ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 
สกู๊ป : “บทเรียนที่ไม่เคยจำ” โดย “มาสเตอร์ ริท”

สกู๊ป : “บทเรียนที่ไม่เคยจำ” โดย “มาสเตอร์ ริท”

ราวกับวนลูปเดิมพร้อมอย่างไม่มีสิ้นสุด เข้าสู่กลางเดือนมีนาฯแล้ว วัฏจักร “ปืนโต” ก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ถ้วยเอฟเอ คัพ ที่ทำท่าจะเป็นขนมหวานถึงตรงนี้ทุกอย่างกลายเป็นแค่อดีต

จากที่คว้าแชมป์มา 2 สมัยซ้อน ทันทีที่เริ่มต้นวีคใหม่ อาร์เซน่อลแปรเปลี่ยนสถานะเป็นแค่ “แชมป์เก่า” ไปแล้วเรียบร้อย

นับเป็นเรื่องตลกร้ายที่สาวก “กูนเนอร์ส” น่าจะขำไม่ออก เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่พวกเขาต้องเจ็บซ้ำ-เจ็บซ้อนไปกับโชคชะตาอันเจ็บปวด  ภาพเดิมๆที่เราเห็นจนชินตาในทุกฤดูกาลเตรียมย้อนกลับมาฉายซ้ำอีกครั้ง

ความพ่ายแพ้ต่อวัตฟอร์ด 1-2 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาทำให้แฟนปืนใหญ่ต้องตกอยู่ในสภาวะ “เซ็งเป็ด” เปล่าเลยครับพวกเขาไม่ได้อารมณ์บ่จอยไปกับการร่วงตกรอบถ้วยอันศักดิ์สิทธิ์ตรานี้  หากแต่เบื่อหน่ายไปกับ “ความใจมด” ของขุนพลในทีมมากกว่า

ทั้งๆที่นี่คือขุมกำลังชุดจริง  ทั้งๆที่นี่คือรัง ‘เอมิเรตย์ สเตเดี้ยม’ สังเวียนเหย้าอันศักดิ์สิทธิ์ที่ใครต่อใครต้องหวาดผวา  ทว่ากับปัจจุบันทีม “เดอะ กันเนอร์ส” ไม่ต่างกับนักบุญที่พร้อมแจกแต้ม และ มอบชัยชนะให้กับทุกอาคันตุกะที่เข้ามา


จาก 7 เกมหลังสุดที่เล่นในบ้านอาร์เซน่อลกำชัยได้แค่หนเดียว ตลกร้ายกว่านั้นคือ 3 เกมหลังจากทุกรายการพวกเขาจบด้วยความพ่ายแพ้ทุกครา

นี่คือสถิติในรังที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2002 เป็นต้นมา

กับแมตช์ล่าสุดที่เพิ่งผ่านพ้นไป แม้จะครองบอลเป็นส่วนใหญ่แต่นั่นก็จบลงด้วยการถ่ายบอลไป-มา  ส่วนกับฟอร์มการเล่นน่ะหรือ !?  

ชิรูด์ยังคงเป็น “เสาไฟฟ้า” ที่ได้แค่ยืนโยกเยกพลางทำหน้าตาหล่อเหลา , อเล็กซิส กับฟอร์มการเล่นที่ดิ่งเหวอย่างน่าใจหาย  กระทั่งในวันที่วัตฟอร์ดลงไปแพ็คเกมรับทั้ง 11 คนในโซนตนเอง  โอกาสมากองอยู่ตรงหน้าแล้วแท้ๆ..

แต่ก็เป็นอีกครั้งที่ “เดอะ กันเนอร์ส” ทำไม่ได้


แม้ดาวเตะที่ลงสู่สังเวียนรบจะเพียบพร้อมไปด้วยระดับ “พี่เบิ้ม” ของทีมทว่าก็มิอาจช่วยให้อาร์เซน่อลพ้นเงื้อมมือมัจจุราช  ประสบการณ์ที่ผ่านมาของ แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ ไม่ได้ช่วยให้แผงแบ็คโฟร์เหนียวแน่นขึ้นมิหนำซ้ำเป็นเจ้าตัวเสียด้วยซ้ำที่ไม่ต่างกับ ‘บ่อน้ำมัน’ ชั้นดี

นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ  กลายเป็นคาเรคเตอร์ของอาร์เซน่อลไปแล้วที่ในวันที่หน้าสิ่ว-หน้าขวาน  พลพรรค “ปืนใหญ่” จะแสดงความใจเสาะให้เราได้เห็น ไร้ซึ่งความมุ่งมั่น, ไร้ซึ่งความกระหาย .. ไม่มีแม้แต่ความทะเยอทะยาน

โดยส่วนตัวผมเชื่อว่า จุดเปลี่ยนที่ทำให้พายุมหึมาปกคลุมเนิ่นฟ้า เอมิเรตย์ สเตเดี้ยม คือแมตช์ที่พ่ายกับบาร์ซ่า  ส่วนเกมที่พ่าย “ปีศาจแดง” แบบเสียเชิงคือจุดสิ้นสุด ในวันที่โมเมนตัมกำลังเริ่มมา ความเชื่อที่ถูกปลุกระดมเมื่อตอนคว่ำเลสเตอร์กลับถูกพังทลายภายในเสี้ยวพริบตา

โบราณว่าเอาไว้ครับว่า  “ ดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ ” ก็คงเฉกเช่นเดียวกับโลกฟุตบอล
 หากจะดูกำลังพลแล้วก็ต้องแอบเหล่มอง “ดูแม่ทัพ ”

ขุนศึกเป็นเช่นไร แม่ทัพก็เป็นเช่นนั้น .. กับคำให้สัมภาษณ์ล่าสุดของเวนเกอร์  ต่อให้จะตกรอบแบบงามหน้าทว่านายใหญ่มาดละเอียดก็ยังมั่นใจครับว่า  ทีมชุดนี้ยังคงเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ


และแม้ว่าจะพ่ายแพ้ต่อวัตฟอร์ดมาหมาดๆ แต่กับเกมที่ คัมป์ นู ในคืนวันพุธนี้

“ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้”

บางคนอาจฟังแล้วเริ่มมีความหวัง ทว่ากับสาวกที่ต่างก็ชินชากับความเจ็บปวด หากไม่โกหกตัวเองไปซะก่อนย่อมรู้ซึ้งกันดีว่า

ทุกอย่าง “จบสิ้น” แล้ว

ผืนผ้าที่บอกว่า “ Arsene, It’s Time to Say Goodbye” บ่งบอกทุกสิ่งเป็นอย่างดี  “กูนเนอร์ส” ในเวลานี้ต่างกำลังเดือดดาลกับสิ่งที่อดีตฮีโร่ได้ทำ และ นับวันมีแต่หนักข้อขึ้นเรื่อยๆ

 ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ขุนพล “ปืนโต” และ เวนเกอร์ ต้องพิสูจน์ให้แฟนบอลได้เห็นว่า...พวกเขาคือ ‘ของจริง’

กับบทสัมภาษณ์ครั้งล่าสุด  แม้เวนเกอร์จะพรรณนาถึงคำพูดสวยหรู  แต่นั่นก็มิอาจกลบความจริงในอดีตได้ ที่ผ่านมาแฟนบอลบอบช้ำมามากพอแล้ว มันช่างง่ายที่จะใช้จิตวิทยาพูดโน้มนาวราวกับปลุกพลังความเชื่อด้วยความหวัง   

ทว่าณ เวลานี้ สิ่งที่แฟนบอลต้องการ ไม่ใช่เพียงแค่ลมปาก หากแต่เป็น ‘การกระทำ’

ดังนั้นเป้าหมายเดียวที่ทีมดังจากลอนดอนต้องพิชิตให้สำเร็จหากต้องการลดเสียงด่าทอคือแชมป์ “บาร์คเลย์ พรีเมียร์ ลีก”  ที่รอคอยมานานกว่า 12 ปี

แต่จากแนวโน้มที่เป็นอยู่ เชื่อผมได้เลยครับว่า บทสรุปสุดท้ายก็คงไม่ต่างกับภาพเดิมๆที่ฉายซ้ำแล้ว-ซ้ำเล่าเมื่อครั้งอดีต  ฉากเก่าๆที่ทีมพร้อมใจกันร่วงเอฟเอ คัพ, ตกรอบ ชปล. ต่อด้วยพรีเมียร์ฯ ในเวลาไล่เลี่ยกันเปรียบดั่งฝันร้ายเสมือนกับ “บทเรียนที่ไม่เคยจำ”


เวนเกอร์ และ ลูกทีมไม่เคยฉกฉวยความผิดพลาดจากอดีตมาเป็นครูสอนใจเลยแม้แต่น้อย  เป็นครั้งที่เท่าไหร่กันแล้วที่แฟนบอลปืนใหญ่ต้องพบกับชะตากรรมอันเศร้าสลดในวงเวียนเดิมๆดั่งไม่รู้จบ 

ผมเชื่อว่า ตัวนักเตะเองก็มีส่วน ความพลาดพลั้งในอดีตไม่เคยช่วยให้พวกเขาเติบโตขึ้นเลย ทว่าบางทีการที่ “บทเรียนที่ไม่เคยจำ” นี้เวียนว่ายราวกับวัฎจักรมันคงมิใช่เพราะ นักเตะอย่างเดียว 

เป็นตัว “แม่ทัพ” เองนั่นแหละที่ไม่เคยใส่ใจกับการทบทวนบทเรียน

และมีทีท่าว่าจะ “สอบตก” ไปเรื่อยๆ

"ตราบใดที่ยังยึดถือกับอีโก้ตนเอง"



เรื่องโดย : มาสเตอร์ ริท

//sport.sanook.com/212389/




Create Date : 15 มีนาคม 2559
Last Update : 15 มีนาคม 2559 21:40:55 น. 0 comments
Counter : 765 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.