|
กลับบ้าน ผู้เขียน : สิริมา อภิจาริน ผู้พิมพ์ : สนพ.แสงดาว(พิมพ์ครั้งที่ ๑/๒๕๕๔) ๑๖๘ หน้า ราคา ๑๒๐ บาท
ปกหลัง :
......
บัดนี้ได้กลับมาแล้ว บ้านเราเป็นอย่างนี้เองเจ้าประคุณเอ๋ย จะให้ทำอะไรก็ทำได้ทุกอย่าง จะไม่ปริปากบ่นเลย ขอเพียงให้บ้านของเราเป็นบ้าน ซึ่งแบ่งปันความสุขให้แก่ทุกคนภายใต้ร่มไม้ชายคาเถิด ขออย่าให้เป็นโลกสีชมพูอยู่ที่จุดน้อยนิดเดียว และอีกหลายจุดอันกว้างใหญ่ไพศาล ภายใต้ชายคาเดียวกันนี้ยังคงเป็นสีเทาทะมึนอยู่ชั่วนาตาปี ขออย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย...เจ้าประคุณ
รวมเรื่องสั้น-สั้นสไตล์สิริมาทีอ่านแล้วอบอุ่นหัวใจ
ในหนังสือเล่มเล็ก ๆ บาง ๆ เล่มนี้บรรจุไว้ด้วยเรื่องสั้น ๆ ถึง ๑๕ เรื่อง แต่ละเรื่องผู้เขียนได้บรรจงร้อยเรียงอารมณ์ และความรู้สึกนึกคิดของเธอผ่านตัวละครที่หลากหลาย บอกเล่าถึงความเป็นไปในสังคมรอบๆ ตัว ด้วยแง่มุมที่เรียบ ๆ ง่าย ๆ แต่งดงามลึกซึ้ง
มีข้อชวนคิด ชวนขำและชวนฉุกใจ ในแต่ละเรื่องแต่ละราวที่นำเสนอ ด้วยสำนวนภาษาที่...ละมุนละม่อม...ละเมียดละไม ให้ความรู้สึกคุ้นเคยขณะอ่าน...
ความรู้สึกที่เป็นเหมือนกับว่า... หลังจากที่เร่ร่อนสัญจรไปไกลบ้านมานานนับ ได้เสพอาหารเย้ายวนใจหลากหลายรสชาติ ทั้งแบบเร่งรีบและลวกลน... ทั้งแบบมัวมนจนเมามันแทบจะมองไม่เห็นอนาคต และแบบเย็นชา จืดชืดจนอืดเอื่อย อาหารบางจานมีรสชาติจัดจ้าน ซ่านซ่าและเปรี้ยวจี๊ด บางชนิดให้รสอ่อนหวานเคลิบเคลิ้มชวนหลงใหล...(จนไปไม่เป็นเลยก็มี)
แต่เมื่อใดก็ตามที่กลับมาบ้าน...ได้กินน้ำพริกหรือแกงป่ารสมือแม่ เราอาจจะถึงกับปรารภกับตัวเองว่า... นี่แหละคือรสชาติที่เราคุ้นเคยและถวิลหามาเนิ่นนาน... ประมาณว่า...เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม!
และแจ่มแจ้งชัดเจนในอารมณ์และความรู้สึกที่ว่าปานประหนึ่งดอกไม้เริ่มแย้มบานนั้น... มันเป็นเช่นนี้นี่เอง
ขอหยิบยกมาบางบทบางตอนที่อ่านแล้ว...ชอบ
.........
แพรวนึกถึงรสรักรสสวาท แต่มันก็พร่าเลือน หากมันต้องตอบแทนด้วยสิ่งนี้... อย่างนี้...แพรวบอกกับตัวเองว่า ต่อให้ผู้ชายมาดิ้นตายลงต่อหน้า ด้วยฤทธิ์ปรารถนาในตัวแพรว หล่อนก็จะไม่มีวันพลีกายให้อีกแล้ว
แต่แพรวขอบนี่นะ รสรักรสจูบ ร้อยรสพันรส แพรวโลดเตลิดไปได้ถึงไหนถึงกัน หล่อนคิดว่าหญิงชายนั้นเสมอกัน บนเตียงนอนจึงเป็นเวทีที่แพรวมิเคยท้อถอย ความวิจิตรพริ้งพรายนั้นแพรวมีอยู่จนเต็มปรี่ เขาจึงหลงแพรว และแพรวก็หลงเขา แพรวไม่คิดเลยว่าเขาจะปฏิเสธแพรวได้ลงคอ ทั้งที่แพรวรักเขาปานนั้น แพรวทั้งรักทั้งหลง แล้วเขาก็ทำแพรวได้ถึงปานนี้ ทิ้งความรับผิดชอบในเบื้องปลายไว้ที่แพรวคนเดียว ความเสมอกันบนเตียงนอนนั้นมีอยู่ แต่ตรงนี้...เป็นความช้ำชอกของแพรวเพียงผู้เดียว...ผู้เดียวจริง ๆ
(ทางสายบาป น.๙๖)
............
ฉันเคยบอกใครไว้ไม่รู้...ครั้งหนึ่ง ว่าฉันไม่ใช่นักรัก... ........ ถ้าจะเป็นก็เป็นได้แค่คนที่กล้ารัก ทำไมถึงกล้ารักน่ะหรือ ก็ฉันกล้าเจ็บเท่านั้นเอง ฉันไม่อยากพร่ำรำพันเรื่องรักในเวลาเช่นนี้หรอก ในยามที่โลกมีศึกสงคราม ผู้คนล้มตาย และสิ่งแวดล้อมเสียหาย ทะเลสวยของฉัน...ของเธอ...ของเรา...เต็มไปด้วยน้ำมัน นกทะเลแสนงามของฉันปีกเปียกชุ่มกับน้ำมันชโลม ไม่อาจแม้จะขยับปีก ไม่อาจแม้จะหายใจ เรารณรงค์กันเอยู่เมื่อวานนี้เอง ถึงปีของการรักษาสิ่งแวดล้อม แล้ววันนี้ โลกสวยของเราก็มีอันเป็นไป
..........
แต่เมื่อพระผู้เป็นเจ้าได้ทรงรวบรวมคุณสมบัติทั้งหลายทั้งปวงเอาไว้ในตัวเธอ จนฉันต้องตระหนกตกใจเมื่อเห็นเธอมายืนตรงหน้าแล้วเช่นนี้ จะมิให้ฉันชื่นชมกระไรได้ บางสิ่งแม้เรามิอาจได้มา แต่เราก็อาจชื่นชม หากเป็นสิ่งของ สัตว์เลี้ยงหรือต้นไม้ ฉันคงมิพักหาหนทางเอามาครอบครอง แต่เมื่อเป็นมนุษย์ ทุกอย่างจำต้องมีความสมัครใจ ไม่มีมนุษย์คนใดจะกระชากลากถูหัวใจของมนุษย์อีกคนหนึ่งมาได้ หากเจ้าตัวไม่ยินยอม
(เส้นตาย น.๑๐๑, น.๑๐๖)
เหมือนจะเป็นธรรมเนียมไปเสียแล้วสำหรับบล็อกนิยายของแม่ไก่ ที่จะหยิบหนังสือของนักเขียนคนโปรดอย่างคุณสิริมามาส่งท้ายปี
ไม่ได้ตั้งใจหรอกค่ะ ... บังเอิญเห็นว่า ช่วงนี้ใครต่อใครหลายคนกำลัง"กลับบ้าน" ก็เลยนึกถึงหนังสือเล่มนี้ ที่ดองไว้ระยะหนึ่งแล้ว... อ่านแล้วก็ได้บรรยากาศและความรู้สึกดังกล่าวข้างบนนั่น
หวังว่าทุก ๆ คนจะได้กลับไปถึง"บ้าน"ที่แท้จริงของแต่ละคน และได้พบกับรสชาติอันคุ้นเคยที่จะทำให้หัวใจแย้มบานได้นะคะ
สวัสดีปีใหม่เพื่อนนักอ่านทุกท่านค่ะ
| |