|
กลรุกเกมรัก /The Mean War ผู้เขียน : อัยย์เนญ่า ผู้พิมพ์ : สนพ.อรุณ(พ.ย. ๕๖) ๓๖๗ หน้า ราคา ๒๘๕ บาท
สั้น ๆ จากปกหลัง :
............
ขึ้นชื่อว่า...ผู้ชาย...เธอให้คำขยายว่า...ไว้ใจยาก... ยิ่งเป็นเพลย์บอยที่คารมกินขาด เสน่ห์ร้ายกาจ เจ้าเล่ห์เพทุบายครบสูตร งานนี้ขอถอยกรูดดีกว่า ทว่าโชคไม่ดีเสียเลยที่ความรู้สึกดันสวนทางกับความคิด หนีใจตนมันใช่เรื่องง่ายเสียที่ไหน
ขึ้นชื่อว่า...ผู้หญิง...เขาให้คำขยายว่า...หอมหวาน... จะน้ำผึ้ง น้ำตาล หรือต่อให้เปรี้ยวเป็นมะนาว ก็ยังจัดว่าเข้าที แต่โชคไม่ดีเลย ดันเจอ บอระเพ็ด เข้าเสียนี่! ขมปี๋ผิดจริต แต่ผิดไหมที่ถูกใจ จะให้โยนทิ้งไปงั้นหรือ? ตอบได้ทันทีว่า...ไม่มีทาง!
หลังอ่าน... เล่มนี้เป็นเรื่องราวที่ต่อเนื่อง(ไม่เชิงว่าเป็นภาคต่อ เพียงแต่ตัวละครในเรื่องมีความสัมพันธ์กันเท่านั้น) กับนิยายเล่มก่อนหน้าของผู้เขียนอย่าง'วิกฤตรักนักวางแผน' ที่จขบ.เคยติดอกติดใจนักหนามาก่อน
เมื่อได้เล่มนี้มาจึงอ่านด้วยความคาดหวังเต็มที่... (ไม่บอกว่าผิดหวังหรือสมหวัง ฮ่า...)
เล่าเรื่องย่อแบบยาว ๆ ดีกว่า
เรื่องนี้เป็นเรื่องราวความรักของ ดิษพงศ์ จีเอ็มหนุ่มหล่อร้าย คุณชายเล็กแห่งตระกูลนฤมาส(ลูกพี่ลูกน้องของภาสพัทธ์แห่ง'วิกฤตรักนักวางแผน' ) ผู้หวงแหนชีวิตโสดเสียจนทำตัวลอยชาย จนใคร ๆ ต่างให้ฉายาว่า"ผู้ชายสายลม"
กับ บุศรัณย์ สาวมาดแมน ลูกสาวแม่บ้านแห่งบ้านเทพธารา(บ้านของภาสพัทธ์นั่นเอง) เจ้าของร้านอาหารช่อมะลิบาร์
ทั้งคู่จึงรู้จักและค่อนข้างคุ้นเคยกันมาแต่เล็กแต่น้อย แต่ต่างฝ่ายต่างไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมาตกหลุมรักซึ่งกันและกัน เพราะทั้งสถานะทางสังคม ทั้งไลฟสไตล์ ตลอดถึงอุปนิสัยใจคอของทั้งคู่ช่างแตกต่างกัน ชนิดที่แทบจะเรียกว่า...สุดขั้วเลยทีเดียว...ถึงขั้นที่บุศรัณย์ต้องออกปากว่า...
"...ผู้ชายเจ้าสำอางกับผู้หญิงมาดเซอร์ติดดิน เดินด้วยกันแต่ละที คนเขาจะพานหัวร่อว่ากามเทพช่างเข้าใจครีเอท ให้เกย์ควีนกับทอมมาเดตกัน!"
แต่อย่างไรก็ดี พวกเขาก็ทดลองคบกันมาสักระยะหนึ่งแล้ว(จากตอนปลาย ๆ เรื่องวิกฤตรักฯ) แต่ก็ภายใต้เงื่อนไขที่ต่างฝ่ายต่างยื่นให้กัน...
ดิษพงศ์คาดหวังให้บุศรัณย์เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเขา...
แค่ลุกขึ้นมาแปลงโฉม ข้ออ้างความไม่เหมาะสมล้านแปดประการก็จะหมดไป...
ในขณะที่บุศรัณย์ก็มีกฏข้อบังคับสำหรับเขาเช่นกัน...
งั้นคุณก็หันหลังให้ผู้หญิงอื่น แล้วหยุดที่ฉันให้ได้สิ!
แต่มันไม่ง่ายเพียงนั้น... ดิษพงศ์เป็นหนุ่มรักสนุก เขารู้ว่าความรักนั้นงดงามอ่อนหวาน เขาจึงชอบที่จะมีมัน...ไปเรื่อย ๆ บุศรัณย์ไม่ใช่สเป้กของเขามาแต่ต้น เขาไม่สามารถแสดงความรักอย่างเปิดเผย หรือยอมรับกับเพื่อน ๆ ในวงสังคมของเขาได้ว่า...เขาชอบสาวมาดแมนอย่างเธอ
บุศรัณย์เองก็มีปมบ้านแตก เพราะพ่อทิ้งแม่ไปอยู่กับเมียน้อย เพราะฝ่ายนั้นเกิดท้องขึ้นมา... ตัวอย่างมีให้เห็นตำตาตำใจทำให้เธอขาดความเชื่อมั่นในความรักความสัมพันธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...จากผู้ชายสายลมอย่างดิษพงศ์
ในขณะที่เธอพยายามถอยห่าง เขากลับพยายามรุกไล่... ร้อนถึงกองเชียร์รอบข้างต่างคอยลุ้น ว่าใครจะเพลียงพล้ำก่อนกัน
แต่แล้ว...ในช่วงเวลานั้นเอง ก็เกิดมีมือที่สาม ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน หากแต่เป็นณาริน-น้องสาวนอกไส้ของบุศรัณย์นั่นเองแทรกเข้ามาระหว่างกลาง บุศรัณย์บังเอิญได้ยินแม่เลี้ยงสอนให้ณารินจับดิษพงศ์ให้ได้ เหมือนกับที่หล่อนเคยจับชาตรี พ่อของเธอสำเร็จมาแล้ว... บุศรัณย์รู้สึกเป็นห่วงว่า ผู้ชายเจ้าชู้อย่างดิษพงศ์อาจจะพลาดท่าเสียทีณารินได้ง่าย ๆ จึงตัดสินใจยอมปรับโฉม ปฏิรูปตัวเอง กลายเป็นสาวที่ไม่เหลือมาดแมนอีกต่อไป... สมใจดิษพงศ์ !
ทว่า...แม้ปัญหาจากมือที่สามจะคลี่คลายไปได้ระดับหนึ่ง บทพิสูจน์รักแท้ของทั้งคู่ยังไม่จบลงแค่นั้น เมื่อมีมือที่สี่ที่ห้าโผล่ขึ้นมาท้าทายพวกเขาอีก
ซึ่งคราวนี้มันหนักหนาสาหัสสากรรจ์กว่านางร้ายน้ำเน่าอย่างณารินหลายเท่าตัวนัก เพราะมาในรูปของแฟนเก่าที่แสนดีอย่างรติรส(ที่ตอนนี้เป็นทั้งเพื่อนทั้งกิ๊กของดิษพงศ์) กับเด็กน้อยแสนจะน่ารักอย่างน้องดรีม...ที่เหตุปัจจัยหลายอย่างชี้ชัดว่าเจ้าหล่อนเป็นสายเลือดของเขา
.............
โอ๊ะโอ...เช่นนี้แล้ว เกมรักของพวกเขาจะลงเอยอย่างไร ต้องตามไปลุ้นกันในนิยายแล้วล่ะค่ะ
................
ก็ชอบนะคะ อ่านสนุก สำนวนภาษาคนเขียนยังคงลื่นไหลคงเส้นคงวา... พล็อตยุ่ง ๆ อีนุงตุงนังดี การสร้างสรรค์ตัวละครก็โอเค
ชอบนางเอกแบบบุศรัณย์ค่ะ เธอเท่ดี สมกับฉายาสาวมาดแมน พระเอกอย่างดิษพงศ์ก็ไม่ถึงกับเลวร้ายนัก แม้จะถูกให้ภาพว่าเป็นหนุ่มเพลย์บอย เจ้าชู้ เจ้าสำอาง แต่ก็มีมุมดี ๆ ที่น่าชื่นชมอยู่ไม่น้อย อย่างการที่เขาไม่ทำตัวเป็นสมภารกินไก่วัด เมื่อถูกณารินยั่วยวน
หรือการยอมตัดใจจากบุศรัณย์เพื่อรับผิดชอบรติรสกับลูกสาว... แถมพระรองอย่างหนุ่มเจค เชฟหนุ่มลูกครึ่งที่ถูกส่งตัวมาเข้าใกล้บุศรัณย์ เพื่อเร่งปฏิกิริยาของดิษพงศ์นั่นก็มีเสน่ห์ดึงดูดไม่เลว...น่าจับมาเป็นพระเอกได้อีกสักเรื่อง
และถึงแม้ตัวร้ายอย่างณารินกับแม่...จะอ่านแล้วออกแนวละครหลังข่าวมากไปหน่อย หรือตัวแทรกอย่างรติรสกับลูกสาวนั่นจะให้ความรู้สึก เหมือนกับเห็นพวกเธอเดินออกมาจากซีรีส์เกาหลียังไงยังงั้น...ก็ตามที ก็ยังรู้สึกว่าคนเขียนเค้าสามารถอะ... สามารถแยกเฉดสีสันและระดับของแต่ละคนได้ชัดเจนดี ประมาณว่าไฮโซก็ร้ายแบบไฮโซ...โลว์คลาสก็กรี๊ดกร๊าดน้ำเน่าแบบโลว์ ๆ ไป แหะ ๆ
สรุปว่าชอบนั่นแหละค่ะ
แต่...หากให้เทียบความรู้สึกหลังอ่านเรื่องนี้กับเรื่องก่อน(วิกฤตรักฯ)แล้วล่ะก็... ต้องยอมรับว่าชอบเล่มนี้น้อยกว่า...จึ๋งหนึ่ง อาจจะเป็นเพราะว่า ตอนที่อ่านเรื่องนั้นเราไม่ได้ตั้งความคาดหวังอะไรไว้ เพราะเป็นนามปากกาใหม่สุด ๆ สำหรับคนอ่านคนนี้ สิ่งที่ได้รับและสัมผัสได้จากการอ่านจึงเป็นความสด ความใหม่ ของมุกของแก๊ก... อะไรก็ตามที่ปรากฏในเรื่อง มันลื่นไหล พรายพรูเป็นธรรมชาติไปหมด...
มาถึงเล่มนี้...อย่างที่บอกตอนต้นว่า อ่านด้วยความคาดหวัง... (มันช่วยไม่ได้จริง ๆ นะคะ เจ้าความคาดหวังนี่สำหรับนิยายจากนักเขียนที่เราเคยอ่านเล่มอื่นแล้วสนุกมาก ๆ มาก่อน) มาเจอมุกประดิษฐ์ แก๊กพยายามเข้า ทำเอาความรู้สึกกร่อยลงนิด ๆ หลายจุดหลายมุมมันขาดเสน่ห์ดึงดูด ไม่เร้าใจและไม่เป็นธรรมชาติเท่าที่ควรน่ะค่ะ
แต่ก็นิด ๆ จริง ๆ นะคะ โดยรวมก็ถือว่าเป็นนิยายรักร่วมสมัยที่อ่านได้อ่านดีเล่มหนึ่ง นามปากกานี้ก็ยังคงอยู่ในลิสต์นักเขียนที่จะติดตามผลงานต่อไปค่ะ
สำหรับโรแมนติก กึ่ง ๆ คอเมดี้เล่มนี้เพิ่งอ่านจบไปใหม่หมาดเลยหยิบมาเล่าต่อ ชวนอ่านกันวันนี้ค่ะ
|
อยากอ่านเลย
แปะใจห้ค่ะ