ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

สาว ๆ รู้ไว้ ผู้ชายแบบไหนไม่ควรคบเป็นแฟน

ความรัก



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

"เลือกคบคนผิดจะชวนให้มีแต่เรื่องน่าปวดหัวมาให้" สาว ๆ ว่าจริงไหมค่ะ เพราะฉะนั้น ก่อนที่ผู้หญิงอย่างเราจะต้องมานั่งเสียใจ บ่นรำพึงรำพันว่าไม่น่าตกลงปลงใจตอบรับคบเขาคนนี้เป็นแฟนจริง ๆ ก็ลองมาดูว่าผู้ชายแบบไหนบ้างควรจะถอยให้ห่าง ไม่หลวมตัวคบไปให้เสียเวลาเด็ดขาด…

1. คนที่ยังไม่รู้จะเอายังกับชีวิตตัวเองดี

          คนที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองจะยึดอาชีพอะไรดี ทั้งแผนการอนาคตยังเลือนลาง (อย่างน้อยแค่แผนระยะ 2-3 ปีข้างหน้านี้ก็ยังดี) คนที่ยังไม่พร้อมจะแน่วแน่ในชีวิตของตัวเองแบบนี้ ท่าทางก็คงยังไม่พร้อมจะให้ความสำคัญอย่างเต็มที่กับคุณด้วย ดีไม่ดีจะทำให้ตัวคุณเองพลอยไม่มีอนาคตไปด้วยนะ

2. คนที่คุณเคยเดทด้วยเมื่อนานมาแล้ว และติดต่อกลับมาอีกครั้งเพราะว่าเขาไม่มีใคร

          จะทำอย่างไรดีถ้าคนที่คุณเคยเดทด้วย (และพบว่าต่างคนต่างมีปัญหา เข้ากันไม่ได้ จนตัดสินใจเลิกราย้ายแยกกันไปแล้วเรียบร้อย) จู่ ๆ ก็กลับมาขอเดทคุณใหม่อีกครั้ง จะกลับไปคบกับเขาอีกดีหรือไม่ ขอตอบแบบใจดำเลยค่ะว่า "ไม่ดีแน่นอน" จริงอยู่ว่าเวลาเปลี่ยนคนก็เปลี่ยน บางทีเขาคงจะเปลี่ยนไปในทางทีดีขึ้นก็ได้ นั่นก็อาจจะจริงอยู่ แต่คงไม่มีทางเปลี่ยนไปดีขึ้นแบบน่าใจหายได้หรอก หากหลวมตัวคบไป สุดท้ายอาจจะได้เจอปัญหาเดิม ๆ กลับมาซ้ำเติมอีกครั้ง อย่างกับหนังม้วนเดิมมาฉายซ้ำยังไงยังงั้นเลยทีเดียวล่ะ

3. คนที่ชอบวิพากษ์วิจารณ์คุณไปทุกเรื่อง

          ผู้ชายที่ช่างวิพากษ์วิจารณ์ตัวคุณไปทุกเรื่อง ตั้งแต่เสื้อผ้าหน้าผม รสนิยมการกินอาหาร งานอดิเรก หนังสือที่อ่าน ฯลฯ แล้วก็ทำให้คุณรู้สึกหงุดหงิดใจได้ทุกครั้ง จะทนคบให้หงุดหงิดใจไปทำไม คุณเหมาะสมที่จะได้เจอกับคนที่ยอมรับในตัวตนที่คุณเป็น ถ้าช่างวิจารณ์นู่นนี่ให้มากนัก ก็อย่าหลวมตัวไปรู้จักสนิทสนมนักเลยค่ะ

4. คนที่หวังแต่เรื่องบนเตียง

          ผู้ชายแบบนี้ไม่ได้อยากมีแฟน แต่เขาแค่อยากครอบครองใครก็ได้ที่เป็นผู้หญิงต่างหาก คบกันไปจริง ๆ แล้วจะมีอะไรมารับประกันว่าคุณคือคนที่เขาจะจริงจังด้วยล่ะ !!

5. คนที่เรียกร้องความสนใจจากคุณอยู่ตลอดเวลา

          โต ๆ เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ก็น่าจะเข้าใจกันบ้างว่าต่างคนต่างต้องการเวลา เพื่อจริงจังกับการทำงาน กับหน้าที่ที่ตัวเองรับผิดชอบ และกับการให้เวลาเพื่อความเป็นส่วนตัวของตัวเองบ้าง ไม่ใช่รังแต่จะให้คุณรับโทรศัพท์คุยกับเขาได้ทุกครั้งที่โทรไป ออนไลน์แชทกับเขาได้ทั้งวันแม้จะเป็นชั่วโมงทำงาน หรือคนที่ต้องว่างเสมอหากเขาต้องการ แถมยังมาทำท่าทางผิดหวังใส่ ว่าสิ่งที่คุณทำให้ได้ช่างเป็นเรื่องเล็กน้อยเหลือเกิน แหม...เรียกร้องความสนใจมากขนาดนี้ก็ไม่ไหวนะ

6. คนที่ไม่รู้จะถ่ายทอดอารมณ์ของตัวเองอย่างไร

          เราเข้าใจดีว่าเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ชายบางคน (รวมทั้งผู้หญิงด้วย) ที่จะแสดงอารมณ์ของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา รักก็บอกว่ารัก โกรธก็บอกว่าโกรธ ไม่พอใจก็ขอให้พูด ไม่ใช่มึนตึงพอถามว่าว่าเป็นอะไรก็บอก "ไม่เป็นไร" แล้วก็ไปกระฟัดกระเฟียดอยู่คนเดียว หากคุณคิดจะคบกับคนแบบนี้จริง ๆ คุณก็ต้องมีความพยายามและความอดทนมาก ๆ ที่จะสอนให้เขาเรียนรู้ที่จะแสดงอารมณ์ และความต้องการของตัวเองอย่างตรงไปตรงมาและเหมาะสม แต่ถ้าคุณรู้ตัวเองว่าไม่ใช่คนที่มีความอดทนมากขนาดนั้นแล้วล่ะก็ หยุดตั้งแต่ตอนนี้เลยดีกว่าค่ะ (ก็คุณไม่ใช่นักจิตวิทยาที่จะเดาอารณ์ของใคร ๆ เก่งนี่นา)

7. คนที่ไม่กล้าแม้กระทั่งชวนคุณออกเดท

          จริงอยู่ว่าผู้ชายอาจกลัวคำปฏิเสธ แต่ถ้าตัดสินใจแล้วกลับไม่กล้าทำ ก็เท่ากับว่าไม่ได้ทำให้มีอะไรคืบหน้าขึ้นมาเลย นี่อาจไม่ได้เป็นกับเรื่องชวนคุณออกเดทอย่างเดียว แต่มันสื่อให้เห็นได้ด้วยว่าเขาไม่มีพยาพยายาม หรือความกล้าที่จะแก้ปัญหาอะไรเลย แบบนี้ก็คงไม่น่าสานสัมพันธ์ที่มั่นคงกันได้ยืดยาว

8. คนที่โทรหาคุณเวลาเขาเหงาเท่านั้น

          คนที่จะเห็นคุณมีค่าขึ้นมาเมื่อเขาไม่มีใคร เป็นผู้ชายที่ไม่น่าคบหาด้วยเป็นอย่างยิ่ง ยามเหงาเขาอยู่กับคุณ แล้วยามปกติล่ะเขาจะเอาคุณไปไว้ตรงไหน ความเหงาไม่ใช่เรื่องเลวร้าย เรียนรู้ที่จะอยู่กับตัวเองและความเหงาเสียบ้าง คุณเองก็ไม่อยากใช้คนอื่นเป็นเครื่องคลายเหงา แล้วจะยอมให้เขามาใช้คุณเป็นที่ระบายความเหงาทำไมกัน

9. คนที่กำลังคบกันแต่จู่ ๆ ก็หายเงียบไปแบบไม่บอกกล่าว

          คงเป็นเรื่องไม่น่าปลื้มนักหากคนที่คุณเคยคบ ๆ อยู่ แล้วจู่ ๆ ก็เงียบหายไปไม่บอกกล่าว อย่างกับไม่เคยมีตัวตนมาก่อน แล้วพลันก็ปรากฎตัวมาใหม่และมาบอกคุณว่าขอโอกาสเขาอีกครั้ง คนแบบนี้คุณสมควรจะให้โอกาสเขาอีกครั้งหรือ? ไม่ว่าจู่ ๆ เขาจะหายตัวไปด้วยเหตุผลใด ๆ งานยุ่ง ป่วย ไปเคลียร์กับแฟนเก่า ฯลฯ ก็ไม่ควรจะทิ้งคุณไว้โดยไม่บอกเหตุผลใด ๆ แล้วการกลับมาครั้งนี้ก็รับประกันไม่ได้เสียด้วยว่าเขาจะไม่ทำตัวแบบเดิมอีก

10. คนที่คุณไม่รู้สึกว่าเคมีตรงกันเลยสักนิดเดียว

          อารมณ์ที่ว่า "เคมีเข้ากัน" คือทั้งคุณและเขารู้สึกว่ามีอะไรสักอย่างที่เข้ากันได้ดี ดึงดูดเข้าหากันได้ หากคุณคิดจะคบกับใครสักคน อย่างน้อยก็ต้องรู้สึกว่าตัวเขามีอะไรดึงดูดบ้าง แม้คะแนนเคมีจะได้แค่ 1/10 ก็ตาม เพราะมันก็ยังพอมีสิทธิ์ลุ้นได้ แต่หากคุณกำลังพยายามกับคนที่คุณรู้สึกว่าไม่โดนไม่ใช่ ไม่เข้ากันแม้แต่นิดเดียว (เคมี = 0/10) ถึงแม้จะรู้ว่าเขาเป็นคนดีก็ตาม มันเป็นเรื่องที่ช่างน่าทรมานกับทั้งคุณและเขาเลยทีเดียวที่ต้องพยายามอย่าง มากที่จะปรับตัวเข้าหากันทั้ง ๆ ที่ไม่มีอะไรเข้ากันได้สักอย่าง เลือกคบคนที่ทำให้คุณเลือดสูบฉีดเพราะใจเต้นตึกตักที่ได้อยู่ใกล้ และปล่อยให้เขาคนนั้นตามหาสาวที่เคมีเข้ากับเขาได้ด้วยดีกว่า

11. คนที่ยังลืมแฟนเก่าไม่ได้

          ทุกคนย่อมมีอดีต ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถกลับไปแก้ไขหรือทำให้กลับคืนมาได้ และแฟนเก่าเองก็นับว่าเป็นอดีตแบบหนึ่ง ที่เขาจะต้องเรียนรู้ที่จะรับมันให้ได้ อาจไม่ใช่การลืมแต่เรียนรู้ที่จะจดจำไม่ให้มันมีผลกระทบต่อคุณ ซึ่งเป็นคนปัจจุบันของเขา หากเขายังคงคร่ำครวญบ่นถึงแฟนเก่าให้คุณฟังอยู่ทุกวัน ท่าทางคงคบกันต่อไปได้ยากแล้วล่ะ

12. คนที่พอใจแค่การคบกัน ไม่พัฒนาอะไรให้มากกว่านั้น

          ผู้ชายบางคนคบหากับคู่เดทของตัวเองเพื่อให้ตัวเองรู้สึกว่าไม่โสดและมีใคร สักคนก็แค่นั้น แต่ไม่เคยคิดจะพัฒนาความสัมพันธ์ หรือมีความจริงจังอะไรมากไปกว่าออกเดทกันเป็นครั้งคราวก็พอ แต่ถ้าคุณกำลังมองหาความจริงจังและคนที่ใช่ล่ะก็ ทันทีที่รู้ตัวว่ากำลังกลายเป็นหนึ่งในคนเขาแค่คบไปงั้น ๆ เท่านั้น ก็รีบตีตัวออกมาให้ห่างเชียว


รู้แบบนี้แล้ว สาว ๆ อย่าได้เลือกคบคนผิดให้ช้ำใจเชียว ความรักไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เลือกดี ๆ แล้วก็ระวังตัวระวังใจตัวเองกันด้วยนะจ๊ะ




 

Create Date : 28 มีนาคม 2555    
Last Update : 28 มีนาคม 2555 10:29:17 น.
Counter : 8458 Pageviews.  

5 ความกังวลของเดทแรก ที่คุณก็แค่คิดมากไปเอง

5 ความกังวลของเดทแรก ที่คุณก็แค่คิดมากไปเอง

การออกเดทครั้งแรกกับคนที่กับคนที่กำลังคุย ๆ กันอยู่เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมากเลยทีเดียว >< นอกจากจะตื่นเต้นที่ได้ใกล้ชิดกัน ได้ประสบพบหน้ากันตรง ๆ แล้ว ยังตื่นเต้นไปด้วยความประหม่ากังวลต่าง ๆ นานา จนสาว ๆ หลายคนกลัวว่าจะทำให้เดทแรกไปได้ไม่สวยอย่างที่คาดไว้ อะ ๆ แต่สาว ๆ รู้หรือเปล่าว่ามีบางอย่างเหมือนกันนะ ที่เป็นเรื่องที่คุณกังวลไปเองคนเดียวทั้งนั้น ประมาณว่าคิดมากเกินไป ทั้ง ๆ ที่ความจริงมันก็ไม่มีอะไร แล้วก็ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงด้วย 

เอาล่ะ...เรื่องความกังวลของเดทแรก ที่สาว ๆ มักคิดมากไปเองจะมีอะไรบ้าง มาดูกันเลยจ้ะ

1. กลัวตัวเองจะดูไม่ดี

          เราไม่ได้จะบอกว่าเรื่องภาพลักษณ์เป็นเรื่องที่ไม่ต้องใส่ใจนะ การรักษาภาพลักษณ์ของตัวเองเป็นเรื่องสำคัญ แต่การให้ความสำคัญกับมันมากเกินไปก็ไม่ส่งผลดีนัก เลิกเกร็งเลิกประหม่า แล้วทำตัวเป็นธรรมชาติดีกว่า แบบนั้นล่ะที่จะทำให้คุณดูดีกว่ากันเยอะเลย

2. กังวลว่าตัวเองจะไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับอะไรสักอย่าง

          บางคนทำการบ้านเรื่องการหาเรื่องไปคุยในเดทแรก อย่างกับจะสอบเก็บคะแนนเลื่อนชั้นยังไงยังงั้น ไม่ต้องกังวลมากไปหรอก ไม่มีใครคาดหวังให้คุณต้องรู้เรื่องราวอะไรไปหมดทุกเรื่อง และที่สำคัญนี่มันเดตครั้งแรก จะไปรู้ได้อย่างไรว่าอีกฝ่ายชอบเรื่องไหน หรือควรชวนคุยในหัวข้ออะไร และต่อให้เกิดการสนทนาแล้วคุณไม่รู้จะตอบโต้ ไม่รู้จะแสดงความคิดเห็นอย่างไร ก็แค่เออออห่อหมกไปกับเขา และจริง ๆ คุณก็สามารถเปิดบทสนทนาใหม่ หรือชวนเขาคุยเพื่อเปลี่ยนหัวข้อได้ แต่ถ้าคุณสนใจในเรื่องที่เขาคุยจริง ๆ การตั้งใจฟัง และถามคำถามเกี่ยวกับมันอย่างสนอกสนใจ ก็ทำให้อีกฝ่ายประทับใจได้ไม่น้อยเลย

3. กังวลว่าตัวเองดูประหลาด

          เรื่องความไม่มั่นใจนี้กลับมาเล่นงานเราได้ซ้ำแล้วซ้ำอีกจริง ๆ คราวนี้ก็เป็นเรื่องที่กังวลว่าตัวเองจะกลายเป็นคนที่ดูประหลาดในสายตาของฝ่ายตรงข้าม กลัวว่าตัวเองดูไม่สมบูรณ์แบบเหมือนคนอื่น ๆ ซึ่งความจริงแล้วเรื่องของ "ความสมบูรณ์แบบ" และ "ความมั่นใจ" นั้น มันเป็นคนละเรื่องแต่ใกล้เคียงกันมากทีเดียว บางทีคนที่คุณมองว่าเขาช่างสมบูรณ์แบบนั้น ไม่ได้มาจากความสมบูรณ์แบบเพอร์เฟ็กต์ทุกประการจริง ๆ ก็ได้ แต่เกิดจากการที่เขามีความมั่นใจในตัวเองต่างหาก 

          คนที่มีความมั่นใจ ทำอะไรมันดูดี ต่อให้ทำอะไรเปิ่น ๆ คนที่เห็นก็ยังรู้สึกว่ามันเดูน่ารักน่าเอ็นดูอยู่ดี เพราะฉะนั้น การที่คุณกลัวว่าตัวเองดูประหลาดนั้น ก็เป็นเรื่องที่คุณคิดไปเองเพราะคุณไม่มีความมั่นใจในตัวเองนั่นเอง เปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อตัวเอง เรียกความมั่นใจกลับคืนมา...ถ้าทำได้คุณก็ไม่ต้องกลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นคนประหลาดอีกต่อไป

4. คิดว่าตัวเองอ่อนประสบการณ์

          ประสบการณ์ที่ว่านี้ก็คือประสบการณ์ในเรื่องความรัก ไม่ว่าคุณจะเคยคบใครแล้วอกหัก หรือเคยแต่งงานแต่แยกทางกันเมื่อนานมาแล้ว แต่เมื่ออยู่ในเดทแรกอย่าโทษตัวเองที่ทำให้เหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้น เพราะว่าคุณขาดประสบการณ์ในการบริหารความรัก เรื่องความผิดพลาดนั้นสามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ และในการเดทครั้งแรกนั้นไม่มีเรื่องของกฎเกณฑ์ใด ๆ มาเกี่ยวข้อง เปิดใจของคุณ และเริ่มต้นประสบการณ์(ที่อาจเป็น)ความรักครั้งใหม่ไปพร้อม ๆ กัน

5. กลัวจะมีเศษอาหารติดฟัน/ชา-กาแฟกระเซ็นเลอะเสื้อ/ลมหายใจไม่สดชื่น.. ฯลฯ 

          สารอุบัติเหตุเรื่องการกินที่ทำให้คุณนึกขยาดตัวเอง ซึ่งเรื่องแบบนี้ความจริงแล้วก็หลีกเลี่ยงกันได้ง่าย ๆ แค่ไม่สั่งอาหารที่กลิ่นแรง เคี้ยวยาก พกหมากฝรั่ง และระมัดระวังกิริยาการรับประทานอาหารให้มากขึ้น แต่ก็อย่ากังวลมากนักเลย หากมันเกิดขึ้นกับคุณจริง ๆ ก็ให้รีบแก้ไขซะเดี๋ยวนั้น โดยไม่ต้องแสดงท่าทีเคอะเขินมากมาย บางทีมันจะเป็นเรื่องเปิ่น ๆ ให้คุณทั้งคู่ได้จดจำร่วมกันอีกด้วย นอกจากนี้ มันยังเป็นการทดสอบปฏิกิริยาตอบรับจากคู่เดทของคุณ หากอีกฝ่ายแสดงท่าทีรังเกียจขยาดแขยงนักล่ะก็ จบกันซะตั้งแต่เดตแรกนั่นแหละดีแล้ว ต้องขอบคุณเรื่องเปิ่น ๆ เสียหน้านี่เสียอีก ที่ทำให้คุณถอนตัวจากคนแบบนี้ได้ทัน ;)

เดทแรกไม่ได้ยากและน่ากลัวอย่างที่คิดหรอกนะ เลิกกังวล และทำตัวเป็นธรรมชาติดีกว่า...และขอให้มีเดทครั้งที่ 2, 3, 4 .. ต่อมาเรื่อย ๆ นะจ๊ะ




 

Create Date : 27 มีนาคม 2555    
Last Update : 27 มีนาคม 2555 8:27:09 น.
Counter : 1391 Pageviews.  

การ์ดแต่งงานการ์ตูน น่ารักน่าชัง

การ์ดแต่งงานการ์ตูน น่ารักน่าชัง

การ์ดแต่งงานการ์ตูน 

นอกจากลายดอกไม้ ลายเส้นงาม ๆ หรือกราฟฟิกเจ๋ง ๆ แล้ว พื้นหลังการ์ดแต่งงานที่คู่บ่าว-สาวส่วนใหญ่นิยมนำมาใช้ออกแบบการ์ดแต่งงาน นั่นก็คือ ภาพการ์ตูน โดยเฉพาะการ์ตูนน่ารัก ๆ บ้างล่ะ ขำ ๆ บ้างล่ะ หรือแม้แต่การ์ตูนล้อเลียนตัวเอง 

           อาจเพราะ "การ์ดแต่งงานการ์ตูน" บ่งบอกถึงความเป็นตัวของตัวเองที่สุด แถมยังเก๋ไก๋ไม่ซื้อใคร ซึ่งการ์ดแต่งงานการ์ตูนส่วนมากจะใช้เป็นการ์ดแต่งงานหน้าเดียว และจะใส่รายละเอียดเกี่ยวกับงานแต่งงานมาไว้ทั้งหมด ที่สำคัญราคาไม่ค่อยแพงมากนัก 

เพราะฉะนั้น วันนี้กระปุกเวดดิ้งเลยขอเอาใจคู่บ่าว-สาวหัวใจหวานแหวว ด้วยการนำเอาภาพ"การ์ดแต่งงานการ์ตูน" น่ารักน่าชังมาฝากกันค่ะ 

การ์ดแต่งงานการ์ตูน น่ารักน่าชัง

การ์ดแต่งงานการ์ตูน 


การ์ดแต่งงานการ์ตูน น่ารักน่าชัง

การ์ดแต่งงานการ์ตูน 


การ์ดแต่งงานการ์ตูน น่ารักน่าชัง

การ์ดแต่งงานการ์ตูน 



การ์ดแต่งงานการ์ตูน น่ารักน่าชัง

การ์ดแต่งงานการ์ตูน 


การ์ดแต่งงานการ์ตูน น่ารักน่าชัง

การ์ดแต่งงานการ์ตูน 


การ์ดแต่งงานการ์ตูน น่ารักน่าชัง

การ์ดแต่งงานการ์ตูน 


การ์ดแต่งงานการ์ตูน น่ารักน่าชัง


การ์ดแต่งงานการ์ตูน 


การ์ดแต่งงานการ์ตูน น่ารักน่าชัง

การ์ดแต่งงานการ์ตูน 


การ์ดแต่งงานการ์ตูน น่ารักน่าชัง

การ์ดแต่งงานการ์ตูน 


การ์ดแต่งงานการ์ตูน น่ารักน่าชัง

การ์ดแต่งงานการ์ตูน 




 

Create Date : 26 มีนาคม 2555    
Last Update : 26 มีนาคม 2555 8:14:06 น.
Counter : 6337 Pageviews.  

6 เคล็ดลับ ประคับประคองชีวิตคู่

ความรัก


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

การที่คู่รักสักคู่หนึ่งจะรักกันจนแก่เฒ่าได้นั้น ความรักอย่างเดียวอาจไม่สามารถประคับประคองไปได้ตลอดรอดฝั่งเสมอไป เพราะความรักจะยั่งยืนได้เมื่อคนสองคนพยายามที่จะปรับตัวเข้าหากัน เชื่อและไว้วางใจในกันและกัน รวมถึงดูแลเอาใจใส่กันและกันอยู่เสมอด้วย ดังนั้น วันนี้กระปุกดอทคอมจึงขอนำเอาเคล็ดลับดี ๆ เพื่อให้ชีวิตคู่ของคุณยืนยาวมาฝากกันค่ะ หากอยากรู้ว่ามีอะไรกันบ้าง ก็ลองมาอ่านกันดูเลย

1. เปิดอกพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง

          หากพวกคุณสามารถพูดคุยกันได้ในทุกเรื่องแล้ว ก็จะทำให้เกิดความไว้ใจกันมากขึ้น เพราะสามารถปรึกษากันได้ทุกเรื่องโดยไม่จำเป็นต้องปกปิดอะไรกันอีก ฉะนั้น หากคุณคิดว่าตอนนี้ตัวเองยังเป็นคนที่เข้าใจและพร้อมจะรับฟังคนรักได้ไม่ดีพอนัก ก็ลองพยายามเปิดใจให้มากขึ้น อาจจะช่วยให้ความรักของคุณราบรื่นขึ้นนะคะ

2. สร้างเสียงหัวเราะในทุก ๆ วัน

          ความเครียดที่เพิ่มขึ้นตามภาระต่าง ๆ หลังแต่งงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือลูก ๆ อาจทำให้รอยยิ้มของสามีภรรยาหลาย ๆ คู่ลดลง ดังนั้น ควรหาเรื่องให้ได้หัวเราะกันเล็ก ๆ น้อย ๆ แก้เครียดกันบ้าง เช่น ชักชวนกันดูหนังตลกสักเรื่อง พูดคุยถึงเรื่องขำ ๆ ในแต่ละวันที่พบเจอ หรือหยอกล้อกันบ้างก็ได้ เพราะจะทำให้บรรยากาศตึงเครียดในบ้านลดลง และทำให้คุณได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นอีกด้วย

3. ให้เกียรติกันและกัน

          หากคุณรักเขาจริง ๆ ก็ควรให้เกียรติเขาบ้าง อย่าได้ฉีกหน้าเขาด้วยการต่อว่าต่อหน้าคนอื่นเด็ดขาด เพราะนอกจากจะทำให้เขาขายหน้าแล้ว ยังเป็นการทำร้ายชีวิตคู่ของตัวเองอีกด้วย เพราะคงไม่มีผู้ชายคนไหน ชอบผู้หญิงที่ทำอะไรไม่ไว้หน้าคนรักหรอก นอกจากนี้ ก็ควรจำไว้ให้ดีว่า เขาจะให้เกียรติคุณก็ต่อเมื่อคุณให้เกียรติเขาเท่านั้นแหละค่ะ

4. อย่าทำให้ปัญหาเล็ก ๆ กลายเป็นปัญหาใหญ่

          เวลามีเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คุณไม่พอใจ ก็อย่าเก็บเอาไว้ พูดคุยกันให้เข้าใจเลยดีกว่า อย่างน้อยคุณจะได้มีโอกาสฟังเหตุผลของเขาบ้าง และจะได้ไม่ต้องเก็บความรู้สึกอึดอัดคาใจไว้คนเดียวด้วย นอกจากนี้ หากคุณเก็บปัญหาพวกนี้เอาไว้เรื่อย ๆ จนทนไม่ไหว เวลาที่คุณโมโหและระบายออกมาทีเดียวจะทำให้กลายเป็นว่าคุณขุดเรื่องเก่าขึ้นมาพูดเปล่า ๆ และปัญหาเล็กน้อยเหล่านี้ก็จะกลายมาเป็นปัญหาใหญ่ในชีวิตคู่ของคุณในที่สุด

5. ทำให้เขาเป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทของคุณ

          เป็นตัวของตัวเองในเวลาที่อยู่กับเขา เหมือนที่คุณกล้าทำเวลาอยู่ต่อหน้าเพื่อนสนิทของคุณ และชวนเขาทำกิจกรรมสนุก ๆ ร่วมกันบ้าง เช่น ออกไปดูหนัง หรือไปปีนเขาด้วยกันดู จะช่วยให้คุณทั้งคู่รู้สึกเป็นกันเองมากขึ้น ไม่รู้สึกกดดันอีก แถมทำให้ชีวิตคู่ของคุณผ่อนคลายมากขึ้นตามไปด้วย

6. แสดงความรักกันบ่อย ๆ

          อย่าละเลยการแสดงความรักเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กันและกันในทุกวัน หากคุณห่างหายจากการแสดงความรักต่อกันนาน ๆ อาจส่งผลให้ความรักจืดจางจนเขาต้องไปมองหาความรักจากคนอื่นได้ ไม่จำเป็นต้องแสดงออกมากจนหวานเลี่ยน แค่หอมแก้มกันเบา ๆ ก่อนไปทำงาน หรือส่งข้อความบอกรักกันบ้าง เพียงเท่านี้ก็สามารถทำให้คุณทั้งคู่ยิ้มได้ทั้งวันแล้ว

จำไว้ว่าถ้าหากต้องการให้ชีวิตคู่ของคุณมั่นคงล่ะก็ คุณต้องเป็นผู้ใหญ่พอที่จะเห็นคุณค่าของความรัก จนสามารถมองข้ามความผิดพลาดต่าง ๆ ที่เข้ามาได้ เพราะไม่มีคู่ไหนหรอก ที่ไม่เคยมีปัญหากันเลย ทุกอย่างขึ้นอยู่กับมุมมองและวิธีจัดการกับปัญหาของคุณเท่านั้นแหละ




 

Create Date : 23 มีนาคม 2555    
Last Update : 23 มีนาคม 2555 7:55:53 น.
Counter : 1620 Pageviews.  

10 เคล็ดลับ เพื่อชีวิตแต่งงานที่ราบรื่นยาวนาน

10 เคล็ดลับ เพื่อชีวิตแต่งงานที่ราบรื่นยาวนาน

เมื่อแต่งงานกันแล้ว คู่รักทุกคู่ต่างก็หวังว่าจะได้อยู่ร่วมเรียงเคียงหมอนกันตลอดไป แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังปรากฏว่าสถิติการหย่าร้างยังคงมีอยู่สูง สิ่งใดกันที่ทำให้เกิดเรื่องรักที่น่าผิดหวังเช่นนี้ขึ้น ทั้ง ๆ ที่เมื่อรักกัน จนแต่งงานกันแล้ว ต่างฝ่ายต่างก็ต้องหมั่นทะนุถนอม เอาใจใส่ซึ่งกันและกัน เพื่อให้ชีวิตรักหลังแต่งงานยืนยาวและมั่นคงตราบเท่านาน 

          เอ้า! แบบนี้คุณผู้หญิงคุณผู้ชายทั้งหลายควรต้องทำตัวอย่างไรบ้าง อยากรู้ก็มาดูกันเลย

1. พูดชมให้เขาชื่นใจ

          คู่แต่งงานหลาย ๆ คู่แอบบ่นมาว่า ความรักหวานชื่นมักยาวนานเพียงแค่ช่วงปีแรกที่แต่งงานเท่านัน หลังจากนั้นแต่ละคนก็เริ่มทำเหมือนอีกฝ่ายเป็นของตาย จะทำอะไร หรือพูดจายังไงด้วยก็ได้ จนมันเริ่มกลายเป็นความชาชิน ก่อนที่ความชาชินจะทำจะทำให้อะไร ๆ แย่ลงไปกว่านี้ 

          เริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองเสียใหม่ ด้วยการพูดชมเขาหรือเธอเสียบ้าง อาจเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่าง คุณตัดผมทรงนี้แล้วดูดีมากเลยค่ะ ลายกางเกงบ็อกเซอร์คุณน่ารักดีนะ หรือต่างหูคุณสวยมากเลยจ้ะ ใส่เสื้อตัวนี้แล้วเซ็กซี่จัง ฯลฯ เพียงคำพูดที่ทำให้อีกฝ่ายชื่นใจได้วันละครั้งแต่ทุก ๆ วัน ก็จะช่วยให้คุณทั้งสองมีช่วงเวลาหวาน ๆ ด้วยกันมากขึ้น

2. จัดสรรเวลาของ "เรา"

          ใครที่คิดว่าไหน ๆ แต่งงานกันแล้ว ก็ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา การหา "ช่วงเวลาสำหรับสองเรา" คงไม่ใช่เรื่องจำเป็น นับว่าผิดถนัดเลยทีเดียว เพราะความจริงแล้วแม้การแต่งการจะทำให้ดูเหมือนได้อยู่ใกล้กันมากขึ้น แต่ความจริงเวลาที่ได้อยู่ "ด้วยกัน" จริง ๆ นั้นก็มีไม่เท่าไหร่ เพราะต่างคนต่างต้องออกไปทำงาน รับผิดชอบหน้าที่ของตัวเอง กลับบ้านมาก็ทำกิจวัตรซ้ำ ๆ เดิม ๆ อย่างกินข้าว ดูทีวี นอน ช่วงที่ได้ใช้เวลาหวาน ๆ ด้วยกันน้อยเสียยิ่งกว่าตอนก่อนแต่งงานด้วยซ้ำ 

          เพราะฉะนั้นลองหาเวลาที่ว่างตรง ๆ กัน ชวนกันทำกิจกรรมพิเศษ ๆ ร่วมกันบ้าง อย่างไปปิกนิก เที่ยวต่างจังหวัด ดินเนอร์ยามค่ำดี ๆ สักมื้อ ฯลฯ แต่หากคุณมีเจ้าตัวเล็กที่ต้องดูแล ลองไหว้วานให้ญาติ ๆ ที่ไว้ใจช่วยดูแลให้สักวันก็ได้

3. พูดจาสื่อสารกันบ้าง

          หลาย ๆ คนได้ยินแล้วอาจจะประหลาดใจ ว่าคนอยู่บ้านเดียวกันแต่ไม่พูดกันนั้นมีด้วยหรือ ก็ต้องบอกว่ามีเหมือนกัน แม้ว่าคนทั้งคู่จะไม่ได้ตั้งใจให้เป็นเช่นนั้นก็ตาม ทั้งนี้ เนื่องจากคิดว่าอยู่ด้วยกันมากแล้วจนคิดว่าน่าจะรู้ ๆ ใจกันอยู่ แต่พอคิดอย่างนี้ไปนาน ๆ เข้า ก็กลายเป็นความชินชา นำมาซึ่งการเงียบเฉยต่อกันและกัน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ไม่ดีของการอยู่ด้วยกันจริง ๆ 

          เริ่มต้นปรับปรุงตัวด้วยการพูดคุยทักทายกันบ้าง อาจเป็นแค่เรื่องง่าย ๆ อย่างถามว่าวันนี้ที่ทำงานของคุณเป็นอย่างไรบ้าง เหนื่อยไหม ฯลฯ จากนั้นเชื่อได้เลยว่าบทสนทนาอื่น ๆ ก็จะพรั่งพรูตามมาเอง 

4. อย่านับแต้มการทำดีของอีกฝ่าย

          หลาย ๆ คู่คงเคยคิดนับแต้มความดีของคนรัก เป็นต้นว่าวันนี้เธอทำตัวน่ารัก 2 ครั้ง เดี๋ยวจะให้รางวัลเป็นทำตัวดี ๆ กลับไปให้ 2 ครั้ง แต่ถ้าเธอไม่ทำอะไรเป็นพิเศษเลยฉันก็จะไม่ทำเหมือนกัน แม้ว่าแรก ๆ คุณจะรู้สึกสนุกที่ได้ทำเช่นนี้ แต่หากจริงจังเกินไปมันก็ทำให้ความรักเป๋ไปได้เหมือนกัน 

          เพราะคุณมัวแต่คิดว่า คุณจะทำเรื่องดี ๆ ให้ถ้าเขาทำอะไรสักอย่างให้คุณพอใจเสียก่อน หรือหวังผลในการกระทำครั้งนั้นตอบแทน ความรักไม่ใช่เลขคณิตที่ต้องมีความสมมาตรเท่ากันทั้งสองฝั่ง หากคุณพอใจที่จะทำอะไรดี ๆ ให้เขาก็ทำเลยดีกว่า ไม่ต้องรอเก็บแต้มจนอีกฝ่ายทำตัวดีแบบที่คุณต้องการแล้วจึงมีการแลกเปลี่ยน

5. หาเวลาไปสนุกสนานด้วยกันบ้าง

          ความรักจะไปได้สวย ไม่ได้มากจากการนั่งคุยเครียด ๆ เพื่อหาข้อตกลงว่าใครจะต้องทำอะไร รับผิดชอบสิ่งใด แต่มันต้องมีองค์ประกอบของความรื่นเริงสดใสเข้ามาร่วมด้วย แม้การแต่งงานจะทำให้คุณต้องจริงจังกับเรื่องชีวิตคู่มากขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องละทิ้งความรู้สึกสนุกสนานสบาย ๆ แบบวันเก่าก่อนไป หาอะไรสนุก ๆ ทำร่วมกัน อย่างไปสวนสนุก ปั่นจักรยาน หรือกิจกรรมที่คุณทั้งสองต่างชื่นชอบร่วมกัน ดึงอารมณ์ชิลล์ ๆ สบาย ๆ เหมือนตอนเพิ่งคบกันใหม่ ๆ กลับมาให้ได้

6. เติมความโรแมนติกแก่กันบ้าง

          ต่อให้แต่งงานกันแล้ว แต่ชีวิตก็ยังต้องการความหวานโรแมนติกไม่น้อยลงไปกว่าเดิม คุณอาจยั่วเขาเบา ๆ โดยใช้สายตา หรือภาษากายอื่น ๆ อย่างการสัมผัส โอบกอด แม้แต่จั๊กจี้ที่เอว หมั่นทำอะไรพิเศษ ๆ เซอร์ไพรส์คนรักบ้าง อย่างดินเนอร์ใต้แสงเทียนกันที่บ้าน หรือชวนกันลงอ่างผลัดกันขัดหลังท่ามกลางสายน้ำอุ่น ๆ ที่หยดน้ำมันอโรมาหอม ๆ ลงไป และอีกมากมาย เท่านี้ความรักของคุณก็จะหวานโรแมนติกได้ตลอดเวลา

7. หาเวลาเป็นส่วนตัวบ้าง

          การแต่งงานทำให้ต้องวางแผนและใช้เวลาส่วนมากในชีวิตด้วยกัน แต่ก็ไม่ใช่ตลอดเวลา คุณควรได้ใช้เวลาส่วนตัวบ้าง ทำกิจกรรมที่คุณชื่นชอบ พบปะสังสรรค์เพื่อน ๆ หรือเฮฮาปาร์ตี้ตามสไตล์คุณ ซึ่งในช่วงเวลาเช่นนี้คนรักของคุณเองก็ได้มีเวลาส่วนตัวของเขาเช่นกัน เมื่อเติมเต็มจนหนำใจทั้งสองฝ่ายแล้ว ก็ทำให้ทั้งคู่กลับมาใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างมีความสุขกว่าเดิมทั้งสองฝ่าย 

8. ปะทะคารมอย่างมีสติ

          ยามมีอะไรขัดเคืองข้องใจและนำไปสู่การปะทะคารม อันเกิดขึ้นได้และเป็นเรื่องธรรมดาของคนรักทุกคู่ ขอให้มีสติและไม่หลุดคำพูดที่ทำร้ายจิตใจอีกฝ่าย ไม่ขุดคุ้ยอดีต และรู้จักการใช้คำพูดเพื่อให้อีกฝ่ายรับฟังสิ่งที่คุณพูด อย่างประโยคที่ขึ้นด้วยการชี้ตัวอีกว่า "คุณอย่างนั้น คุณอย่างนี้" เช่น "คุณไม่เคยช่วยฉันทำงานเลย" การใช้คำพูดที่ระบุตัวฝ่ายตรงข้ามไว้หน้าประโยคเช่นนี้จะทำให้คนฟังรู้สึกปฏิเสธไปโดยอัตโนมัติ ลองเปลี่ยนเป็นคำพูดที่ดูซอฟท์ลง แต่ให้ความหมายได้เหมือนกันและคนฟังสบายใจกว่า อย่าง "ฉันจะดีใจกว่านี้มากเลยถ้าคุณช่วยฉันทำงานบ้าง" แบบนี้จะดีกว่า

9. หาเวลาพักเสียบ้าง

          การรับผิดชอบทั้งหน้าที่ทั้งที่ทำงานและที่บ้านก็ทำให้เกิดความเครียดได้ และเมื่อนานวันเข้าก็เปรียบเหมือนภาระที่หนักอึ้งจนรู้สึกแบกไว้ไม่ไหวอีกต่อไป ลองหยุดทำทุก ๆ อย่าง แล้วไปเที่ยวสบาย ๆ ดูบ้าง ลาพักร้อนสัก 3-4 วัน (หรือถ้าเป็นหนึ่งสัปดาห์ได้ก็เยี่ยมไปเลย) เก็บกระเป๋าโบกมือบ๊ายบายงานบ้านชั่วคราว แล้วไปเที่ยวพักผ่อนให้สบายทั้งกายสบายทั้งใจ เมื่อสลัดความเครียดออกไป ชาร์จพลังจนเต็มแล้ว คราวนี้คุณก็จะกลับมาพร้อมความสดใส และมีแรงกายแรงใจเหลือเฟือที่จะรับมือกับงานบ้านและงานประจำแล้วล่ะ

10. อย่าให้ความคุ้นเคยทำให้ลืมที่จะทำดีต่อกัน

          จำได้ไหมว่าวันแรกที่คุณเดตกัน ต่างคนต่างทำตัวดี ๆ ต่อกันมากแค่ไหน ทั้งพูดจาเพราะอ่อนหวาน เอาอกเอาใจ ใส่ใจเป็นห่วง แต่เมื่อนาน ๆ เข้าจนกระทั่งแต่งงานกันไป กลับกลายเป็นว่าสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ถูกกลืนหายไปตามวันเวลา ในตอนนี้คุณทำดี พูดเพราะกับคนแปลกหน้าที่ไม่สนิทสนมหรือกับเพื่อนร่วมงานได้ แล้วทำไมคุณถึงไม่ทำมันกับคนที่คุณรักและใกล้ชิดคุณมากที่สุดเล่า อย่าให้ความคุ้นเคยทำให้คุณหลงลืมการทำดี ๆ ต่อกันเลย

          หากไม่ละเลยให้ความคุ้นเคยกลายเป็นความชินชา หมั่นเอาใจใส่ ทนุถนอมน้ำใจกัน คุณทั้งสองก็จะดำเนินชีวิตคู่ไปด้วยกันได้อย่างราบรื่นจนแก่เฒ่าแน่นอน




 

Create Date : 22 มีนาคม 2555    
Last Update : 22 มีนาคม 2555 8:14:45 น.
Counter : 1188 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.