|
ฤๅจะซับแต่ภาพซ้อนที่อ่อนไหว ผู้เขียน :สิริมา อภิจาริน สนพ.อรุณ/พิมพ์ (ก.ย. 50) 383 หน้า ราคา 265 บาท
โปรยปกหลัง :
เราเปลี่ยนอดีตไม่ได้ แต่เราเลือกมองได้ มองไปข้างหน้า เห็นในสิ่งที่เราอยากเห็น มองไปข้างหลัง เลือกจำแต่สิ่งที่เราอยากจำ อย่าให้อดีตทำร้ายเรา อดีตทำร้ายเราไม่ได้ถ้าเราไม่ยอม
อีกเล่มกับผลงานอันละเมียดละไม ละมุนอารมณ์นักเขียนคนโปรด สิริมา อภิจาริน
'ฤๅจะซับแต่ภาพซ้อนที่อ่อนไหว' เป็นเรื่องราวของหญิงสาวสองคน ที่โชคชะตาบันดาลให้ได้มาเจอกัน เป็นศิษย์ร่วมอาจารย์คนเดียวกัน แม้จะต่างรุ่นแต่มิตรภาพและสายสัมพันธ์ที่มีต่อกัน มั่นคงแน่นเหนียวและยืนยาว ด้วยความเข้าอกเข้าใจที่มีให้กัน
เรื่องเล่าเรียบเรื่อย เริ่มจับความตั้งแต่การหย่าร้างของมุก ข้าราชการสาวแสนสวย เมื่อต้องอยู่คนเดียว เธอจึงชวนน้ำ หญิงสาวรุ่นน้องที่สนิทให้มาอยู่ด้วยกัน
เพื่อนสาวต่างวัยที่อยู่ด้วยกันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย เอื้ออาทร ปลุกปลอบให้กำลังใจกันยามทุกข์ท้อ แบ่งปันช่วงแห่งความสุขร่วมกัน ในขณะเดียวกันก็เคารพในความคิดความเห็น ความเป็นส่วนตัวของกันและกัน
โดยเฉพาะ...ประสบการณ์ชีวิตของมุก กลายเป็นบทเรียนอันล้ำค่าสำหรับน้ำ ในการที่จะเลือกวิธีที่จะดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข เพราะน้ำเองก็มีอดีตอันขมขื่นเจ็บปวด แต่ด้วยพลังใจจากมุก ทำให้น้ำสามารถก้าวข้ามอดีตของตนเองแล้วยืนหยัดอย่างมั่นคงอีกครั้ง
เป็นนิยายชีวิตที่อ่านแล้วชอบมาก ชอบทุกบททุกตอนของเรื่องเลยทีเดียว รู้สึกนับถือแกมชื่นชมผู้หญิงอย่างมุก เธอสวย ฉลาด มั่น เก่ง ครบสูตรเป๊ะ ๆ อ่าน ๆ ไปมันให้รู้สึกเห็นด้วยและคล้อยตามในทุก ๆ ความคิดและการกระทำของเธอจริง ๆ
อย่างตอนที่เธอตัดสินใจขอหย่าจากสามีที่รักกันมาสามปี แต่งงานอยู่กินกันสี่ปี...
"...มุกไม่เกลียดสันต์...มุกบอกเขา...แต่มุกไม่ชอบชีวิตที่สันต์ให้ ขืนอยู่ต่อไป มุกต้องเกลียดสันต์แน่ อย่าให้มุกต้องเกลียดสันต์เลย ให้มุกคิดย้อนหลังไปแล้วนึกถึงความรักที่เราเคยมีต่อกันดีกว่า อย่าให้มุกต้องนึกถึงสิ่งต่างๆ ที่มุกเกลียด ปล่อยมุกไปเสียก่อนที่มุกจะเกลียดสันต์เถอะนะ"
ถึงแม้มุกจะหย่า แต่เธอไม่ได้ปิดกั้นตัวเองหรือเข็ดขยาดกับความรัก อย่างที่เธอบอกกับน้ำ...
""น้ำอย่าเอาแต่เก็บตัวซี่ เป็นดอกไม้สวยไม่ให้คนเห็นน่าเสียดาย... ต้องให้เวลากับความรักบ้าง ต้องมีเวลาสำหรับหยุดดมดอกไม้ แล้วเวลามีความรักคอยรู้ทันแล้วกัน ว่ามีเกิดก็ต้องมีจบ ถึงเวลาจะได้ไม่เจ็บ..."
กับคำถามของน้ำทีว่า...ความรักของคนที่รักกันจนแต่งงานกัน แล้วกลายมาเป็นความเบื่อจนถึงไม่รักนี่...มันเป็นไปได้ยังไง?
""เป็นไปได้เลยแหละ...ผู้ชายเวลาที่เป็นแฟน กับคนที่กินนอน เป็นสามีของเราบางทีมันคล้ายคนละคนนะน้ำ..."
มุกมีวิธีผ่อนคลายจากหน้าที่การงานอันเครียดเคร่ง...
"คนเรามันต้องทำอะไรสักอย่าง มุกคิด... ทุกคนล้วนมีงานอดิเรก หล่อนก็มีงานอดิเรกของหล่อน..."
มุกสนทนาพาทีกับผู้ชายหลากหลายผ่านโปรแกรมสนทนาทางอินเทอร์เน็ต
"มันเป็นการศึกษาอย่างหนึ่ง เป็นเรื่องของการค้นหา ได้เปิดโลกส่วนตัวของคนเรา หลายชาติหลายภาษา ค้นหาก้นบึ้งของมนุษย์ที่ตำราเรียนไม่มีแล้วเรื่องอย่างนี้ ใครจะไปศึกษาจากชีวิตจริง ๆ ได้ คนเรามีด้านมืดทุกคนแหละ... มันมีความฝัน มีจินตนาการที่อยากหาคนแบ่งปัน แล้วที่ไหนมันจะแบ่งปันกันได้ดีเท่ากับโลกที่คนเราไม่ต้องเห็นหน้า เห็นตัวจริงของกันและกัน ไม่มีกรอบของสังคมมาบังคับกำหนด ไม่ต้องมานั่งวางท่าสงบเสงี่ยมเป็นสุภาพบุรุษสุภาพสตรี..."
สถานภาพม่ายหมาด ๆ ของมุกทำให้เธอถูกแทะโลมจากหนุ่มๆ ในที่ทำงานอย่างเลี่ยงไม่ได้ อย่างปรเมษฐ์ นักวิชาการหนุ่มใหญ่ท่แวะเวียนมาหา...
"การมีกิ๊กมั่ง ทำให้ชีวิตสดชื่นนะคุณมุก...ได้ออกไปสูดอากาศโรแมนติกบ้าง"
โรแมนติกปลอม ๆ กับสามีคนอื่นน่ะหรือ มุกมองไม่เห็นประโยชน์อันใดในการรับเชิญเป็นคู่กิ๊กของเขา
"คุณมุกยังสาว ชีวิตยังมีอะไรหวาน ๆ อีกเยอะ..."
มุกไม่อยากพูดออกมาให้กระทบกระเทือนผู้ชายแก่ที่มีลูกมีเมียแล้วอย่างเขาว่า มุกไม่ปฏิเสธหรอกความหวานที่จะแต้มเติมให้กับชีวิต แต่ต้องไม่ใช่จากเขา
.............
ทั้งยังถูกหวั่นระแวงจากบรรดา"เมียๆ"ของเพื่อนร่วมงานอีกต่างหาก... มุกเกิดอาการนอยด์... แม้จะมีหนุ่มโสดแสนดีอย่าง"กริช"เข้ามาพัวพัน... เธอก็ต้องระวังตัว...เพราะเขาอาจจะเข้ามาเพียงเพื่อกันเธอไว้ ไม่ให้หว่านเสน่ห์เกลื่อนกลาดจนกลายเป็นอันตราย ต่อชีวิตคู่ของใครต่อใครหลายคน
นอกจากเรื่องราวในชีวิตที่แสนจะสมจริงของมุกแล้ว ยังมีเรื่องราวของ"น้ำ"ที่ดำเนินเคียงคู่กันไป อย่างสมเหตุสมผล สมจริงสมจังไม่ต่างกัน... มีความเป็นดราม่า มีเรื่องของความรัก ความใฝ่ฝัน ความคาดหวัง และความผิดหวัง ความผิดพลาดอันเกิดจากความซื่อใสไร้เดียงสาแห่งวัยสาว
แต่เธอก้าวผ่านมันมาได้...ด้วยความเข้มแข็ง ทั้งยังได้ช่วยประคับประคองเพื่อนที่ต้องเผชิญชะตากรรม ซ้ำรอยกับเธอให้ก้าวข้ามไปด้วยกัน...
"... เราไม่จำเป็นต้องมองในสิ่งที่เราเห็นนะมายด์ เราไม่จำเป้นต้องจำในสิ่งที่เราไม่อยากจำ สิ่งที่เราเห็นแล้วเจ็บปวด เราก็อย่าไปเห็นมัน เราเลือกมอง เลือกเห็นได้..."
เป็นอีกเล่มที่อ่านแล้วช๊อบ-ชอบ... อ่านแล้วอิ่ม อิน อุ่นไปถึงหัวใจ คุณสิริมายังคงเป็นนักเขียนภาษาสวยที่สุดในใจคนอ่านคนนี้เสมอ จึงหยิบมาบอกต่อชวนอ่านกันวันนี้ค่ะ
| |