|
ดวงใจในสายลม ผู้เขียน : กีรตี ชนา ผู้พิมพ์ : สนพ.อรุณ(พิมพ์ครั้งแรก มี.ค. ๒๕๔๒) ๕๖๐ หน้า ราคา ๒๘๕ บาท
ปกหลัง :
ชีวิตของคนเราทุกคนไม่สั้นจนเกินไป ระยะเวลาของชีวิตนั้น นานพอสำหรับคนที่รู้จักรัก รู้จักให้
แต่ชีวิตคนเรายาวนานมาก สำหรับคนที่ไม่รู้จักรักที่แท้จริง น้อยคนเหลือเกินที่จะมี'ชีวิต'เต็มเปี่ยม พร้อมที่จะตายในวันสิ้นลม
คนส่วนใหญ่ไม่เคยรู้จักค่าของชีวิต และ 'ตาย'แล้วนานเป็นปี ๆ เป็นสิบ ๆ ปี... ก่อนวันสิ้นลมเสียอีก
เรื่องย่อ (ย่อเอง)
ผไทกับนีราเป็นคู่รักที่รักกันมาเนิ่นนานนับตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย เมื่อเรียนจบ ทั้งคู่ต่างเข้าทำงานคนละที่ และมีความก้าวหน้าในงานเป็นอย่างดี ทั้งคู่วางแผนจะแต่งงานกันเมื่อสามารถสร้างหลักปักฐานได้มั่นคงแล้ว แต่ความที่มารดาของผไทไม่ค่อยพอใจนีรานัก เพราะเธอมาจากครอบครัวที่แตกแยก พ่อกับแม่แยกทางกัน ผไทจึงวางแผนไปเรียนต่อและทำงานที่อเมริกา เพื่อที่ว่า...เมื่อเขาเก็บเงินได้พอสมควรก็ให้นีราตามไป และแต่งงานใช้ชีวิตคู่ด้วยกันที่นั่น
เมื่อนีรามีโอกาสได้ไปดูงานที่สหรัฐฯ ผไทตัดสินใจขอเธอแต่งงาน นีราตอบตกลง แต่โชคร้าย...ผไทประสบอุบัติเหตุ ถูกรถชนจนเสียชีวิต
นีรารู้สึกเคว้งคว้างทันใด แต่ยังดีที่มีครอบครัวของน้านงนุช น้าของผไทที่ทำงานเป็นพยาบาลอยู่ที่นั่นคอยปลอบโยนและให้กำลังใจ
ในวันที่ผไทเสียชีวิต น้านงก็ได้เป็นผู้ช่วยหมอผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจให้กับพระพาย ชายหนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกัน เมื่อประมวลช่วงเวลาดูแล้วทำให้เธอรู้ว่า ผู้ที่บริจาคหัวใจให้กับพระพายก็คือหลานชายของเธอนั่นเอง ทำให้เธอรู้สึกเอื้อเอ็นดูและผูกพันกับพระพายเป็นพิเศษ
แต่ถึงแม้พระพายจะพร่ำถามถึงคนที่บริจาคหัวใจให้เขา เพราะเขาอยากตอบแทนให้กับญาติพี่น้องของคนคนนั้น น้านงนุชก็ไม่ยอมบอก...
พระพายไม่มีญาติพี่น้อง เนื่องจากพ่อกับแม่เสียชีวิตไปหมดแล้ว เมื่อน้านงนุชมาดูแลเขา เขาจึงรู้สึกผูกพัน และพลอยสนิทสนมกับลูก ๆ ของน้านงนุชไปด้วย และเลยได้รู้จักนีรา ซึ่งเขาเคยพบแล้วครั้งหนึ่งก่อนผ่าตัด แต่ตอนนั้นเธออยู่กับผไท จึงแทบจะมองไม่เห็นเขา
พระพายนั้นประทับใจในตัวนีราตั้งแต่แรกพบ เมื่อรู้ว่าคู่รักของเธอเสียชีวิต เขายิ่งรู้สึกเห็นใจและอยากปลอบประโลม แต่เขาก็เกรงว่าเธอจะคิดว่าเขาฉวยโอกาส...
อนึ่ง...เขารู้ตัวดีว่าถึงแม้เขาจะได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจแล้ว แต่เขายังมีความเสี่ยงที่ร่างกายของเขาอาจจะปฏิเสธเนื้อเยื่อหัวใจดวงใหม่ และอาจจะต้องเสียชีวิตลงเมื่อไหร่ก็ได้ เช่นนั้นแล้ว ถ้าหากนีราผูกพันกับเขา... เธอมิต้องพบกับการพลัดพรากสูญเสียซ้ำอีกครั้งหรืออย่างไร...
หลังอ่าน...
นิยายรัก โรแมนติก ที่อาจจะนับเนื่องให้เป็นไพรัชนิยายเรื่องหนึ่งก็ว่าได้... ด้วยเรื่องราวเกือบจะกว่าครึ่งค่อนเรื่องดำเนินอยู่ในต่างประเทศ มีบทบรรยายถึงฉากอันงดงาม และเกร็ดสาระทางสังคมและวัฒนธรรมสอดแทรกอยู่อย่างน่าสนใจ
ถึงแม้เนื้อหาเรื่องราวในนิยายจะแสนเศร้า อ่านแล้วน้ำตาไหลพราก ๆ สงสารนางเอกเป็นที่สุด... แต่ในความเศร้า ผู้เขียนได้สอดแทรกคติธรรมว่าด้วยสัจจะแห่งชีวิตไว้อย่างกลมกลืนลึกซึ้ง ด้วยสำนวนภาษาที่นุมนวล ละเมียดละไม ให้ความรู้สึกอบอุ่น อ่อนโยนเกิดขึ้นในจิตใจอย่างดึ่มด่ำ
พร้อมกันก็ได้เรียนรู้ที่จะเผชิญกับความทุกข์ ความเจ็บปวด อันเกิดจากความพลัดพรากสูญเสียอย่างเข้มแข็งและอดทน โดยอาศัยความทรงจำที่งดงามที่เคยมีร่วมกันเป็นเครื่องค้ำจุนจิตใจ ไม่ให้ตกจมอยู่กับความทุกข์นั้นเนิ่นนานนัก...
ในเรื่องของฉากรัก แม้จะมีอยู่น้อยมาก แต่ผู้อ่านจะสามารถสัมผัสได้ ถึงความรักอันอ่อนหวาน มากมาย มันคงแน่นหนาที่พระเอกมีให้ต่อนางเอก หรือแม้แต่พระเอกคนที่สองที่เราอาจจะรู้สึกว่าเร็วไปไหม... เพราะผไทเพิ่งเสียชีวิตไปไม่นานเลย พระพายก็ก้าวเข้ามาในชีวิตของนีราอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางเสียงเชียร์ของใครต่อใคร... แต่เราก็จะรับรู้ได้ถึงความจริงจัง ความสมเหตุสมผล(รวมถึงความจำเป็น)ของความรักครั้งนี้ จนพลอยร่วมลุ้นและเอาใจช่วยไปด้วย
นอกเหนือจากเรื่องราวความรักอันงดงามของคู่พระ-นางแล้ว ในเรื่องยังมีเรื่องราวความรักข้ามวัฒนธรรมที่เกิดจากความคาดหวัง...ระหว่างโรสกับรอย ความรักข้ามรุ่นที่วูบไหว...ระหว่างโรสกับปาลี ความรักวัยรุ่นแบบปั๊ปปี้เลิฟ...ระหว่างวินนี่กับหลิน
หรือกระทั่งความรักฉันพี่น้อง และความรักในครอบครัว
ในทุก ๆ ความรักจะมีแง่มุมที่งดงามและขมขื่นแฝงอยู่ ให้เราได้ร่วมเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กันกับตัวละคร
"...เพราะไม่ว่าจุดจบของความรักจะลงเอยในรูปแบบใด เมื่อเราได้รักใครจากหัวใจอย่างแท้จริง ความรักก็จะยังคงอยู่ในหัวใจของเราตลอดไป หลายคนคงมีกำลังใจ กล้าหาญมากขึ้นกับความรัก การพลัดพราก จะบาดเจ็บอย่างไร คงต้องขึ้นกับผู้ที่เคยสัมผัสมาแล้ว.. "
คนเขียนสร้างพล็อต และตัวละครได้อย่างเยี่ยมยอดจริง ๆ ชอบมาก ๆ
...........
จริง ๆ แล้วนิยายเล่มนี้วางอยู่บนชั้นมานานนับสิบปี แต่เมื่อก่อน อาจจะยังเยาว์อยู่...จึงเพียงหยิบมาอ่านช่วงต้น ๆ แล้วข้ามไปอ่านตอนจบ...แล้วก็วางคืนบนชั้น ด้วยกริ่งเกรงความรันทดสลดใจ
จนวันเวลาผ่านเลยล่วงมาจนบัดนี้ ชีวิตได้เดินทางผ่านการพบพานและการจากพรากมาบ่อยครั้งเข้า รู้สึกเหมือนมีภูมิคุ้มกันในระดับหนึ่ง ประกอบกับได้เห็นจากหน้าเพของสนพ.อรุณว่าได้มีการพิมพ์ครั้งใหม่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งนั่นก็น่าจะแปลว่า...หนังสือเค้าต้องดีจริงสิถึงมีการพิมพ์ซ้ำ จึงหยิบเล่มเก่าของตัวเองลงมาจากชั้น... แล้วก็ได้แต่ฉงนใจว่า ตัวเองมองเมินนิยายดีงามแบบนี้ได้ยังไง แต่ในที่สุดก็ได้อ่านแล้วล่ะ ชอบมากด้วย...จึงหยิบมาบอกต่อ ชวนอ่านกันวันนี้ค่ะ
ภาพปกฉบับพิมพ์ใหม่ค่ะ...
|