ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

9 วิธีเป็นเพื่อนอันดับ 1 ในใจเพื่อน

อยากเป็นเพื่อนซี้ปึ้กแบบนี้ตลอดไป...
นี่เลยวิธีที่จะทำให้คุณเป็นเบอร์หนึ่งไม่เป็นสองรองใครในใจเพื่อน


1...อย่าลืมวันเกิดเพื่อนซี้เด็ดขาด(ถ้าไม่ซี้ลืมได้)
ทำอย่างไรก็ได้เพื่อกันลืม เช่น วงกลมวันเกิดเพื่อนในปฏิทินเขียนติดไว้หน้ากระจก หรือใช้วิธีไฮเทคด้วยการบันทึกไว้ในมือถือ เมื่อถึงวันเกิดเพื่อน เจ้ามือถือก็จะส่งเสียงเตือนให้คุณรู้เอง

2...ซื่อสัตย์ต่อมิตรภาพ
อย่างทิ้งเพื่อนสุดซี้ของคุณให้เดียวดาย แม้ว่าคุณอยากมีเพื่อนใหม่ที่เลิศเลอแค่ไหน เพราะคุณจะรู้ได้อย่างไรว่า เพื่อนใหม่จะนิสัยดีเหมือนเพื่อนซี้หน้าเดิม หากอยากมีเพื่อนใหม่หรืออยากเข้ากลุ่มใหม่ ก็ดึงเพื่อนของคุณไปด้วยสิ

3...อย่านินทาเพื่อน ทั้งต่อหน้าและลับหลัง
เพราะการกระทำแบบนี้ไม่เจ๋งสักนิด และคุณเองนั่นแหละที่อาจโดนขับออกจากกลุ่ม

4...หากเพื่อนกำลังเศร้าพยายามทำให้เธอยิ้มได้
เช่น ปลอบใจ หรือจะกอดก็ไม่ว่าเพราะการสัมผัสทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดีขึ้นได้ ถ้ายังไม่ได้ผล คิดดูซิว่ากิจกรรมที่เพื่อนคุณชอบคืออะไร แล้วชวนไปทำด้วยกัน

5...คงไม่มีใครชอบทะเลาะกับเพื่อน แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ คุณเองควรเป็นฝ่ายยุติเรื่องราว
ให้เหตุผลที่ดีกับเพื่อนว่า คุณต้องการอะไรและถามด้วยว่าเพื่อน ไม่เข้าใจคุณตรงจุดไหนจะได้หาวิธีประนีประนอม

6...คุณต้องพร้อมให้การแนะนำอย่างตรงไปตรงมา แต่ใช้คำพูดที่ไม่หักหาญน้ำใจ
หากเพื่อนคุณใส่เสื้อเขียวตัวพอง กางเกนขาบานสีแดง ซึ่งดูเหมือนเพิ่งหลุดออกมาจากเล้าไก่ คุณคงไม่บอกเธอไปตรงๆแบบนั้น อาจบอกเธอว่าเธอใส่เสื้อยืด กางเกนขายีนดูดีกว่าเยอะเลย

7...เชื่อใจเพื่อนซี้แสนดีของคุณเถอะ
ถ้าคุณไว้ใจเธอถึงขั้นบอกความลับของคุณกับเธอแล้ว แน่ใจได้ว่าเธอจะเชื่อใจและพูดกับคุณได้ทุกเรื่องเช่นกัน

8... ถ้าเพื่อนคิดว่ากำลังเล่าเรื่องตลกที่สุดให้คุณฟัง แต่คุณไม่ขำ ขอให้หัวเราะกับมุขฝืดๆ นั้นหน่อย
เพราะอย่างน้อยเพื่อนคุณก็ได้พยายามแล้ว

9...เรื่องบางเรื่องที่เพื่อนเล่าให้ฟัง แล้วอยากให้คุณรู้เพียงคนเดียว อย่าไปเล่าให้คนอื่นฟังเชียวนะ เพราะเขาอาจเห็นเป็นเรื่องสนุก นำไปเล่าต่อ ทีนี้แหละ ใครต่อใครคงรู้เรื่องเพื่อนคุณกันหมด

::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::: อ่านแล้วทำได้มั่งป่าว..


//imageweberror.com/topic/188




 

Create Date : 21 พฤษภาคม 2556    
Last Update : 21 พฤษภาคม 2556 8:11:39 น.
Counter : 1298 Pageviews.  

5 เรื่องน่ารู้…ของจิมิ (สาวๆ ควรอ่านค่ะ)

ติดเรทนิดหน่อยนะจ๊ะ

1. เรื่องน่ารู้…ของจิมิ
ไม่ว่าคุณจะเรียกส่วนนั้นของคุณว่าอย่างไร…ส่วนสงวนจุดซ่อนเร้น จุดบอบบาง น้องสาว ฯลฯ แต่ชื่อที่ยอดฮิตติดตลาดคงจะหนีไม่พ้น "จิ๋ม" หรือที่ฮอตฮิตตอนนี้ก็คงเรียก "จิมิ" ไปแล้ว.. เรื่องราวของจิมิที่น่ารู้มีมากมาย และเป็นเรื่องราวที่ผู้หญิงทั้งหลายควรจะรู้เสียด้วย เพื่อการมีสุขภาพอนามัยที่ดีของอวัยวะเพศอันจะนำมาซึ่งการมีสุขภาพที่ดีโดยรวม

การเรียนรู้เรื่องราวของส่วนสำคัญที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในของผู้หญิงนั้น มีความหมายแทบทั้งสิ้น ขนบริเวณอวัยวะส่วนสงวนก็เช่นกัน ธรรมชาติสร้างขึ้นมาเพื่อที่จะกักเก็ยกลิ่นที่ไม่ต้องการให้ใครได้ดมให้ระเหยออกไปภายนอก โดยปกติแล้วในระหว่างรอบเดือนของคุณผู้หญิงนั้น จะสังเกตว่าช่วงเวลาที่ใกล้มีรอบเดือนจะมีตกขาวมากขึ้นและทำให้เกิดกลิ่นอับๆ หรือกลิ่นเปรี้ยวประหลาดๆ อยู่ กลิ่นดังกล่าวนั้นถ้าระเหยออกไปภายนอกและโชยไปในอากาศ คงจะทำให้เจ้าของไม่เป็นสุขอย่างแน่แท้ ขนบริเวณที่ปิดปากทางเข้าส่วนสงวนจะทำหน้าที่กักเก็บกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ไว้ภายใน

นอกจากนี้แล้ว ขนในบริเวณส่วนสงวนยังงอกขึ้นมาเพื่อความสวยงามด้วย ลองคิดดูว่า ถ้าบริเวณนั้นโล่ง ๆ ไปแล้ว เวลามองดูก็ไม่ได้มีอะไรเป็นจุดเด่น กล่าวกันว่าขนบริเวณดังกล่าวนั้นจัดเป็นสิ่งที่เร้าอารมณ์ของคนรักได้ไม่น้อยทีเดียว รวมทั้งการที่เขาได้สัมผัสกับขนที่นุ่มราวกับไหมนั้น ย่อมทำให้อารมณ์ของเขาบรรเจิดเพริศแพร่วไปไม่มากก็น้อย

ด้วยเหตุนี้คุณผู้หญิงทั้งหลายจึงต้องจำไว้ว่า ไม่ควรที่จะโกนขนบริเวณนั้นออกอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าเวลาจะไปคลอดหรือผ่าตัด เพราะการศึกษาวิจัยทางการแพทย์บ่งบอกว่าโกน หรือไม่โกนออกก็สามารถที่จะผ่าตัดหรือคลอดได้สะอาด และปลอดเชื้อเท่าเทียมกัน

โรงพยาบาลที่ทันสมัยและมีความรู้ทีทันยุคทันเหตุการณ์ เขาจึงเลิกโกนขนบริเวณส่วนสงวนไปนานแล้ว เหลือแต่ประเภทเชย ๆ ล้าหลังวิทยาการเท่านั้นที่ยังคงโกนกันอยู่

และก็ไม่ควรจะไปแว็กซี่ออกด้วย!!…. เพราะจะทำให้เกิดการอักเสบของรูขุมขนเป็นเรื่องเรื้อรังต่อไปอีก แต่จะเล็ม ๆ บ้างพองามคงจะไม่มีใครว่า และถ้าคุณผู้หญิงบางคนอยากจะไฮไลท์เป็นสีสันที่สวยงามบ้างก็ไม่น่าเกิดอันตรายแต่อย่างใด เพียงแต่ไม่แนะนำให้ย้อมสีถาวรเพราะสารเคมีที่จะใช้ย้อมอาจทำให้เกิดการระคายเคืองกับผิวอ่อน ๆ บริเวณนั้นได้

2. เรื่องของ…กลีบบัวคู่

ปากทางเข้าส่วนสงวนของคุณผู้หญิงนั้นมีกลีบเนื้อข้างละกลีบมาปิดอยู่เหมือนบานประตูที่จะเปิดออกให้หนุ่มเหน้าที่รักเท่านั้นผ่านความเป็นชายของเขาเข้าไปสัมผัสรักที่ลึกซึ้งภายใน หลายต่อหลายคนมีข้อสงสัยเกี่ยวกับ "กลีบบัวคู่" ดังกล่าวไม่มากก็น้อย

ช่น…มีบทพิศวาสด้วยการสุขสมกับตนเอง โดยการใช้น้ำฉีดไปที่กลีบเนื้อด้านใน นาน ๆ ไปจะทำให้สีคล้ำจนแฟนรู้ไหม?

…การให้เขาใช้ปากทำรักให้บ่อย ๆ จะทำให้กลีบเนื้อเกิดระคายเคืองและเปลี่ยนสีไปด้วยหรือไม่?

…การใช้ไวเบรเตอร์ รวมทั้งการร่วมรักบ่อย ๆ เป็นประจำจะทำให้กลีบเนื้อยืดยาวออกไปจนไม่สวยไหม??

คงจะต้องอรรถาธิบายว่า บริเวณปากทางเข้าส่วนสงวนของคุณผู้หญิงนั้น จะมีกลีบเนื้อด้านละกลีบมาปิดเอาไว้ ด้านในจะมีสีชมพูและค่อนข้างจะนุ่ม ส่วนด้านนอกก็จะเป็นผิวหนังธรรมดาซึ่งทนทานต่อการเสียดสี ดังนั้นถ้าด้านในได้รับการสะเทือนหรือระคายเคืองบ่อย ๆ จากอะไรก็ได้ สิ่งที่จะเกิดตามมาก็คือ ความอ่อนนุ่มจะลดลง เริ่มแข็ง และไม่ยืดหยุ่นเพิ่มขึ้นตามลักษณะของการใช้งาน การรักษาสุขภาพให้มีสุขภาพสมบูรณ์มีฮอร์โมนเพศหญิงในระดับที่เพียงพอ จะทำให้ผิวของกลีบเนื้อดังกล่าวทางด้านในยังคงมีความอ่อนนุ่มชุ่มชื้นอยู่

และถ้ากลีบเนื้อดังกล่าวยื่นออกมาจนเกิดการเจ็บปวดเวลาร่วมรัก หรือเปลี่ยนสีคล้ำไปไม่สวยงาม การผ่าตัดตกแต่งโดยการทำศัลยกรรมเสริมเพื่อตัดเอาส่วนที่ไม่ต้องการออกไปที่เรียกว่า Labioplasty ถ้าได้ทำโดยแพทย์ที่ชำนาญแล้วก็จะกลับมาสวยงาม และมีประสิทธิภาพดีดังใจหวัง

แต่ไม่จำเป็นต้องเพิ่มความงาม โดยการไปฝังมุก ฝังเพชร หรือเจาะรูใส่ตุ้มหูอะไรพวกนั้นหรอก เพราะรังแต่จะทำให้เจ็บตัวและระคายเคืองไปเปล่าๆ สู้ใช้เท่าที่มีอยู่ให้เต็มที่ดีกว่า


3. ทำไมหนอยังเป็นสาวอยู่เลย…ลมออกเสียแล้ว

ผู้หญิงหลายต่อหลายคนเสียความมั่นใจไปมากเลย เพราะเพิ่งจะได้ลองรสพิศวาสเป็นครั้งแรก ๆในชีวิตกับผู้ชายในฝันคนนั้น กลับปรากฏว่าหลังจากเสร็จสมอารมณ์หมายแล้วปรากฏว่าจิมิของเธอดัน…เรอออกมา

บางคนบอกว่า…ของหนูผายลบมออกมาทำอย่างไรดีคะ อับอายขายหน้าแฟนจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน หนูเพิ่งมีคนนี้แหละเป็นคนแรกไม่ได้ใช้งานสมบุกสมบันสักหน่อย และก็ไม่เคยคลอดลูกมาก่อนเครื่องเครามันจะหลวมแบบนี้ได้อย่างไร

ก็คงจะต้องอธิบายว่า ไม่จำเป็นเสมอไปหรอกว่าต้องผ่านสังเวียนมามาก หรือเคยคลอดลูกมาก่อนจึงจะเกิดการเก็บกักลมไว้ภายในจุดซ่อนเร้นจน “เรอ” ออกมาหลังจากสุขสมอารมณ์หมายแล้ว

ผู้หญิงบางคนมีอารมณ์ค่อนข้างมากเวลาร่วมรัก เพราะฉะนั้นจึงหลั่งน้ำหล่อลื่นออกมามาก ทำให้ช่องทางรักลื่นมากจนผิวสัมผัสของส่วนนั้นของเธอและเขาไม่กระชับแน่น เกิดช่องว่างทำให้ลมเข้าไปขังอยู่ภายใน… โดยที่ช่องคลอดไม่จำเป็นจะต้องหลวม

ผู้หญิงบางรายกลัวเรื่องพวกนี้มากก็พยายามก็จะเกร็งส่วนสงวนของเธอเอาไว้ จะต้องทราบก่อนว่า จิมิของเรานั้นช่องทางของเธอถ้าแบ่งออกเป็นสามส่วนจากด้านนอกเข้าไป ส่วนแรกหนึ่งในสามเท่านั้นที่เวลาเกร็งแล้วจะเกิดการหดตัว พอด้านนอกหดรัดตัวด้านในสองในสามก็เกิดการคลายตัวเหมือนกระเปาะเก็บลมเข้าไว้ภายในเช่นกัน

เห็นไหมว่า ไม่จำเป็นต้องหลวมสักหน่อย จึงจะมีลมออกหลังจากร่วมรัก!!!

แต่ขอแนะนำเทคนิคง่าย ที่จะทำให้ช่องทางรักของจิมิเกิดการฟิตเต็มที่คลอดแนวรบภายใน

เริ่มจากนั่งตัวตรงบนเก้าอี้ ห้อยขาสองข้างวางบนพื้นแบบสบาย ๆ จากนั้นให้เอามือสองข้างวางประสานที่หน้าตัก ยืดตัวขึ้นเต็มที่ แขม่วท้องแล้วก็ขมิบก้นเหมือนเวลากลั้นถ่ายอุจจาระนั่นแหละ นับ 1 – 10 ช้า ๆ แล้วปล่อย ทำใหม่ซ้ำ ๆ กันให้ได้วันละ 50 ครั้ง จะทำเป็นชุด ๆ ละ 10 ครั้ง หรือจะปฏิบัติการทีเดียวก็ได้แล้วแต่สะดวก

พอทำได้จนเกิดความเคยชิน และชำนาญแล้ว ค่อยเลื่อนเป็นปฏิบัติการขั้นที่สอง จัดการนอนหงายราบ ศีรษะหนุนหมอนพอสบาย นอนชันขาทั้งสองข้างขึ้น ขาชิดกัน ต่อจากนั้นก็ยกสะโพกขึ้น แขม่วท้องและขมิบก้นตามวิธีการเช่นเดียวกับท่านั่ง….จนเกิดความชำนาญแล้วทำเป็นกิจวัตรประจำวัน

ถ้าทำได้เช่นนี้แล้ว ไม่นานเกินรอประมาณ 6 เดือนผ่านไป…จะเริ่มรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ความฝันกลายเป็นจริง 

ใครๆ เขาว่าเป็นท่าบริหารผัวหลงกันทั้งนั้น ไม่ลองก็ไม่รู้….


4. เมื่อจิมิ…คัน

อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อจิมิของเราเกิดคันขึ้นมา…แน่นอนว่าคุณภาพชีวิตของเจ้าของจิมิจะต้องเลวลงไปอย่างแน่นอน

เพราะพอคันก็อยากจะเกา พอเกาผิวก็จะถลอกเกิดการอักเสบเพิ่มความแสบขึ้นกลายเป็นทั้งแสบทั้งคัน และก็จะกลายเป็นวัฏจักรที่ว่า ยิ่งเกายิ่งมัน ยิ่งคันยิ่งเกา เกาไปเกามาเลยทั้งแสบทั้งคัน ทั้งวันไม่เป็นอันทำอะไร

บางคนฟอกสบู่วันละ 3 เวลาก็ยังคัน บางคนไม่ค่อยยอมอาบน้ำอาบท่าก็คัน

เพราะจิมินั้น เธอเป็นพวกมัชฌิมาปฏิปธา คือเดินสายกลาง สะอาดมากไปก็คัน สกปรกมากไปก็คัน ต้องสะอาดพอดี ๆ

และเธอไม่ชอบความชื้นแฉะ เธอชอบแห้ง โปร่ง โล่ง สบาย

การฟอกสบู่ยาฆ่าเชื้อโรคที่มีสารเคมีที่อาจระคายเคืองผิวอ่อน ๆ บริเวณนั้นบ่อย ๆ ก็ทำให้เกิดการคันได้

การล้างฟอกทำความสะอาดด้วยน้ำยาทำความสะอาดเฉพาะที่ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หรือสารเคมีที่ทำให้เกิดกลิ่นสังเคราะห์หลายชนิดก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองและคันได้

การโกนขนบริเวณส่วนสงวนออกก็ทำให้เกิดการคันและระคายเคืองได้ เพราะขนที่ขึ้นมาใหม่จะแข็งเวลาทิ่มแทงเนื้ออ่อน ๆ ก็จะทำให้เกิดการอักเสบ

การกินยาปฏิชีวนะบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเพื่อการรักษาสิว หรือฆ่าเชื้อที่ใดก็ตามจะไปทำอันตรายแบคทีเรียที่เป็นมิตร ซึ่งอาศัยอยู่ภายในจุดซ่อนเร้นของจิมิ ทำให้เชื้อราที่เป็นศัตรูภายนอกรุกรานจนเกิดการอักเสบและคันได้

การสวมชุดชั้นในที่เป็นผ้าสังเคราะห์ หรือการใช้ผ้าอนามัยแผ่นเล็กเพื่อการซึมซับตกขาวเป็นประจำ นาน ๆ ไปก็อาจจะแพ้ผ้าใยสังเคราะห์ดังกล่าวและเกิดการคันได้

แม้กระทั่งการโรยแป้งหลังอาบน้ำ ถ้าเป็นแป้งเก่าเก็บหรือเก็บไว้ในที่อับชื้น แป้งเหล่านั้นก็อาจจะมีเชื้อราอาศัยอยู่ เมื่อนำมาโรยจิมิก็เท่ากับโรยเชื้อราบงไปทำให้เกิดการคันขึ้นมาอีก

ธรรมชาติของประเทศในเขตร้อนชื้นเช่นประเทศไทยนั้น จิมิต้องการความแห้ง โล่ง โปร่ง สบาย เพราะฉะนั้นจำไว้เลยว่า ….ถ้านุ่งชุดชั้นในที่ทำจากผ้าฝ้ายได้ ก็ไม่ควรจะนุ่งชุดชั้นในจากผ้าใยสังเคราะห์ และถ้านุ่งชุดชั้นในแล้วก็ควรจะเป็นชนิดที่ไม่รัดแน่นบริเวณโคนขา เพราะจะทำให้อับลมอากาศถ่ายเทไม่สะดวก นี่ถ้าแนะนำได้อยากจะแนะนำให้นุ่งกางเกงในบ๊อกเซอร์แบบที่ผู้ชายนุ่งเสียเลย ไม่เชื่อลองหากางเกงในประเภทบ๊อกเซอร์ตัวเล็กๆ บาง ๆ มานุ่งดูเห็นแล้วเซ็กซี่ไม่น้อยทีเดียวแถมอากาศยังถ่ายเทได้สะดวกอีกด้วย

…ถ้ารับประทานยาปฏิชีวนะมาเป็นเวลานาน ๆ ควรจะไปปรึกษาแพทย์ เมื่อเกิดอาการคันหรือตกขาวผิดปกติ อย่านิ่งนอนใจปล่อยทิ้งเอาไว้

…ไม่ควรยืมชุดชั้นในของคนอื่นมาสวมใส่อย่างเด็ดขาด เพราะอาจจะได้เชื้อโรคอะไรติดมาได้โดยไม่รู้ตัว

…การนุ่ง Pantyhose นั้นไม่เหมาะกับสาว ๆ ที่ไม่ได้ทำงานในห้องแอร์เพราะจะทำให้เกิดการร้อนอับชื้น เป็นต้นเหตุของการหมักหมมภายในจนเกิดการคันระคายเคืองตามมา ยิ่งบางคนนุ่งทั้ง Pantyhose และกางเกงตัวนอกที่รัดแน่น ๆ เช่น กางเกงยีนส์อีก แบบนี้ไม่นานเชื้อราก็ถามหาจนน้องจุ๋มจิ๋มคันคะเยอ

…อย่านุ่งกางเกงในนอน!!! แล้วคุณผู้หญิงก็จะไม่คันอีกต่อไป…


5. เมื่อจิมิป่วย
ในยุคที่โลกเราเต็มไปด้วยมลภาวะมากมายแบบนี้ รวมทั้งโรคภัยไข้เจ็บที่ติดต่อจากการมีความสัมพันธ์ทางเพศ ก็ย่อมมีโอกาสทำให้จิมิป่วยได้ไม่มากก็น้อย

ทีนี้จะรู้ได้อย่างไรว่าน้องหนูเริ่มป่วยแล้ว และต้องไปปรึกษาคุณหมอ ก่อนที่อาการจะหนักเยียวยา 

อาการต่อไปนี้บ่งบอกว่าจิมิของเราเริ่มจะไม่ค่อยดีแล้ว

- ตกขาวธรรมดาที่เป็นสีขาวขุ่นๆ เหมือนแป้งเปียก เริ่มมีการเปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง เขียว เทา มีเลือดปน หรือมีเลือดปนหนองออกมา

- ปัสสาวะเริ่มแสบขัด หรืออยากปัสสาวะบ่อยๆ น้ำปัสสาวะไม่ใสดังเดิมเริ่มขุ่นหรือมีตะกอนปน

เวลามีบทพิศวาสกับเขาคนนั้นก็จะเจ็บแสบ คัน และไม่สบายตัว หรือบางครั้งหลังจากร่วมรักแล้วเขาก็เกิดอาการคันบริเวณส่วนนั้นของเขาด้วย ยิ่งถ้าหลังจากร่วมรักแล้วมีเลือดออกตามมาไม่ว่าจะเป็นเลือดสด ๆ หรือออกกะปริดกะปรอยติดต่อกันหลายวัน ย่อมเป็นสัญญาณอันตรายที่จะต้องรีบไปพบแพทย์ เพราะอาจจะเป็นได้ตั้งแแผลอักเสบเรื้อรังที่ปากมดลูกจนถึงเป็นมะเร็งปากมดลูก

มีผื่นคันบริเวณด้านนอก เป็นแผล มีติ่งเนื้อประหลาดโผล่ออกมาที่ผิวหนังด้านนอกของส่วนสงวน

มีก้อนบวม เจ็บ อักเสบ เหมือนมีหนองที่ปากทางเข้าส่วนสงวนทั้งสองข้าง ซึ่งอาจเกิดการอักเสบของต่อมบาร์บาลินได้ และถ้ากลายเป็นหนองจะมีอันตรายมากขึ้น

ประจำเดือนออกมาผิดปกติ ปวดประจำเดือนมากโดยเฉพาะยิ่งถ้าประจำเดือนหมดแล้วก็ยังปวดท้องน้อยด้านล่างอยู่ บางคนอาจมีประจำเดือนออกมากะปริดกะปรอยยาวนานตลอดเดือน ก็เป็นอาการเตือนอีกอย่างว่าจะต้องพาจิมิไปเข้าโรงซ่อมสุขภาพแล้ว

เจ็บปวดรวดร้าวเวลามีสัมพันธ์สวาทกับหนุ่มคนนั้น ไม่ว่าจะเป็นตอนเริ่มต้นหรือปวดตามจังหวะการร่วมรัก โดยเฉพาะถ้าปวดไปทวารหนักด้วยแล้ว เป็นอาการที่บ่งบอกว่าน่าจะมีเยื่อพังผืดในอุ้งเชิงกราน หรือมีการอักเสบเรื้อรังในอุ้งเชิงกรานก็ได้

ไม่ว่าจะมีอาการอะไรดังกล่าวข้างต้น ควรจะพาจิมิไปให้คุณหมอตรวจได้แล้ว และถ้าจะให้ดีอย่าลืมพาจิมิของเราไปตรวจเช็กภายในและเช็กมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำทุกปี

เท่านี้ จิมิของเราก็จะสดใส ซึ่งก็ย่อมนำไปสู่ความสุขสมในทุกเรื่องราว

หวังว่าคุณผู้หญิงทั้งหลายคงจะรู้จักจิมิของคุณเพิ่มมากขึ้นแล้ว และรู้วิธีที่จะทำให้มีสุขอนามัยที่ดี เพื่อชีวีจะได้เป็นสุข

ที่มา lady inter




 

Create Date : 21 พฤษภาคม 2556    
Last Update : 21 พฤษภาคม 2556 8:11:01 น.
Counter : 1537 Pageviews.  

เพื่อนมีกี่แบบ ใครที่ควรคบ

เพื่อนสาว

"เพื่อน" เป็นส่วนสำคัญของมนุษย์ทุกคน บางคนจะเป็นจะตายก็เพราะเพื่อนนี่แหละเป็นผู้ชี้ขาด ไม่ใช่พ่อแม่พี่น้อง หรือสมาชิกในครัวเรือน เพราะธรรมชาติของมนุษย์ สามารถพูดคุยทุกเรื่องกับเพื่อนได้ แต่กับคนในครอบครัวกลับไม่กล้า แต่ใช่ว่ามีเพื่อนมากจะดีเสมอไป เพราะมีเพื่อนมาก เรื่องก็ย่อมมากตามจำนวนเพื่อน ตรงข้ามหากไม่มีเสียเลย ให้อยู่คนเดียวคงเหงาไม่ใช่เล่น

ยิ่งยุคนี้เศรษฐกิจฝืด เคือง มีเพื่อนเอาไว้บ่นเรื่องเงินๆ ทองๆ ก็ยังดีกว่าไม่มีที่ระบาย จากการรวบรวมด้วยการจำแนกเพื่อนออกตามสันดาน เอ๊ย...ลักษณะนิสัยต่างๆ จากบันทึกของคนสมถะเอง " เพื่อน" มีหลายชนิดมาก นับตั้งแต่

1. เพื่อนที่แสนจะเอาเปรียบ ไล่เรียงมาตั้งแต่เห็นแก่ตัว , เห็นแก่ได้ และเห็นแก่กิน แม้จะไม่อยากมีเพื่อนประเภทนี้เท่าไหร่ แต่ไม่รู้เป็นไง ทุกคนเป็นต้องมีเพื่อนอย่างนี้ปะปนอยู่เสมอกระนั้น อันความเห็นแก่ตัว ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร เพราะมนุษย์ทุกคน มีสัญชาตญาณของการรักษาตัวรอดเป็นยอดดีด้วยกันทั้งนั้น แต่ถ้าดีกรีของความเห็นแก่ตัวไม่แรงกล้าเท่าไหร่ จะมีคนอยากคบค้าสมาคมกับเรามากขึ้น

การมีเพื่อนแบบนี้ (ไม่รู้ว่าสมควรให้เป็นเพื่อนดีไหม) ก็เก๋ไปอย่าง เพราะช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้รู้จักความเป็นคนมากขึ้น หากมัวแต่มีเพื่อนดีๆ แต่ไม่มีเลวซะเลย เราคงมองไม่เห็น เส้นแบ่งระหว่างสองสิ่งนี้สิจ๊ะ

2. เพื่อนช่างนินทา-พูดจา ไร้สาระ แบบนี้ยิ่งหาง่ายเข้าไปใหญ่ ในสังคมต้องมีคนเหล่านี้ ไม่งั้นคงแห้งแล้งน่าดู การนินทาก็บอกอยู่ในตัวแล้วว่า สามารถพูดได้ทั้งเรื่องจริงและไม่รู้จริง คนฟังก็ควรไปเจาะหูให้เกิดน้ำหนักถ่วงดุล เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ ไว้ล่วงหน้า

3. เพื่อนปากร้าย ใจดี อย่างนี้น่าคบกว่าเพื่อนที่ปากและใจร้ายทั้งคู่

4.  เพื่อน ปากหวาน ดูดี แต่ร้ายลึก หาได้ตามองค์กรทั่วไป แต่เชื่อขนมกินได้ว่า คนแบบนี้ต้องมีอย่างอื่นดีสักประการหนึ่ง ไม่งั้นคงไม่มีใครอยากคุยด้วย

5. เพื่อน ซื่อสัตย์และจริงใจ เป็นสุดยอดปรารถนาที่ทุกคนหมายปอง

มีเพื่อนดี คือสิ่งที่โชคดีอย่างหนึ่งของชีวิตนะจ๊ะ


//imageweberror.com/topic/528082




 

Create Date : 21 พฤษภาคม 2556    
Last Update : 21 พฤษภาคม 2556 8:10:13 น.
Counter : 2476 Pageviews.  

แบบทดสอบว่า สมองของคุณ เป็นผู้ชายหรือผู้หญิงมากกว่ากัน!

แบบทดสอบนี้จะบอกรูปแบบของสมองของคุณๆท่านๆ ว่าเป็นแบบผู้หญิง หรือผู้ชายเท่านั้น ไม่มีข้อใดถูก ข้อใดผิด คำตอบที่ได้นี้จะบอกได้ว่าคุณได้รับฮอร์โมนเพศมากน้อยแค่ไหนตอนที่สมองกำลัง เริ่มเจริญช่วงสัปดาห์ที่ 6-8 ในครรภ์มารดา คำตอบของคุณจะสะท้อนถึงความชอบ ค่านิยม อุปนิสัย สไตล์ การปฏิบัติตน และทางเลือกต่างๆ รวมถึงแนวทางในการปรับตัวเข้าหาเพื่อนต่างเพศของคุณด้วย

ขอให้นำกระดาษมาจดคำตอบของคุณ ข้อไหนที่ไม่มีคำตอบที่ถูกใจคุณ หรือไม่ตรงตามที่คุณปฏิบัติ หรือต้องการเว้นว่างไว้ ให้ตอบ ง.

ตอบข้อที่ใกล้เคียงกับความเป็นคุณที่สุดนะ



1. ถ้าต้องดูแผนที่หรือแผนผังบอกถนนหนทาง คุณมักจะ
ก. ดูไม่เป็น และต้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่น
ข. พยายามพลิกแผนที่ให้ตรงกับเส้นทางที่จะไป
ค. ดูสบายๆ ไม่ยากเย็น


2. คุณกำลังทำอาหารที่ค่อนข้างปรุงยาก โดยเปิดวิทยุฟังเพลงไปด้วย จู่ๆเพื่อนก็โทรศัพท์มา คุณจะ
ก. เปิดวิทยุไว้และปรุงอาหารต่อ พร้อมๆกับคุยโทรศัพท์ไปด้วย
ข. ปิดวิทยุ แล้วคุยโทรศัพท์ พร้อมกับปรุงอาหารไปด้วย
ค. บอกเพียงว่าจะโทรกลับไปทันทีที่ปรุงอาหารเสร็จ


3. เพื่อนต้องการมาเที่ยวบ้านใหม่ของคุณ และถามถึงหนทาง คุณจะ
ก. วาดแผนที่บอกเส้นทางที่ชัดเจนให้เพื่อนดู หรือไม่ก็วานคนอื่นอธิบายให้เข้าใจ
ข. ถามเพื่อนว่ารู้จักสถานที่สำคัญๆในย่านนั้นหรือไม่ เพื่อที่จะได้อธิบายเพิ่มจากจุดนั้นมายังบ้าน
ค. อธิบายปากเปล่าเป็นฉากๆ อาทิ “ขึ้นรถเมล์สาย 26 ไปลงที่อนุสาวรีย์หลักสี่ จากนั้นก็เลี้ยวซ้ายตรงไปอีก 2 ไฟแดง ฯลฯ”


4. ถ้าต้องอธิบายความคิดอ่านบางอย่างของคุณเอง คุณมักจะ
ก. ใช้ดินสอ กระดาษ และภาษามือช่วยอธิบายด้วย
ข. อธิบายด้วยวาจา โดยให้ภาษามือด้วย
ค. อธิบายด้วยปากเปล่าได้อย่างแจ่มแจ้ง และกระชับได้ใจความ


5. เพื่อกลับจากดูภาพยนตร์ คุณมักจะชอบ
ก. นึกถึงฉากเก่าๆ ที่ชมในภาพยนตร์
ข. พูดถึงฉากต่างๆ และคำพูดของตัวละคร
ค. ทวนคำพูดของตัวละครได้ทุกประโยค


6. ขณะที่อยู่ในโรงภาพยนตร์คุณมักจะเลือกที่นั่ง
ก. ด้านทางขวาของโรง
ข. ตรงไหนก็ได้ ไม่มีปัญหา
ค. ด้านทางซ้ายของโรง


7. เครื่องยนต์กลไกบางอย่างของเพื่อนเกิดใช้การไม่ได้ขึ้นมา คุณมักจะ
ก. แสดงความเป็นอกเห็นใจและชวนคุยให้เขาระบายความรู้สึกออกมา
ข. แนะนำคนที่ไว้ใจได้สักคนช่วยซ่อมให้
ค. พยายามช่วยซ่อมด้วยตัวคุณเอง


8. คุณอยู่ในที่แปลกถิ่น จู่ๆก็มีคนมาถามว่าทิศเหนือไปทางไหน คุณจะ

ก. บอกตามตรงว่าคุณเองก็ไม่รู้
ข. พยายามนึกแล้วเดาว่าน่าจะเป็นทางไหน
ค. ชี้บอกทิศเหนือได้ทันที โดยไม่ต้องลังเลใจ


9. คุณกำลังดูทีวี จู่ๆโทรศัพท์ก็ดังขึ้น คุณจะ

ก. รับโทรศัพท์โดยเปิดทีวีเอาไว้
ข. ปิดทีวีก่อน ค่อยรับโทรศัพท์
ค. ปิดทีวี แล้วบอกคนที่อยู่ในห้องให้เงียบก่อนค่อยรับโทรศัพท์


10. คุณพบที่จอดรถแต่ค่อนข้างแคบ ต้องถอยรถหักเลี้ยวหลายครั้งจึงจะจอดได้ คุณจะ
ก. ขับเลยไปหาที่จอดอื่น
ข. พยายามถอยจอดด้วยความอดทน
ค. ถอยจอดได้อย่างคล่องแคล่ว


11. คุณเพิ่งได้เพลงใหม่ล่าสุดของศิลปินคนโปรด คุณมักจะ
ก. ร้องบางท่อนของเพลงนั้นได้อย่างคล่องแคล่ว
ข. ร้องบางท่อนของเพลงนั้นได้ ถ้าหากเป็นเพลงที่จำง่าย
ค. จำทำนองเพลงไม่ค่อยได้ แต่จำเนื้อเพลงบางประโยคได้


12. คุณมักจะเก่งเรื่องการคาดเดา หรือการทำนายทายทักโดยใช้
ก. ความหยั่งรู้
ข. ใช้ทั้งข้อมูลเท่าที่หาได้ และใช้ความหยั่งรู้
ค. ใช้ข้อมูล สถิติและข้อเท็จจริงต่างๆ


13. คุณวางกุญแจผิดที่แล้วนึกไม่ออกว่าวางไว้ตรงไหน คุณจะ
ก. ทำงานอย่างอื่นไปก่อนจนกว่าจะนึกออกเอง
ข. ทำงานอย่างอื่นไปก่อน แต่ก็พยายามนึกไปด้วยว่าวางไว้ตรงไหน
ค. ตั้งหน้าตั้งตานึกย้อนไปทีละก้าวจนกว่าจะจำได้ว่าวางไว้ตรงไหน


14. ขณะที่อยู่ในโรงแรม คุณได้ยินเสียงไซเรนดังมาแต่ไกล คุณจะ
ก. บอกได้ทันทีว่า เสียงไซเรนดังมาจากทางไหน
ข. ถ้าตั้งใจฟังดีๆ ก็อาจจะบอกได้ว่าเสียงไซเรนดังมาจากทางไหน
ค. จับไม่ได้เลยว่าดังมาจากไหน


15. คุณไปงานสังสรรค์งานหนึ่งและได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ 7-8 คน วันรุ่งขึ้นคุณจะ
ก. นึกหน้าของแต่ละคนออกอย่างง่ายดาย
ข. จำหน้าได้เพียงไม่กี่คน
ค.จำชื่อได้ แต่จำหน้าไม่ค่อยได้


16. คุณอยากจะไปเที่ยวเขาใหญ่ แต่คู่ครองคุณอยากไปหัวหิน คุณจะโน้มน้าวให้เขาหรือเธอเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ด้วยวิธีใด
ก. พูดเสียงหวาน สาธยายว่าคุณชอบเขาใหญ่ตรงไหน ถ้ามีลูกก็บอกว่าลูกๆเองก็สนุกทุกครั้งที่ได้ไปเที่ยวที่นั่น
ข. บอกว่าคุณจะซาบซึ้งมากถ้าเขาหรือเธอยอมไปเขาใหญ่ และครั้งต่อไปคุณจะยอมไปหัวหินด้วยความเต็มใจ
ค. ใช้ข้อมูลต่างๆมาอ้างอิง อาทิ เขาใหญ่ใกล้กว่า ค่าใช้จ่ายถูกกว่าและมีกิจกรรมให้ลูกๆเล่น มากกว่าหัวหิน


17. เมื่อต้องการเตรียมแผนงานของกิจกรรมในแต่ละวัน คุณจะ
ก. เขียนลงบนกระดาษเพื่อจะได้รู้ว่าควรทะไรก่อนหลัง
ข. คิดถึงสิ่งที่คุณต้องทำ
ค. นึกภาพของคนที่คุณต้องเจอ สถานที่ที่คุณต้องไปและสิ่งที่คุณต้องทำเอาไว้ในใจ


18.เพื่อนมีปัญหาส่วนตัว และนำมาเล่าให้คุณฟัง คุณจะ
ก. แสดงความเห็นอกเห็นใจและเข้าใจปัญหาของเขา
ข. บอกว่าปัญหาของเขาไม่เลวร้ายอย่างที่คิดและอธิบายด้วยว่าเพราะอะไร
ค. ให้คำแนะนำอย่างมีเหตุมีผลถึงวิธีแก้ไขปัญหา


19.เพื่อน 2 คนซึ่งมีคู่ครองแล้วทั้งคู่กำลังแอบปิ้งกัน คุณจะสังเกตเห็นเร็วแค่ไหน
ก. เห็นตั้งแต่ทั้งคู่เริ่มมีใจให้กันใหม่ๆ
ข. เห็นตอนที่ทั้งคู่ชอบกันมาได้สักพักแล้ว
ค. ไม่รู้ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงใดๆเลย


20. ชีวิตคืออะไรในความเห็นของคุณ
ก. คือการมีเพื่อนฝูง และอยู่ร่วมกับคนรอบข้างอย่างปรองดอง
ข. คือการเป็นมิตรกับผู้อื่นแต่ยังรักษาอิสรภาพส่วนตัวเอาไว้
ค. คือการได้มาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศเงินทองและความสำเร็จนานัปการ


21. ถ้ามีโอกาสเลือกได้ คุณจะเลือกทำงานที่

ก. ทำงานร่วมกันเป็นทีมกับคนที่ใช้การได้
ข. ทำงานร่วมกับผู้อื่น แต่ยังรักษาความเป็นส่วนตัวเอาไว้
ค. ทำงานคนเดียว


22.หนังสือที่คุณชอบอ่านคือ
ก. นิยาย
ข. นิตยสารและหนังสือพิมพ์
ค. หนังสือวิชาการและอัตชีวประวัติ


23.ขณะที่ช้อปปิ้งอยู่ในห้าง คุณมักจะ
ก. ซื้อของตามชอบใจ ถ้าเจออะไรถูกใจก็ซื้อเลย
ข. ซื้อตามรายการที่เตรียมเอาไว้แล้ว แต่อาจซื้อบางอย่างที่ถูกใจเพิ่มเติม
ค. อ่านฉลากและเปรียบเทียบราคาสินค้าก่อนซื้อ


24. คุณจะเข้านอน ตื่นและรับประทานอาหาร
ก. เมื่อคุณนึกอยากทำเท่านั้น
ข. ตามเวลาอันสมควร แต่ก็ยืดหยุ่นได้
ค. ตรงตามเวลาที่กำหนดไว้ทุกอย่าง


25. คุณได้งานใหม่และต้องทำร่วมกับเพื่อนใหม่หลายต่อหลายคน เพื่อนใหม่คนหนึ่งโทรมาหาคุณที่บ้าน คุณจะ
ก. จำเสียงเขาได้ทันทีอย่างง่ายดาย
ข. ต้องพูดด้วยสกพักถึงจะจำเขาได้
ค. นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกว่าเป็นเสียงใคร


26. อะไรทำให้คุณหงุดหงิดที่สุดขณะถกเถียงกับใครสักคน
ก. ความเงียบหรือไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้จากคู่กรณี
ข. ความไม่เข้าใจในประเด็กที่คุณต้องการชี้แจง
ค. การตั้งคำถามที่ท้าทายและการวิพากษ์วิจารณ์


27. ในห้องเรียน คุณรู้สึกอย่างไรกับการสอบเรียงความและเขียนคำยาก
ก. เป็นวิชาที่ง่ายมากทั้งสองวิชา
ข. คุณชอบวิชาหนึ่ง แต่ไม่ชอบอีกวิชาหนึ่ง
ค. คุณไม่ชอบเลยทั้ง 2 วิชา


28. เมื่อต้องการเต้นรำ หรือเต้นแจ๊สเพื่อออกกำลังกาย คุณมักจะ
ก. เข้าถึงท่วงทำนองเพลงทันทีที่คุณรู้จังหวะการเต้น
ข. เต้นได้บ้างในบางท่า แต่บางท่าก็เต้นไม่ถูกจังหวะ
ค. เต้นไม่ถูกจังหวะเอาเลย หรือยังเต้นเบรคแดนซ์ได้


29. คุณทำเสียงเลียนแบบเสียงร้องของสัตว์ได้ดีแค่ไหน
ก. ไม่ค่อยดี
ข. พอไหว
ค. ดีมาก


30. หลังจากเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน คุณมักจะชอบ

ก. คุยกับเพื่อนและครอบครัวถึงเรื่องราวต่างๆ ที่คุณพบพานในวันนี้
ข. ฟังคนอื่นคุยถึงเรื่องราวของพวกเขา
ค. อ่านหนังสือพิมพ์ ดูทีวี และไม่คุยกับใครเลย
ง. ทำกิจกรรมทางเ_ศกับคู่รักของคุณ





วิธีคิดคะแนน

ขั้นแรกให้นับจำนวน ก, ข, ค, และ ง ที่คุณเลือกตอบว่ามีอย่างละกี่ตัว และใช้เกณฑ์ต่อไปนี้ในการหาคะแนนรวม


สำหรับผู้ชาย
คำตอบที่เป็น ก x 15 คะแนน
คำตอบที่เป็น ข x 5 คะแนน
คำตอบที่เป็น ค x (-5) คะแนน
คำตอบที่เป็น ง x 5 คะแนน


สำหรับผู้หญิง
คำตอบที่เป็น ก x 10 คะแนน
คำตอบที่เป็น ข x 5 คะแนน
คำตอบที่เป็น ค x (-5) คะแนน
คำตอบที่เป็น ง x 5 คะแนน



มากกว่า 300 คะแนน = สมองมีความเป็นผู้หญิงสูง
คุณ ได้รับฮอร์โมนเพศหญิงในปริมาณสูงมากใน 6-8 สัปดาห์แรก คุณจึงได้ชื่อว่าเป็น “อาร์ทตัวแม่” ถ้าหากมีผู้ชายทำคะแนนได้ถึงระดับนี้ ก็มีแนวโน้มว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็นเกย์



ระหว่าง 180 - 300 คะแนน = คุณมีความเป็นผู้หญิงมากกว่า
สมอง ของคุณถูกจัดแต่งให้มีความคิดแบบผู้หญิง ยิ่งได้คะแนนสูงเท่าไหร่ยิ่งมีความคิดเป็นแบบผู้หญิงมากเท่านั้น คนกลุ่มนี้จะเป็นผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีศิลปะและมีความสามารถทางดนตรี การตัดสินใจของคนกลุ่มนี้จะใช้อารมณ์หรือสัญชาติญาณมากกว่าเหตุผล และสามารถเข้าใจปัญหาต่างๆ ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาข้อมูลมากมายนัก ที่สำคัญคือ สามารถแก้ไขปัญหาได้โดยใช้ความคิดคำนึงและความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเป็นหลัก



ระหว่าง 150 - 180 คะแนน = ช่วงคะแนนเหลื่อมล้ำ
เป็น ช่วงที่แสดงถึงความคิดอ่านอย่างเป็นกลางระหว่างคนทั้ง 2 เพศ คนที่ได้คะแนนระดับนี้จะไม่แสดงออกมาชัดเจนว่าคิดแบบผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่จะมีความยืดหยุ่นในระบบการคิดแก้ไขปัญหา เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด คนกลุ่มนี้สามารถเข้าได้ดีกับเพื่อนทั้งเพศชายและทั้งเพศหญิง



ระหว่าง 0 - 150 คะแนน = คุณมีความเป็นผู้ชายมากกว่า
สมอง ของคุณถูกจัดแต่งให้มีความคิดแบบผู้ชาย ยิ่งใกล้ 0 เท่าไหร่คุณก็ยิ่งมีความเป็นผู้ชายมากขึ้นเท่านั้น เพราะฮอร์โมนเพศ "เทสทอสเทอโรน" ค่อนข้างสูง คนกลุ่มนี้จะเป็นคนที่ใช้เหตุใช้ผล ชอบวิเคราะห์ ค่อนข้างเจ้าระเบียบ และมีวินัยเป็นเยี่ยม ยิ่งได้คะแนนต่ำเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นคนสุขุม ไม่ใช้อารมณ์ใดๆในการทำงาน ชอบวางแผนโดยใช้ข้อมูลทางสถิติล้วนๆ



ต่ำกว่า 0 คะแนน = สมองมีความเป็นผู้ชายสูง
คุณ ได้รับฮอร์โมนเพศชายในปริมาณสูงมากใน 6-8 สัปดาห์แรก สมองของคุณมีความเป็นชายสูงลิบลิ่ว! ถ้ามีผู้หญิงที่ทำคะแนนได้ในระดับนี้ ก็มีแนวโน้มว่าเธอผู้นั้นจะเป็นเลสเบี้ยน(หรือทอมบอย ในบ้านเรา) แล้วล่ะ


//imageweberror.com/topic/408389




 

Create Date : 21 พฤษภาคม 2556    
Last Update : 21 พฤษภาคม 2556 8:09:26 น.
Counter : 1626 Pageviews.  

ถึงเวลาโชว์เรียวขาด้วย..แฟชั่นขาสั้นสวยๆ

ได้เวลาที่สาวๆ จะหยิบขาสั้นมาใส่อวดเรียวขารับหน้าร้อนกันแล้วใช่มั๊ยล่ะคะ และนอกจากจะเลือกดีไซน์การออกแบบหรือเนื้อผ้าที่ตัวเองชอบแล้ว การเลือกกางเกงขาสั้นให้เข้ากับรูปร่างของคุณเอง ก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ไม่เพียงแค่สาวอวบเท่านั้นที่ต้องระวัง สาวๆ ตัวเล็กไซส์มินิถ้าเลือกแบบที่ไม่เข้ากับตัวเองก็อาจจะกลายเป็นสาวตัวผอมแห้งแรงน้อยไปได้นะคะ


ว่าแล้วก็ไปดูกันดีกว่า ว่ารูปร่างของเราเหมาะกับกางเกงขาสั้นแบบไหน

เริ่มต้นที่ สาวตัวเล็กไซส์มินิ ด้วยความเล็กกะทัดรัดของร่างกาย ทำให้หากางเกงที่เหมาะกับรูปร่างได้ง่าย แค่นำกางเกงขาสั้นเอวสูงแมทกับเสื้อตัวโคล่งๆ สักตัว ใส่ทับในอีกหน่อย ก็ช่วยอำพรางความผอมบางได้ แต่ถ้าอยากโชว์สัดส่วนเล็กน้อย ก็เลือกใส่ขาสั้นกับเสื้อพอดีตัว เพียงเท่านี้ คุณก็ดูเก๋ชิค รับลมร้อนได้อย่างสบายใจแล้วค่ะ 

ส่วนสาวๆ รูปร่างมาตรฐาน สูง ยาว เข่า ดี ถือว่าเป็นผู้หญิงที่โชคดีมาก เพราะไม่ว่าจะหยิบจับขาสั้นแบบไหนมาสวมใส่ ก็ดูสวยเก๋ไปทุกตัวทีเดียวเชียว ถ้าจะให้ดูอินเทรนด์สุดๆ ต้องใส่ขาสั้นกับเสื้อครอปพอดีเอวก็เริ่ดมากเลยค่ะ สำหรับข้อควรระวังของสาวหุ่นดี ก็คือ ไม่ควรเลือกกางเกงขาสั้นที่มีความยาวระดับเข่า ซึ่งจะทำให้ขาของคุณดูใหญ่ขึ้น ดังนั้น เลือกแบบพอดีตัวดีที่สุดค่ะ

สำหรับสาวที่มีช่วงลำตัวยาวกว่าช่วงขา กางขาสั้นเอวสูงจะเหมาะกับหุ่นแบบนี้เป็นที่สุด เพราะการเลือกใส่กางเกงเอวสูง จะช่วยให้ลำตัวของคุณดูสั้นขึ้น และเพิ่มความยาวของเรียวขาได้ ยิ่งถ้าคุณเป็นคนที่มีหน้าท้องด้วยแล้ว กางเกงเอวสูงแบบพอดีตัวจะช่วยเก็บหน้าท้องให้แบนราบขึ้นได้ด้วย

มาต่อกันที่ สาวเชพบ๊ะ(สะโพกใหญ่) ที่ไม่ค่อยกล้าใส่ขาสั้นเก็บเรียวขาเอาไว้ในกางเกงขายาว ที่จริงแล้วคุณสามารถใส่กางเกงขาสั้นได้ เพียงแค่เลือกกางเกงที่มีความยาวระดับเข่า ขนาดพอดีกับขา ไม่รัดแน่นจนเกินไป และควรหลีกเลี่ยงกางเกงที่ขาสั้นมากๆ หรือหลวมจนเกินไป เพราะจะยิ่งเน้นให้ต้นขาของคุณดูใหญ่ขึ้น แต่ถ้าหากยังไม่มั่นใจจริงๆ ให้ใส่เสื้อที่มีความยาวมาช่วยปิดสะโพกเล็กน้อยก็สวยได้แล้วค่ะ

ขอบคุณภาพประกอบจาก taobao.com



  • สนับสนุนเนื้อหา Greddy




 

Create Date : 20 พฤษภาคม 2556    
Last Update : 20 พฤษภาคม 2556 21:45:30 น.
Counter : 1568 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.