“โล่งอก” ไปนะครับ และคงต้องใช้คำนี้ ชั่วโมงนี้ สำหรับการติดตามเชียร์ และลุ้นทีม “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ล่าสุดเก็บชัยชนะเหนือ คริสตัล พาเลซ ได้หวุดหวิด 1-0 ให้ถึง “ฝั่งฝัน” แชมป์

สกอร์ไลน์นี้ อาจเป็น “สกอร์ฮิต” ของเคลาดิโอ รานิเอรี่ และลูกทีมในช่วงโค้งสุดท้ายแบบนี้ เพราะ 5 นัดล่าสุดที่ชนะ 4 เสมอ 1 นัดให้กับเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 2-2

เลสเตอร์ ชนะ 1-0 เป็น “ไฟนอลสกอร์” ทั้ง 4 เกมไม่ว่าจะกับ นอริช, วัตฟอร์ด, นิวคาสเซิล และนัดนี้ที่ออกเยือนเซลเฮิร์ต ปาร์ค

เรียกได้ว่า จะได้เห็น “สกอร์สูง” เสียประตูแทบทุกนัด และยิงได้เยอะกว่าเหมือนช่วงแรก ๆ ของฤดูกาล หรือเกมมัน ๆ ของพวกเค้า เช่น บุกเชือด เอฟเวอร์ตัน 3-2, บุกถล่ม แมนฯซิตี้ 3-1 หรือเปิดบ้านอัด สโต๊ค และลิเวอร์พูล 3-0, 2-0 ตามลำดับ ไม่มีอีกแล้ว

ใช่ครับ ชั่วโมงนี้ ต้อง “รัดกุม” หรือเล่นไม่เสียไว้ก่อน และหวังความคมของแนวรุกกับ “สปีดบอล” ที่รวดเร็วทำประตูให้ได้ เช่น เกมนี้ซึ่งเป็น “ส่วนผสม” ระหว่าง แดนนี่ ดริ๊งค์วอเตอร์, เจมี่ วาร์ดี้ ก่อนจะไปจบที่ ริยาด มาห์เรซ

พอนำก่อนตั้งแต่ประมาณครึ่งชั่วโมงแรกของเกม ที่เหลือก็เป็นหน้าของ “เกมรับ” ที่ “สปิริต” สูงส่งมากตั้งแต่แดนกลาง เอนโกโล กองเต้ ไปจนถึงนายทวาร แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล

โดยจาก ทั้ง 4 นัดข้างต้นอาจจะมียกเว้นเช่นเกมกับนอริชซึ่งยากลำบากกว่าจะบุกทำประตูทีมนกขมิ้นที่มา “ตั้งรับ” อย่างเดียวได้

ทีมอื่น ๆ ล้วนพยายามทวงประตูคืน และ “กดดัน” แนวรับเลสเตอร์ อย่างหนัก เช่น พาเลซ ทำได้ในครึ่งเวลาหลังแมตช์นี้หลัง อลัน พาร์ดิว เปลี่ยนทั้ง มาร์ติน เคลลี่ ลงไปเป็นแบ็คซ้าย และบาคารี่ ซาโก้ ไปทะลุทะลวงแทน อาเดบายอร์

อย่างไรก็ดีครับ พาเลซ ที่ไม่ชนะใครยาวนานในลีก ตั้งแต่ 19 ธ.ค.ปีก่อน ทำได้ “แค่เสียว” และดีที่สุด คือ ช่วงท้ายเกมก่อนหมดเวลาที่ ดาเมียน เดลานีย์ ซัดไปชนคาน

นอกนั้นดูเหมือนว่า เลสเตอร์ จะ “เอาอยู่”!!!

คำว่า “เอาอยู่” นั้นหมายถึง การเล่นฟุตบอลแบบ winning ugly หรือ “ชนะขี้เหร่”

ทว่าลึก ๆ แล้ว ผมเชื่อว่า ภายใต้ความ “ประหม่า” ที่ใคร ๆ ก็ต้องเป็นแม้จะมีเป็นทีมมีประสบการณ์ลุ้นแชมป์มาก่อนก็เถอะ เลสเตอร์ เชื่อมั่นว่า หากได้ประตูนำก่อน พวกเค้าจะรักษาสกอร์ได้ หรือทำประตูเพิ่มจนเพียงจะชนะได้

แน่นอนครับว่า ทุกอย่างมี “พื้นฐาน” มาจาก “สปิริต” ของทีม และ 11 คนแรกที่ “ลงตัว”, กระหายชัยชนะ และไม่มีบาดเจ็บ

ถึงตรงนี้ ความน่าสนใจจึงอยู่ที่ เลสเตอร์ ดูเหมือนจะ “เก็บชัย” ได้ตลอดไม่ว่าจะเล่นดี? ไม่ดี? วาร์ดี้ หรือมาห์เรซ จะยิงได้ ไม่ได้?

เพราะอย่างน้อย พวกเค้าเสียประตูยากมาก

เหนือสิ่งอื่นใด คือ พิจารณาจากความ “สม่ำเสมอ” จนกลายเป็นความมั่นใจ และคุ้นชินว่าตัวเองมีดีจริง ๆ จนกระทั่งถึงนัดที่ 31 ของฤดูกาลที่มีแต้มมากกว่า สเปอร์ส ในอันดับ 2 ถึง 8 คะแนนแม้จะเตะมากกว่า 1 นัด

การจะเห็นเลสเตอร์ “แป๊ก” ไปเฉย ๆ หรือฟอร์มร่วงไปในฉับพลันจึงยากจะเกิด เพราะสถิติตลอดฤดูกาลที่ผ่านมาไม่ได้ “บ่งบอก” แบบนั้น

ผมเองจำได้ว่า จะมีเพียง 1-2 นัดเท่านั้นในพรีเมียร์ลีกที่เลสเตอร์เล่นได้แย่จริง ๆ เช่น แมตช์ไปเยือนแอนฟิลด์ แล้วแพ้หงส์แดงแบบรับสภาพ 1-0 ชนิดที่โดนได้มากกว่านั้นสบายๆ

ต่างกับคู่แข่งในปีนี้ไม่ว่าจะสเปอร์ส, อาร์เซนอล หรือแมนฯซิตี้ ที่จะมีช่วงเวลา “ขึ้น ๆ ลง ๆ” แบบคาดการณ์ไม่ได้ และมีเรื่อย ๆ ตลอดประมาณ 30 นัดที่ผ่านมา

คำถามเช่น หากอาร์เซนอล เล่นได้แบบปราบเอฟเวอร์ตัน “หมดสภาพ” 2-0 ตั้งแต่ครึ่งแรกเมื่อคืนวันเสาร์ ใครจะสู้อาร์เซนอลได้ในปฐพีนี้!?

ครับ ไม่มีทีมฟุตบอลใด จะเล่นได้สวยงาม ต่อบอลตามช่อง “ได้เนียน” แบบทีมปืนใหญ่สอนบอลทีมทอฟฟี่สีน้ำเงิน และโรแบร์โต้ มาร์ติเนซ อีกแล้วล่ะครับ

แต่อาร์เซนอล ไม่ได้ “สม่ำเสมอ” แบบนี้ หรือเทียบเท่ากับเลสเตอร์

สเปอร์ส กับแมนฯซิตี้ ก็เช่นกัน อันนำมาซึ่ง “ปัจจัยเสริม” การมีสิทธิ์เป็นแชมป์ของเลสเตอร์

ที่ต้องมองนะครับว่า ไม่ใช่แค่ลุ้นให้เลสเตอร์เก็บผลการแข่งขันเท่านั้น แต่ทีมอื่นก็ต้องทำได้เช่นกัน และจะทำได้ดีเท่าเลสเตอร์ซึ่ง “สม่ำเสมอ” กว่า หรือเปล่า?

ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะคาดการณ์ว่า เลสเตอร์ จะเป็นแชมป์หลังจบแมตช์ 35 หรืออีก 4 เกมถัดจากนี้ที่ท่านเซอร์คงวิเคราะห์แล้วว่า “ทีมอื่น ๆ” คงพลาดมากกว่า

ไว้เรามาคอยดูกันหลังแมตช์ เซาฯ (h), ซันเดอร์แลนด์ (a), เวสต์แฮม (h) และสวอนซี (h) ที่เลสเตอร์น่าจะทำได้อีก 12 คะแนนเต็มครับ

//sport.sanook.com/215573/

Create Date : 22 มีนาคม 2559
Last Update : 22 มีนาคม 2559 8:35:09 น.		0 comments
Counter : 691 Pageviews.
Share Tweet