ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 
ทุ่งสนธยา

"เบิร์ด" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากสุสานโบราณ

ผม
ได้พบกับเหตุการณ์แปลกประหลาด คือไม่ได้โดนผีหลอกซึ่งๆ หน้า
แต่กลับหลุดเข้าไปในมิติเร้นลับ ซึ่งในโลกของเราเป็นเวลาสั้นๆ
แต่ในมิติสยองนั้นเนิ่นนานไม่รู้จบสิ้น

สถานที่ดังกล่าวคือคาเฟ่ย่านสนามเป้านั่นเอง!

ผม
เป็นคนแถวประตูน้ำซึ่งกำลังเจริญ พุ่งออกไปถึงวัดสะพานดินแดง
ด้านซ้ายคือถนนศรีอยุธยา เขาเรียกว่า "ทุ่งมักกะสัน"
ซึ่งแต่เดิมเป็นทุ่งหญ้าทุ่งนา เช่นทุ่งมหาเมฆ หรือทุ่งพญาไท เป็นต้น


ถัด
ไปทางสนามเป้าเป็นกรมทหารทั้งนั้น
ผู้ใหญ่ท่านบอกว่าต้นทางพหลโยธินจากสนามเป้าไปถึงทุ่งนาสะพานควาย
เลยวัดไผ่ตันไปจนถึงลาดพร้าว...เป็นป่าช้าเก่าครับ!


เมื่อราว
20 กว่าปีก่อน ผมกำลังเป็นหนุ่มเต็มตัวน่ะ
ไม่มีวี่แววหรือร่องรอยของป่าช้าไม่ว่าเก่าหรือใหม่อีกแล้ว
เพราะความเจริญทำให้ตึกรามบ้านช่องผุดสะพรั่งไปหมด
รถราและผู้คนคับคั่งจนไม่มีอะไรน่ากลัวอีกต่อไป

สะพานควายกลายเป็น
ศูนย์กลางของกรุงเทพฯ ทางทิศเหนือ บรรยากาศคึกคักสนุกสนาน มีทั้งโรงพยาบาล
โรงพักและโรงแรมชั้นหนึ่งกับม่านรูดผุดสะพรั่งเป็นดอกเห็ด

สถานบันเทิงเพียบ คาเฟ่ได้รับความนิยมมาก ผุดขึ้นแถวๆ สี่แยกเกือบ 10 แห่ง

ไหน
จะขยายออกไปรอบด้าน ไม่ว่าทางสุทธิสาร, ประดิพัทธ์
ย้อนมาทางสนามเป้าก็มีทั้งสองฝั่งถนน
เลยห้างเมอรี่คิงส์ไปทางวัดไผ่ตันก็มีทั้งคาเฟ่และโรงแรมม่านรูด

ผม
กับเพื่อนๆ เที่ยวคาเฟ่ย่านสะพานควายหมดทุกแห่งก็ชักเบื่อ
เลยลองแวะย่านสนามเป้าบ้าง มีคาเฟ่แห่งหนึ่งไปได้ไม่กี่ครั้งก็ติดใจ
ทั้งเปิดใหม่ ทั้งกว้างขวางเหลือเชื่อแถมใกล้บ้าน...นักร้องเอ๊าะๆ เพียบ!

คาเฟ่
ที่นั่นตั้งกลางแจ้ง เวทีหันหลังให้ถนนที่มีรั้วกั้น แขกเต็มเกือบทุกโต๊ะ
ใครไม่อยากตากน้ำค้างก็เข้าไปนั่งที่โต๊ะใต้ชายคาเหยียดยาวไปตามแนวกำแพง
ด้านหลังยังมีต้นไม้ใหญ่ๆ ร่มครึ้ม แสงไฟส่องสลัว
แต่ก็มีแขกเดินผ่านไปมาบ่อยครั้งเพราะด้านในเป็นห้องสุขา

คืนนั้นผม
ไปกับเพื่อนชื่อเอนกกับชาติ ปกติจะไปนั่งโต๊ะใต้ชายคา
มองนักร้องบนเวทีในมุมเฉียง ติดมาลัยน้ำใจให้คนไหน
เมื่อร้องเพลงจบรอบเธอก็จะลงมาพูดคุยด้วย
ถูกชะตาก็สั่งดริงก์มาให้เธอ...ส่วนมากจะสนุกกันไปจนถึงตี 2 ตี 3

แต่
คืนนั้นเราไปช้าแถมตรงกับวันศุกร์ เหลือโต๊ะว่างใต้ร่มไม้เกือบหลังสุด
แต่ก็ไร้ปัญหา...เสียงดนตรีดังกระหึ่ม
นักร้องส่ายอกสะบัดสะโพกโชว์ขาอ่อนอาบแสงไฟ ร้องเพลงลูกทุ่งด้วยลีลา
"ยั่วไอ้เข้" เสียงเฮ้วๆ เร้าใจไม่หยุดหย่อน
ท่ามกลางอากาศเยือกเย็นของฤดูหนาว

ดนตรีหยุดพัก ดาวตลกก็ยกวงขึ้นไปเล่นมุขจี้เส้นแขก เรียกเสียงฮาครืนๆ ดังลั่น

ราว
ตีหนึ่งเศษ ตลกลงจากเวที นักร้องสาวขึ้นไปแทนที่
ผมลุกจากโต๊ะเพื่อไปเข้าห้องน้ำ...ไม่รู้ว่าสะดุดอะไรหรือขาพันกัน
ผมถลาลงไปบนพื้นหญ้า...เหมือนไฟดับวูบทันที!

ลืมตา
ขึ้นมาก็ยังได้ยินเสียงเพลงกึกก้องอยู่ในหู
แต่เพิ่งเคยเห็นใครกลุ่มใหญ่มานั่งบนพื้นอยู่ใกล้ๆ มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
ทั้งหนุ่มสาวและคนชรา...ผู้ชายนุ่งกางเกงขาก๊วย คนแก่นุ่งโสร่งตัวเดียว
ผู้หญิงนุ่งผ้าถุงสวมเสื้อแขนกระบอก บางคนมีอายุหน่อยก็ใช้ผ้าแถบคาดอก

เด็กๆ
อายุราวสิบขวบก็มี ทั้งไว้จุก ไว้แกละและไว้โก๊ะ นุ่งผ้าสีดำๆ
นั่งเบียดกับผู้ใหญ่...ทุกคนจ้องมองไปที่เวทีสว่างไสว
วูบวาบด้วยสีสันน่าตื่นเต้น โดยไม่มีใครแยแสหรือสนใจผมเลยแม้แต่คนเดียว!

ผมมองตามสายตาคนพวกนั้นไปอีกครั้ง...

นัก
ร้องสาวสวยในชุดแดงโชว์เนินอกขาวแอร่ม
กำลังสั่นกระเพื่อมตามท่าเต้นจนแทบหลุดผลัวะออกมาทั้งสองเต้า
กระโปรงสั้นเต่ออวดท่อนขาขาวอล่างในแสงไฟ
สะโพกกลมกลึงผึ่งผายบิดส่ายไม่หยุดหย่อน

หันมามองผู้คนกลุ่มนั้น
อย่างงุนงง...เห็นผู้ชายอ้าปากค้าง เบิกตาโพลงแทบจะทะลักออกมานอกเบ้า
คนชราหัวเราะชอบใจจนเหงือกแดง พวกผู้หญิงมีสีหน้าตื่นตระหนก
บางคนก็กอดเด็กเอาไว้ หนุ่มๆ ชี้ไม้ชี้มือไปที่เวที
ตบไหล่เพื่อนพลางพูดจาปนหัวเราะ แต่ผมไม่ยักได้ยินเสียง

"เฮ้ย! เป็นอะไรไปวะ?"

เสียง
นั้นทำให้ผมหันขวับไปมอง...เจ้าเหนกนั่นเองที่ตามมาดูแล้วดึงแขนผมขึ้นมา
มันว่าเห็นผมล้มพอดีเลยรีบลุกมาช่วยนี่แหละ! ผมหันไปทางคนแปลกๆ
กลุ่มใหญ่ที่นั่งอยู่ใกล้กันหยกๆ ปรากฏว่าที่นั่นมีแต่ความว่างเปล่า...

ไม่มีหนุ่ม คนชราและเด็กๆ ที่ชะเง้อมองไปทางเวทีด้วยความตื่นตาตื่นใจ และตื่นเต้นแตกต่างกันไป...

เมื่อ
กลับมานั่งโต๊ะตามเดิม
ผมถึงได้แน่ใจว่าคนแปลกหน้าเหล่านั้นคงกำลังจ้องมองนักร้องคาเฟ่ด้วยความ
ตื่นตะลึงอยู่ใกล้ๆ ผมนี่เอง...เพียงแต่พวกเขาอยู่ในดินแดนของสนธยา!




ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด



Create Date : 19 มกราคม 2555
Last Update : 19 มกราคม 2555 11:24:42 น. 0 comments
Counter : 1849 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.