ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

เปิดด้วย "หงส์" จบด้วย "ผี"



เปิดด้วย

เปิดด้วย "หงส์" จบด้วย "ผี"

Hot Score

สนับสนุนเนื้อหา

เลือกตั้งชื่อเรื่องแบบนี้เพราะอยากให้การ “บิ้วท์อัพ” เกมแดงเดือด ระหว่าง ลิเวอร์พูล - แมนฯยูไนเต็ด วันที่ 18 ต.ค. หรือนัดที่ 8 ของฤดูกาลเป็นไปอย่างสมศักดิ์ศรีที่สุด

และก็ให้บังเอิญเช่นกันว่า “พรีเมียร์ลีก” นัดที่ 3 วันเสาร์จะประเดิมคู่หัวค่ำ 18.30 น.ด้วยแมตช์ สเปอร์ส เปิดบ้านรับลิเวอร์พูล และปิดท้ายด้วยแมนฯยูไนเต็ด ไปเยือนฮัลล์ ซิตี้

ก็ “เข้าข่าย” เปิดด้วยหงส์จบด้วยผี นั่นแหละครับ ขณะที่เนื้องานก็คงต้องยอมรับด้วยเช่นกันว่า ทั้ง 2 แมตช์นี้คั่นด้วยคู่มาตรฐานเตะ 3 ทุ่มอีก 6 เกมเป็น 2 เกมคู่เอกประจำวัน หรือประจำนัดที่ 3 เลยก็ว่าได้

ประเด็นของสเปอร์สตอนนี้คือ พวกเค้าเป็นทีมระดับ “แชมเปี้ยนส์ ลีก” เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาที่จบด้วยอันดับ 3 แบบคู่ควรอันดับ 2 ด้วยซ้ำ

การเติมทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ก็ถือว่า เติมตัวที่ใช้งานได้เลย และเป็นที่ต้องการจริง ๆ อย่าง วิคเตอร์ วันยาม่า และวินเซนต์ แยนเซ่น ที่เป็นกลางรับ และดาวซัลโว มาร่วมทีม

ขณะที่ไม่ได้เสียตัวหลักไปเลย และได้กระจายตัวไม่ต้องการออกหลายคนเพื่อให้ทัพนักเตะไม่เยอะ หรือ “อ้วน” เทอะทะจนเกินไป

อย่างไรก็ดีครับ สเปอร์ส ที่มีนักเตะติดทีมชาติระดับตัวจริงอยู่หลายคนก็ไม่ต่างกับทีมอย่าง อาร์เซนอล ที่นักเตะหลักยังไม่ฟิต 100% หรือยังมีสภาพบาดเจ็บตกค้าง


ฮูโก้ ญอร์ริส เล่นในเกมแรกกับเอฟเวอร์ตันยังไม่ทันเต็ม “ครึ่งแรก” ก็เจ็บ ขณะที่ตัวอื่น ๆ ก็มี มุสซา เดมเบเล่ ในทีมที่มี “แกน” เป็นนักเตะทีมชาติอังกฤษ ชุดปัจจุบันที่ยังอาจ “แฮงค์” จากยูโรที่ผ่านมาครับ

ไคล์น วอล์คเกอร์, แดนนี่ โรส, เอริค ดายเออร์, เดเล่ อัลลี และแฮร์รี เคน คือ เกรด “ตัวจริง” ของ รอย ฮอดจ์สัน เลยนะครับ

ผสมผสานกับ แยน แฟร์ตองเก้น และโทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ (และเดมเบเล่) ที่เป็นกำลังสำคัญของทีมเบลเยียม

โดยเกมนี้ สเปอร์ส ที่ไม่ต้องเตะคัดเลือก “ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก” และไม่ต้องเตะ แคปิตัล ลีก คัพ ด้วยในฐานะที่เป็นทีมได้สิทธิ์เตะบอลยุโรปจะมี “ความสด” มากกว่าหงส์แดง ที่กลางสัปดาห์ถล่มเบอร์ตัน อัลเบี้ยน ยับ 5-0

โดย ซาดิโอ มาเน่ ดาวเด่นจากเกมอัดอาร์เซนอล นัดแรก 4-3 แต่ไปเจ็บหัวไหล่เล่น่เกมแพ้เบิร์นลีย์ 0-2 ไม่ได้กลับมาสร้างอันตรายอย่างยิ่งยวดให้กับ เยอร์เก้น คลอปป์

ครับ หากไม่นับ “เกมรับ” ที่ยังคงต้องปรับปรุงต่อไป แม้จะได้ รัดนาร์ คราวาน ที่ก็กลายเป็น “ปัญหา” เสียเองในเกมที่ผ่านมาจากการสกัดไม่ขาด หรือไม่เข้าตัดบอล แต่เลือกใช้วิธีจด ๆ จ้อง ๆ

เกมรุกลิเวอร์พูล ถือว่า “จบข่าว” เพราะที่ผ่านมาก็ค่อนข้างดีอยู่แล้ว แต่พวกเค้าขาดเพียงสปีดบอล หรือความ “ไดเร็กต์” หรือก็คือความตรงไปตรงมาแบบที่ซาเน่ “นำเสนอ”


ที่ผ่านมาจะได้เห็นการ “ต่อบอล” ครองบอลสวยงาม แต่ขาดประสิทธิภาพในจังหวะสุดท้าย เฉพาะอย่างยิ่งใน “แดนสุดท้าย” หน้าประตูคู่แข่งที่เรียกว่า “Final Third”

ซาเน่ ก็ไม่ต่างจาก ดักลาส คอสต้า ของบาเยิร์นฯ ที่สามารถเปลี่ยนเกมได้ด้วยตัวคนเดียวจนตอนนี้ ลิเวอร์พูลจะเสมือนขาดดาวเตะจรวดจากเซเนกัล รายนี้ไม่ได้แล้ว

อีกจุดของหงส์แดงที่ยังไม่ลงตัว คือ แบ็คซ้าย เพราะทั้งเจมส์ มิลเนอร์ (ถนัดขวา) หรืออัลแบร์โต้ โมเรโน่ ต่างมีข้อเสียที่ “รับไม่ได้” คนละอย่างสองอย่าง

ลิเวอร์พูลจึงยังดูไม่ลงตัว แต่กุนซือเยอรมันก็ยัง “เน้นย้ำ” ครับว่า จะไม่ตื่นตระหนกรีบซื้อใครในช่วงเวลาที่เหลือของตลาดนักเตะ

ปิดท้ายที่เกม 5 ทุ่มครึ่งครับ

ประเด็นคู่นี้ “เหลือเชื่อ” ว่ากลายเป็นการเจอกันของ 2 ทีมที่ชนะรวด 100% หลังฮัลล์ ซิตี้ เปิดรังปราบเลสเตอร์ 2-1 และบุกชนะสวอนซี 2-0 (ไม่นับ ลีก คัพ ที่บุกชนะเอ๊กเซเตอร์ 3-1

บอกได้คำเดียวว่า “ไม่ธรรมดา” ท่ามกลางสถานการณ์ “แพแตก” สตีฟ บรู๊ซ ชิ่งหนีทีมไป และต้องอาศัยฝีมือ ไมค์ ฟีแลน อดีตทีมโค้ช แมนฯยูไนเต็ด ยุคเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน สร้างแรงจูงใจ

และถือว่า ทำได้ดีที่สุดเท่าที่จะสามารถ “จินตนาการ” ได้เลยกับทีมที่พิกลพิการ


ตรงกันข้าม โจเซ่ มูรินโญ่ ตอนนี้มี “สรรพกำลัง” ครบครันแล้วหลังจาก พอล ป๊อกบา ลงสนามมาเติมเต็ม “จิ๊กซอว์” ใน 11 คนแรกของเค้าที่ต้องสรุปว่า “ลงตัว” อย่างรวดเร็ว

ต้องชมเชย “น้ามู” ที่วางเกมรับใช้ ดาวิด เด เกอา, เอริค บาญี่, ลุค ชอว์ และ อันโตนิโอ วาเลนเซีย เป็นแกนมาตั้งพรีซีซั่น

เดลีย์ บลินด์ ก็ไม่ได้ขี้เหร่ แม้จะยังรอ คริส สมอลลิ่ง ให้สมบูรณ์ก็ตาม

โดยชัยชนะใน 2 แมตช์แรก และซลาตัน อิบราฮิโมวิช ยิง 3 จาก 2 นัดเหนือบอร์นมัธ และเซาแธมป์ตัน จัดเป็นเกมที่ “สมบูรณ์” ของทีมปิศาจแดง

ถึงตอนนี้ แม้จะเพิ่งผ่านแค่ 2 เกม แต่แววมยุราเริ่มออกแล้วว่า ทีมปิศาจแดง ยุคมูรินโญ่ นั้นคือแคนดิเดทแชมป์ของจริง

ประเด็นถัดจากนี้คือ การ “ผสมทีม” ให้ยิ่งกลมกล่อม หรือลองวางผู้เล่นอื่น ๆ ลงตำแหน่งต่าง ๆ เช่น สมอลลิ่ง แทนบลินด์

มาร์คัส แรชฟอร์ด หรือเจสซี ลินด์การ์ด ในส่วนเกมรุก หรือตัวยืนคู่ พอล ป๊อกบา ในแดนกลาง เป็นต้น

เพื่อจะได้เป็นทีมที่ยิ่งดีขึ้นจากที่ดีอยู่แล้ว และเพื่อ “ระยะยาว” จะได้มีแผนสำรองไว้รองรับ

เช่นเดียวกับ ลิเวอร์พูล ซึ่งจะเจอกันในเกมที่ 8 ที่ก็ต้องหาวิธีมีชีวิตอยู่ให้ได้โดยปราศจาก เฟลิเป้ คูตินโญ่ หรือซาดิโอ มาเน่ หรือแก้ปัญหาเกมรับให้จงได้ครับ



//sport.sanook.com/264237/




 

Create Date : 27 สิงหาคม 2559    
Last Update : 27 สิงหาคม 2559 10:21:12 น.
Counter : 5609 Pageviews.  

มือดีจริง! "จิ้งจอกฟัดสิงห์", "หงส์-ปืน-ผี" งานเบาจับติ้วลีกคัพรอบ 3



มือดีจริง!

มือดีจริง! "จิ้งจอกฟัดสิงห์", "หงส์-ปืน-ผี" งานเบาจับติ้วลีกคัพรอบ 3

ผลการจับสลากประกบคู่ฟุตบอลถ้วยลีก คัพ รอบ 3 ของอังกฤษ ปรากฏว่าบิ๊กแมตช์รอบนี้เป็นการพบกันระหว่างทีมจากลีกสูงสุด

เมื่อ เลสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีก ได้เปิดบ้านรับการมาเยือนของ เชลซี ในขณะที่ทีมจากลีกวัน นอร์ทแธมป์ตัน ทาวน์ ที่ดวลจุดโทษชนะเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 4-3 จะได้พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

คู่อื่นๆที่น่าสนใจ อาร์เซน่อล บุกถิ่นน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกรังสวอนซี ซิตี้, ดาร์บี้ เคาน์ตี้ รับมือลิเวอร์พูล ซึ่งทั้งหมดมีคิวเตะในวันที่ 19 ก.ย. 2559

ผลจับสลากศึกอีเอฟแอล คัพ (ลีก คัพ เดิม) รอบ 3 ฤดูกาล 2016-17

- นอร์ธแฮมป์ตัน ทาวน์ (ลีก วัน) พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
- ลีดส์ ยูไนเต็ด (เดอะ แชมเปี้ยนชิพ) พบ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส (เดอะ แชมเปี้ยนชิพ)
- ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส (เดอะ แชมเปี้ยนชิพ) พบ ซันเดอร์แลนด์
- เวสต์แฮม ยูไนเต็ด พบ แอคคริงตัน สแตนลี่ย์ (ลีก ทู)
- เซาธ์แฮมป์ตัน พบ คริสตัล พาเลซ
- สวอนซี ซิตี้ พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
- ฟูแล่ม (เดอะ แชมเปี้ยนชิพ) พบ บริสตอล ซิตี้ (เดอะ แชมเปี้ยนชิพ)
- บอร์นมัธ พบ เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ (เดอะ แชมเปี้ยนชิพ)
- ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ พบ จิลลิ่งแฮม (ลีก วัน)
- เอฟเวอร์ตัน พบ นอริช ซิตี้ (เดอะ แชมเปี้ยนชิพ)
- ดาร์บี้ เคาน์ตี้ (เดอะ แชมเปี้ยนชิพ) พบ ลิเวอร์พูล
- น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (เดอะ แชมเปี้ยนชิพ) พบ อาร์เซน่อล
- ไบรท์ตัน แอนด์ โฮล์ฟ อัลเบี้ยน (เดอะ แชมเปี้ยนชิพ) พบ เร้ดดิ้ง (เดอะ แชมเปี้ยนชิพ)
- นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (เดอะ แชมเปี้ยนชิพ) พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส (เดอะ แชมเปี้นชิพ)
- สโต๊ค ซิตี้ พบ ฮัลล์ ซิตี้
- เลสเตอร์ ซิตี้ พบ เชลซี


ที่มา  //sport.sanook.com/263981




 

Create Date : 25 สิงหาคม 2559    
Last Update : 25 สิงหาคม 2559 15:08:15 น.
Counter : 955 Pageviews.  

"รวมจังหวะการยกทั้ง 6 ครั้ง ของ โสภิตา ธนสาร"






 

Create Date : 07 สิงหาคม 2559    
Last Update : 7 สิงหาคม 2559 17:41:04 น.
Counter : 652 Pageviews.  

ช็อกวงการ! "รัชนก" ถูกตรวจพบสารกระตุ้น, รอยืนยันจากสหพันธ์แบดฯโลกอีกที



ช็อกวงการ!

ช็อกวงการ! "รัชนก" ถูกตรวจพบสารกระตุ้น, รอยืนยันจากสหพันธ์แบดฯโลกอีกที

ข่าวใหญ่ประจำวันของวงการกีฬาไทย เมื่อ “น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ ส่อแววชวดไปแข่งขันโอลิกปิกเกมส์ ที่ประเทศบราซิลในเดือนหน้า หลังถูกตรวจพบการใช้สารกระตุ้น จากรายการชิงแชมป์เอเชียที่ประเทศจีน เมื่อช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา

รายงานข่าวจากจีนเผยว่า ได้ส่งตัวอย่างปัสสาวะและเลือดของน้องเมย์ ไปตรวจสอบที่ประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง ซึ่งถ้าผลยืนยันว่าไม่ผ่านจริง น้องเมย์ก็จะถูกแบนจากสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) และไม่ได้ร่วมแข่งขันโอลิมปิกเกมส์แน่นอน

ด้าน นายแพทย์ มีชัย อินวู้ด แพทย์ประจำทีมนักกีฬาของการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ออกมาให้ข้อมูลเรื่องนี้ว่า การตรวจสารกระตุ้นที่ทางการกีฬาแห่งประเทศไทยเคยตรวจไปแล้วนั้น ไม่พบว่าน้องเมย์มีการใช้สารกระตุ้นแต่อย่างใด และตามประวัติการตรวจนักกีฬาที่ผ่านมาของ กกท. นั้นเชื่อถือได้

แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอการยืนยันจากสหพันธ์แบดมินตันโลกอีกครั้ง เนื่องจากเป็นหน้าที่ของทาง BWF เมื่อน้องเมย์เดินทางออกไปแข่งนอกประเทศในรายการต่างๆ

ล่าสุดคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย กำลังติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างเร็วที่สุด อย่างไรก็ตามหากผลการตรวจออกมาว่าน้องเมย์ผิดจริง อาจโดนแบนยาว 2-4 ปี เลยทีเดียว

ทั้งนี้ ตัวอย่างสารกระตุ้นที่ส่งไปตรวจนั้น อาจเป็นตัวยาที่น้องเมย์ใช้ในรักษาอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า ซึ่งตอนนี้ได้มีการพูดคุยหารือว่าดำเนินการเรื่องดังกล่าวอย่างไร

อย่างไรก็ดี ถึงตอนนี้ทำได้เพียงแค่รอผลการตรวจ และประกาศอย่างชัดเจนอีกครั้งหนึ่งจากสหพันธ์แบดมินตันโลกเท่านั้น




 

Create Date : 13 กรกฎาคม 2559    
Last Update : 13 กรกฎาคม 2559 21:56:44 น.
Counter : 776 Pageviews.  

ฤา 'นิยายเดนส์' จะซ้ำรอย !?



[สดุดีเวลส์] ฤา 'เทพนิยาย' เดนส์จะซ้ำรอย !?



‘ฟุตบอลคือสิ่งมหัศจรรย์ ..บางครั้งเรื่องเหลือเชื่อก็บังเกิดราวกับทำให้เราต้องมนตร์โดยไม่รู้ตัว’

ผมหวนนึกถึงประโยคนี้พร้อมกับกระหยิ่มยิ้มย่องเบาๆไปกับสิ่งที่สายตาได้ประสบ บางมุมมันอาจทำให้เราเศร้า บางครามันอาจทำให้เราผิดหวัง ทว่าก็มีอยู่หลายครั้งที่ฟุตบอลคือสิ่งสวยงามพร้อมกับทำให้เราต้องทึ่งไปกับสเน่ห์ที่มิอาจลืมเลือน..

เกมระหว่าง เวลส์-เบลเยี่ยม ที่เพิ่งผ่านพ้นไปคืออีกหนึ่ง ‘ความคลาสสิก’ ที่ตอกย้ำความมหัศจรรย์ของโลกลูกหนัง

ใช่ ..นี่คือชาติเล็กๆที่ถูกประเทศแม่ที่เรียกตนเองว่าผู้ดีค่อนขอดมาตลอดว่า ‘เจ้าพวกบ้านนอก’

ก็ถูกอีกที่นี่คือประเทศที่มีอัตราคนตกงานติดท็อปซิกซ์ของยุโรป ..

ทว่าบัดนี้ความเศร้ามองทุกอย่างกำลังจะถูกลืมเลือนไปชั่วขณะ

ชนชาติที่มีประชากรเพียงหยิบมือพร้อมกับไร้ความสำเร็จใดๆ ทำดีที่สุดก็แค่เข้ารอบ 8 ทีมอีกทั้งยังห่างหายกับทัวร์นาเมนต์รายการใหญ่มากว่า 58 ปีกำลังจะสร้างประวัติศาสตร์ที่ทำให้ทั่วทั้งโลกต้องจดจำ..

นี่คือผลงานที่ดีที่สุดในรอบ 140 ปีหรือนับตั้งแต่เริ่มต้นก่อตั้งสมาคมฟุตบอล เป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ และ มีทีท่าว่าเส้นทางแห่งนิยายในครั้งนี้จะดำเนินต่อไปเรื่อยๆหากในวันข้างหน้าพวกเขารักษามาตรฐานฟอร์ม

อาจถูกยกให้เป็น “ม้ามืด” ที่น่าจับตามาตั้งแต่ต้น ทว่าพอเอาเข้าจริงก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่า ทัวร์นาเมนต์นี้ชื่อของเวลส์จะมาแรงเกินคาดจนถึงขั้นหักปากกาเซียนปราบทีมที่ราวกับต้องมนตร์คำสาปอย่างเบลเยี่ยมลงได้

ขุนพล “มังกรแดง” ได้สอนสัจธรรมลูกหนังให้สาวกเบลเยี่ยมที่เดินทางมาเชียร์กว่า 50,000 คนรับรู้ว่า แท้จริงแล้วบอลระบบที่ดีนั้นเป็นอย่างไร เช่นเดียวกับบทเรียนชีวิตที่ว่า

ฟุตบอลมิใช่เรื่องของตัวคนเดียว เก่งกาจแค่ไหนก็ไม่มีวันไปถึงฝั่งฝัน ..

หากไร้ซึ่ง ‘แรงใจ’ และ ‘ความสามัคคี’

การขาดสองยอดเซนเตอร์อย่าง โธมัส แฟร์มาเล่น และ แยน แฟร์ต็องเก้น ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ภูผาหินในเกมรับของดินแดนแห่งช็อกโกแล็ตต้องพังทลาย และ เรรวน ทว่าด้วยตัวผู้เล่นอย่าง เอแด็น อาซาร์, โรเมลู ลูกากู, เควิน เดอ บรอยน์ มองไปข้างสนามก็มีแข้งอย่าง มารูยาน เฟลไลนี่, มิชี่ บาตชูอายี่ รอโอกาสอยู่..

บางที ‘มาร์ค วิลม็อตส์’ กุนซือของทีมควรจัดสรรอะไรได้ดีกว่านี้

หลังจากเจ๊าอยู่ 1-1 ในครึ่งเวลาแรก เข้าสู่ครึ่งหลัง นายใหญ่ผู้ซึ่งเคยผ่านการเล่นฟุตบอลโลกมาแล้ว 4 สมัยจัดการถอดปีกอย่าง การ์ราสโก้ ออกพร้อมกับส่งดาวเตะหัวฟูที่มีรูปร่างสูงใหญ่อย่าง เฟลไลนี่ ลงสู่สังเวียนทันที

วิลม็อตส์ ส่งมิดฟิลด์ร่างโย่งจากแมนฯ ยูไนเต็ด ลงมาด้วยความหวังที่จะใช้ทีเด็ดจากลูกโขกของ เฟลไลนี่ เล่นงานเกมรับเวลส์แต่เปล่าเลยนั่นคือความคิดที่ผิดถนัด ..

การวางแท็คติกลูกโด่งพร้อมบอมบ์ยาวใส่เพื่อหมายเล่นงานใส่ชนชาติที่ได้ชื่อว่าเป็นต้นตำรับสูตรสำเร็จนี้ไม่ต่างกับ ‘ฆ่าตัวตาย’ ทั้งเป็น

สามเซนเตอร์ของเวลส์นำมาโดย แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์ รับมือกับลูกากู และ ผองเพื่อนได้อย่างไม่สะทกสะท้าน, อารอน แรมซี่ย์ กับฟอร์มที่โดดเด่นที่สุดในชีวิต

ในสโมสรแข้งรูปหล่ออาจโดนปรามาสสำหรับสไตล์การเล่นที่สุดเก๊ก และ ความดันทุรังที่จะลากเลื้อยทั้งที่ไม่ใช่มิดฟิลด์ที่เต็มไปด้วยเทคนิคจนบางครั้งบางคราดูจะฝืนเกินควร และ เกะกะสายตา

แต่แล้วผลงานล่าสุดตลอดทัวร์นาเมนต์นี้กับทีมชาติก็ตอกย้ำให้เห็นว่าที่ผ่านมา แฟนบอลอาร์เซน่อลนั้น ‘คิดผิด’ ..

มิดฟิลด์จอมม้วน ‘มีของ’ มากกว่าที่หลายคนคิด และ บางทีอาจเป็น ‘อาร์เซน เวนเกอร์’ ซะมากกว่าที่จับเจ้าตัวเล่นผิดบทบาท

ในวันที่ แกเร็ธ เบล ไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุด ในวันที่เกมรุกของทีมก็ไม่ได้เลิศเลอดีเด่ เป็นอีกครั้งที่ขุนพลเวลส์สามารถเชิดหน้าชูตาใน ‘ฟรองค์ 16’ ต่อไปได้อย่างสง่าผ่าเผยด้วยการเล่นที่มีระเบียบวินัย, รับอย่างอดทนพร้อมกับโต้กลับด้วยจังหวะฉับไวก่อนจะนำมาซึ่งสกอร์อันเฉียบขาด

ในตอนนี้ เบล ไม่ได้กำลังแบกทีมตามที่ทุกคนเข้าใจ ตรงกันข้ามพลพรรค “มังกรแดง” ทุกรายต่างหากที่ช่วยกันประคองพาทีมชุดนี้ให้ไปถึงจุดหมายตลอดรอดฝั่ง

สิ้นสุดเกมนี้พวกเขาจะกรุยทางเข้าสู่รอบรองฯพบกับทีมซึ่งผลงานไม่เอาอ่าวทว่าพกดวงมาเต็มเปี่ยมอย่าง โปรตุเกส นับจากนี้เหลืออีกเพียงไม่กี่อึดใจเท่านั้นนิยายเรื่องนี้ก็จะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ ไม่ว่าพวกเขาจะจอดอยู่ที่รอบ 4 ทีมหรืออกหักเกมนัดชิงในบั้นปลาย

ทุกอย่างก้าวที่เดินล้วนจะถูกจารึกสู่พงศาวดารแห่งประวัติศาสตร์

“เรามาไกลเหลือเกิน ผมโชคดีมากที่ได้สัมผัสกับประสบการณ์อันล้ำค่านี้ ผมอยากเก็บช่วงเวลาแห่งความฝันในค่ำคืนนี้เอาไว้” ถ้อยคำหลังแมตช์ที่ไม่ต้องบรรยายความรู้สึกให้มากความของ คริส โคลแมน นายใหญ่ของทีม

ในปี 1992 คือช่วงเวลาที่ “เทพนิยายยักษ์เดนส์” ถือกำเนิดขึ้น จากมวยแทนที่ส้มหล่นเข้าร่วมแทน ยูโกสลาเวีย ขุนพล เดนมาร์ก กลับสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการทะลุก้าวขึ้นไปเป็น ‘แชมป์’ แบบน่าตาเฉย

12 ปีผ่านไปให้หลังมหากาพย์ยักษ์เดนส์ กรีซสร้างปรากฏการณ์ที่ผู้คนยุคต้นศตวรรษใหม่ไม่มีวันลืมเลือนด้วยการเชือดโปรตุเกส 2-1 พร้อมผงาดคว้าแชมป์ยูโร 2004 อย่างยิ่งใหญ่

บัดนี้เลข 12 เวียนผ่านมาอีกครั้ง กับยูโร 2016 ที่กำลังเดินทางมาถึงโค้งสุดท้าย อะไรจะเกิดขึ้นนับจากนี้ไม่มีใครรู้ ทว่าที่แน่ๆเสียงเพลง ‘Land of Father’ ดังสนั่นพร้อมเต็มไปด้วยความคึกครื้นตลอดเส้นทางการเดินทางกลับที่พัก ณ เมืองลีลล์

จาก ‘เดนมาร์ก-กรีซ’ สู่ ‘เวลส์/ไอซ์แลนด์ 2016’ !?

ได้โปรดเถิดนาคนดี จงหลับตาพร้อมกับนิทราต่อไปดังเช่นที่เคยทำตลอดเดือนที่ผ่านมา..

ได้โปรดใครก็ได้อย่าเพิ่งปลุกให้ตื่นจากภวังค์ ..

ปล่อยให้พวกเขา และ เราได้ฝันต่อไปกับจินตนาการอันงดงามที่ราวกับนิยายนี้ที!


#มาสเตอร์ริท

*********************
ฝากบทความฟุตบอลจ้า อารมณ์มาเต็มครับ ถ้าชอบสามารถเข้าไปติดตาม หรือ กดถูกใจกันได้นะครับที่ https://www.facebook.com/MasterReed.1992/

จะพยายามเอามาลงให้รับชมเรื่อยๆจ้า ติ-ชมกันได้ครับ


ที่มา  //www.soccersuck.in.th/boards/topic/1381615




 

Create Date : 02 กรกฎาคม 2559    
Last Update : 2 กรกฎาคม 2559 17:00:20 น.
Counter : 674 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  152  153  154  155  156  157  158  159  160  161  162  163  164  165  166  167  168  169  170  171  172  173  174  175  176  177  178  179  180  181  182  183  184  185  186  187  188  189  190  191  192  193  194  195  196  197  198  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.