาย'
ผู้เขียน : เอื้องอลิน
ผู้พิมพ์ : สำนักพิมพ์อรุณ(ก.ย.๒๕๕๖)
๓๖๖ หน้า ราคา ๒๖๕ บาท

จากสนพ. :


ระทึกขวัญยิ่งกว่าวิ่งหนีซอมบี้ เมื่อเพื่อนซี้ต่างต้องเผ่น
เพื่อหนีงานแต่งที่มารดาขุดหลุมรอเพราะ...
"แต่งกับผียังดีกว่าแก!"

'อภิชญา' ('ออย' หรือชื่อเดิมที่เจ้าตัวไม่นิยมคือ 'อ้อย')
เป็นเพื่อนสนิทกับ 'อภิวัฒน์' ('เอ')
บ้านอยู่ข้างกัน เรียนด้วยกันมาตั้งแต่สมัยยังอยู่อนุบาล

สนิทสนมเรียกได้ว่ารู้ไส้ทุกขดของกันและกันโดยไม่ต้องขวนขวาย
จนกระทั่งเข้าโรงเรียนก็ยังคบหากันอยู่ (หลายคนว่าเป็นเพราะไม่มีใครอยากคบกับพวกนี้)

ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปจนกระทั่งทั้งสองอายุเข้า ๓๐ กลับต้องตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากอย่างยิ่งยวด
เมื่อแม่ๆ ของพวกเขาเชื่อคำหมอดูที่ว่าทั้งสองจะได้เกี่ยวดองกัน...
ซึ่งนั่นน่าจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่พวกเขายอมรับได้ แต่ต้องหลังจากต่างคนต่างตายไปแล้ว...

ทั้งสองคนที่โสดอยู่จึงต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้รอดพ้นจากหายนะระดับทำลายล้างโลกนี่ไปให้ได้
และวิธีที่ง่ายที่สุดคือ การต่างคนต่างไปหาแฟนเสีย
และถ้ามันง่าย ทั้งสองคงไม่โสดอยู่ ณ ขณะนี้






เป็นโรแมนติกคอเมดี้น่ารัก ๆ จากนักเขียนรุ่นใหม่ที่ใคร ๆ เคยติดใจในฝีมือมาแล้ว จากเรื่อง"โอ้ใจเอย"
(กับอีกหลาย ๆ เรื่องที่เคยเห็นชื่อแต่จขบ.ไม่ได้อ่าน)
เล่มนี้ก็ยังคงคอนเซ็ปต์นิยายรักชิล ๆ เบา ๆ อ่านแล้วอารมณ์ดีเช่นเคยค่ะ

เห็นหน้าปกระบุว่าเป็นภาคต่อของ 'โอ้ใจเอย' จึงแอบคาดหวังว่าจะเป็นเรื่องราวของนายสี่ น้องชายพระเอกจากเรื่องนั้น
แต่พอได้อ่านเรื่องราวจริง ๆ แล้วไม่ยักกะเกี่ยวกันแฮะ และเนื้อเรื่องก็ไม่ได้ต่อเนื่องกัน
แต่น่าจะดำเนินเรื่องไปในช่วงเวลาเดียวกันเลยแหละ
โดยแพน-อนุตดานางเอกจากโอ้ใจเอยมีบทเป็นเพื่อนสนิทอีกคนของอภิชญา นางเอกของเรื่องนี้
ก็มีโผล่มาแว่บ ๆ อยู่ แต่ไม่มากนัก
เพราะเรื่องนี้เน้นในเรื่องความสัมพันธ์ฉันเพื่อนสนิทของสองหนุ่มสาวที่เป็นพระเอก-นางเอกของเรื่องมากกว่า...
ดังนั้น สองคนนี้จึงครองบทเด่นในเรื่องแทบจะคนละครึ่งเลยทีเดียว

สองคนที่ว่าก็หมายถึงออย-อภิชญา นางเอก นักข่าวสายอาชญากรรม
ที่ค่อนข้างมั่นใจในความสวยความเก่งของตัวเอง
กับเอ-อภิวัฒน์ พระเอก นักปิงปองหนุ่มหล่อที่มีดีกรีเป็นนักกีฬาเทเบิลเทนิสมือวางอันดับสี่ของโลก

เรื่องราวของพวกเขาก็ประมาณเรื่องย่อข้างบนนั่นเลยค่ะ
เพิ่มเติมอีกหน่อย...



เมื่อถูก'หมอต๋อง แม่นนอนมา'ฟันธงว่าทั้งคู่มีดวงที่จะได้เกี่ยวดองกัน
ก็ยิ่งตอกย้ำความหวังของพ่อแม่ทั้งสองฝั่ง และเพิ่มแรงผลักดันที่จะให้พวกเขาแต่งงานกันให้ได้
อภิชญากับอภิวัฒน์จึงตกลงกันว่าพวกเขาต้องแยกย้ายกันหาแฟนให้ได้...

วันหนึ่งอภิชญาก็ถูกแทงเข้าที่ท้อง เมื่อเธอไปประสบเหตุจี้ตัวประกัน
แล้วด้วยวิญญาณของนักข่าวสายอาชญากรรมทำให้เธอเข้าไปทำข่าวในระยะประชิด
และมีโอกาสได้ช่วยตำรวจในการจับตัวคนร้ายโดยบังเอิญ...
เมื่อเธอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เธอก็ได้พบกับ'หมอช้าง'-นายแพทย์พขร ซึ่งทำหน้าที่ผ่าตัดให้เธอ
เมื่อเธอฟื้นขึ้นมาหลังการผ่าตัด และได้เห็นหน้าหมอชัด ๆ เธอก็ตกหลุมรักหมอช้างเข้าเต็มเปา!

ปฏิบัติการ(แผน)ป้อน'อ้อย'เข้าปาก(หมอ)'ช้าง'จึงเริ่มขึ้น...

ส่วนอภิวัฒน์ก็ได้พบกับคุณเก๋-ปภาพันไฮโซสาวที่เขามั่นใจว่าเธอคือรักแรกของเขาในวัยเด็ก
เป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้เขาหันมาเล่นปิงปองจนประสบความสำเร็จ
ทั้งคู่ตกลงคบหาดูใจกัน
โดยคุณเก๋พยายามดึงเอ-อภิวัฒน์ให้เข้าสู่แวดวงเซเลบด้วยการถ่ายแบบโฆษณาสินค้าต่าง ๆ
ซึ่งค่อนข้างขัดแย้งกับอุปนิสัยส่วนตัวของเขาเป็นอย่างยิ่ง
และนั่นก็ทำให้เขาเริ่มรู้สึกอึดอัดไม่มั่นใจในความสัมพันธ์...
และความไม่มั่นใจนี้ก็เพิ่มมากขึ้นเมื่อเขาได้รู้จัก ใกล้ชิดสนิทสนมกับนฎาหรือหนูนา
เพื่อนรุ่นน้องของอภิชญา...น้องสาวของหมอช้าง
และตอนหลังก็กลายมาเป็นครูสอนพิเศษของหลานสาวของอภิชญาอีกหนึ่งตำแหน่ง
มาร่วมลุ้นกันค่ะว่าทั้งไอ้อ้อยและไอ้เอจะสามารถหลีกพ้นชะตากรรม
ที่ถูกกำหนดโดยหมอดูกับบรรดาแม่ ๆ ของพวกเขา
ที่ว่า...'มีเกณฑ์จะได้เกี่ยวดองกัน ได้หรือไม่ อย่างไร...







ความรู้สึกหลังอ่าน...
บอกได้เลยค่ะว่าชอบ ชอบมาก ๆ ด้วย....
เป็นนิยายรักสนุก ๆ ที่คนเขียนค่อนข้างรุ่มรวยอารมณ์ขัน
มีผสมผสานเกร็ดสาระเบา ๆ ไม่มากไม่น้อย
พล็อตและเนื้อหาค่อนข้างแปลกใหม่ สร้างสรรค์ไม่ซ้ำใครดีค่ะ
ตัวละครไม่เยอะเกินจำเป็น ทุกตัวมีบทบาท มีความสำคัญต่อเนื้อหา
มีความสัมพันธ์โยงใยที่ไม่ซับซ้อน ความเป็นมาเป็นไปสมเหตุสมผล
ข้อสำคัญ...นิยายเรื่องนี้ไม่มีตัวร้ายตัวอิจฉาค่ะ

อย่างที่บอกตอนต้นว่าเรื่องนี้เขาเน้นเรื่องราวความสัมพันธ์ฉันเพื่อนระหว่างพระเอก(ไอ้เอ) กับนางเอก(ไอ้อ้อย)
จึงอาจจะไม่มีบทรักหวานไหวสักเท่าไหร่ แต่เขาก็มีบทฮาๆ ขำ ๆ เมื่ออยู่ด้วยกัน
กับมีบทกุ๊กกิ๊ก ๆ บ้างเมื่อต่างฝ่ายต่างอยู่กับคู่ของตัว...
พูดไม่ผิดค่ะ ทั้งคู่เป็นพระเอก-นางเอก แต่พวกเขาไม่ใช่คู่รักกัน
ก็นิยายเรื่องนี้มีพระ-นางสองคู่ไงคะ...ฮา...สปอยล์ไปแล้วไหมล่ะ
(แต่จริง ๆ แล้วเค้าก็สปอยล์ไปแล้วตั้งแต่ชื่อเรื่องแนวเกาลี๊-เกาหลีนั่นไง)

การดำเนินเรื่องก็รวดเร็ว กระชับสมเป็นนิยายสมัยใหม่
สำนวนภาษาที่ใช้ก็ทันสมัย การเล่าเรื่องอ่านได้ลื่นไหลเป็นธรรมชาติดี
แต่จะมาสะดุดนิด ๆ กับบทสนทนา ตรงที่ตัวละคร(โดยเฉพาะนางเอก)ชอบพูดไทยคำอังกฤษคำค่อนข้างเยอะอะ
ไม่ได้แอนตี้คนที่พูดทับศัพท์หรอกนะ แต่บางทีเจอสี่ห้าคำในประโยคเดียวมันก็...เวอร์ไปนี๊ด...นึง


ที่ชอบมากเป็นพิเศษในเรื่องนี้ก็เห็นจะเป็นมุกแซว(จิก)
มุกเสียดสี(กัด)เล็ก ๆ ที่แทรกเข้ามาแบบเนียน ๆ นั่นแหละค่ะ

อย่างไฮโซสาวที่เลี้ยงน้องหมาเป็นลูกตั้งชื่อว่าอึนโฮ...
ของเล่นนางเอกเป็นต้นกาบหอยแครง คอยงับแมลงเป็นอาหาร แล้วเธอก็ตั้งชื่อเสียเพราะพริ้งว่าอิซเบลล่า...
หลานสาวนางเอกเดิมทีพ่อแม่ตั้งชื่ออ่านยากว่า"ณัฏฐ์ฌญามญช์" (อ่านว่า นัด-ชะ-ยา-มน)แล้วปู่เลยตั้งให้ใหม่ว่าดาริน(โดยได้มาจากชื่อนางเอกนิยายเรื่องโปรดของปู่)

เป็นมุกแซวคนรุ่นใหม่ที่ช่างเสกสรรการตั้งชื่อลูกหลานให้แปลกสุด ๆเข้าไว้
โดยไม่ได้คำนึงเลยว่า กว่าเจ้าของชื่อจะสะกดชื่อตัวเองได้ถูกต้อง อาจจะต้องเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัยแล้วนู่นแหละ
กับมุกเสียดสีโฆษณา"เครื่องดื่มบำรุงสมอง"สำหรับเด็กเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย
ที่คุณเก๋ขอให้อภิวัฒน์รับเป็นพรีเซนเตอร์...

ฯลฯ

อีกหลายมุกหลายมุมที่รู้สึกได้ว่าคนเขียนสอดแทรกเข้ามาในนิยายอย่างถูกจังหวะจะโคน
มีแง่คิดให้คนอ่านได้ฉุกใจ
เรียกว่าแม้จะออกตัวว่าเป็นนิยายรักแนวฮา แต่เค้าก็ไม่ได้ละเลยประเด็นทางสังคมค่ะ

สุดท้าย...มีจุดติงนิดนึง

เข้าใจว่าคนเขียนต้องการเน้นบทฮา ก็เลยขยันแทรกมุกตลกแบบอ้างอิงจากหนังบ้าง การ์ตูนบ้างเข้ามาเรื่อย ๆ
บางมุกก็ขำดีหรอกค่ะ แต่บางมุกที่คนอ่านไม่รู้จักมันก็เลยแป้กไปไม่เป็นท่า...

กับการสับสนเรื่องเครือญาติ....
ตอนหนึ่งอภิชญารอรับหลานสาวกลับจากโรงเรียน
เมื่อเด็กหญิงมาถึง...

...........
"สวัสดีค่ะอาออย" เด็กหญิงดารินก้มศีรษะไหว้น้า

ตกลงเป็นน้าหรืออากันเนี่ย...?(จริง ๆ แล้วเป็นคุณอาค่ะ เพราะเด็กหญิงดารินเป็นลูกสาวพี่ชายอภิชญา)

...........

กับตัวละครสำคัญอย่างนฎาหรือหนูนา...
ที่สนิทสนมกับอภิชญามาก่อนเพราะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันในที่ทำงาน
แต่ดูเหมือนเธอจะมีบทบาทน้อยไปนิดนึงนะ กับการเป็น"นางเอก"ของอภิวัฒน์
และมีบทสนทนาอยู่ช่วงหนึ่งที่อภิชญาคุยกับนฎา...
แรก ๆ ก็เรียกหนูนาอย่างนั้น หนูนาอย่างนี้ แต่เดี๋ยวแป๊บ ๆ ก็เปลี่ยนไปเรียกนฎาเฉยเลย
ตัวนฎาเอง ตอนแรกก็แทนตัวเองว่าหนูนาอยู่ดี ๆ เผลอ ๆ ก็แทนตัวเองว่านฎาเสียอย่างนั้นแหละ
ถ้าเป็นการสนทนาคนละช่วงก็คงไม่ทันสังเกต แต่นี่เป็นการคุยกันช่วงสั้น ๆ (หน้า ๘๖-๘๗)
มันก็เลยอ่านสะดุดนิด ๆ น่ะค่ะ

...........

มีคำผิดประปรายค่ะ...(ปกติอ่านนิยายค่ายนี้ค่อนข้างเยอะ
ออกชื่นชมทีมพิสูจน์อักษรเขานะคะว่าไม่ค่อยเจอคำผิด
แต่เล่มนี้อาจจะเร่งรีบไปสักหน่อยหรือเปล่า...)

หน้า ๑๓๘ บรรทัดที่ ๙ จากล่าง ...ชิญรับเวลคัมดริ๊งค์ (คำว่าเชิญ ตก สระเอ)
หน้า ๑๕๑ บรรทัดที่ ๘ จากบน ...อุณหภูมิภายนนอก (ตัวน.หนู เกินมา)
หน้า ๑๗๐ บรรทัดที่ ๖ จากบน ...เพราะเบื่ออุดอู้อยู่ในรถตู่(รถตู้ หรือเปล่า?)


นิด ๆ หน่อย ๆ แจ้งไว้ เผื่อการพิมพ์ครั้งใหม่นะคะ

สรุปว่านิยายน่ารัก อ่านสนุกอ่านเพลิน เบาสมองแต่ไม่น้ำเน่า ไม่เวิ่นเว้อ
หยิบมาบอกต่อชวนอ่านกันค่า...









 

Create Date : 18 ตุลาคม 2556    
Last Update : 18 ตุลาคม 2556 12:55:57 น.
Counter : 5605 Pageviews.  

~รักไม่รู้ลืม : นิยายรักจากนักเขียนหน้าใหม่ "บัวบงกช" ~





รักไม่รู้ลืม
ผู้เขียน : 'บัวบงกช'
ผู้พิมพ์ :สนพ.อรุณ (ชุด Love Square)
327 หน้า ราคา 250 บาท

จากเว็บสนพ.:


ความรักที่ค่อย ๆ เติบโตขึ้น หลังกำแพงทิฐิอันแน่นหนา
อาจทำให้รักหยั่งรากลึกลงในหัวใจ ไม่มีวันลบเลือน

'หยิ่ง' 'ไว้ตัว' 'อวดดี' คือคำนิยามที่ "โมไนย" แอบเรียก 'เด็กในบ้าน' คนนั้นในใจเสมอ
แล้วทำไมคนรอบข้างเขาถึงพากันชื่นชมผู้หญิงคนนี้นัก
อะไรก็ไม่น่าขัดใจเท่ากับท่าทางที่เธอไปสนิทสนมกับคนอื่น
แต่กับเขา...เธอกลับวางตัวห่างเหินเสียเต็มประดา ...

สำหรับ "ปีใหม่" คำว่า 'ทิฐิ' 'อวดดี' ที่ใครๆ ว่ากันมันไม่ใช่หรอก
เธอเรียกมันว่าศักดิ์ศรีต่างหาก และคนอย่างเธอจะไม่ยอมละทิ้งมันเด็ดขาด
เพื่อวันหนึ่งเธอจะก้าวขึ้นไปสบตากับใครบางคนด้วยฐานะที่เท่าเทียมกัน
แม้ว่ามันจะต้องแลกด้วย 'หัวใจ' ของเธอก็ตาม…

เมื่อความรักไม่ใช่การเอาชนะคะคาน
และไม่อาจอยู่ได้โดยการก่อกำแพงในหัวใจ
แล้วจะหาทางออกให้กับความรักได้อย่างไร ต้องติดตาม!






เรื่องย่อเพิ่มเติมนิด ๆ...

'ปีใหม่'เติบโตขึ้นมาในรั้วบ้านเดียวกับ'โมไนย' ในฐานะลูกสาวของแม่บ้าน
กับอดีตคนขับรถที่เสียชีวิตไปแล้ว
แต่ทั้งคู่แทบไม่เคยพูดคุยสนิทสนมกันเลย เพราะปีใหม่ค่อนข้างไว้ตัว
และมุ่งมั่นแต่การเรียนและทำงานเก็บเงินเท่านั้น

ปีใหม่มีปมในใจเพราะเคยถูกเมธีรัตน์ พี่สาวคนโตของโมไนยแสดงอาการดูถูกเหยียดหยาม...
ถึงแม้สมาชิกคนอื่น ๆ ของบ้านจะไม่เคยมีใครแสดงท่าทีรังเกียจเธอกับแม่เลยก็ตาม
ตรงกันข้าม พ่อกับแม่ของโมไนยกลับชื่นชมเธอจนอยากได้เธอเป็นลูกสะใภ้ด้วยซ้ำไป

ด้วยรูปร่างหน้าตาที่สะสวย ทำให้เธอมีงานพิเศษเป็นนางแบบโฆษณา
และถ่ายแฟชั่นอยู่เสมอ ๆ และมีรายได้งดงามพอสมควร
จนมีเงินเก็บมากพอที่คิดจะไปเรียนต่อเมืองนอกและพาแม่ออกจากบ้านหลังนั้น...

ซึ่งเมื่อโมไนยได้รับรู้ถึงความคิดนั้นของเธอ ผ่านเพื่อนของเธออีกทีเขาก็รู้สึกขัดเคืองใจ
และก็บังเอิญมีเหตุให้เขามีโอกาสได้เข้าไปใกล้ชิดและปกป้องเธอจากอันตรายบางประการ
ทำให้เขารู้สึกถึงสายใยความผูกพัน ผสมกับความรู้สึกเป็นเจ้าเข้าเจ้าของที่ฝังลึกอยู่ในใจ...

เมื่อทั้งคู่ต่างเปิดใจให้กัน เพื่อนฝูงก็ร่วมยินดี รวมทั้งพ่อแม่ของโมไนยที่รักใคร่เอ็นดูปีใหม่อย่างจริงใจ

แต่ทว่า...รักแท้ก็เกิดอุปสรรคขึ้นอีกจนได้ เมื่อปีใหม่มองว่าความหวงแหนที่โมไนยแสดงออกมา
เป็นเพียงการแสดงอำนาจเหนือเธอและความต้องการเอาชนะเท่านั้น...

เส้นทางรักของพวกเขาจึงต้องแยกห่างกันอีกครั้ง...
ในขณะที่ปีใหม่กลายเป็นดาราเด่นดัง มีชายหนุ่มแสนจะเพอร์เฟ็กต์อย่างพีท-ปรีติ พระเอกหนุ่มลูกครึ่งที่กลายเป็นดาราคู่ขวัญคู่จิ้นที่ใคร ๆ ต่างเชียร์ให้ทั้งคู่เป็นแฟนกันจริง ๆ นอกจอเข้ามาพัวพัน
โมไนยก็หันไปมุ่งเรียนต่อเมืองนอกอย่างเอาจริงเอาจัง...

มาร่วมลุ้นกันค่ะว่าทั้งคู่จะสามารถฝ่าข้ามกำแพงแห่งทิฐิที่ตัวเองสร้างขึ้นมานี้ได้หรือไม่ และอย่างไร





หลังอ่าน...
อีกครั้งกับการลองของใหม่แล้ว...คลิก
บอกกับตัวเอง(และอยากบอกต่อคนอื่นด้วย)ว่า...
ค้นพบดาวดวงใหม่แห่งฟากฟ้าวรรณกรรมไทยอีกหนึ่งดวงแล้ว!

เป็นนิยายรักของหนุ่มสาวสมัยใหม่ที่แอบอิงพล็อตแบบเก่า
ออกแนวรักซึมลึกประเภทพระเอก-นางเอกรู้จักกันมาแต่เด็ก แต่ต่างฝายต่างไม่กล้าเปิดใจ
โดยมีปมดราม่าของการแบ่งชนชั้นฐานันดรเป็นพื้นหลัง...เหมือนนิยายรักอีกนับสิบนับร้อยเรื่องที่เคยอ่านผ่านมา...
เบื้องแรกที่หยิบเล่มนี้มาอ่าน ดูคำโปรยที่ปกหลังก็เป็นอย่างที่บอก...
จึงเริ่มอ่านแบบไม่คาดหวังนัก เมื่อไม่ได้คาดหวังก็เลยอ่านได้เรื่อย ๆ
ปรากฏว่าเพลินจนอ่านได้ในรวดเดียวจบ...

บอกได้เลยว่าเป็นนิยายรักที่มีเสน่ห์มาก
ด้วยสำนวนคนเขียนที่แสนจะนุ่มนวลชวนให้เคลิบเคลิ้ม...
ทั้งเรียบลื่น ละมุนละม่อม กลมกล่อมไปทั้งเรื่อง บทรักก็หวานไหว บทสะเทือนใจก็บีบคั้น
บทสนทนาก็เป็นธรรมชาติ...

ชอบวิธีเล่าเรื่องที่เหมือนจะเรียบเรื่อย แต่ก็กระชับอยู่ในที ไม่เยิ่นเย้ออืดเอื่อย...
กับช่วงเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทำให้เราได้เห็นถึงพัฒนาการของความรัก
ความโหยหาอาลัยของคนที่รักกันมาก ๆ แต่ต้องแยกจากกันด้วยกำแพงแห่งทิฐิ


จุดที่ชอบอีกอย่างหนึ่งในนิยายเรื่องนี้ก็คือตัวละครค่ะ
ทั้งตัวพระ-นาง ทั้งครอบครัวเบื้องหลัง หรือกลุ่มเพื่อน ๆ ของทั้งคู่
รู้สึกถึงความพอเหมาะพอดี ไม่มากไม่น้อยเกิน...

ชอบพระเอกแบบโมไนยค่ะ ฉลาด มั่นคงและชัดเจนดี บทจะรักจะหวานก็ทำได้แบบไม่ขัดเขิน
บทจะโมโหโกรธาก็ออกอาการกวนได้น่ารักน่าเอ็นดู...
ส่วนนางเอกอย่างปีใหม่ก็มีบุคลิกเป็นสาวสวย เรียนเก่ง และมั่นใจในตัวเอง...
ภายนอกเธอเหมือนจะหยิ่งและไว้ตัว แต่ก็ไม่ทิ้งท่าทีและเสน่ห์แห่งความเป็นหญิง

นิยายก็มีตัวร้ายตัวอิจฉาตามขนบ แต่ก็เป็นไปอย่างสมเหตุสมผล
ไม่ถึงกับกรี๊ดกร๊าด ตบตีเป็นละครหลังข่าวอะไรไปโน่น...
แต่บทร้ายจะมาตกอยู่กับดร.เมธีรัตน์ พี่สาวพระเอกที่หวงน้องชายและรังเกียจนางเอกนักหนานั่นแหละ
รายนี้ออกจะร้ายเกินไปนิด ๆ แต่ก็นั่นแหละ ผู้หญิงที่รู้ตัวว่าเก่ง สวย เริ่ด
มักจะไม่ชอบให้คนที่ตัวเองเห็นว่าด้อยกว่าตัวมาตีเสมอหรือกระทั่งเด่นกว่า...
ความเกลียดชังที่เธอมีต่อปีใหม่แท้จริงมันอาจจะมาจากความริษยามากกว่าจะมาจากความต้อยต่ำของอีกฝ่ายก็เป็นได้


แต่ก็มีจุดติงนิด ๆ เหมือนกัน(สำหรับจขบ.ค่ะ)
คือตอนจบ...ให้ความรู้สึกอึดอัดเล็ก ๆ กับตอนจบแบบนี้...
(ไม่อยากสปอยล์อะ เอาเป็นว่า จบแฮปปี้เอนดิ้งนั่นแหละ แต่ความรู้สึกส่วนตัวรู้สึกว่ามัน...น้ำเน่าไปหน่อย แหะ ๆ
แอบคิดว่า คนเขียนตกม้าตายอะ หรือคนอ่านจะดูซีรียส์เกาหลีมากไปหน่อยก็ไม่รู้...)

กับวัยของตัวละคร ด้วยสำนวนภาษาของผู้เขียน ทำให้รู้สึกว่าโทนของนิยายเป็นแบบผู้ใหญ่ ๆ หน่อย
แต่ในเรื่องทั้งพระเอกนางเอกยังเป็นนักศึกษาทั้งคู่
และยังมีเรื่องราวความรักกุ๊กกิ๊กของคู่เพื่อนพระเอกนางเอกมาแจมอีก
เลยรู้สึกแปลก ๆ จะว่าเป็นนิยายผู้ใหญ่ก็ไม่เชิง จะหวาน ๆ ใส ๆ เป็นวัยรุ่นก็ไม่ใช่

แต่นั่นก็แค่จุดเล็ก ๆ ที่คนอ่านนิยายเยอะ ๆ อย่างจขบ.รู้สึกสะดุดนิด ๆ

โดยภาพรวมแล้วนิยายเล่มนี้นับได้ว่าเป็นการเปิดตัวนักเขียนใหม่ที่น่าสนใจมาก
ถ้าใครชอบอ่านนิยายที่เขียนด้วยสำนวนภาษาดีๆ อ่านลื่นไหลล่ะก็ขอนำเสนอเล่มนี้เป็นพิเศษเลยค่ะ











 

Create Date : 10 ตุลาคม 2556    
Last Update : 20 ธันวาคม 2560 14:19:02 น.
Counter : 6264 Pageviews.  

~ มารยารักร้อยเล่มเกวียน : ความรู้สึกดี...ที่เรียกว่ารัก โดย "อัญชรีย์" ~





มารยารักร้อยเล่มเกวียน
ผู้เขียน : "อัญชรีย์"
ผู้พิมพ์ : สนพ.แจ่มใส (พิมพ์ครั้งที่ 2/ พ.ค.'56)
599 หน้า ราคา 319 บาท

เรื่องย่อ(จากปกหลัง):


‘ชญานิน’ พีอาร์สาวสุดเซ็กซี่กำลังเจอวิกฤตชีวิต
เธอมีปัญหาในที่ทำงานได้ไม่เว้นแต่ละวัน การลาออกจึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุด
หญิงสาวยอมตกงานซะดีกว่าต้องไปเจอเพื่อนร่วมงานเฟกๆ
ที่คอยแต่จะแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น เฮ้อ คิดแล้วก็เพลียหัวใจจริงๆ

และเพราะจู่ๆ ก็ตกงานนี่แหละ เธอจึงคิดว่าไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว
ดังนั้นเพิ่มความวายป่วงให้ชีวิตอีกนิด...
ด้วยการไปสารภาพรักเพื่อนสนิทที่เธอคิดไม่ซื่อมากว่าสิบห้าปีซะหน่อยก็ท่าจะดี
แต่รู้อะไรมั้ย นอกจากจะต้องขายหน้ากับเพื่อนรักแล้ว เธอยังพบว่า
‘จิรภาส’ พี่ชายของเขาดันมาเป็นสักขีพยานในการสารภาพรักครั้งนี้แบบไม่ได้รับเชิญอีกต่างหาก
โอย ให้มันได้อย่างนี้สิ นี่เป็นเรื่องน่าอายไร้ศักดิ์ศรียิ่งกว่าอะไรทั้งหมดเลยนะ!

แต่ดูเหมือนว่าพระพรหมท่านจะลิขิตทุกอย่างไว้หมดแล้ว
เพราะไม่นานเธอก็ต้องเผชิญหน้ากับจิรภาสอีกครั้งเมื่อเขาเสนอ ‘งานพิเศษ’
ที่มีรายได้งามสุดๆ ให้ และแม้จะไม่ทันตั้งตัวในตอนแรก
แต่มีเหรอที่สาวมั่นอย่างชญานินจะหวั่น
งานนี้จ้างล้านก็ทำให้ร้อยล้านเลยเอ้า!






หลังอ่าน...
นิยายเล่มหนาเตอะ แต่อ่านสนุกมาก เพลินจนแทบจะลืมกินลืมนอน 55...
ขอถอนคำพูดที่เคยบ่นว่านิยายเล่มหลัง ๆ ของคุณอัญชรีย์ออกแนวซ้ำซาก เวิ่นเว้อ...
(แต่เล่มนี้ก็มีช่วงเวิ่นเว้ออยู่นะ เพียงแต่มีมุกขำกิ๊ก ฮาก๊ากมาช่วยเบรคไว้เยอะ เลยหักกลบลบล้างกันไปได้)

เล่มนี้คนเขียนบอกว่าเป็นเล่มต่อเนื่องจาก'กังวานปรารถนา'...
ซึ่งจขบ.ก็ได้อ่านแล้วแต่ไม่ประทับใจเท่าไหร่ เลยแทบจะไม่หลงเหลืออยู่ในหัวเลยว่าในเล่มนั้น
ชญานินเคยก่อวีรกรรมอะไรไว้นักหนาจนได้อัพเกรดมาเป็นนางเอกในเรื่องนี้ได้

แต่ก็ช่างเรื่องนั้นเถอะ เพราะเฉพาะ"มารยา(มากกว่า)ร้อยเล่มเกวียน"ของเจ้าหล่อนในเล่มนี้
ก็ทำให้คนอ่านหลอนจนไม่ต้องไปเสาะแสวงหาเบื้องลึกเบืองหลังอะไรของเจ้าหล่อนอีกต่อไปแล้ว

เรื่องราวโดยย่อก็เป็นไปตามปกหลังนั่นแหละค่ะ...
(สนพ.เขาย่อมาดีแล้ว เคยบอกไว้ในบล็อกก่อน ๆ ว่านิยายคุณอัญชรีย์ย่อค่อนข้างยาก
เพราะทั้งเรื่องราว ทั้งตัวละครค่อนข้าง"เยอะ"(ไม่ว่าจะในแง่ปริมาณหรือด้านพฤติกรรม)
อ่ะนะ แต่ก็จะพยายาม...)
เพิ่มเติมอีกนิด ๆ ละกัน...

เรื่องนี้เขาให้นางเอกเป็นตัวเดินเรื่อง...(เกือบจะตลอดทั้งเรื่อง)
คนอ่านจะรู้จักตัวละครคนอื่น ๆ ผ่านความคิด(แบบเข้าข้างตัวเองสุด ๆ)ของนางเอก
แต่ก็มีพาร์ทที่ให้พระเอกเป็นผู้เล่าบ้าง...เพื่อเฉลยปมบางปมที่นางเอกไม่รู้

เริ่มจากนางเอก-ชญานินกำลังตกงานและอกหักพร้อม ๆ กัน เมื่อได้ข่าวว่าจิรภาส - -
พี่ชายต่างแม่ของนายตั๋ง เพื่อนสนิท(ที่เธอแอบคิดไม่ซื่อ หลงรักมันมาตั้งสิบห้าปี!)- -
ประสบอุบัติเหตุจนสูญเสียการมองเห็น และเขาค่อนข้างมั่นใจว่าเขาถูกปองร้ายจากคนในครอบครัว
เขาจึงเสนอจ้างชญานินให้มาเป็นภรรยากำมะลอของเขา เพื่อดูแลเขากับลูกชายวัยสองขวบ
และกันผู้หญิงที่แม่เขาเตรียมไว้ให้แต่งงานด้วย กับที่สำคัญ...เพื่อสืบหาตัวคนร้ายที่อยู่เบื้องหลังอุบัติเหตุของเขา...

แม้เขาไม่ได้กำหนดช่วงระยะเวลาของงาน แต่ด้วยค่าจ้างที่สูงถึงสามล้านห้า
ก็ทำให้ชญานินตัดสินใจรับงานนี้ และทุ่มเทให้กับงานเต็มที่
แม้จะต้องเปลี่ยนลุคตัวเองจากสาวเปรี้ยวสุดเหวี่ยงมาเป็นสาวแบ๊วสุดหวาน(ตามสเป็กของจิรภาส เพื่อความสมจริง)
หรือถูกกีดกันจากแม่สามีจอมอคติอย่างคุณจินดาภัคเธอก็ไม่หวั่น...

แต่สิ่งที่ทำให้สาวมั่นอย่างเธอหวั่นไหวกลับเป็นเสน่ห์อันร้ายกาจของสามีในนามของเธอนี่สิ
นายตั๋งยิ่งไซโคให้เธอหลอนอยู่ด้วยว่า อาการที่เธออกหักจากเขานั่นเป็นเรื่องจิ๊บ ๆ
แต่ถ้าเธอเผลอใจไปหลงรักจิรภาสเข้าจริง ๆ ละก็...เธอต้องปางตายแน่ ๆ

แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว...งานนี้เธอรู้สึกว่ามันท้าทายชะมัด...
ฉะนั้น มารยาหญิงมีกี่ร้อยเล่มเกวียนเธอต้องงัดออกมาใช้ให้หมด!






ชอบนางเอกเรื่องนี้ค่ะ เธอตรงและแรงได้ใจมาก
แต่บทพระเอกดูจะคลุมเครืออยู่เล็กน้อย
ตอนแรก ๆ เปิดตัวมาเหมือนจะเป็นพ่อม่ายลูกติดที่ทรงเสน่ห์ เพอร์เฟ็กต์ไปเสียทุกอย่าง
แต่มาตอนหลัง ๆ กลับกลายเป็นเข้าอีหรอบเดิม ๆ ของพระเอกสไตล์อัญชรีย์ไปจนได้
ตรงที่...มีปมเรื่องคนรักเก่าจนเอามาเปรียบเทียบกับผู้หญิงคนปัจจุบัน
ขี้หึงแบบไม่มีเหตุผล ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ทำตัวไม่ชัดเจน...ฯลฯ


ดังนั้น จุดที่ชอบในเรื่องนี้จึงไม่ยักกะเป็นเลิฟซีนชวนจิ้นระหว่างพระนาง...
(ที่มีอยู่เพียบตามสไตล์คนเขียนเค้าแหละค่ะ)
หากแต่เป็นความสัมพันธ์ฉันเพื่อนอันลึกซึ้งระหว่างชญานินกับนายตั๋งโต๊ะมากกว่า

เรียกว่ารออ่านแต่บทที่สองคนนี้คุยกันนั่นแหละ...ชอบที่เค้าช่างรู้จิตรู้ใจกัน ทันกันตลอดจริง ๆ
ทั้ง ๆ ที่แอบสะใจเล็ก ๆ ที่นายตั๋งเกิดอาการหวงก้างขึ้นมาในตอนหลัง
แต่ลึก ๆ ก็สงสารนะ เพราะมันสัมผัสได้ถึงความรัก ความเป็นห่วงอย่างจริงใจที่เพื่อนมีให้เพื่อน

ขอยกตัวอย่างบทสนทนาตอนหนึ่งของสองคนนี่ ที่อ่านแล้วขำกลิ้ง...
(แล้วก็พยักหน้ากับตัวเองหงึกหงักว่า เออ มันก็จริงแฮะ)

"สมัยนี้น่ะ ผู้หญิงรุมกันแย่งผู้ชายมันเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ผู้ชายรุมกันแย่งผู้หญิงน่ะมันไม่เมกเซ้นส์ เป็นไปได้ยาก" วีรัชแจงให้ฟังอย่างใจเย็นด้วยสุ้มเสียงจริงจัง "แกเคยได้ยินไหมที่เขาว่าผู้ชายร้อยคน เป็นเกย์ไปสามสิบ เป็นสามีเกย์ยี่สิบ มีเมียแล้วยี่สิบ อยู่ในคุกอีกสิบ มุ่งสู่นิพพานห้า อุบาทว์เกินทนห้า ไร้สมรรถภาพห้า ติดเชื้อเอชไอวีไปสาม อยู่โรงพยาบาลบ้าหนึ่ง..."

"สรุปว่ามันเหลือที่ใช้การได้กี่คน ฉันขี้เกียจคำนวณ"

"คนเดียว" วีรัชตอบชัดถ้อยชัดคำ
"แค่นี้แหละที่เหลือไว้ให้สาวโสดอย่างพวกแกสู้รบปรบมือเพื่อแย่งชิงกัน ฉันเองก็เป็นหนึ่งในร้อยที่ว่า"
............
"แกน่ะ ถ้าไม่ติดเชื้อเอชไอวีไปแล้วก็อุบาทว์เกินทน
ไม่ใช่ไอ้คนเดียวที่เหลืออยู่นั่นหรอก อย่ามาเนียน!"


............


แต่นิยายเขาไม่ได้มีแต่เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ แบบน้ำเน่า ๆ
ประเภทสามี-ภรรยากำมะลอที่พอมาอยู่ใกล้ชิดกันก็สปาร์กอะไรกัน
จนกลายเป็นรักกันจริง ๆ แล้วจบแฮปปี้เอนดิ้งหรอกนะคะ
เขายังมีเรื่องของการทำงาน การสร้างรีสอร์ต เรื่องครอบครัว เรื่องของปมปัญหาในใจวัยรุ่น...
เรียกได้ว่า ก็ค่อนข้างครบรสล่ะค่ะ สำหรับนิยายเล่มหนาเกือบหกร้อยหน้าอย่างนี้

อย่างที่บอกตอนต้นว่าคนเขียนเขาบอกว่าเรื่องนี้ต่อเนื่องมาจากเรื่อง"กังวานปรารถนา"
แต่ตอนที่อ่านไม่ยักกะนึกถึงเรื่องนั้นหรอกค่ะ
อ่านเรื่องนี้ได้อารมณ์คล้าย ๆ กับตอนที่อ่านอีกเรื่องหนึ่งของอัญชรีย์...
จำชื่อเรื่องไม่ได้ จำได้แต่ว่านางเอกชื่อหยง แล้วมีเพื่อนชายคนสนิท
ที่อยู่บ้านใกล้ ๆ กับพระเอกหรือไงนี่แหละ
เล่มนั้นก็เป็นอีกเล่มหนึ่งที่ค่อนข้างชอบ รู้สึกได้ว่าเวลาเขาเขียนถึงความสัมพันธ์ฉันเพื่อน
ของชาย-หญิงมันเป็นธรรมชาติและสมจริงดี

เป็นอีกเล่มที่เพิ่งอ่านจบไปหลังจากติดซีรียส์(เรื่องเก่า)ที่เพิ่งได้มาใหม่อยู่หลายวัน...
(ยังดูไม่จบ เบรคอารมณ์ด้วยนิยายเรื่องนี้ ถ้าดูจบจะเก็บความมาเล่าค่ะ เพราะสนุกมาก)

หยิบมาเล่าต่อ ชวนอ่านกันค่า

ปอลอ.ถ้าพักนี้จะห่าง ๆ หน้าบล็อกไปบ้างก็แปลว่ากำลังคร่ำเคร่งอยู่หน้าจอซีรียส์เรื่องที่บอกนี่แหละค่ะ แหะ ๆ









 

Create Date : 01 ตุลาคม 2556    
Last Update : 10 ตุลาคม 2556 13:51:13 น.
Counter : 4673 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  

แม่ไก่
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 184 คน [?]




**หลังไมค์เจ้า**





Cute Clock Click!



เออสิ,มาอยู่ใยในโลกกว้าง
เฉกชลคว้างมาเมื่อไรไม่นึกฝัน
ยามจากไปก็เหมือนลมรำพัน
โบกกระชั้นสู่หนไหนไม่รู้เลย


รุไบยาต ~ โอมาร์ คัยยัม
สุริยฉัตร ชัยมงคล : แปล




Latest Blogs

~ท่านหญิงในกระจก/แสงเพลิง ~

~เพชรรากษส/อลินา ~

~มนตร์ทศทิศ/ราตรี อธิษฐาน ~

~เมื่อหอยทากมีรัก 1-2/"ติงโม่"เขียน/พันมัย แปล ~

~ให้รักระบายใจ/"ณกันต์"เขียน ~

~ผมกลายเป็นแมว/Abandoned/Paul Gallico เขียน(ภูธนิน แปล) ~

~พ่อค้าซ่อนกลรัก & หมอปีศาจแสนรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~อาจารย์ยอดรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~จอมโจรพยศรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~


สารบัญหนังสือ: รวมลิงก์หนังสือที่รีวิวในบล็อก # ๑ + ๒



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แม่ไก่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.