'หัวใจ๋ข้า หัวใจ๋เจ้า ห้อยอยู่เก๊าเดียวกั๋น' *
*คลิกเพื่ออ่านคำแปลเจ้า :)

~ รักเจ้าเอ๋ย : นิยายรักกุ๊กกิ๊กคิกขุ โดย "แก้วชมพู" ~





รักเจ้าเอ๋ย
ผู้เขียน : แก้วชมพู
ผู้พิมพ์ : สำนักพิมพ์อรุณ
(พิมพ์ครั้งแรก /มิ.ย.๕๕)
๓๒๕ หน้า ราคา ๒๓๙ บาท


โปรยปกหลัง :


เรวินทร์ หนุ่มหล่อลูกครึ่งสัญชาติไทย-อเมริกัน
ว่าที่ซีอีโอและเจ้าของเครื่องสำอางอเมทิสต์แบรนด์ดัง
เพียงแค่กลับมาเมืองไทยไม่กี่วัน เขาก็ถูกไล่ล่าหมายเอาชีวิต
จนต้องหนีหัวซุกหัวซุน และบังเอิญเข้าไปหลบภัยอยู่ในบ้านของอิสรีย์
โปรแกมเมอร์สาวห้าวซึ่งอาศัยอยู่กับหลานชายวัยซน
เธอจึงคิดว่าเขาเป็นขโมยที่หมายจะทำมิดีมิร้าย
นำไปสู่เหตุการณ์ชุลมุน จนหญิงสาวลื่นหกล้มหัวแตกสลบไป
เดือดร้อนเรวินท์ต้องช่วยพาเธอส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน

ซ้ำร้าย เมื่ออิสรีย์ฟื้นขึ้นมา กลับหลงลืมความทรงจำไปบางส่วน
เข้าใจผิดคิดว่าหนุ่มลูกครึ่งเป็นแฟนและพาไปเปิดตัวกับครอบครัว
เมื่อเป็นเช่นนี้เขาจึงต้องเล่นตามน้ำรับสมอ้างเป็นแฟนกำมะลอ
รอเวลาเพื่อหลบภัยคุกคาม และสืบสาวเรื่องราวของคนร้าย

แต่...นอกจากจะหลวมตัวเป็นแฟนกับอิสรีย์แบบไม่ตั้งใจแล้ว
นานวันเข้า เรวินทร์กลับหลวมใจจนไม่อยากให้ความจำของเธอกลับมาซะงั้น






เรื่องย่อๆ ก็ประมาณข้างบนนั่นเลยค่ะ
เป็นโรแมนติกคอเมดี้อ่านง่าย ๆ ชิล ๆ
พล็อตก็ไม่ได้แปลกแหวกแนวอะไร
แต่อ่านได้ด้วยสำนวนการเล่าเรื่องที่ลื่นไหลในระดับหนึ่ง
ชูโรงด้วยบทของเด็กน้อยวัยห้าขวบที่น่ารักน่าหยิก น่าหมั่นเขี้ยวชะมัด

แกมด้วยมุกขำๆ ฮา ๆ ประปรายจากบุคลิกห้าว ๆ ตรง ๆ ของนางเอก
อย่างตอนที่นางหกล้มหัวฟาดพื้นจนความจำเสื่อมชั่วคราว
ความที่ก่อนหน้านั้นเจ้าหล่อนเพิ่งดูข่าวอุบัติเหตุมีคนตายชื่อจิตตา
หล่อนก็มโนเป็นตุเป็นตะว่าเจ้าหล่อนเป็นวิญญาณของคนที่ชื่อจิตตา
ที่จับพลัดจับผลูเข้ามาสิงร่างของหญิงสาวที่ชื่อเอ๋ยคนนี้...
และชายหนุ่มรูปหล่อที่ดูแลเธออยู่ข้าง ๆ ก็เป็นสามี
มีเจ้าเด็กอ้อแอ้จอมซนวัยห้าขวบเป็นลูกชาย...

บางครั้งบางทีเจ้าหล่อนอาจเผลอคิดอะไรเกินเลยกับเรวินทร์ไปบ้าง
ด้วยความใกล้ชิด แต่หล่อนก็พยายามเบรคตัวเองด้วยการเอาศีลข้อสามเข้ามาข่ม
พยายามเตือนตัวเองว่า...'เขาไม่ใช่แฟนของเธอสักหน่อยยายจิตตา เขาเป็นแฟนของคุณเอ๋ย
ร่างที่เธอสิงสู่อยู่นี่ต่างหาก' ฮ่าๆ เอากะเจ้าหล่อนสิ






นอกนั้นก็มีเรื่องราวความวุ่นวายของครอบครัวนางเอก
อย่างอดีตน้องสะใภ้(แม่ของเจ้าอ้อแอ้)ที่มีจิตใจใฝ่เป็นทอม
กลับมาหลงใหลอดีตพี่สาวสามีจนตามมาตอแย
หรือนายสิงห์ทอง อบต.หนุ่มใหญ่ที่ทั้ง ๆ แต่งงานมีเมียเป็นตัวเป็นตน
แต่ก็ยังมาทำก้อร่อก้อติกกับนางเอก

และไหนจะบรรดาเพื่อน ๆ ในสมัยเด็ก ๆ ของนางเอก
ที่ต่างก็อยากมาดูหน้าแฟนของสาวห้าว

ในเวลาเดียวกัน พระเอกก็ต้องคอยสืบสาว
หาเบาะแสคนร้ายที่คอยไล่ล่าหมายเอาชีวิตเขาอยู่
จึงยอมเลยตามเลย รับบทบาทแฟนกำมะลอของอิสรีย์ไปเรื่อย ๆ





น่ารักดีอ่ะค่ะ ส่วนตัวให้ผ่านในเรื่องของสำนวนภาษา
การสร้างสรรค์ตัวละครและการเล่าเรื่อง
แม้ในส่วนของเนื้อหาเรื่องราวจะออกแนวโอเว่อร์แอ็คติ้งไปนิด ๆ
แต่ก็อยู่ในบริบทที่พอรับได้ค่ะ
บางแก๊กบางตอนอ่านแล้วแอบอมยิ้มไปเสียอีก

อากาศร้อน ๆ อ่านนิยายกุ๊กกิ๊ก ๆ ก็ทำให้เย็นใจดีไม่น้อยค่ะ










 

Create Date : 16 มีนาคม 2559    
Last Update : 16 มีนาคม 2559 11:09:48 น.
Counter : 2424 Pageviews.  

~ชิงช้าชาลี : นิยายรักอบอุ่น กรุ่นกลิ่นอายธรรชาติ "โสภาค สุวรรณ" ~






ชิงช้าชาลี
ผู้เขียน : โสภาค สุวรรณ
สนพ.อรุณ/พิมพ์(ครั้งที่ ๓/ส.ค.๕๘)
๗๐๙ หน้า ราคา ๕๖๕ บาท


ปกหลัง


“อย่าไปนะไอ้ลี...อยู่ที่นี่ด้วยกันเถอะ...
ที่นาที่ไร่ของพ่อคงต้องการคนช่วยดูแล
ยามแก่เฒ่า พ่อแม่คงอยากมีหลานตัวเล็กๆ ไว้คลอเคลีย

ช่อมาลีกับบุหงาส่าหรีเขาจำเป็นจะต้องอยู่กรุงเทพฯ
แต่อย่างแกนี่...แกนั่งเขียนหนังสือที่ไหนก็ได้ไม่ใช่หรือ...
เมืองนอก บ้านนา หรือที่ไหนๆ ก็ได้จริงมั้ย

ไม่ว่าที่ไหน ความฝัน จินตนาการของคนเขียนหนังสือไม่เหือดไม่แห้งใช่มั้ยหือ”

คำไทเคลียจมูกปากที่แก้มเนียน ไฟหมดเชื้อพอดี
รอบตัวมีแต่ความมืดและแสงฟืนกรุ่นจวนมอดในกองไฟ

“อยู่ด้วยกันที่อีสานนี่แหละ ถึงจะแล้งจะจนยากก็บ้านเรา ถิ่นของเรา
ถ้าเราทิ้งถิ่นฐานบ้านเกิดเสียเอง คนถิ่นอื่นหรือเขาจะมาอยู่แทน...
เวลานี้เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินท่านก็ทรงพระเมตตาโอบอุ้มชาวบ้านถิ่นอีสานเต็มที่
แกอย่าไปกรุงเทพฯ เลยนะชาลี”

คำไทโอบร่างบางไว้กับตัวยิ่งขึ้น ไม่นำพายุงริ้นไรหรือแมลงกลางคืนอีกแล้ว
เขารู้แต่ว่า แม้นหากว่าไอ้ลีไปเสีย เขาจะอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน






เรื่องย่อเพิ่มเติม(จากเว็บสนพ.)

สามสาวพี่น้อง คือ ช่อมาลี บุหงาส่าหรี และวัลย์ชาลี
อยู่กับพ่อแม่ในจังหวัดหนึ่งทางภาคอีสาน
โดยไม่ทราบประวัติความเป็นมาของแม่
ซึ่งไม่เหมือนชาวบ้านทั่วไปที่เป็นชาวไร่ชาวนา

อยู่มาวันหนึ่งผู้เป็นยายเดินทางจากกรุงเทพฯ
มารับเด็กสาวทั้งสามไปอุปการะเพื่อเรียนหนังสือต่อในกรุง
เด็กสาวทั้งสามจึงต้องจากพ่อแม่เข้ามาสู่สิ่งแวดล้อมใหม่ๆ
ท่ามกลางญาติพี่น้องที่รังเกียจ ยกเว้นยายเพียงผู้เดียว
และต้องปรับตัวรับทุกสิ่งทุกอย่าง...
ทั้งสภาพสังคม การศึกษา การงานและความรัก





เป็นนิยายแนวปลุกจิตสำนึกรักบ้านเกิด ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสังคม
ผู้คนโหยหาแต่วัตถุ ด้วยคิดว่านั่นเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความสุข
ความสะดวกสบายให้กับตนเอง
จนบางครั้งหลงลืมศีลธรรมอันดีที่พึงมีไว้เป็นหลักในการดำเนินชีวิต

เรื่องราวส่วนใหญ่เน้นที่วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของสามสาวพี่น้อง
ที่ในวัยเด็กได้รับการอบรมเลี้ยงดูอย่างอบอุ่นจากผู้เป็นพ่อและแม่
เมื่อเติบโตเข้าสู่วัยแรกรุ่น ก็มีผู้เป็นยายมารับช่วงต่อ
คุณยายผู้ไม่เคยรังเกียจลูกเขยบ้านนา หากต้องเพียงมองอยู่ห่าง ๆ เมื่อครั้งคุณตายังมีชีวิตอยู่
เพราะคุณตานั้นถือยศถือศักดิ์แจนตัดขาดลูกสาวคนสุดท้อง เมื่อเธอเลือกที่จะแต่งงานกับหนุ่มชาวนา...
ต่อเมื่อคุณตาเสียชีวิตลง คุณยายจึงสามารถยื่นมือมาโอบอุ้มเด็ก ๆ ทั้งสาม
เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาให้ทัดเทียมกับหลาน ๆ บ้านอื่น
แม้จะถูกคัดค้านและตั้งป้อมรังเกียจจากญาติสนิทอย่างลุงและป้า พี่แท้ ๆ ของแม่

เจ้าหล่อนทั้งสามอาศัยการกล่อมเกลาจากพ่อและแม่
เสริมด้วยคำสั่งสอนของผู้เป็นยาย สามารถปรับตัวเข้ากับสังคมเมืองกรุงได้เป็นอย่างดี
และกระทั่งได้มีโอกาสช่วยเหลือและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ตลอดถึงทัศนคติและมุมมองของญาติสนิทที่อยู่ในวัยใกล้เคียงกัน
หากแต่ใช้ชีวิตอย่างสุ่มเสี่ยงและประมาท เนื่องจากขาดความรักอันอบอุ่นในครอบครัว




ตามแนวการเขียนของนักเขียนท่านนี้ บทรักหวาน ๆ มีน้อยมาก
แต่ทั้งเรื่องยาว ๆ หนาปึกนั่น อัดแน่นด้วยข้อคิดคำสอน
โดยอิงหลักธรรมะในพระพุทธศาสนา
ซึ่งมีหลายบทหลายตอนที่ช่วยฉุดดึงและกระตุกเตือนคนอ่านได้เป็นอย่างดี

อ่านแล้วอบอุ่น กรุ่นกลิ่นอายธรรมชาติของท้องไร่ท้องนาดีค่ะ










 

Create Date : 29 กุมภาพันธ์ 2559    
Last Update : 29 กุมภาพันธ์ 2559 15:14:28 น.
Counter : 4552 Pageviews.  

~ นิยายชุด"มายาดอกรัก" - - จาก 'บัลลังก์ดอกไม้' ถึง 'มงกุฎสายน้ำผึ้ง' ~





บัลลังก์ดอกไม้
ผู้เขียน : คีตา
ผู้พิมพ์ : สนพ.อรุณ(พ.ค. 56)
350 หน้า ราคา 275 บาท


โปรยปกหลัง


เมื่อตำแหน่งผู้นำตระกูลสัตยารักษ์
และบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่ได้ถูกผลัดเปลี่ยน
'อนาวินทร์' หนุ่มไฮโซหัวสูง ผู้ไม่เคยมองเห็นใครอยู่ในสายตา
ดูถูกคนอื่นจนเรียกว่าเป็นนิสัย คิดว่าบัลลังก์ทองนั้นจะตกเป็นของเขา
แต่พอพินัยกรรมถูกเปิดกลับไม่เป็นตามที่หวัง
เพราะมันระบุให้ 'พุดชมพู' สาวห้าวเจ้าของไร่ดอกเบญจมาศ
ที่ติดหนี้อดีตผู้นำสัตยารักษ์ต้องมารับภารกิจดัดนิสัยอนาวินทร์
ให้เปลี่ยนเป็นคนใหม่ ครบหนึ่งปีเขาจึงจะได้สมบัติทั้งหมด!

ด้วยเงื่อนไขจากพินัยกรรมประหลาดนี้เอง
ได้ร้อยรัดผูกพันผู้หญิงกระโดกกระเดก
และผู้ชายยโส เอาแต่ใจ เข้าด้วยกันอย่างไม่มีทางเลือก

แม้จะเริ่มต้น...ด้วยความขัดแย้ง ทว่าเมื่อความรักบังเกิดขึ้นกลางใจ
พายุร้ายจึงกลายเป็นสายลมอบอุ่นที่โอบอุ้มดอกไม้ให้เบ่งบานงดงาม






หลังอ่าน
โรแมนติกคอเมดี้อ่านง่ายสบายอารมณ์ค่ะเล่มนี้
เป็นพล็อตที่คุ้นเคยมาก...
พระเอกเป็นหนุ่มหัวสูง เย่อหยิ่งเพราะถูกเลี้ยงดูมาแบบตามใจมาโดยตลอด
จนกลายเป็นคนเอาแต่ใจตัว ไม่เห็นหัวผู้อื่น
ทำให้คุณปู่เกิดความกังวลว่าวันหนึ่ง หากเขาต้องก้าวขึ้นมาปกครองคน
ด้วยนิสัยเช่นนี้อาจจะทำให้เกิดผลเสียในภายหลัง
ท่านจึงกำหนดเงื่อนไขในพินัยกรรม ให้เขาต้องมีคนมาดัดสัน...เอ๊ย...ดัดนิสัย
ก่อนที่จะได้รับมรดก เป็นผู้นำตระกูลเต็มตัว

ตามที่ปรากฏในเรื่องย่อข้างบนนั่นเลยค่ะ
แน่นอนว่าสำหรับพุดชมพูแล้ว งานนี้ไม่ใช่งานง่าย ๆ
ทั้งเงื่อนไขก็ไม่ได้บีบบังคับให้เธอต้องทำตาม
แต่ด้วยความกตัญญูรู้คุณที่เธอมีต่อคุณปู่เล็ก ที่ท่านได้ให้ความช่วยเหลือ
ครอบครัวของเธอมาตลอดในยามชีวิตตกต่ำ
เธอจึงตัดสินใจรับเป็นผู้ดูแล ดัดนิสัยชายหนุ่มที่มองว่าเธอเป็นพวกบ้านนอกหิวเงิน บลา ๆ ๆ

ชอบนิสัยนางเอกค่ะ เธอเข้มแข็งอดทน เฉลียวฉลาดทันคนดี
ไม่ว่าจะถูกแกล้ง ถูกดูถูกดูหมิ่นขนาดไหนเธอก็ไม่ยั่น
มีการตอบโต้เอาคืนอย่างสาแก่ใจคนอ่าน
ฝ่ายพระเอกนั่น เริ่มต้นมาก็ร้ายสุดๆ แต่เมื่อเรื่องราวดำเนินไปเรื่อย ๆ
เราก็จะได้เห็นเขาในอีกมุมหนึ่ง...
เหมือนที่เขาก็เริ่มเห็นพุดชมพูในอีกมุมหนึ่งเช่นกัน

ความใกล้ชิดจึงก่อเกิดเป็นเยื่อใยผูกพัน แล้วก็กลายเป็นความรักในที่สุด
แต่ในเรื่องไม่ค่อยมีเลิฟซีนหวาน ๆ สักเท่าไร่หรอกนะคะ(มีบ้าง แต่น้อยอ่ะ)
เพราะนิยายไม่ได้เน้นตรงจุดนั้น (ซึ่งถือว่าเป็นแนวที่คนอ่านคนนี้ชอบอ่ะ)
เรื่องนี้จะเน้นในเรื่องของทัศนคติในการมองโลกมองคน
การตัดสินคนและการทำงาน...
การเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อผู้อื่น รวมถึงการทำประโยชน์ให้กับส่วนรวม
โดยไม่หวังชื่อเสียงเงินทองหรือสิ่งตอบแทนใดๆ





จุดที่ชอบอีกจุดหนึ่งของเรื่องนี้คือบทบาทของคนเป็นแม่ค่ะ
แม่อย่างทิพนาถ(แม่พระเอก ถึงจะเป็นแม่เลี้ยง
แต่อย่างน้อยก็เป็นแม่ที่ได้เลี้ยงดูเขามาแต่เล็กแต่น้อยนั่นแหละ)
กับแม่อย่างภัทรา(แม่นางเอก)ช่างแตกต่างกันสุดขั้ว
แต่ทั้งสองแม่ต่างก็มีส่วนสำคัญที่หล่อหลอมให้ทั้งสองคนเติบโตขึ้นมาเป็นเช่นนี้
และสุดท้าย แม่ทั้งสองคนก็หันหน้ามาจับมือกัน
เฝ้าดูความรักความสุขของลูก ๆ ของตนเอง

ชอบคำพูดประโยคหนึ่งของแม่นางเอกที่เตือนสติลูกสาวไม่ให้เข้มงวดกับอนาวินทร์จนเกินไป
"...เขายังไม่พร้อมก็อย่าบังคับกันเลยนะ ใจคนน่ะ ยิ่งบังคับมันก็เหมือนบีบคั้น
คนที่ขาดน่ะควรเติม ไม่ใช่ตักออก"

บรรยากาศของเรื่องโดยเฉพาะพาร์ทที่พระเอกต้องไปอยู่ที่ไร่ดอกไม้
ของนางเอกนั่นก็น่ารักดีค่ะ ให้อารมณ์มุ้งมิ้ง ๆ ดี
มีฉากกุ๊กกิ๊กๆ ให้ได้จิ้นกระจาย

แต่นิยายต้องมีตัวร้าย...และตัวร้ายในเรื่องนี้ก็ไม่ใช่อื่นไกล
ล้วนแต่เป็นคนใกล้ตัวพระเอกทั้งนั้น
ซึ่งก็เป็นไปตามขนบนิยายแนว ๆ นี้แหละค่ะ เดาเรื่องได้ไม่ยาก

เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกในชุด"มายาดอกรัก"ค่ะ
อีกเล่มในชุดคือ"มงกุฏสายน้ำผึ้ง" เขียนโดย'ลิษา'

จริง ๆ แล้วอ่านเล่มนี้รอบแรกตอนที่หนังสือออกใหม่ ๆ
ความที่ยังไม่ได้อ่านเล่มหลังจึงยังไม่ได้รีวิวขึ้นบล็อก
รอนานไปจนลืมเลือนหมดสิ้น มาเห็นข่าวการสร้างละคร
เห็นแคสติ้งแล้วน่าสนใจเพราะชื่นชอบทั้งพระเอก-มาริโอ้และนางเอก-เต้ย จรินทร์พร
เลยรื้อมาอ่านใหม่
อ่านเล่มนี้จบแล้วก็พลอยหยิบ'มงกุฏสายน้ำผึ้'งมาอ่านคู่กันไปเสียเลย








มงกุฎสายน้ำผึ้ง
ผู้เขียน : ลิษา
ผู้พิมพ์ : สนพ.อรุณ(พ.ค. 56)
425 หน้า ราคา 315 บาท


โปรยปกหลัง :


วังดิลกภพแสนยิ่งใหญ่อัครฐาน
บัดนี้ปราศจากผู้ถือครองที่เหมาะสม

หม่อมหลวงปลายแถวแบบ ก้องภพ คือตัวเลือกอันดับต้นๆ
ที่จะได้เป็นหัวหน้าตระกูลเก่าแก่นี้
ทว่า...มีใครเคยถามเขาบ้างไหม
ว่าต้องการรับภาระหน้าที่อันใหญ่หลวงนี้หรือไม่

ในขณะที่ก้องภพพยายามดิ้นหนี สายน้ำผึ้ง ที่มีความทะเยอทะยานสูง
อยากได้ซึ่งยศศักดิ์ กลับพยายามผลักดันทุกวิถีทางให้เขายอมรับมัน
เธอไมได้หวังดีกับเขา แต่ต้องการในสิ่งที่เป็นของเขาต่างหาก!

สายน้ำผึ้งก้าวเข้ามาในชีวิตของก้องภพอย่างมีเป้าหมาย
มุ่งมั่นที่จะคว้าเอามงกุฏแห่งความสำเร็จมาครอบครองให้ได้
แต่เมื่อได้มงกุฎมานอนกอดแล้ว เธอกลับหวั่นผว่าว่า
วันที่ก้องภพรู้ความจริง เขาจะยังรักเธออยู่อีกหรือไม่






เรื่องย่อเพิ่มเติม

สายน้ำผึ้ง สาวน้อยวัยใส(น้องสาวของพุดชมพู เจ้าของไร่อุ่นรักจากเรื่องบัลลังก์ดอกไม้นั่นเอง)
เพิ่งเรียบจบมาใหม่หมาด เธอต้องหางานทำให้ได้
ก่อนที่แม่และพี่สาวจะบังคับให้เธอต้องกลับไปช่วยงานของครอบครัวที่เธอแสนจะรังเกียจ

เธอเป็นคนทะเยอทะยานและหัวสูง
เบื้องต้นเธอตั้งเป้าสมัครงานแต่ในองค์กรหรือบริษัทใหญ่ ๆ ที่มีการแข่งขันสูง
แต่หลังจากไปกรอกใบสมัครไว้หลายต่อหลายที่ รองเท้าสึกไปหลายคู่
เธอก็ต้องค่อย ๆ ลดระดับสเป้กงานลงเรื่อยๆ...

จนวันหนึ่ง เธอก็ได้พบกับก้องภพ ชายหนุ่มแสนดีมีน้ำใจ
ที่สร้างวีรกรรมเล็ก ๆ ให้เธอประทับใจจนย่องตามเขาไปถึงบริษัทของเขาโดยไม่รู้ตัว

และในที่สุด เธอก็มาลงเอยที่ตำแหน่งแม่บ้านประจำบริษัทออกแบบแห่งนั้น
โดยมีก้องภพ หนึ่งในหุ้นส่วนบริษัทเป็นแรงบันดาลใจ

และวันดีคืนดี เธอก็แอบรู้ความลับ ปูมหลังชีวิตของก้องภพว่า
แท้จริงแล้วเขามีฐานันดรเป็นถึงหม่อมหลวง ทายาทเพียงคนเดียวแห่งวังดิลกภพ
แต่เขาช่างมักน้อยสันโดษและรักศักดิ์ศรียิ่งชีวิต
เพราะเขาเอาแต่ปฏิเสธการเรียกตัวเข้าไปรับหน้าที่ผู้นำตระกูลอันสูงส่ง
เพราะภาพจำอันขมขื่นในอดีต ครั้งที่ถูกขับไล่ไสส่งโดยเหล่าเครือญาติ
ยังคงฝังตรึงในใจไม่รู้เลือน...
ร้อนถึงสายน้ำผึ้ง ผู้หมายมั่นปั้นมือว่า...หม่อมหลวงก้องภพนี่แหละที่จะเป็นสามีในอนาคตของเธอ...
จะต้องหาทางลบทิฎฐิในใจของเขา ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดในวังดิลกภพให้จงได้
แม้จะต้องฝ่าฟันอุปสรรคขวากหนามหนักหนาสาหัสแค่ไน
สายน้ำผึ้งก็ไม่หวั่น....






หลังอ่าน...
เล่มนี้ก็อ่านรอบสองเหมือนกัน รอบแรกอ่านไม่จบอ่ะ
มันตะขิดตะขวงใจกับนิสัยของนางเอกเลยอ่านไปครึ่ง ๆ กลาง ๆ
พอวางแล้วก็ลืมยาวไปเลย แหะ ๆ

ส่วนตัวคิดว่า อาจจะเป็นเพราะนิยายเล่มนี้
ออกมาในช่วงที่แนวนิยายไทยเริ่มมีการเปลี่ยนผ่านยุคสมัย
แนวนางเอกร้ายกำลังมาแรง...
แล้วไอ้เรามันก็คนอ่านโลกแคบ หัวโบราณอ่ะ
ยังรับไม่ได้กับการเปลี่ยนแปลงสักเท่าไหร่ ออกแนวแอนตี้นิยายที่ให้นางเอกเป็นฝ่ายรุกผู้ชายก่อน...ก็เลยอ่านไม่รอดในครั้งนั้น

แต่ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมานี่ ปรากฏว่านิยายแนว ๆ นี้มันผุดขึ้นมาเต็มชั้นหนังสือไปหมด
นางเอกแต่ละนางเลเวลความแรงออกจะหนักหน่วงกว่าสายน้ำผึ้งเป็นสิบเท่า
ประกอบกับได้อ่านรีวิวเรื่องนี้จากเพื่อนบล็อกหลายคน
แม้ความเห็นจะไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกันเสียทั้งหมด
แต่โดยรวมแล้วดูเหมือนว่าจะมีเสียงชื่นชมไม่น้อย...
เลยแง้มใจให้กว้างอีกนิด ค่อย ๆ อ่านใหม่ อย่างพยายามที่จะไม่คาดหวัง
ไม่ตั้งธงตัดสินตัวละครตามมุมมอง(อันคับแคบ)ของตัวเอง...

แล้วก็ได้ผลค่ะ...อ่านไป ๆ เฮ้ย...สนุกแฮะ

ยายนางเอกที่รังเกียจชีวิตบ้านนอก ใฝ่สูงทะเยอทะยาน
จอมวางแผน เจ้าเลห์เฉโก เจ้ามารยา แอ๊บแบ๊ว...
แถมแอ๊วผู้ชายก่อนอย่างสายน้ำผึ้ง...
กลายเป็นน่ารักน่าลุ้นน่าเอาใจช่วยในการอ่านรอบนี้อ่ะ

ส่วนพระเอกที่อ่อนแอ เย็นชาท่ามากอย่างก้องภพก็ดูจะดูจะมีที่มาที่ไป
มีเหตุมีผลในอาการอึน ๆ ซึน ๆ ของเค้า
อ่าน ๆ ไป กลับจะดูดีมีเสน่ห์ไปอีกแบบ

เนื้อหาเรื่องราวแม้จะออกแนวดราม่าพาฝันค่อนข้างสูง
ผสมผสานมุกตลกฮา ๆ ก็เยอะ แต่ก็ใช่ว่าจะมีแต่น้ำเน่าโหรงเหรงไปเสียทั้งหมด
ผู้เขียนเค้าก็มีแอบแฝงสาระข้อคิดไว้เนียน ๆ เหมือนกันค่ะ
โดยเฉพาะเรื่องของการโกหกหลอกลวง อย่างที่สายน้ำผึ้งทำอยู่

เพราะสุดท้าย...เธอก็ต้องมาตกหลุม(คำโกหก)ที่ตัวเองเป็นคนขุดนั้นเสียเอง
อยู่ที่ว่าเธอจะกลับตัวกลับใจ ปรับเปลี่ยนตัวเอง
และคนที่เธอรักและรักเธอจะยอมรับและให้อภัยในความเป็นเธอได้หรือไม่
ไปลุ้นกันในนิยายเลยค่ะ











 

Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2559    
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2559 15:07:47 น.
Counter : 3053 Pageviews.  

~ จนกว่าจะรักกัน เรื่องรัก ๆ จากนักเขียนใหม่ "คณิศร์นิชา" ~





จนกว่าจะรักกัน
ผู้เขียน : คณิศร์นิชา
ผู้พิมพ์ : สนพ.ปองรัก
339 หน้า ราคาปก 285 บาท


เรื่องย่อ ๆ (จากปกหลัง) :



การพบกันที่ผิดพลาด ผู้หมวดปราการเข้าใจว่า
สาวสวยที่พบเป็นสาวไซด์ไลน์ และอยู่แก๊งค์ลักพาตัวเด็ก

ทั้งที่เข้าใจว่าเธอมีอาชีพผิดศีลธรรมก็ยังห้ามใจไม่ไหว
กว่าจะรู้ว่าเป็นเพื่อนสนิทของน้องสาวก็เข้าใจผิดไปมากโข

ขวัญข้าวสาวสวยนักเรียนนอกเป็นคนมีปมในใจจากครอบครัวที่แตกแยก
จึงไม่คิดจะผูกสัมพันธ์กับใครทั้งสิ้น แต่น้ำอิงเพื่อนรักภูมิใจนำเสนอพี่ชายเต็มที่
หารู้ไม่ว่าคุณผู้หมวดคนดีในสายตาน้องสาวไม่เคยมองเธอในแง่ดีเลยซักครั้ง

เมื่อฝ่ายหนึ่งเดินหน้าเต็มร้อยแสดงเจตนารมย์ชัดเจนว่าอยากดูแลสาวสวยผู้โดดเดี่ยว
ฝ่ายหนึ่งตั้งป้อมต่อต้านและติดลบ กว่าหญิงสาวจะยอมเปิดใจ
ผู้หมวดหนุ่มต้องอาศัยกองหนุนที่มีทั้งทำให้เรื่องดีขึ้นและดิ่งลงเหว

ความรักที่แสนจะน้ำเน่าในสายตาน้องๆ กว่าจะลงเอยกันได้
กองเชียร์ทั้งหลายลุ้นกันใจหายใจคว่ำ






หลังอ่าน...
เล่าเรื่องย่อ ๆ เพิ่มเติมจากด้านบนอีดนิดค่ะ

ขวัญข้าว หญิงสาววัยยี่สิบเศษ เพิ่งจะเดินทางกลับจากเมืองนอก หลังจบการศึกษา
เธอไม่คิดจะกลับไปอยู่กับพ่อ หรือแม่ที่แยกทางกันและต่างฝ่ายต่างมีครอบครัวใหม่แล้ว
เธอยินดีที่จะอยู่ตามลำพังมากกว่า ในคอนโดหรูที่น้าสาวของเธอจัดเตรียมไว้ให้

และนั่นก็เป็นสาเหตุให้เธอถูกมองอย่างเข้าใจผิดจากผู้หมวดหนุ่ม
เมื่อเขามีโอกาสขึ้นมาหาเธอถึงที่ห้อง
เพราะเธอบังเอิญจับพลัดจับผลูต้องไปเป็นพยานปากสำคัญ
ในคดีลักพาตัวเด็กที่เขาดูแลอยู่
สาวสวยวัยใส อยู้ห้องชุดหรูตามลำพังจึงถูกกล่าวหาว่า...เธอมีเสี่ยเลี้ยง

กระทั่งเขาได้มาพบเธออีกครั้ง ในบ้านของเขาเอง
ในฐานะเพื่อนสนิทของน้องสาว นั่นแหละเขาจึงได้รู้ว่าที่ผ่านมา
เขาเข้าใจผิดไปถนัด...






เป็นนิยายรักพล็อตมาตรฐานที่อ่านเพลินเกินคาดค่ะ
ด้วยสำนวนภาษาทีนุ่มนวล ลื่นไหล อ่านได้ไม่สะดุด

พล็อตหลักพล็อตย่อยก็สอดรับกันสมเหตุสมผลดี...

จะติดอยู่นิดก็ตรงที่ตัวประกอบเยอะไปหน่อย เยอะทั้งปริมาณ
และเยอะทั้งเรื่องราวประกอบ มันขับเน้นความแตกต่างระหว่างคู่พระ-นางมากไปนิดนึง

ในขณะที่นางเอกมีปมเด็กบ้านแตก ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว
ซ้ำน้าที่เลี้ยงดูส่งเสียก็มาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไป...
พ่อเลี้ยง สามีใหม่ของแม่ก็ยังจะมามุ่งร้ายหมายปองชีวิตอีก ชีวิตช่างแสนเศร้ารันทด

ทางฝั่งพระเอกกลับพรั่งพร้อมด้วยพ่อแม่พี่น้อง เครือญาติอีกโขยงหนึ่ง...
มันช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน...

แล้วมันก็กลายเป็นความขัดแย้งในบุคลิกนิสัยของตัวละครนะ
ทั้ง ๆ ที่อบอุ่นพร้อมพรั่งขนาดนั้น แต่พระเอกกลับเป็นคนมองคนในแง่ร้าย
คิดเองเออเองแล้วตัดสินคนอื่นด้วยเหตุปัจจัยภายนอก ติดจะงี่เง่านิด ๆ ด้วยซ้ำ

ในขณะที่นางเอกกลับจะดูปรับตัวง่าย ยอมรับสภาพอะไร ๆ ได้ง่ายกว่า

จุดนี้จึงทำให้รู้สึกขัดแย้งนิด ๆ

แต่นอกจากจุดนี้แล้ว...โดยรวมถือว่าเป็นนิยายรักที่อ่านเพลินเล่มหนึ่งแหละค่ะ
มีฉากเศร้าซึ้งสะเทือนใจทีอ่านแล้วพลอยน้ำตาซึม
มีฉากต่อสู้ ไล่ล่าน่าตื่นเต้น...และมีเลิฟซีนวูบไหวพอประมาณ
(ส่วนตัวชอบนิยายที่ไม่เน้นเลิฟซีนโลดโผนแนวๆ นี้เลยค่ะ)

เพิ่งได้อ่านงานของนักเขียนนามนี้เป็นเล่มแรก...
ส่วนตัวให้ผ่านในแง่ของสำนวนภาษา การเล่าเรื่องนะคะ
แต่อาจจะติดนิด ๆ ในแง่ของตัวละคร...ตามที่บอกไว้ด้านบนแหละค่ะ

ถือเป็นนิยายแนวฟีลกู้ด หรือจะเรียกว่าน้ำเน่าที่มีเงาจันทร์รำไรก็คงไม่ผิดนัก

อ่านจบแล้วหยิบมาบอกต่อชวนอ่านค่ะ









 

Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2559    
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2559 12:45:24 น.
Counter : 7913 Pageviews.  

~ เพลงพระพรหม เพลงชีวิตที่พระพรหมเป็นผู้กำหนด ปิยะพร ศักดิ์เกษม~





เพลงพระพรหม
ผู้เขียน : ปิยะพร ศักดิ์เกษม
ผู้พิมพ์ : สนพ.อรุณ (ครั้งที่ ๑ : ตุลาคม ๒๕๕๘)
๓๖๓ หน้า ราคา ๒๘๕ บาท


โปรยปกหลัง :


กมลาสน์ ‘รู้’ ว่า ศรุตอยู่ที่ไหน...

หน้าเมรุมีไม้ใหญ่ต้นหนึ่งแผ่กิ่งก้านสาขาราวกับกลายเป็นร่มคันยักษ์
ท่ามกลางแสงสลัวของเวลาเริ่มวัน ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น
เขาเงยหน้ามองตัวอาคารหลังเล็กและปล่องสูงตรงหน้า
ผู้มองสัมผัสได้ถึงความโศกเศร้า ความกังขา...
ศรุตคงสงสัยว่าเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นกับชีวิตของเขาได้อย่างไร

คำถามในใจของเขาคือคำถามที่ไม่มีใครให้คำตอบได้ หลายเรื่องในโลก
หลายเรื่องในชีวิตของคนเราล้วนไร้ที่มา ไม่สามารถคาดเดาที่ไป
ไม่สามารถแม้จะคาดเดาทิศทางของมัน...หลายเรื่องไม่น่าเกิด
หากมันก็เกิดขึ้น...เกิดขึ้นเพื่อพลิกฟ้าคว่ำดิน พลิกชีวิตของผู้คน

เมื่อหาเหตุผลไม่ได้ มนุษย์จึงต้อง‘เชื่อ’...เชื่อว่านี่คือพรหมลิขิต...
คือเพลงชีวิตที่ท่วงทำนองของมันเกิดขึ้นจากการขีดกำหนดของพระพรหม






เรื่องย่อ(ย่อเอง)

กมลาสน์หรือคุณใหญ่ได้พบกับศรุต นายทหารยศพันโท
อดีตพี่ชายที่เคยสนิทสนมกันในวัยเด็กโดยบังเอิญ
เมื่อเธอไปรับน้องชายคนเล็กจากโรงเรียน

ศรุตแก่กว่าเธอสิบสามปี แม่ของเขาเป็นกึ่งญาติกึ่งเพือนของแม่เธอ
เมื่อแม่ของเขาเสียชีวิตและเขาไปเรียนต่อเมืองนอก
ทั้งคู่จึงห่างเหินกันไปโดยปริยาย
แต่ด้วยความคุ้นเคย ทั้งน้องชายสองคนของเธอก็เป็นเพื่อนรัก
ของลูกชายลูกสาวศรุต พวกเขาจึงสามารถต่อติดความสัมพันธ์อย่างรวดเร็ว
มีการแลกเปลี่ยนการดูแลเด็ก ๆ และศรุตก็พาภรรยามาเยี่ยมแม่ของเธอด้วย

ภรรยาของศรุต ดุจฤดี เป็นหญิงสาวที่เติบโตในสังคมเมืองนอก
เมื่อแต่งงานกันใหม่ ๆ เธอติดตามศรุตไปใช้ชีวิตอยู่ต่างจังหวัดอย่างไม่เกี่ยงงอน
แต่หลังจากให้กำเนิดลูกคนที่สอง เธอก็อาศัยลูกเป็นข้ออ้าง
ในการกลับมาใช้ชีวิตในเมืองหลวงและเริ่มต้นธุรกิจแฟชั่นที่เธอชื่นชม
ก้าวสู่สังคมเจ็ทเซ็ทเต็มตัว...ปล่อยภาระการดูแลลูกไว้กับแม่บ้าน
ทำให้ชีวิตคู่ของทั้งสองเริ่มมีช่องว่างที่นับวันจะถ่างกว้างขึ้นเรื่อย ๆ

ทางด้านคุณใหญ่เอง แม้ลึก ๆ บางแว่บของความรู้สึก เธอจะแอบเสียดายพี่ชายคนนี้
แต่เมื่อเธอบังเอิญได้พบเห็นร่องรอยของความปริร้าวในความสัมพันธ์ของคู่สามีภรรยา
เธอก็ตั้งใจมั่นกับตัวเองว่าเธอจะต้องพยายามปกป้องครอบครัวนี้อย่างดีที่สุด
............
และแล้ว มันก็เกิดเหตุการณ์ขึ้นจริง ๆ
แต่มันออกจะรุนแรงเหนือความคาดหมายของเธอไปมาก
กระนั้น...ด้วยสติที่มั่นคงและการตัดสินใจที่เด็ดขาดฉับไว
เธอก็สามารถแก้ไขสถานการณ์นั้นๆ ให้มีผลกระทบต่อคนที่เธอรักให้น้อยที่สุด...
แม้การกระทำนั้น จะทำให้เธอกลายเป็นคนโหดเหี้ยม เลือดเย็นในสายตาของเขาก็ตาม






ความรู้สึกหลังอ่าน...

เชื่อว่าแฟนนิยายของคุณปิยะพร ไม่มีใครไม่รู้จักคุณป้าใหญ่
แห่งตระกูลเชิญอิสราชัย ผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลสูงสุดในสายตระกูลนี้
เธอปรากฏตัว มีบทบาทสำคัญในเกือบ ๆ ทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหนุ่มๆ สาวๆ "เชิญอิสราชัย"
ไม่ว่าจะเป็น ทางสายธาร ใต้เงาตะวัน ลับแลลายเมฆ บ้านร้อยดอกไม้ วาวพลอย ฯลฯ

ตอนแรกเลยที่รู้ถึงทีมาของนิยายเรื่องนี้ ว่าเป็นเรื่องของคุณป้าใหญ่ในวัยสาว
ส่วนตัวแอบมโนล่วงหน้าว่า...เอ๋...มันจะสนุกเหรอ ในเมื่อเรารู้เสียแล้วว่านางเอกของเรื่องเป็นสาวโสดโดดเดี่ยว
ที่ทั้งเก่งกล้าสามารถ ทั้งเข้มแข็งเด็ดเดี่ยวออกปานนั้น...
คงไม่ใช่นิยายรักหวานไหว ไร้โรแมนติกเป็นแน่
เลยยังคงรั้งรอ ไม่ได้อ่านทันทีที่ได้หนังสือมา...

แต่พอได้อ่านรีวิวจากนักอ่านบางท่านบางคนเข้า มีแต่คนบอกสนุกมากกกก...
ทำเอาอดใจไม่ไหว ต้องลัดคิวกองดองทั้งหลายหยิบมาอ่าน

แล้วก็ต้องเห็นด้วยกับรีวิวเหล่านั้น...

ในเรื่องนี้ เราจะได้ทำความรู้จักกับคุณป้าใหญ่ในแง่มุมที่ลึกซึ้งลงไป...
ว่าพื้นฐานชีวิต เธอได้รับการเลี้ยงดู การหล่อหลอมกล่อมเกลามาเช่นไร
ที่ทำให้เธอเติบใหญ่ กล้าแกร่ง ทั้งเฉลียวฉลาดเฉียบคมได้เช่นนี้

ผู้เขียนยังคงชัดเจนในเรื่องของการวางโครงเรื่องที่แข็งแรงเฉียบขาด
และการดำเนินเรื่องตามโครงเรื่องนั้นอย่างกระชับ
ฉับไว แต่ก็เข้มข้นเร้าใจ ชวนให้ติดตาม
เรื่องราวชวนลุ้นจนอ่านกันแบบ...ไม่จบไม่วางเลยทีเดียวเชียว

การสร้างสรรค์ตัวละคร และความสัมพันธ์โยงใยซึ่งกันและกันล้วนมีที่มาที่ไปชัดเจน

ทุกเหตุการณ์ ทุกการกระทำที่เกิดขึ้น แม้จะดูเหมือนเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ
ต่างเชื่อมโยงเป็นองค์ประกอบสำคัญต่อปมหลักๆของเรื่อง
แบบสอดรับกันได้เป็นเปลาะ ๆ ไปเลยทีเดียว
ทั้งสมเหตุสมผล และสมจริงสมจังไปเสียทั้งหมด

ชอบมากกกก...
อ่านจบแล้วหยิบมาเล่าขาน ชวนอ่านกันค่ะ









 

Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2559    
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2559 15:57:24 น.
Counter : 3193 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  

แม่ไก่
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 184 คน [?]




**หลังไมค์เจ้า**





Cute Clock Click!



เออสิ,มาอยู่ใยในโลกกว้าง
เฉกชลคว้างมาเมื่อไรไม่นึกฝัน
ยามจากไปก็เหมือนลมรำพัน
โบกกระชั้นสู่หนไหนไม่รู้เลย


รุไบยาต ~ โอมาร์ คัยยัม
สุริยฉัตร ชัยมงคล : แปล




Latest Blogs

~ท่านหญิงในกระจก/แสงเพลิง ~

~เพชรรากษส/อลินา ~

~มนตร์ทศทิศ/ราตรี อธิษฐาน ~

~เมื่อหอยทากมีรัก 1-2/"ติงโม่"เขียน/พันมัย แปล ~

~ให้รักระบายใจ/"ณกันต์"เขียน ~

~ผมกลายเป็นแมว/Abandoned/Paul Gallico เขียน(ภูธนิน แปล) ~

~พ่อค้าซ่อนกลรัก & หมอปีศาจแสนรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~อาจารย์ยอดรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~จอมโจรพยศรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~


สารบัญหนังสือ: รวมลิงก์หนังสือที่รีวิวในบล็อก # ๑ + ๒



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แม่ไก่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.