ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

กรรมของเพชฌฆาตโรงฆ่าสัตว์

ชีวิตของคนเรานั้น เกิดมาเพื่อรอวาระสุดท้ายหรือวันตายนั่นเอง เพียงแต่ไม่มีใครหยั่งรู้วันตายของตัวเองได้ว่าจะจบสิ้นเมื่อใด

คนเราล้วนหลายอาชีพ บางคนก็สามารถเลือกทำงานได้ แต่บางคนก็ไม่สามารถเลือกทำงานได้ ความจำเป็นในการดำรงชีวิตนั้นบีบบังคับให้ต้องทำในสิ่งที่ตัวเองไม่อยากทำ แต่ไม่มีทางเลือกจึงต้องทำด้วยภาวะจำยอมเพื่อปากท้องของตัวเองและครอบครัว


นายเบิ้มเป็นคนรูปร่างใหญ่ แต่การศึกษาไม่ค่อยสูงนัก เคยเข้าไปทำงานในกรุงเทพฯมาแล้วแต่ไปไม่ไหว จึงมาประกอบอาชีพเก่าคือ เป็นมือเพชฌฆาตฆ่าหมูเถื่อนเพื่อป้อนให้กับเขียงหมูในตลาด กระทั่งวันหนึ่ง ข้างบ้านจัดงานแต่งงาน ทางเจ้าภาพจะล้มหมูล้มวัว จึงได้ไปบอกกล่าวกับนายเบิ้มเป็นเพชฌฆาตให้ นายเบิ้มไม่ปฏิเสธเพราะเขากับเจ้าภาพคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี และที่รับงานนี้ก็ไม่หวังตอบแทนอะไร ปกติแล้วนายเบิ้มจะไปโรงฆ่าสัตว์ตอนตีสอง


“เกือบชั่วโมง กับ หมูเจ็ดชีวิต”
เพียงแค่ชั่วโมงเดียวก็เสร็จแล้ว จากนั้นก็ช่วยลูกมือชำแหละแยกชิ้นส่วนอวัยวะต่างๆ และจะกลับบ้านไม่เกินหกโมงเช้า พร้อมกับเนื้อหมูไปให้ลูกเมียประกอบอาหาร เพื่อนบ้านเขาจะล้มวัวล้มหมูประมาณตีสามตีสี่เพื่อจะให้ทันปรุงอาหารเลี้ยง แขกที่จะมาร่วมงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบสิบกว่าปีก็ว่าได้ เพราะเจ้าสาวเป็นลูกกำนัน ส่วนเจ้าบ่าวเป็นนักการเมืองที่มีชื่อเสียงระดับจังหวัด และพ่อของเจ้าบ่าวก็เป็นนักการเมืองระดับประเทศเป็นส.ส.ติดต่อกันมาแล้วหลาย สมัย

การล้มหมูล้มวัวก็เพื่อเลี้ยงคนที่มาร่วมงานในตอนเช้าเท่านั้น เพราะในช่วงเย็นจะมีการจัดเลี้ยงแบบโต๊ะจีนที่หอประชุมในตัวจังหวัด โดยมีบุคคลสำคัญๆมาร่วมงานมากมาย จะว่าเป็นงานแต่งครั้งประวัติศาสตร์ของจังหวัดก็คงไม่ผิดนัก แล้ววันสำคัญก็มาถึง นายเบิ้มออกจากบ้านตีหนึ่งกว่า ซึ่งเร็วกว่าปกติเกือบชั่วโมง ตอนนั้นทางโรงฆ่าสัตว์เปิดแล้ว นายเบิ้มก็ลงมือเชือดหมูเคราะห์ร้ายตัวแรกทันที จากนั้นหันไปจัดการตัวอื่นๆ รวมทั้งสิ้นเจ็ดตัว โดยใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง เพราะไม่มีลูกมือช่วยจับโน่นจับนี่ใส่มือให้เหมือนทุกวัน


“กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด”
ระหว่างนั้นลูกมือที่มีเกือบสิบคนก็เริ่มทยอยมากันบ้างแล้ว และคนของกำนันก็มารอรับที่โรงฆ่าหมูรออยู่แล้วด้วย นายเบิ้มสั่งงานลูกมือเสร็จก็ขึ้นรถจักรยานยนต์ไปที่บ้านกำนันแม้นทันที ที่นั่นจะครึกครื้นพอสมควรเพราะมีวงเหล้า รวมทั้งเครื่องเสียงที่เปิดเพลงมาตลอดคืน ลูกมือที่กำนันแม้นจัดหาให้ก็นั่งดื่มเหล้ารอมาทั้งคืน นายเบิ้มเริ่มลงมือเชือดหมูเป็นตัวแรกก่อนจะลงมือเชือดวัวสลับกันไป จากนั้นก็บอกลูกมือที่พอจะเป็นอยู่บ้าง ชำแหละแยกชิ้นส่วนอวัยวะต่างๆโดยแบ่งหน้าที่กันไป ส่วนตัวเองนั่งพักดื่มเหล้าไปพลางๆ

เพราะยังมีหมูกับวัวอย่างละตัวให้เชือดอีก นายเบิ้มดื่มเหล้าได้สองสามแก้วก็ลงมือต่อโดยเริ่มฆ่าหมูเช่นเคยเพราะตัวเอง ถนัด หมูตัวที่สองใช้เวลานานพอสมควร เพราะมันทั้งดิ้นทั้งวิ่งเหมือนจะรู้ตัวว่าถึงวาระสุดท้ายของมันแล้ว กว่าจะจับได้ก็เสียเวลาไปเยอะ แถมยังใช้คนจับมากขึ้นกว่าจะเชือดได้ จนนายเบิ้มเองยังส่ายหน้า เพราะตั้งแต่เป็นมือเพชฌฆาตมาไม่เคยใช้เวลานานถึงนี้เลย หมูเคราะห์ร้ายตัวนั้นกรีดเสียงด้วยความเจ็บปวดอย่างโหยหวน จนบางครั้งถึงกับขนลุก และเสียงร้องของหมูตัวนั้นเองที่ปลุกชาวบ้านให้ลุกก่อนที่ขบวนขันหมากของ ฝ่ายเจ้าบ่าวจะมาถึงในเวลาเจ็ดโมงเช้า


“สะดุดม้านั่งตัวเล็ก มีดได้เสียบทะลุคอ”

นายเบิ้มผละจากหมูแล้วเดินไปหาเจ้าวัวหนุ่มเหยื่อสังเวยงานแต่งตัวต่อไป อย่างใจเย็นพร้อมกับมีดแหลมคมกริบอาวุธคู่มือ แต่ด้วยเหตุผลกลใดไม่ทราบได้ เมื่อนายเบิ้มเดินไปสะดุดเอาม้านั่งตัวเล็กๆ ที่ใช้นั่งชำแหละเนื้อจนตัวเองเสียหลักล้ม ตัวนายเบิ้มเองถลาเป็นนกปีกหักก่อนที่จะล้มคว่ำลงกับพื้นอย่างไม่เป็นท่า และจังหวะนั้นเองที่ปลายมีดได้เสียบทะลุเข้าที่คออย่างจัง “โอ๊ยยยย…” นายเบิ้มร้องเสียงลั่นด้วยความเจ็บปวด มือกำมีดแน่น เพื่อนบ้านที่เป็นลูกมือกว่าสิบคนก็รีบกรูกันเข้าไปหา พอเห็นมีดปักคอของนายเบิ้มเช่นนั้น จึงร้องเอะอะโวยวายจนแตกตื่นไปทั้งคุ้ม
นายเบิ้มถูกหามขึ้นท้ายรถกระบะทั้งที่ยังมีมีดปักคออยู่


ระหว่างที่ถูกนำส่งโรงพยาบาลนั้น นายเบิ้มทั้งดิ้นทั้งร้องด้วยความเจ็บปวดไปตลอดทาง บางครั้งก็กรีดเสียงร้องเสียงแหลมๆเหมือนหมูที่ถูกเชือดคอยังไงยังนั้น สุดท้ายแล้วนายเบิ้มก็ปิดฉากชีวิตของการเป็นมือเพชฌฆาตอย่างน่าสังเวชก่อนจะ ถึงโรงพยาบาล
คุณละ…คิดยังไงกับเรื่องนี้




 

Create Date : 03 มิถุนายน 2557    
Last Update : 3 มิถุนายน 2557 8:43:18 น.
Counter : 8753 Pageviews.  

ทำไมผีดิบในนิยายจีนต้องกระโดด แล้วทำไมไม่เดินปกติ

คือพอดีไปหาข้อมูลเกี่ยวกับผีดิบของจีนแล้วไปเจอคำถามนี้มา แล้วพอดีมีคนตอบในเว็บพันทิบเลยเอามาแชร์ให้ได้รับรู้กัน ผิดถูกประการใดกระผมขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียวครับ (นายตัวดำ) 

 คำถาม : ทำไมผีดิบของจีนถึงมีแต่พวกขุนนาง ไม่มีผีชาวบ้านบ้างเลยหรือ

 ตอบ       แต่ตามประเพณีจีน ก่อนตายต้องใส่ชุดที่ดูดีที่สุดเพื่อการเดินทางการไปใช้ชีวิตหลังความตายหน่ะครับชุดที่ดูดีสุด ในหลายๆความหมายอาจ ก็เลยใช้ชุดเลียนแบบขุนนางหน่ะครับ คนที่พอจะมีเงินทำงานศพได้และหาชุดได้ ก็เลยหาชุดขุนนางใส่ให้ผู้ตายหน่ะครับพวกที่มีน้อยหน่อยก็ชุดธรรมดา ทำเลียนแบบชุดขุนนางแต่ใช้เนื้อผ้าหยาบหน่อย พวกที่รวยๆก็เล่นผ้าไหม ผ้าแพรปักดิ้นเงินดิ้นทองตามงบประมาณกันไป

คำถาม : ทำไมผีดิบในนิยายจีนต้องกระโดด แล้วทำไมไม่เดินปกติครับ

ตอบ   ง่ายๆ ครับ เพราะพอตายไปแล้วเส้นเอ็นในร่างกายมันเเข็งครับ 

มะ..ไม่ช่ายน่ะ เอาเป็นการเป็นงานดีกว่า

             ผีดิบแบบในหนังจีนที่กระโดดแล้วร้องกอยๆๆ เราเคยเรียกว่าผีกองกอยค่ะ55 ภาษาจีนเรียกว่า "เจียงชือ" 僵尸


เรื่องของเจียงชือนี้มีที่มาจากการพาศพคนตายกลับบ้านค่ะ เขาเรียกกันว่า "千里行屍" (ส่งศพพันลี้)


ในกรณีที่มีคนตายต่างถิ่น แล้วญาติของผู้ตายที่ไม่มีเงินค่าพาหนะพอที่จะไปรับศพกลับมาทำพิธีที่บ้าน


ก็จะจ้างนักพรตไปนำศพคนตายกลับมา โดยจะนำทางมาในเวลากลางคืน แล้วนักพรตก็จะมีกระดิ่งไว้สั่นด้วย


เพื่อให้คนที่ได้ยินรู้ว่ากำลังมีพิธีนี้อยู่แถวนั้น เพราะพิธีนี้ถือเป็นลางร้ายสำหรับผู้พบเห็นค่ะ


พิธีนี้อาจเรียกอีกแบบว่า "湘西趕屍" (ขนศพในเซียงซี) เพราะพิธีนี้ป็อบปูล่าร์มากๆในเมืองเซียงซี ที่ผู้คนมักจะออกไปทำงานต่างถิ่น(แล้วก็ม่อง)


แน่นอนว่าศพเดินกลับเองไม่ได้ - - เลยต้องแบกศพในท่ายืนด้วยไม้ไผ่ โดยคนแบกจะมี 2 คน จะอยู่ด้านหน้าและด้านหลัง

มีรูปประกอบด้วยค่ะ เราว่างจัด


ไม่รู้ว่าเอาภาพมาผิดอ่ะเปล่า ภาษาจีนไม่แข็งแรง ถ้าปล่อยไก่กระซิบบอกที55

แอดวานซ์ค่ะมีการแบกหลายแบบแต่ส่วนมากอยู่ในท่ายืน

เอ้าเข้าเรื่องค่ะ ออกทะเลอยู่ตั้งนาน
และด้วยการขนส่งแบบท่ายืนนี่เอง เวลาแบกไปเรื่อยๆ ไม้ไผ่ก็จะเด้งขึ้นเด้งลง คนที่มองไกลๆก็จะเห็นเหมือนว่าศพกำลังกระโดดอยู่นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม มีผู้แย้งว่า แท้จริงแล้วเรื่องเจียงซือหรือพิธีขนศพนี้เป็นเพียงเรื่องแต่งขึ้นมาของขบวนการขนย้ายหรือลักลอบขโมยศพแบบผิดกฎหมาย ถ้าตอบแบบเหนือธรรมชาติก็คือ เจียงชือเป็นศพที่แข็งทื่อ เส้นยึดไรงี้ เดินไปไหนมาไหนไม่ได้เลยต้องกระโดดเอา

ปล.สงสัยว่าถ้าแบกแบบนี้แขนศพไม่หลุดก่อนถึงบ้านเหรอเต่าเอือม

แต่ในอีกทฤษฏีก็บอกว่าไม่น่าจะใช่ เพราะเวลาขนศพคนตายน่าจะนำใส่โลงมากว่า สรุปแล้วก็คือ ในหนังเค้าคงจะทำออกมาให้มีเอกลักษณ์ในความเป็นผีที่ไม่เหมือนชาติอื่นมากว่าน่ะ แต่เอาเหอะ ดูๆไปเอาสนุก อย่าไปเครียดกับมันมากนักเลย 

ที่มา: //pantip.com/topic/31558876
ผู้ให้ข้อมูล : สมาชิก pantip ชื่อ L.H.E.A




 

Create Date : 02 มิถุนายน 2557    
Last Update : 2 มิถุนายน 2557 8:25:03 น.
Counter : 2056 Pageviews.  

10 วิธีในตำนานในการเป็นอมตะ

ความเป็นอมตะ เป็นความปรารถนาของมนุษย์ ที่ต้องการหลีกเลี่ยมความตาย และนั้นเองทำให้มนุษย์คิดค้นหาวิธีการเพื่อเป็นอมตะ จากวิทยาศาสตร์ ศาสตร์ต่างๆ ไปจนถึงนิทานปรัมปราตำนานโบราณ ที่มีการจารึกไว้ถึงวิธีที่มนุษย์เป็นอมตะ หากแต่สิ่งที่พวกเขาได้นั้นมันเป็นความปรารถนา หรือคำสาปกันแน่
10. Eat A Mermaid
ตามตำนานของญี่ปุ่น มีความเชื่อเรื่องเงือกแตกต่างจากที่อื่น โดยเงือกนั้นถูกเรียกว่า “นินเงียว (Ningyo) เป็นเงือกที่มีลักษณะท่อนบ่นเป็นลิงและท่อนล่างปลาคาร์พอาศัยอยู่ในทะเล และปกติจะไม่มีใครพบเห็นนอกเสียจากวันไหนมีพายุรุนแรงก็จะถูกชาวประมงจับ หรือว่าถูกนำพัดเกยฝั่งมาเอง (แต่เป็นลางบอกเหตุว่าเกิดสงคราม) ตามตำนานเชื่อว่าหากมนุษย์คนใดกินเนื้อเงือกจะได้ความเป็นอมตะ หากแต่สิ่งที่ได้มานั้นจะได้รับคำสาป เหมือนดั่งเช่น แม่ชีเบคุนิ แม่ชี 800 ปี ซึ่งได้กินเนื้อเงือกที่พ่อนำกลับมาให้ ผลคือทำให้เธอเป็นอมตะไม่มีวันแก่ตาย แต่สิ่งได้คือเธอต้องทนเห็นคนรอบๆ ตัวเธอตายไปทีละคน ทีละคน ไม่ว่าจะเป็นสามี หรือลูก ผลสุดท้ายเธอก็ตัดสินใจบวชเป็นชีและธุดงค์ภายในถ้ำ และด้วยความเคร่งปฏิบัติธรรมทำให้เธอได้รับความตายสมใจในขณะอายุได้ 800 ปี
9. Taunt Jesus: Christian Mythology
ในศาสนาคริสต์มีเรื่องราวของชาวยิวคนหนึ่งที่ล้อเลียนพระเยซูในระหว่างการเดินทางเพื่อไปตรึงกางเขนโดนเขาพูดว่า “ไปเร็วๆ สิ ทำไมเจ้าถึงอู้” ซึ่งพระเยซูได้พูดตอบกลับยิวผู้นั้นว่า “ข้าไปแน่นอน แต่เจ้าจะต้องอยู่ที่นี้ตลอดไป จนกว่าข้าจะกลับมา” ด้วยความตะหนักในเรื่องนั้น ชาวยิวผู้นั้นได้หันมานับถือคริสต์และรับพิธีจุ่มศีลเรียกชื่อใหม่ว่า “โจเซฟ” แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ก็ได้รับคำสาปแช่ง เขากลายเป็นอมตะไม่มีวันตาย หากแต่สิ่งที่ได้มาคือเขาจะต้องท่องรอบโลกด้วยการเดินโดยไม่รับอนุญาตให้นั่งหรือนอนพัก ยกเว้นวันคริสต์มาส และทุกๆ 100 ปีเขาจะล้มป่วย หลังจากนั้นเขาจะกลับไปเป็นอายุ 30 ปี
8. Anger A God: Greek Mythology
เป็นตำนานที่พบบ่อยในตำนานกรีก ที่เป็นเรื่องราวของมนุษย์หลายคนได้รับโทษหรือกลายร่างเพราะความอวดดี ลบหลู่ หรือพยายามหลอกลวง หรือท้าทายเหล่าทวยเทพ ซึ่งโทษของพวกเขาได้รับนั้นคือการเป็นอมตะ หากแต่สิ่งที่ได้ก็คือการได้ทรมานไปตลอดกาล เป็นต้นว่าซิซีฟัสที่พยายามหลวงลวงซุสและเฮดิส ผลคือถูกลงโทษด้วยการให้เขากลิ้งก้อนหินก้อนใหญ่ขึ้นไปบนเขาสูงชน และเมื่อทุกครั้งที่ถึงยอด หินนั้นจะหลุดมือกลิ้งตกลงไป ทำแบบนี้ไม่มีสิ้นสุด และอีกเรื่องหนึ่งกษัตริย์อิกซ์เซียนที่ฆ่าพ่อแท้ๆ ของเขา แต่ซุสให้อภัย แต่ในข๊ณะที่เขาอยู่ภูเขาโอลิมปัสเขาพยายามข่มขืนเฮร่า ผลก็คือเขาถูกลงโทษด้วยการถูกจับมัดติดกับล้อไฟที่หมุนแผดเผาไปตลอดกาล
7. Cinnabar: Taoism
แร่ชาด เป็นแร่ที่พบบ่อยของปรอท มีสีแดง และเป็นส่วนผสมของยาอายุวัฒนะของลัทธิเต๋าที่เชื่อว่าทำให้เป็นอมตะเรียกว่า “Huandan” หรือ “ยาอายุวัฒนะหวนกลับ” ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าการบริโภควัสดุบางอย่างเช่นชาดหรือทองจะสามารถทำให้สภาพร่างกายสมบัติและกำจัดขับสิ่งสกปรกในร่างกายออกมาทำให้เป็นอมตะ แต่อย่างไรก็ตาม การนำแร่ชาดเป็นยานั้นถือว่านี้นกลับกลายเป็นว่าทำให้คนจำนวนมากต้องตาย เพราะพิษปรอท รวมไปถึงจักรพรรดิราชวงศ์ถังหลายพระองค์ที่เสียชีวิตก่อนวัยอันควร ต่อมาก็มีการเปลี่ยนความคิด “การแปรธาตุภายนอก” เปลี่ยนเป็น “การแปรธาตุภายใน” ซึ่งเป็นที่จะต้องควบคุมพลังงานธรรมชาติอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยจะต้องผ่านการเล่นโยคะหรือการปฏิบัติอื่นๆ เพื่อหวังความเป็นอมตะ
6. An Unknown Plant: Sumerian Mythology
ในมหากาพย์กิลกาเมช หนึ่งในงานวรรณกรรมประเภทนิยายที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ได้เล่าว่ากิลกาเมช กษัตริย์ในตำนาน แห่งนครอุรุค ในอาณาจักรบาบิโลนโบราณ ที่ค้นหาวิธีการเป็นอมตะเนื่องจากเขากลัวความตาย (เริ่มกลัวหลังจากสูญเสียเพื่อนรักของเขา) โดยออกเดินทางไปยังต้นน้ำแห่งแม่น้ำทั้งมวลของโลก เพื่อค้นหา อุชนาปิชติม มนุษย์ผู้รอดตายจากเหตุการณ์น้ำท่วมโลกและได้รับพรจากเทพเจ้าให้เป็นอมตะ กิลกาเมชออกเดินทางเพียงลำพังและเผชิญหน้ากับอันตรายมากมาย จนกระทั่งมาพบอุชนาปิชติม และบอกให้เขาไปหาต้นไม้ที่กินแล้วจะสามารถมีชีวิตอันเป็นนิรันดร์ (หรือต้นไม้แห่งการกลับคืนสู่ความหนุ่มสาว) ซึ่งต่อมากิลกาเมชก็พบต้นไม้ที่ว่านั้นในจุดสิ้นสุดของโลก ทว่าระหว่างเดินทางกลับก็มีงูตัวหนึ่งได้มากินต้นนั้นทั้งต้นไป ทำให้เหล่างูทั้งหลายสามารถลอกคราบเพื่อกลับคืนสู่ความเป็นหนุ่มเป็นสาวได้อีกครั้ง แม้กิลกาเมชจะผิดหวังกับความพยายามที่สุดท้ายก็สูญเปล่า แต่ในที่สุด เขาทำใจได้ ก็ จากนั้นกิลกาเมชก็สั่งให้ขุนนางจารึกเรื่องราวการเดินทางของพระองค์ไว้ที่ฐานของประตูเมืองและกลายเป็นตำนานที่เล่าขานมานานนับพันปี
5. Peaches Of Immortality: Chinese Mythology
ในตำนานไซอิ๋วได้กล่าวถึงความถึงบทบาทของตัวละครตัวหนึ่ง เชื่อ เห้งเจีย (ลิง) พญาลิงผู้เป็นอมตะ กล่าวกันว่าสมัยก่อนมันเป็นลิงธรรมดา (แม้ชาติกำเนิดมันจะเหนือธรรมชาติก็เถอะ) หากแต่วันหนึ่งมันได้เห็นลิงในฝูงตายเพราะความแก่ มันเลยออกเดินทางหาวิชาเพื่อไม่ให้เกิดแก่เจ็บตาย จนในที่สุดก็พบเซียนและเล่าเรียนจนมีวิชาอาคมเก่งกล้าสามารถและได้รับชื่อว่า “ซุนหงอคง” ต่อมาหงอคงก็ลำพองใจจึงใช้วิชาที่ได้มาอาละวาดตามที่ต่างๆ จนสะเทือนถึงสวรรค์ ทำให้เง็กเซียนฮ่องเต้ต้องเสนองานมาให้หงอคงเพื่อความก้าวร้าวลง ตอนแรกเป็นคนเลี้ยงม้า แต่ตอนหลังเปลี่ยนมาเป็นผู้พิทักษ์สวนพีชหรือสวนท้อบนสวรรค์ และมันก็ได้แอบกินลูกพีชของสวรรค์ จนมันมีอายุ 1000 ปี (ว่ากันว่าแต่ละผลมันจะสุกทุก 3,000 ปี ซึ่งมีไว้เพื่อมอบให้แก่เทพองค์อื่นเพื่อมีอายุมากขึ้นต่อไป) และขโมยยาอายุวัฒนะของเทพเจ้าดาวพระศุกร์กินจนหมดห้อง ในที่สุดหงอคงก็ทำสงครามกับทวยเทพ ซึ่งในที่สุดก็ถูกองค์ยูไล(พระพุทธเจ้าในความเชื่อของชาวจีน) ปราบ โดยให้หงอคงถูกทับด้วยภูเขาหินนาน 500 ปี และผู้ที่จะช่วยออกมาได้ คือ พระถังซัม และเห้งเจียต้องบวชเป็นลูกศิษย์รับใช้พระถังซัมจั๋งไปชมพูทวีป และมีหน้าที่คุ้มครองพระถังซัมจั๋งไปตลอดทาง
4. Amrita
อมฤตา หรือ อมฤต เป็นคำภาษาสันสกฤต นั้นคือน้ำทิพย์ใน ศาสนาฮินดู หยาดน้ำหวานนี้แม้เทพเจ้าก็ยังปรารถนา ตามตำนานกวนเกษียรสมุทรนั้นเล่าว่าสมัยโบราณเทพกับอสูราเป็นศัตรูกัน รบราฆ่าฟันกันมาตลอด หากแต่ฝ่ายเทพมักรบแพ้บ่อยครั้ง จนกระทั่วเหล่าเทพได้ทำพิธีกวนเกษียรสมุทรในทะเลน้ำน้ำเพื่อให้ได้น้ำอมฤตที่ดื่มแล้วไม่มีวันตาย แต่การกวนนั้นต้องใช้พละกำลังเยอะและใช้กวนนานนับพันปี ทำให้ต้องมีการออกอุบายหลอกให้พวกอสุรามาช่วยเหลือด้วย จนกระทั่งพันปีต่อมาก็ได้น้ำอมฤต ระหว่างนั้นก็มีสิ่งวิเศษต่างๆ ที่ออกมาก่อนน้ำอมฤตมากมาย รวมไปถึงนางอัปสร ทำให้พวกยักษ์เอาแต่ไล่จับพวกนางจนลืมดื่มน้ำอมฤตไป ยกเว้นยักษ์ราหูที่ไม่ได้ลืมจุดประสงค์ มันได้ดื่มน้ำอมฤตพร้อมกับเทพองค์อื่นๆ ด้วย) ผลก็คือเทพก็กลายเป็นอมตะไม่วันตาย และขับไล่พวกยักษ์ออกไปในที่สุด
3. The Golden Apples: Norse Mythology
แอปเปิ้ลทองคำของตำนานนอร์สนั้นมีความแตกต่างจากแอปเปิ้ลทองคำของกรีก ตรงที่เทพนอร์สให้ความสำคัญกับมันมาก เพราะพวกเขาจำเป็นต้องกินแอปเปิ้ลทองคำนี้เพื่อรักษาความเป็นอมตะนิรันดร์ (เป็นหนุ่มสาวอีกครั้ง) โดยให้อีดูน(Idun) เทพีแห่งฤดูใบไม้ผลิเป็นผู้เก็บรักษาสวนผลไม้ของพวกเขา ตามตำนานเล่าว่าอีดูนถูกโลกิหลอกล่อ และส่งมอบเธอให้กับยักษ์ธีอาสซีพร้อมตะกร้าใส่ผลแอปเปิ้ลทองคำ เมื่อขาดเทพธิดาอีดูนและผลแอบเปิ้ลวิเศษ เหล่าเทพเจ้านอร์สก็เริ่มแก่เฒ่า และอำนาจเริ่มเสื่อมถอยลง แต่ผลสุดท้าย โลกิจึงได้แปลงร่างเป็นนกเหยี่ยว พาเทพธิดาอีดูน (ที่แปลงร่างเป็นเมล็ดถั่ว) และผลแอปเปิ้ลทองคำหนีจากดินแดนของยักษ์ธีอาซี่ ทำให้เทพเจ้านอร์สกลับมาหนุ่มสาวอีกครั้ง
2. Ambrosia: Greek Mythology
Ambrosia เป็นเครื่องดื่มของเทพเจ้ากรีก ซึ่งถูกพรรณนาว่ารถชาติเหมือนน้ำผึ้งทิพย์ ที่ถูกส่งยังโอลิมปัสโดยนกพิราบ และเป็นแหล่งที่มาของความเป็นอมตะของเทพเจ้า สามารถเอาชนะความตายได้ (ปัจจุบันคำนี้ใช้แทนความหมายว่าอาหารอร่อย หรืออร่อยขั้นเทพ) แม้เป็นเครื่องดื่มของเทพเจ้า แต่มนุษย์ปุถุชนธรรมดาก็ได้ลิ้นลอง เช่นเฮอร์คิวลีส ในขณะที่บางคนถูกให้ดื่มเพื่อถูกลงโทษตลอดกาล เช่น แทนทาลัสที่ได้ลิ้มลองเครื่องดื่มชนิดนี้และแอบเอาอาหารทิพย์กลับไปบนโลก ภายหลังถูกลงโทษจากการจากการเอาลูกของตนเองมาทำสตูให้เทพเจ้ากิน เขาล่ามโซ่ตรึงให้ยืนแช่น้ำทะเลสาบและไม่สามารถดื่มน้ำหรือกินผลไม้ที่อยู่เหนือหัวได้ เพราะหากกินจะพบกันความสิ้นหวังในนาทีสุดท้าย จนกลายมาเป็นคำกริยาในภาษาอังกฤษว่า Tantalize แปลว่า ความทรมานด้วยความผิดหวัง
1. The Holy Grail: Christian Mythology
เป็นตำนานศาสนาคริสต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด จอกศักดิ์สิทธิ์ เป็นจาน ชาม หรือถ้วย ซึ่งพระเยซูทรงใช้ในพระกระยาหารมื้อสุดท้าย และเชื่อว่าเป็นภาชนะที่โจเซฟใช้จอกรองรับพระโลหิตของพระเยซูเอาไว้ขณะถูกตรึงบนไม้กางเขน ตำนานจอกศักดิ์สิทธิ์ ปรากฏในงานเขียนของโรเบิร์ต เดอ โบรอน เรื่อง Joseph d'Arimathie (ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 12) โดยโจเซฟได้รับจอกมาจากพระเยซูหลังฟื้นคืนพระชนม์ และได้เดินทางพร้อมผู้ติดตามไปยังเกาะบริเตนใหญ่ และเป็นหัวใจสำคัญส่วนหนึ่งในตำนานกษัตริย์อาเธอร์ ซึ่งเชื่อกันว่าใครได้ครอบครองจอกศักดิ์สิทธ์แล้วนั้นจะมีอำนาจมากและเมื่อใครได้ดื่มน้ำจากจอกศักดิ์สิทธ์แล้วจะเป็นอมตะ หรือ ถ้าได้ดื่มน้ำจากจอกศักดิ์สิทธ์แล้วเมื่อมีโรคภัยไข้เจ็บหรือเป็นอะไรทางร่างกาย เช่น โดนธนูยิงใส่เมื่อดื่มน้ำผ่านจอกนี้แล้วแล้วเอาน้ำนั้นมาราดลงบนแผลที่เป็นแล้วแผลนั้นจะหายเป็นปลิดทิ้ง






 

Create Date : 01 มิถุนายน 2557    
Last Update : 1 มิถุนายน 2557 12:00:29 น.
Counter : 2580 Pageviews.  

รวมภาพสุดหลอน ภาพนี้กดติดวิญญาณ

จะเกิดอะไรขึ้น ! เมื่ออยู่ดีดีภาพถ่ายที่คุณตั้งใจจะบันทึกเรื่องราวความทรงจำ กลับมีสิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็นติดเข้ามาด้วย จากภาพสวยกลายเป็นภาพที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ดัน...กดติดวิญญาณ เข้ามาร่วมเฟรมซะงั้น  คุณล่ะเคยมีประสบการณ์ถ่ายติดวิญญาณกันบ้างไหม  ถ้ายังไม่เคย  PaiNaiDii  ได้รวบรวมภาพติดวิญญาณที่รับรองว่าจะทำเอาขนลุกซู่ไปทั้งตัวมาให้ชมกัน เตรียมใจกันหรือยัง ถ้าพร้อมแล้วก็ไปชมภาพแรกกันเลย...บรื๋ออออออออ

ภาพติดวิญญาณ ผี ชัตเตอร์ ภาพนี้มีวิญญาณ ภาพผี เว็บท่องเที่ยว ไปไหนดี painaidii หลอน สยอง น่ากลัว

เพื่อนไม่เคยทิ้งกัน ภาพแรกที่นำมาให้ชม เป็นภาพถ่ายติดวิญญาณเพื่อนรักที่เรียนด้วยกันมา แต่เพื่อนคนหนึ่งได้เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อเพื่อน 2 คนที่เหลือ ได้ถ่ายรูป ก็พบว่ามีภาพติดวิญญาณเพื่อนมาด้วย  เป็นคุณเจอเพื่อนรักตามติดแบบนี้ จะทำยังไง!!!

ภาพติดวิญญาณ ผี ชัตเตอร์ ภาพนี้มีวิญญาณ ภาพผี เว็บท่องเที่ยว ไปไหนดี painaidii หลอน สยอง น่ากลัว

(Thanks.photo : https://www.facebook.com/thaighostvideo)

หนูน้อยผู้นี้คือใคร? ภาพนี้อาจจะเหมือนภาพธรรมดา แต่ความจริงแล้วไม่มีใครรู้ว่าเด็กน้อยใต้ต้นตะเคียนเป็นใคร มาจากไหน ภาพนี้ถูกถ่ายขึ้นขณะที่ทุกคนกำลังกราบไหว้ต้นตะเคียน ที่อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด  กลายเป็นปมปริศนาที่ชาวบ้านแถวนั้นอยากคลี่คลาย ถึงขนาดต้องไปตามหาคนเข้าทรงให้มาดูสิว่า "เธอคือใคร” แต่สุดท้ายก็ไม่มีคำตอบ

ภาพติดวิญญาณ ผี ชัตเตอร์ ภาพนี้มีวิญญาณ ภาพผี เว็บท่องเที่ยว ไปไหนดี painaidii หลอน สยอง น่ากลัว

เจนสัมผัสได้...ว่านี่ไม่ใช่คนแน่นอนค่ะ เพราะถ้าเป็นคนจริงๆ คงไม่ใครพิเรนทร์ไปนั่งเล่นบนโลงเป็นแน่  ภาพนี้ถ่ายได้ในงานศพงานหนึ่ง เมื่อเหล่าเพื่อนฝูงต่างพากันมาแสดงความอาลัยถ่ายภาพร่วมกันเป็นครั้งสุดท้าย และพ่อหนุ่มตัวสีเทาบนโลงก็ไม่พลาดที่จะร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกเช่นกัน

ภาพติดวิญญาณ ผี ชัตเตอร์ ภาพนี้มีวิญญาณ ภาพผี เว็บท่องเที่ยว ไปไหนดี painaidii หลอน สยอง น่ากลัว

(Thanks.photo : https://www.facebook.com/shockfmclub)

นอนหนุนแขนสบายจัง! ภาพนี้ถูกส่งมาจากท่านสมาชิกแฟนเพจ The Shock ท่านหนึ่ง ที่ถ่ายขึ้น ณ โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี ให้สังเกตมือบนบ่า ปริศนามือใคร? ภาพนี้เจ้าตัวถ่ายเองโดยใช้มือซ้ายกดถ่ายภาพตัวเอง มือขวาแนบอยู่ข้างลำตัว  ภาพนี้ทำให้เราได้คิดว่าเมื่อเราจะเช็คอินเข้าพักโรงแรม อาจจะต้องตรวจสอบข้อมูลดีดี เพราะห้องที่เรากำลังจะเช็คอินอาจจะมีพลังงานที่ไม่เคยจะเช็คเอาท์ออกเลยรอต้อนรับเราอยู่ก็เป็นได้

ภาพติดวิญญาณ ผี ชัตเตอร์ ภาพนี้มีวิญญาณ ภาพผี เว็บท่องเที่ยว ไปไหนดี painaidii หลอน สยอง น่ากลัว

(Thanks.photo : https://www.facebook.com/theshock13)

ทำอะไรกันอยู..มีอะไรให้ช่วยมั้ย?  จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเหล่าอาสาสมัครกำลังช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ  แต่แล้วก็เกิดภาพในวงกลมสีแดงซึ่งเป็นใบหน้าชายที่ชุ่มไปด้วยเลือดเข้ามาดูอยู่ใกล้ๆ  ภาพนี้ถ่ายโดยนักข่าวท่องถิ่นที่ไปทำข่าวในขณะนั้น  ซึ่งเขาต้องผงะ! เมื่อกลับมาเช็คภาพ ลองมองให้ลึกดีๆ ว่าเขาใช่คนเหมือนเราหรือเปล่า

ภาพติดวิญญาณ ผี ชัตเตอร์ ภาพนี้มีวิญญาณ ภาพผี เว็บท่องเที่ยว ไปไหนดี painaidii หลอน สยอง น่ากลัว

(Thanks.photo : https://www.facebook.com/theshock13)

อยากเต๊ะท่าถ่ายภาพก็คงต้องเลือกสถานที่กันหน่อย งานนี้บอกได้คำเดียวสำหรับภาพนี้ "สยอง” ชายผู้นี้ถ่ายภาพหลังรถRefer ของโรงพยาบาลแห่หนึ่งในจังหวัดระยอง เขาคนนี้คงอยากถ่ายภาพเดี่ยว แต่หนูน้อยตาโบ๋ด้านหลังคงซุกซนเลยขอแจมด้วยซะหน่อย

ภาพข่าวสุดหลอน

ภาพติดวิญญาณ ผี ชัตเตอร์ ภาพนี้มีวิญญาณ ภาพผี เว็บท่องเที่ยว ไปไหนดี painaidii หลอน สยอง น่ากลัว

(Thanks.photo : https://www.facebook.com/shockfmclub)

ภาพดังในข่าว ภาพนี้ถูกนำมาตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์อยู่หลายฉบับ แม้แต่กระทู้ในPantip ยังมีคอมเม้นต์กล่าวถึงภาพนี้  ต่างวิพากวิจารณ์กันมากมาย โดยภาพนี้ถูกถ่ายขึ้นที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งในจังหวัดปัตตานี  แม่ลูกคู่หนึ่งใช้กล้องจากโทรศัพท์มือถือถ่ายภาพ ปรากฏว่าติดภาพคล้ายหญิงสาวใส่เสื้อยืดสีเทา กางเกงขาสั้นสีฟ้า แต่ในห้องนั้นมีเพียงแม่กับลูกคู่นี้เท่านั้น มีคนเอาภาพนี้ไปให้ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนั่งทางในดู  ระบุเป็นหญิงวัยรุ่นที่ถูกฆาตกรข่มขืน ฆ่าตายไปเมื่อ 14-15 ปีก่อน พร้อมระบุชื่อนามสกุลให้เสร็จ ขนลุกซ้ำพอไปตรวจสอบประวัติ พบมีผู้หญิงชื่อนามสกุลนี้ และโดนฆ่าตายไปแล้วจริง 

ภาพติดวิญญาณ ผี ชัตเตอร์ ภาพนี้มีวิญญาณ ภาพผี เว็บท่องเที่ยว ไปไหนดี painaidii หลอน สยอง น่ากลัว

(Thanks.photo : https://www.facebook.com/shockfmclub)

ภาพปริศนาในงานศพของเจ้าหน้าที่กู้ภัย นายนิรันดร์ สร้างพล หรือหมี อายุ 37 ปี เป็นอาสาสมัครรหัส ฉก.ใต้ 10 ซึ่งได้รับประสบอุบัติเหตุถูกรถชนเสียชีวิต ภาพนี้ถูกถ่ายในพิธีรดน้ำศพ โดยเพื่อนอาสาสมัครของผู้ตาย ได้ให้เพื่อนอีกคนใช้โทรศัพท์ถ่ายภาพ กดชัตเตอร์ไป 2 ช็อต  ช็อตแรกปกติ แต่ช็อตที่2 ปรากฏ "ขาของชายปริศนาผู้หนึ่งไปยืนอยู่ด้านหลังแท่นวางรูปหน้าศพ" ที่ขาข้างซ้ายสวมรองเท้าผ้าใบสีดำ ส่วนที่ขาข้างขวาไม่สวมรองเท้า หลายคนเชื่อว่าขานั่นคือวิญญาณผู้ตายแน่นอน เนื่องจากรูปร่างเท่ากัน และตอนผู้ตายประสบเหตุสวมรองเท้าผ้าใบสีดำ และเหลือแค่ข้างซ้ายเท่านั้นที่ติดอยู่กับศพ ส่วนข้างขวาไม่มีใครหาเจอ

ภาพติดวิญญาณ ผี ชัตเตอร์ ภาพนี้มีวิญญาณ ภาพผี เว็บท่องเที่ยว ไปไหนดี painaidii หลอน สยอง น่ากลัว

(Thanks.photo : https://www.yehyeh.com)

หันมายิ้มหน่อยจ้า ^__^ แต่จะยิ้มออกกันมั้ย ถ้าในขณะถ่ายรูปเพื่อน แต่บังเอิ๊ญ บังเอิญ ติดภาพหน้าหญิงสาวที่มีใบหน้าซีดเผือด ขอบตาดำปี๋ แน่นอนแล้วว่าเธอผู้นี้ไม่ใช่เพื่อนเราแน่ เพราะคงไม่มีใครแต่งหน้าสไตล์นี้มาเรียน ภาพนี้ถูกถ่ายในห้องเรียนของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ตากล้องหลังกดชัตเตอร์ก็รีบเช็คภาพทันที เธอกรี๊ดลั่นห้อง เมื่ออาจารย์ผู้สอนได้เห็นจึงหยุดสอน และปล่อยนิสิตกลับบ้านทันที หากต้องให้เรียนต่อ อาจารย์คงต้องเช็คชื่อเพิ่มเข้าลิสย์อีกคนก็เป็นได้

ภาพติดวิญญาณ ผี ชัตเตอร์ ภาพนี้มีวิญญาณ ภาพผี เว็บท่องเที่ยว ไปไหนดี painaidii หลอน สยอง น่ากลัว

(Thanks.photo : https://www.facebook.com/theshock13)

ขอเล่นด้วยคนนะ งานวัดสุดฮือฮาเมื่อภาพนี้ถูกชาวสังคมออนไลน์แชร์ภาพผ่านทวิตเตอร์ ภาพบรรยากาศงานวัดที่เต็มไปด้วยร้านค้า และผู้คนที่เข้ามาเที่ยวในงาน ภาพนี้มองผิวเผินอาจจะไม่มีอะไร แต่ลองมองบนชิงช้าสวรรค์ จะเห็นมีมีวัตถุรูปร่างคล้ายคนนั่งอยู่ หรือว่า...เป็นช่วงพักของบ้านผีสิงในงานวัด เขาก็เลยอยากมาเล่นชิงช้าสวรรค์บ้างก็เป็นได้

ภาพสุดสยองของเหล่าคนในวงการบันเทิง

ภาพติดวิญญาณ ผี ชัตเตอร์ ภาพนี้มีวิญญาณ ภาพผี เว็บท่องเที่ยว ไปไหนดี painaidii หลอน สยอง น่ากลัว

ดูภาพถ่ายติดวิญญาณของคนทั่วไปมาแล้ว คราวนี้มาดูคนดังกับภาพสุดหลอนกันบ้าง เริ่มต้นด้วยภาพของนักแสดงชื่อดัง สุนิสา เจทเป็นภาพที่ถ่ายแบบตีพิมพ์ลงในนิตยสารฉบับหนึ่ง ตอนแรกไม่มีใครสังเกตเห็น  จนเมื่อหนังสือออกวางจำหน่ายไปแล้วจึงมีคนเห็น  ให้สังเกตขาที่สามโผล่ออกมา ที่ไม่รู้ว่าเป็นขาของใคร ที่สำคัญขานั้นยังมีลักษณะเหมือนขาบนจิตรกรรมฝาผนังที่อยู่ด้านหลังอีกด้วย

ภาพติดวิญญาณ ผี ชัตเตอร์ ภาพนี้มีวิญญาณ ภาพผี เว็บท่องเที่ยว ดิว อริสรา ไปไหนดี painaidii หลอน สยอง น่ากลัว

(Thanks.photo :https://www.facebook.com/GubgibSumontipPhilippines)

ดาราสาว ดิว อริสรา สุดหลอน เมื่อพบภาพถ่ายติดขาวิญญาณในรถลีมูซีนที่มาเก๊า โดยภาพๆนี้ถ่ายในระหว่างที่สาวๆ ไปพักผ่อนที่มาเก๊า เมื่อวันที่ 28-30 กันยายน 2556 ที่ผ่านมา  งานนี้  ดิว อริสรา เจ้าตัวได้ซูมดูภาพบริเวณขาของเธอ พบว่ามีทั้งแผลเป็น ขนขาและสีผิวก็เข้ม จึงแน่ใจว่าไม่ใช่ขาตัวเองแน่นอน ว่าแต่มันเป็นขาของใครกันล่ะ ???

โยกเยก ตลก ภาพติดวิญญาณ ผี ชัตเตอร์ ภาพนี้มีวิญญาณ ภาพผี เว็บท่องเที่ยว ไปไหนดี painaidii หลอน สยอง น่ากลัว

(Thanks.photo :https://www.facebook.com/SmakhmNiymKheruxngrangXathrrph)

โยกเยก ตลกร่างใหญ่ สุดช็อก! เมื่อได้ชมภาพที่แฟนคลับถ่ายเอาไว้ จากในภาพจะเห็นว่าไม่มีอะไร เป็นเพียงรูปคู่ธรรมดา ถ่ายเพียง 2 คน แต่เมื่อสังเกตจากเงาในกระจกด้านหลัง กลับมีคนถึง 3 คน!!!   ผู้ชายที่เอามือไขว้หลังที่ยืนข้างๆ เป็นใครมาจากไหน ไม่มีใครรู้  แต่ที่แน่ๆ เขาคนนี้คงอยากถ่ายรูปกับตลกซุปตาร์ด้วยแน่ๆ

ภาพติดวิญญาณ ผี ชัตเตอร์ ภาพนี้มีวิญญาณ ภาพผี เว็บท่องเที่ยว ไปไหนดี painaidii หลอน สยอง น่ากลัว พิม ซาซ่า

เอาอีกแล้วกับมือปริศนา ภาพถ่ายของดาราสาว พิมพ์ พิมพ์มาดา ที่ถ่ายคู่กับหนุ่ม ต่าย นัฐฐพนธ์ ที่แชร์ลงไว้ในอินสตาแกรมส่วนตัว แต่ปรากฏว่าแฟนคลับขี้สงสัยต่างพากันสังเกตเห็นแขนและมือของสาวพิมพ์ ที่ดู "แมน" ผิดปกติ จนพากันลือว่าเป็นภาพถ่ายติด "มือผี" 

รวมภาพ "ไม่มีเงาหัว"

ดูภาพหลอนๆ ถ่ายติดสิ่งลี้ลับกันมามากแล้ว ก่อนจากกันขอพักทิ้งท้าย แบบเบาๆ งานนี้ไม่มีวิญญาณ แต่แค่อยากรู้ว่า เงาหัวหายไปไหน? เท่านั้นเอง

ภาพติดวิญญาณ ผี ชัตเตอร์ ภาพนี้มีวิญญาณ ภาพผี เว็บท่องเที่ยว ไปไหนดี painaidii หลอน สยอง น่ากลัว ไม่มีเงาหัว

(Thanks. Photo :https://www.facebook.com/shockfmthailand)

 ภาพงานเลี้ยงในต่างจังหวัด ที่คุณผู้ชายเสื้อขาวเดินไปมาโดยไร้เงาของศีรษะ 

ภาพติดวิญญาณ ผี ชัตเตอร์ ภาพนี้มีวิญญาณ ภาพผี เว็บท่องเที่ยว ไปไหนดี painaidii หลอน สยอง น่ากลัว ไม่มีเงาหัว

(Thanks. Photo :https://www.facebook.com/shockfmthailand)

 ภาพโคโยตี้ที่มาแสดงในงานวัดแห่งหนึ่ง เป็นเพราะเต้นในที่ที่ไม่เหมาะสมหรือเปล่า เงาหัวถึงหายไปอย่างไร้ร่องรอย

ภาพติดวิญญาณ ผี ชัตเตอร์ ภาพนี้มีวิญญาณ ภาพผี เว็บท่องเที่ยว ไปไหนดี painaidii หลอน สยอง น่ากลัว ไม่มีเงาหัว

(Thanks. Photo :https://www.facebook.com/shockfmthailand)

 ภาพพิธีแสดงความเคารพ ให้สังเกตคุณผู้หญิงที่รอต่อแถวเพื่อแสดงความเคารพ เงาหัวตั้งแต่บ่าขึ้นไป หายไปอย่างชัดเจน 

 ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ภาพหลอน ถ่ายติดวิญญาณไปจนถึงภาพที่เงาหัวหายไปทั้งหมดนี้  PaiNaiDii ได้รวบรวมมาให้ชม ไม่ได้ต้องการเสนอแค่ความน่ากลัวเท่านั้น  แต่อยากจะเตือนเพื่อนๆให้ใช้ชีวิตกันอย่างมีสติ ไม่ประมาท พึงระวังกับการใช้ชีวิต และสุดท้าย หากภาพเหล่านี้เกิดจากการมาเยือนของดวงวิญญาณต่างๆ  ก็ขอถือโอกาสนี้ไว้อาลัยกับดวงวิญญาณที่อยู่ในภาพ ขอให้เดินทางไปสู่สัมปรายภพที่ดี สู่สุคตินิรันดร์

ที่มา: //www.painaidii.com/




 

Create Date : 29 พฤษภาคม 2557    
Last Update : 29 พฤษภาคม 2557 8:30:10 น.
Counter : 2995 Pageviews.  

รูปติดวิญญาณตอนลอยออกจากร่าง

     เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเรื่องฮือฮาบนโรงพัก สภ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เมื่อ ร.ต.อ.นิติกร แสนกันทะ พนักงานสอบสวน ได้ไปทำคดีผู้เสียชีวิตจากการทะเลาะวิวาท และได้ถ่ายรูปศพเพื่อประกอบสำนวนการสอบสวน แต่ปรากฎว่า ภาพที่ถ่ายไว้ได้ติดแสงคล้ายวิญญาณศพลอยออกจากร่าง สร้างความตื่นตะลึงแก่เจ้าหน้าที่คนอื่น รวมทั้งประชาชนที่ทราบข่าว

     ร.ต.อ.นิติกร เผยว่า ตนทำงานอาชีพตำรวจมากว่า 25 ปี ทำคดีที่เกี่ยวกับคนตายมานานมาก และพึ่งมีครั้งนี้ที่ถ่ายภาพศพแล้วเป็นภาพติดวิญญาณแบบนี้ออกมา ตอนที่กลับมาทำสำนวนแล้วดูภาพก็ตกใจมาก จึงเอาภาพไปให้เพื่อนตำรวจท่านอื่นๆ ดู ต่างพากันตกใจกับภาพที่ออกมาเป็นอย่างมาก นับเป็นเรื่องแปลกประหลาด แต่ตนก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง อาจจะเป็นเพราะแสงตอนถ่ายก็เป็นได้หรืออาจจะเป็นการถ่ายติดวิญญาณก็เป็นได้

     ด้านนายอดิศักดิ์ คุ้มเมือง อายุ 64 ปี หัวหน้าชุดกู้ภัยเชียงใหม่ ทำงานมากว่า 30 ปี กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ไปเก็บศพตามปกติ ก่อนจะนำศพส่งโรงพยาบาล พอตอนเช้าวันนี้ก็เข้าไปที่สถานีตำรวจและเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจฮือฮากันทั้ง สภ.เชียงดาว หลังจากที่พบภาพถ่ายรูปศพของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันว่าเป็นภาพติดวิญญาณขณะออกจากร่างของผู้ตาย ซึ่งตนเองทำอาชีพเกี่ยวกับศพมานานกว่า 30 ปี ก็เคยผ่านเหตุการณ์เห็นภาพวิญญาณมาแล้วหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถ่ายได้ชัดเจนมาก ซึ่งบรรดาประชาชนชาวเชียงดาวที่ทราบก็พากันแตกตื่นกับรูปนี้เป็นอย่างมาก..

โปรดปั่นจักรยานในการรับชม 

ที่มา: Facebook




 

Create Date : 26 พฤษภาคม 2557    
Last Update : 26 พฤษภาคม 2557 8:17:17 น.
Counter : 1448 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  152  153  154  155  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.