~ สิเน่หารอยคำ :ร้อยคำสาปฝังแค้นแทนรอยคำ...โดย 'อาพัชรินทร์' ~
|
สิเน่หารอยคำ ผู้เขียน : อาพัชรินทร์ ผู้พิมพ์ : Sofa Publishing(ส.ค. 57) 223 หน้า ราคา 185 บาท
เรื่องย่อ ๆ จากปกหลัง...
'วงศ์ตะวัน' นักธุรกิจหนุ่มหน้าใหม่แห่งวงการโรงแรมและการท่องเที่ยว ได้เข้ามากว้านซื้อที่ดินและบ้านเรือนเก่าๆ แบบล้านนาในเชียงใหม่ เพื่อสร้างโรงแรมแบบล้านนาประยุกต์ในหมู่บ้านวัวลายแหล่งหัตถกรรมเครื่องเงินชื่อดัง เมื่อรู้ว่า เรือนปั้นหยา เป็นบ้านของสล่าสาละวิน ช่างทำเครื่องเงินในอดีต ชายหนุ่มก็ตัดสินใจซื้อมาไว้ในครอบครองทันที และเพียงวันแรกที่เข้าไปสำรวจนั้น... เขาก็เจอ วิญญาณสาวชาวล้านนา ต่อมายังพบ สลุง หรือขันเงินมากมายในนั้นอีก น่าประหลาดเมื่อพบว่ารูปรอยสลักในสลุงที่ได้เห็นเป็นเรื่องเล่าของใครบางคนในอดีต ทันทีที่ได้จับมัน วงศ์ตะวัน ก็ได้เห็นภาพนิมิตของเรื่องราว.. . เรื่องราวที่ดุจดั่งตัวเองมีตัวตนอยู่ในภาพนั้น คล้ายภาพฝันทว่ามันก็เหมือนจริงเหลือเกิน ด้วยความสงสัย ชายหนุ่มจึงเชิญ'นีรา'ผู้เชี่ยวชาญเรื่องลายสลุงมาตรวจสอบ ทว่าเธอกลับเป็นคนหนึ่งในภาพวาดเหล่านั้นและยังเห็นนิมิตเช่นเดียวกับเขา! ทั้งคู่เริ่มคิดตรงกันว่าภาพสลักในสลุงนั้นเป็นเหมือนเรื่องเล่าและคำสาป เพื่อหาคำตอบและหนทางแก้ไข พวกเขาจึงต้องเอาสลุงออกมาดูให้หมด
แต่วงศ์ตะวันและนีราจะหลีกหนีคำสาปพวกนั้นได้อย่างไร... เมื่อภาพสุดท้ายกลับเป็น ความตายของเขาและเธอ!
หลังอ่าน... เรื่องย่อจากปกหลังละเอียดมากกกก...จนแทบจะไม่ต้องเล่าอะไรเพิ่มเติมอีกแล้ว แต่เล่านิดก็น่าจะดีเนอะ
นิยายเรื่องนี้เป็นหนึ่งในนิยายชุด'เบญจมรณา' อันเป็นเรื่องราวของความตาย ที่ใคร ๆ ก็ไม่ปรารถนา...หากก็ยากจะหลีกพ้น...
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อวงศ์ตะวันได้ค้นพบห้องลับในเรือนปั้นหยา ที่เขาซื้อมาพร้อมกับที่ดินเพื่อปรับปรุงเป็นโรงแรม เมื่อเขาเข้าไปในนั้น เขาก็พบกับสลุงเก่าโบราณจำนวนมาก และเมื่อเขาสัมผัสสลุงใบหนึ่ง... มันก็พาเขาย้อนอดีตไปได้รับรู้ถึงเรื่องราวชีวิตอันเต็มไปด้วยความโศกเศร้าโหยหา ความรัก ความแค้นของ"สล่า"ผู้ทำหน้าที่สลักเสลาลวดลายลงบนสลุงเหล่านั้น ...สล่าสาละวินที่เขาเคยเข้าใจมาตลอดว่าเป็นผู้ชาย แต่จากภาพนิมิตที่เขาได้มองเห็นผ่านการสัมผัสสลุงนั้น สล่าคนนั้นกลับเป็นหญิงสาวผู้หนึ่ง ซึ่งจดจารเรื่องราวชีวิตอันรันทดของเธอ ผ่านลวดลายที่บุดุนลงบนสลุงเงินเหล่านั้น นับตั้งแต่ยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อย ๆ ติดตามมารดาหลีกหนีภัยสงคราม และความแร้นแค้นจากเมืองพม่ามายังล้านนา ทว่าต้องสูญเสียมารดาในระหว่างทาง ด้วยน้ำมือของคนที่เธอวาดหวังไว้ใจ ความแค้นแน่นสุมในใจไร้ทางออกจนเบื้อใบ้... เดชะบุญที่ชะตาชีวิตเธอยังไม่เลวร้ายจนเกินไปนัก เธอได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชูจากมือเดียวกันกับที่ปลิดชีวิตแม่ของเธอนั่นเอง ด้วยการฝากฝังให้เธอได้รับการฝึกฝนฝีมือในการต้องลายสลุงจนกลายเป็นสล่าเลื่องชื่อ...
สำหรับผู้อุปถัมภ์เธอนั้น เบื้องต้นเป็นเพียงความรู้สึกผิดและต้องการจะชดเชย ทว่าหากนานไป เมื่อเด็กหญิงเติบใหญ่ ความรู้สึกของเขาก็แปรเปลี่ยน กลับกลายเป็นความต้องการปกป้องดูแลชิดใกล้ไปจนตลอดชีวิต แต่เขาเป็นขัตติยะ มีสายเลือดแห่งเจ้าอยู่ในตัวทั้งยังมีคู่หมั้นคู่หมายที่มารดาเตรียมไว้ให้ ไหนเลยจะสามารถครองคู่อยู่กินกับเด็กสาวที่มีฐานะต่ำต้อยน้อยค่าเช่นเธอได้
................
วงศ์ตะวันได้ติดตามภาพชีวิตเหล่านั้นจนจมดิ่งเข้าไปพัวพัน ความรู้สึกกลมกลืนประหนึ่งเป็นเรื่องราวของตัวเองกระนั้น
ที่สำคัญ...เขาสัมผัสได้ถึงร่องรอยของคำสาปที่เป็นประหนึ่งบ่วง อันร้อยรัดให้ดวงวิญญาณสล่าสาวยังคงติดตรึงอยู่ในชาติภพนี้ รอคอยแต่เขาเท่านั้นที่จะเป็นผู้ปลดปล่อย
ชอบค่ะ ชอบค่อนข้างมากด้วย เรื่องราวมีกลิ่นอายของความเป็นล้านนาเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นตำนานความเป็นมาของลวดลายที่สลักไว้บนภาชนะที่มีความหมาย ในวิถีชีวิตของชนชาวล้านนาที่เรียกว่า "สลุง" หรือเรื่องเล่าเหนือธรรมชาติอันแฝงไว้ด้วยคติชีวิต ความคิดความเชื่อ วัฒนธรรมประเพณี ที่ผู้เขียนได้บรรจงถ่ายทอดด้วยสำนวนภาษาอันสละสลวยเปี่ยมเสน่ห์ อ่านลื่นไหล แถมชวนหลอนอีกต่างหาก
โดยเฉพาะเมื่อได้อ่าน ที่มาที่ไปของพล็อต ตลอดถึงแนวคิดในการผูกเรื่องผูกราวของคนเขียนจากหน้าคำนำ ยิ่งรู้สึกชอบและอ่านได้อินยิ่งขึ้นค่ะ ขออนุญาตคัดมาประกอบรีวิวสั้น ๆ ค่ะ...
"งานศิลปะที่เกิดขึ้นนั้นไม่ว่าจะดีหรือเลวก็ผ่านมือสล่าที่ตอกสลักลายลงไป ...สล่านั้นก็คือตัวเราเอง เราคือคนที่ตอกสลักรูปรอยของความรู้สึกต่าง ๆ ลงไปในเนื้อใจเราเองถ้าเราพิจารณาแต่เรื่องที่ดีที่เป็นสุขไว้สลักลงในแผ่นใจ รูปรอยของหัวใจเราก็คงงดงาม แต่หากเรเอาแต่ตอกฝังเรื่องเลวร้าย ความทุกข์เศร้าเข้าไว้ในแผ่นใจ หัวใจของเราก็คงปรากฏแต่รอยโศก..." อาพัชรินทร์ #สิเน่หารอยคำ
|
Create Date : 02 มีนาคม 2560 | | |
Last Update : 2 มีนาคม 2560 11:56:31 น. |
Counter : 6259 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
~ วังวนวารี โดย "ภาวิน" ~
|
วังวนวารี ผู้เขียน :ภาวิน ผู้พิมพ์ : คำต่อคำ (ตุลาคม ๒๕๕๗) ๔๙๘ หน้า ราคา ๓๔๐ บาท
โปรยปก :
จะโอบกอดเธอไว้ และหายใจไปด้วยกัน ............. จู่ๆ ชีวิตของน้ำหนึ่ง ก็มีอันต้องพลิกผัน เมื่อโชคชะตานำพาไปพบสิ่งพิเศษ... ที่ไม่ต้องการแม้แต่น้อย ก็ใครเล่าจะอยากเป็น คนเห็นผี แถมเมื่อทำใจกล้า แอบจูบปาก วาริ เพื่อนรัก ที่นอนเป็นเจ้าชายนิทรา... เขาดันฟื้นขึ้นมาอย่างปาฏิหาริย์ !
การตื่นจากความตายครั้งนี้ วาริเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน จากผู้ชายนุ่มนวล อบอุ่น อ่อนโยน กลายเป็นคนที่ห่ามห้าว พูดจายอกย้อนยียวนให้เธออารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ วันละหลายหน ยิ่งเธอพยายามตีตัวออกห่าง เขาก็ยิ่งพาตัวมาพัวพันชิดใกล้ ทั้งที่มีคู่หมั้นอยู่แล้ว
บางครั้งเวลาที่วาริเผลอตัว คนเห็นผีเช่นเธอก็พบว่า มีเงาประหลาดซ้อนทับอยู่ในร่างของเขา ขณะเดียวกันเธอกลับได้ยินเสียงกระซิบแผ่วพลิ้ว ดังมาจากที่ไกลแสนไกล เรียกร้องขอความช่วยเหลือจากเธอบ่อยครั้ง เมื่อตั้งใจฟังให้ดี เสียงนั้นช่างคล้ายกับเสียงของวาริเหลือเกิน!
แล้ววาริคนที่มาทำก้อร่อก้อติกและถึงเนื้อถึงตัวกับเธอล่ะเป็นใคร! น้ำหนึ่งคงต้องใช้อำนาจพิเศษที่ได้มาให้เป็นประโยชน์เสียแล้ว
เรื่องนี้เป็นเล่มที่ ๓ ในชุดนี้ ที่ได้อ่าน (แต่เป็นเรื่องลำดับที่ ๕ ในชุด) เรื่องที่ห้าก็ต้องว่าด้วยศีลข้อที่ ๕ สุราเมระยะมัชชะปะมา ทัฎฐานา เวระมะณี...งดเว้นการดื่มน้ำเมา ธีมแฝงของเรื่องนี้จึงเกี่ยวกับพิษภัยและผลพวงแห่งน้ำเมานั่นเอง
นางเอก เพชรหรือน้ำหนึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกชมรมเรื่องลี้ลับที่ได้เข้าไปในบ้านปรารถนา.. .เธอหลุดเข้าไปในห้องแห่งน้ำในภาวะที่งุนงง...แต่เธอก็มีความปรารถนาที่แฝงเร้นอยู่ในใจ ที่ดูเหมือนว่าบ้านปรารถนาอาจจะทำให้เธอสมปรารถนาได้?
เธอแอบรักวาริ เพื่อนสนิทที่กำลังจะแต่งงาน และมารบเร้าให้เธอรับงานตกแต่งเรือนหอให้เขา... วาริเป็นทายาทคนเดียวของเจ้าของกิจการสุรายี่ห้อดัง นั่นทำให้แม่ของน้ำหนึ่งไม่ค่อยชอบหน้าเขานัก เพราะหล่อนมีแผลในใจเกี่ยวกับเครื่องดื่มมึนเมา สามีจากไปเพราะน้ำเมา ลูกสาวคนโต พี่สาวของน้ำหนึ่งก็ถูกคนเมาข่มขืนแล้วฆ่า...
วาริไม่ได้สนใจที่จะสืบทอดกิจการของพ่อเท่าไหร่ แต่ก็ขัดพ่อไม่ได้ เขากำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงที่เขาคิดว่าตัวเองรัก แต่ฝ่ายหญิงก็บอกเลิกเขาจนทำให้เขาอึ้งและงง เขาดื่มจนเมาและเกิดอุบัติเหตุ อาการเป็นตายเท่ากัน...
แต่เขาก็ฟื้นมาได้ราวปาฏิหาริย์...(ตามเรื่องย่อข้างบนเลยค่ะ) แต่ฟื้นมาคราวนี้ เขาไม่ใช่เขาอีกต่อไป...วิญญาณที่เข้ามายึดครองร่างกายของเขาในตอนนี้ กลับเป็นใครอีกคนที่บุคลิกลักษณะและจริตนิสัยแตกต่างจากวาริคนเดิมโดยแทบจะสิ้นเชิง
เช่นนี้แล้วน้ำหนึ่งจะรู้ตัวหรือไม่ว่าผู้ชายที่เธอแอบรักกำลังตกอยู่ในอันตราย อำนาจพิเศษที่เธอได้มาจากบ้านปรารถนาจะสามารถช่วอะไรเธอได้บ้าง และเธอต้องใช้อะไรแลกเปลี่ยน...?
ชอบอีกแล้ว... ในจำนวนสามเล่มที่ได้อ่าน ชอบในความเป็นนิยายของเล่มนี้มากที่สุดค่ะ อาจจะเป็นด้วยรู้สึกว่าเนื้อเรื่องมีความเป็นดราม่า มีมุมโรแมนติกที่ผสมผสานเข้ากับเรื่องราวเหนือธรรมชาติ และเรื่องของกฏแห่งกรรมได้อย่างกลมกลืน ลงตัวที่สุดกระมัง
รวมถึงลีลาการเล่าเรื่องของผู้เขียนที่วางโครงเรื่อง ผูกปมไว้อย่างซับซ้อน แล้วค่อย ๆ คลี่คลายปมที่ผูกไว้ทีละเปลาะ ๆ อย่างมีจังหวะจะโคน... ตัวละครทุกตัวสัมพันธ์โยงใยกันอย่างเหมาะเจาะ มีความเรียล จับต้องได้ สำนวนภาษาคนเขียนก็อ่านได้ลื่นไหล อ่านเพลิน ชวนลุ้นอยู่ตลอด...
โอยยย...ต้องไปตามล่าหาอีกสองเล่มที่แหว่งไปคืนกลับมาให้ได้ อ่านสามเล่มชอบทั้งสามเล่ม คาดว่าอีกสองเล่มก็คงไม่แพ้กัน...
|
Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2560 | | |
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2560 13:19:16 น. |
Counter : 1703 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
~ทองพญามาร โดย "อสิตา" ~
|
ทองพญามาร ผู้เขียน : อสิตา ผู้พิมพ์ : คำต่อคำ (ตุลาคม ๒๕๕๗) ๔๑๑ หน้า ราคา ๒๘๐ บาท
คำโปรย...
เพื่อคนที่ใช่...ต่อให้มี ๙ ชีวิตก็ไม่พอ!
ยันต์เป่าใส่หัวจรดเท้า เก้าเกราะเพชร เล็งเบ็ดเสร็จแปดทิศา...วิชาปล้น แทงไม่เข้า ฟันไม่ออก บอกคำมนตร์ เสกน้ำฝนถึงเจ็ดคาบ กราบครูบา ลางเมื่อดาวจระเข้ หันเหหก ยินเสียงนกราตรีร้องป้องประสาน แทนความลับบอกใบ้ให้สัญญาณ เชื่อมสมานห้าขุนโจร คนเดนตาย ...เชิญพญามารลงด้วยช่วยเสริมฤทธิ์ พรหมยังปิดสี่พักตร์ มิสงสาร อนาคต ปัจจุบัน ทั้งวันวาน สามสถานลืมสิ้นไม่ยินยล ทิ้งชีวิต เสี่ยงชะตา ท้าลิขิต ปล่อยถูกผิด สองด้านเหรียญชี้นำผล ทรัพย์สมบัติฤๅราคาค่าของคน คำตอบบนทางนี้ มีหนึ่งเดียว..
.................
จากเคยออกปล้นชิงสิ่งล้ำค่าในคืนอันมืดมิด แสงจันทร์กลับนำพากระต่ายขาวตัวเล็กมาสู่เงื้อมมือมหาโจรอย่างเขา พร้อมเหรียญทองปริศนาซึ่งมอบชีวิตให้ถึง ๙ ชีวิต แถมวันดีคืนดีกระต่ายที่ว่ายังกลายเป็นสาวสวย! ไม่รู้ว่าโชคร้ายหรือดีกันแน่... เมื่อเขากำลังถูกมือโจรลึกลับเช่นเธอ ช่วงชิงหัวใจดวงนี้ไป
เล่มนี้เป็นเรื่องที่ ๒ ในชุด ๕ ปรารถนานี้ ซึ่งเมื่อเทียบกับเล่มแรกที่มาแนวดาร์ก หม่นซะขนาดนั้น เล่มนี้จะดูซอฟท์ลงเยอะ มีแฝงความฮาความขำ แฝงการจิกกัดเสียดสีอย่างมีนัยยะ แต่ยังคงรักษาธีมร่วมของนิยายชุดคือเป็นพารานอร์มอลที่ว่าด้วยด้านมืดของจิตใจมนุษย์
เรื่องที่สอง ก็ต้องว่าด้วยศีลข้อที่สอง อทินนาทานา เวระมะณี งดเว้นจากการลักทรัพย์.. นักเขียนอินดี้ก็เลยจัดเต็มให้ซะเลย...พระเอกเรื่องนี้เป็นโจรค่ะ! และแน่นอนว่าเขาย่อมไม่ใช่โจรธรรมดา ไม่ใช่หัวขโมยกระจอกๆ ลักเล็กขโมยน้อยอะไรพรรค์นั้น แต่เขาเป็นถึงมหาโจร - มหาโจรมาดคุณชายอีกต่างหาก (แน่นอนแปลว่าต้องหล่อ... เอิ่ม...นอกประเด็นล่ะ หล่อไม่หล่อไม่ชัดเจน รู้แต่ว่าฮีกวนและเกรียนมาก)
หลังจากการปล้นครั้งล่าสุดประสบความล้มเหลว แถมเพื่อนร่วมแก๊งก็มาถูกจับได้เสียอีก นพคุณก็ให้รู้สึกสิ้นหวัง เขาจึงรับคำชักชวนของเพื่อน ๆ ไปเที่ยวยังสวนสนุกเปิดใหม่เพื่อผ่อนคลายอะไร ๆ ที่มันหนักอึ้งอยู่ในใจ เมื่อพวกเขาก้าวเข้าไปในบ้านปรารถนา นพคุณก็ถูกดึงดูดให้เข้าไปในห้องแห่งทอง ที่นั่น เขาได้เหรียญทองมา ๑ เหรียญ มันเหมือนจะเป็นเหรียญธรรมดา ๆ แต่ทว่าสิ่งที่ตามติดมากับเหรียญนั้นไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน...มันคือโอกาสแห่งชีวิตถึง ๙ ชีวิต!!! และที่ยิ่งพิเศษสุด ๆ เมื่อเหรียญนั้นได้รับพลังที่มากพอจากแสงจันทร์ ก็จะมีกระต่ายตัวนุ่มปรากฏตัวเด้งดึ๋งออกมา... หนุ่มเก้าเป็นโจรหนุ่มในรูปแบบโบราณ ที่คลุกคลีอยู่กับเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติมาแล้วพอสมควร ทั้งตัวเขาเองก็สามารถฝึกฝนพลังจิตจนสามารถใช้อำนาจจิตนั้น ๆ ในระดับหนึ่ง การที่มีเหรียญวิเศษ สำแดงอำนาจต่าง ๆ นานาแก่เขานั้นมันไม่ได้เหนือความคาดหมายเท่าใดนัก แต่การที่จู่ๆ เจ้ากระต่ายตัวน้อยที่มากับเหรียญสามารถแปลงร่างเป็นหญิงสาวแสนสวยนี่สิ ทำให้ข้องใจไม่น้อย...
ข้อสำคัญ...นัวเนียๆ อยู่ด้วยกัน ปกป้องกันไปมา แน่นอนต้องผูกพัน แม้มหาโจรอย่างเขาจะเคยคิดว่า ชีวิตนี้จะไม่รับใครเข้ามาในใจ... แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อยายตัวนุ่มออกจะน่ารักซะขนาดนี้ ต่อให้การปรากฏตัวของเจ้าหล่อนจะมีที่มาที่ไปแฝงเลศนัยก็เถอะ...
ชอบค่ะ ที่เล่า ๆ ไปข้างบนนั่นเป็นแค่เสี้ยวส่วนกระผีกหนึ่งของเรื่องราวทั้งหมดเท่านั้น นักอ่านที่ติดตามผลงานนักเขียนมาตลอดย่อมรู้ดีว่า... ธรรมดาๆ อสิตาไม่...ต้องใหญ่ต้องเยอะอสิตาจัดเต็ม เรื่องนี้ก็เช่นกัน...เริ่มที่พล็อตสุดเจ๋ง ดำเนินเรื่องได้อย่างน่าลุ้นน่าติดตาม (ฉากเปิดเรื่องอลังการงานสร้างมาก เจ๋งอะ คิดได้ไง...) การสร้างสรรค์ตัวละครที่น่าทึ่ง มีที่มาที่ไปไม่ธรรมดา แต่คนเขียนบอกเล่าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ดูสมเหตุสมผล ทุกตัวมีเบื้องลึกเบื้องหลัง มีเหตุผลรองรับในการกระทำของตัวเอง ไม่ต้องดูอื่นไกลแค่คู่พระ-นางของเขาก็สุดจี๊ดแล้ว พระเอกเป็นโจร นางเอกเป็นวิญญาณสาวที่มาในร่างกระต่าย... คิดให้ตายก็คิดไม่ออกว่าพวกเขาจะลงเอยกันยังไง...
แต่คนเขียนนางสามารถค่ะ...ชอบซีนที่นายเก้าแกล้งเจ้ากระต่ายน้อยแบบจุ๊กจิ๊กกุ๊กกิ๊กมาก (ข้อสำคัญ...นางเขียนถึงบุคลิกลักษณะ จริตจก้าน และธรรมชาติวิสัยของเจ้ากระต่ายได้สมจริงสมจัง น่ารักน่าหมั่นเขี้ยวมาก อ่านแล้วต้องแอบอมยิ้ม พร้อม ๆ กับแอบสงสัยในตัวผู้เขียน.... ชาติที่แล้วนางต้องไม่ใช่คนแน่ ๆ ;) )
ด้วยสำนวนภาษาที่เต็มไปด้วยคารมคมคาย แฝงนัยเสียดเย้ยจิกกัดให้แสบๆคันๆ เจือด้วยอารมณ์ขันอันย้อนแย้ง... ดูแต่บทกลอนเปิดเรื่องที่โปรยปกหลังนั่นเถอะ... แม้จะมีฉันทลักษณ์ผิดเพี้ยนไปนิดๆหน่อยๆ แต่คำและความหมายมันสุดยอดอะ
ถือว่าเป็นพารานอร์มอลที่จะว่าไปก็ไม่ได้เกินคาดสำหรับนักเขียนนามนี้ แต่ต้องชื่นชมในการสร้างพล็อตที่แตกต่าง เล่าเรื่องเหนือธรรมชาติได้อย่างเป็นธรรมชาติ คนอ่านเชื่อและอินตามอีกต่างหาก แต่ถึงกระนั้น หากจะเทียบกับงานก่อน ๆ ของผู้เขียนเท่าที่เคยอ่าน ส่วนตัวอาจจะชอบเรื่องนี้ในระดับที่...น้อยกว่าแฟนตาซีจัด ๆ อย่างชุดมายาไฟฯหรือเงารักสีน้ำเงิน...จึ๋งหนึ่ง (อาจจะเป็นเพราะรู้สึกว่าเรื่องราวมันเหมือนจะสั้นไปนิดนึง ตอนท้ายๆ เหมือนจะรวบรัดตัดจบไวไปหน่อย...) แต่ก็ชอบและชวนอ่านแหละค่ะ
ปอลอ. เล่มนี้ก็เจอคำผิดประปรายค่ะ เท่าที่ดูเป็นความผิดพลาดในการพิสูจน์อักษรมากกว่าจะเป็นความเข้าใจผิดแบบเล่มข้างบน เช่นคำว่า...
หยอกเย้า พิมพ์เป็น หยอกเหย้า(หน้า ๑๙๐) แป้นแล้น เป็น แป้นแร้น(หน้า ๑๙๑) เพ้อเจ้อ เป็น เพ้อเจอ(หน้า ๑๙๒) เสียงเครือ เป็น เสียงครือ (หน้า ๑๙๔) ตัดสินใจ เป็นติดสินใจ (หน้า ๒๖๙) ...เป็นต้น
|
Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2560 | | |
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2560 14:52:50 น. |
Counter : 1435 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|