ดับแดนดารา
ผู้เขียน : อสิตา
สนพ.เก้าหาง/พิมพ์(2561)
442 หน้า ราคา 430 บาท
คำโปรย
เขา... คือเจ้าชายจากดวงจันทร์
เธอ... คือเผ่าหมาป่าที่ได้แต่แหงนมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
โลกทั้งใบกำลังดับสลาย
แต่ลิขิตดารายังส่องนำทาง
ให้ทั้งคู่ได้มาพบกัน
........
'ข้ากลายเป็นคนที่ต้องอยู่ดูชะตากรรมของพวกเจ้า จนวันสุดท้าย
วันที่ดวงจันทร์กับโลกจะถึงกาลอวสานลงพร้อมกัน...
ข้าเฝ้ามองดูพวกเจ้าจากบนนี้ และได้แต่ถามตัวเอง...
เผ่าพันธุ์มนุษย์ มีค่าพอหรือ?'
โรแมนติกแฟนตาซีเล่มล่าสุดจาก 'อสิตา'...
ทว่า เป็นนิยายเรื่องแรกของผู้เขียน ตามคำบอกเล่าจากหน้าคำนำ
โปรยปกไม่บอกอะไร เล่าเรื่องย่อๆ แล้วกัน...
(แม้จะเล่าค่อนข้างยาก แต่จะพยายามค่ะ)
...............
หลังโลกดับสลาย มนุษย์บางส่วนพากันอพยพไปยังดาวอความารีน่า
ดำรงเผ่าพันธุ์สืบต่อกันมานับพันปี
บัดนี้ถึงคราที่ดาวดวงนี้ใกล้ถึงกาลแตกดับอีกครั้ง...
ตามคำพยากรณ์แห่งลูกแก้วจันทราที่ไลคาน่าที่ 3
ทำหน้าที่เป็นผู้ถ่ายทอดคำทำนายนั้น
พวกเขาจะต้องอพยพไปยังดาวดวงใหม่...
ทว่า ด้วยวิสัยแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่สืบเนื่องมาแต่โลกเก่า
ที่มักจะยึดมั่นถือมั่นอยู่กับอัตตาตัวตน
ทำให้ผู้มีอำนาจบางคนไม่ยอมรับในคำทำนาย
และคิดว่าตัวเองจะสามารถเอาชนะธรรมชาติได้
สังคมโลก ณ ดาวอความารีน่านี้ก็คล้ายๆ สังคมในโลกเก่า
มีขั้วอำนาจ 2-3 ฝ่ายคะคานกันอยู่
แต่มีศูนย์รวมความเชื่อความศรัทธาอยู่ที่ไลคาน่า
ไลคาน่าเป็นประหนึ่งเทพพยากรณ์ที่เกิดมาจากการโคลนนิ่ง
เพราะไลคาน่าจะต้องเป็นหญิงพรหมจรรย์เท่านั้น
ไลคาน่าคนปัจจุบันเป็นคนที่ 3 อายุก็ราวๆ 20 กว่า
หลายคนจึงมองว่าเธอยังเด็กและอ่อนประสบการณ์นัก
เมื่อเทียบกับไลคาน่าสองรุ่นก่อน
โดยเฉพาะผู้นำทางการทหารอย่างนายพลเบลินด์
ที่ถึงกับลอบโคลนไลคาน่าขึ้นมาเอง
เพื่อจะใช้เป็นฐานอำนาจให้ตัวเองก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดบนดวงดาว
ก็เลยเกิดมีไลคาน่าตัวจริงและตัวปลอม
โดยต่างฝ่ายต่างมีผู้สนับสนุนและปกป้องอยู่เบื้องหลัง
อย่างที่บอกตอนต้นว่าเรื่องนี้เป็นโรแมนติกแฟนตาซี
แน่นอนว่าแกนหลักของเรื่องก็ต้องเป็นเรื่องของความรัก
มีความรักหลากหลายรูปแบบอยู่ในเรื่อง
ความรักแห่งสายเลือด ความรักของหนุ่มสาว
ความรักแบบหมายจะครอบครองและความรักแบบเสียสละ
อ่านได้สนุกสนานเพลิดเพลินดีค่ะ
พล็อตแม้จะไม่ถึงกับแปลก แหวกหรือพิสดารเลิศล้ำ
อ่านๆไปก็พอจะเดาทางได้ แถมตัวละครก็เยอะแยะมากมายชวนงงอยู่ไม่น้อย...
แต่ก็ชื่นชอบและชื่นชมในแง่คิดและทัศนคติที่แฝงมาในเรื่อง
บวกกับการเล่าเรื่องด้วยสำนวนที่เรียบง่าย ลื่นไหล
มีการแอบแทรกสำนวนประชดประเทียดเสียดเย้ยประปรายตามสไตล์นักเขียน...
มีปุ่มมีปมให้แคะไค้ บางจุดมีหยอดมุกมัดยิ้ม
บางตอนมีแซมดราม่าโศกซึ้ง...
จึงจัดได้ว่าเป็นแฟนตาซีที่ครบรสเล่มหนึ่งทีเดียว
(ถ้าไม่นับคำผิดที่...เยอะไปหน่อยนะ )