ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

วิจัยเผยหนุ่มบอกรักสาวก่อน โดยมีความหมายถึงเซ็กส์


วิจัยเผยหนุ่มบอกรักสาวก่อน โดยมีความหมายถึงเซ็กส์







          ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องใหม่ที่น่าตกใจสักเท่าไหร่
หากจะบอกว่าเหตุผลที่ผู้ชายตกหลุมรักและบอกรักสาว ๆ อย่างรวดเร็วนั้น
ส่วนหนึ่งก็มาจากแรงขับทางเพศที่ทำให้เขาอยากจะมีเซ็กส์กับพวกเธอด้วย
แต่ล่าสุด มีงานวิจัยชิ้นใหม่ของชาวอเมริกันได้เปิดเผยออกมาอีกครั้ง
และดูเหมือนว่ามันจะยิ่งตอกย้ำความจริงข้อนี้เข้าไปอีก
แถมยังมีข้อมูลที่น่าสนใจหลายอย่างที่น่ารู้
วันนี้จึงขอนำประเด็นนี้มาฝากกันอีกครั้งค่ะ




          เมื่อวันที่ 27
มกราคมที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนียสเตทของสหรัฐ
เปิดเผยผลวิจัยระบุว่า ผู้ชายกว่า 75% มักบอกรักผู้หญิงก่อน
ด้วยเพราะใช้เวลาตกหลุมรักหญิงในเวลาเพียงไม่นาน
และความหมายโดยนัยของคำว่ารักนั้น
คือการเชื้อเชิญผู้หญิงที่เขาหลงใหลไปขึ้นเตียงแบบอ้อม ๆ นั่นเอง





          รายงานระบุว่า ผลการวิจัยชิ้นนี้
มาจากความเห็นของนักศึกษาอายุต่ำกว่า 25 จำนวน 171 คน
ซึ่งถูกสัมภาษณ์เกี่ยวกับการบอกรัก ระยะเวลาในการตกหลุมรัก
และความรู้สึกขณะบอกรักคู่เดทของตัวเอง โดยผลการวิจัยสามารถสรุปได้ดังนี้ 





         

ผู้ชายจะใช้เวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ในการรู้ตัวว่าตัวเองได้ตกหลุมรักผู้หญิง
คนหนึ่งเข้าให้แล้ว แต่ผู้หญิงนั้นจะใช้เวลาถึง 2-3
เดือนกว่าจะรู้ตัวว่าเธอหลงรักผู้ชายสักคน




           เช่น
เดียวกัน ผู้ชายคิดถึงเรื่องเซ็กส์ในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ที่คบกัน
แต่ผู้หญิงจะใช้เวลานานกว่า 2-3
เดือนกว่าที่พวกเธอจะคิดถึงเรื่องบนเตียงกับหนุ่ม ๆ




           ผู้ชายหลายคนบอกรักโดยมีความหมายโดยนัยว่า "ผมอยากมีเซ็กส์กับคุณ"



           ผู้ชายกว่า 75% คาดหวังให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายเอ่ยปากบอกรักก่อน (แต่ส่วนใหญ่มักจะผิดหวังแทบทั้งนั้น)




           ผู้ชายกว่า 64% ยอมรับว่าเขาเป็นฝ่ายเอ่ยปากบอกว่า "ผมรักคุณ" กับผู้หญิงก่อน




           มีผู้หญิงเพียง 18% เท่านั้นที่ยอมรับว่าเธอเป็นฝ่ายบอกผู้ชายว่ารักก่อน



          นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งงานวิจัยที่น่าสนใจอีกหนึ่งชิ้นจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ซึ่งระบุว่า
ผู้หญิงจะระมัดระวังเรื่องความสัมพันธ์กับหนุ่ม ๆ เป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะเมื่อใกล้ชิดกับผู้ชายที่ชอบหรี่ตาจ้องมองเธอ เธอจะระวังมากที่สุด
เพราะสายตาแบบนี้บ่งบอกถึงความเจ้าชู้และสำส่อนทางเพศ
และแน่นอนว่า ถ้าหากเธอข้องเกี่ยวกับผู้ชายประเภทนี้
ก็มีวี่แววว่าเธอจะได้ฟังคำว่ารักได้อย่างง่ายดาย
เพราะคำว่ารักของเขามักจะหมายถึงเซ็กส์นั่นเอง
แต่กลับกัน ผู้ชาย
ที่มีดวงตาเปิดกว้างเมื่อมองมาที่พวกเธอ
ได้ถูกมองว่าเป็นผู้ชายที่มีความจริงใจ ความเอาใจใส่
และมีภาวะความเป็นสามีมากกว่า
ผู้หญิงหลายคนจึงมักจะเปิดรับและเลือกใกล้ชิดกับผู้ชายประเภทหลังนี้
มากกว่าผู้ชายที่ชอบหรี่ตามองเธอ เพราะนั่นแสดงให้เห็นความสนใจทางเพศอย่างไม่อาจคิดเป็นอื่นได้




 

Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2555    
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2555 8:28:22 น.
Counter : 1393 Pageviews.  

อกหักอย่างไรให้มีความสุข




SEX,XXX,เซ็ก,เซ็กส์,เซ็กซ์,ประสบการณ์,ความรัก,ร่วมเพศ,เทคนิคบนเตียง,เรื่องบนเตียง,ร่วมรัก,เพศ,รัก,XX



เรื่องอก
หักเป็นเรื่องน่าเศร้า
แต่ในความเศร้านั้นเราสามารถรักษาใจทำให้เปิดเป็นความสุขได้ไม่ยากเลย
เพียงลด ละ เลิก ความคิดเหล่านี้ออกจากหัวซะในช่วงเวลาอกหัก
เรื่องอกหักจะไม่ใช่เรื่องน่าเศร้าอีกต่อไป..
ถ้าปรับเปลี่ยนวิธีคิดเหล่านี้ออกจากสมองในช่วงเวลาอกหักซะ!!
และเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่มีสุข..มาดูวิธีรักษาใจกันเถอะ!!


1.เลิกอิจฉาคู่รักอื่น

อย่า
คิดน้อยใจตัวเอง ว่ามองไปทางไหนก็เห็นแต่คนมีคู่
เดินเกี่ยวก้อยตระกองกอดกันกระหนุงกระหนิง
หันมองดูตัวเองจนป่านนี้ยังใส่เสื้อยืดเขียนว่า โสดสนิท
ใส่มาหลายปีแล้วก็ยังไม่มีแฟนกับเขาสักที เครียดๆๆ
จากหน้าตาที่เคยสดใสเต็มไปด้วยความหวัง ก็กลายเป็นหมองหม่น ไปๆ มาๆ
เลยพาลมองโลกในแง่ร้ายอีกด้วย

2. การคิด+เสมอ

การ
ที่คนเรามองคนอื่นและคิดเป็น+เสมอจะทำให้โลกใบนี้น่าเป็นอยู่มากยิ่งขึ้น
ถ้าเราคิดถึงชีวิตในแง่บวก
เราจะรู้สึกชื่นชมยินดีมีความสุขกับทุกสิ่งรอบตัวมากขึ้น
ประมาณว่าเห็นอะไรก็สดชื่นแฮปปี้เจิดแจ่ม ไม่มีอะไรขวางหูขวางตา
ผลที่ตามมาคือ ท่าทางการแสดงออกของเราจะเป็นไปในแง่บวก ดูดีหน้าตาแจ่มใส
ใครๆ ก็อยากเข้ามาใกล้ เพราะอยู่ด้วยแล้วพลอยมีความสุขไปด้วย
กลายเป็นคนอารมณ์ดีอัธยาศัยดี มีแต่คนอยากเข้าใกล้ทั้งนั้นแหละ คอนเฟริม!!

3. รู้จักมองความรัก

ถ้า
มีความคิดแบบนี้อยู่ในหัวละก็...แสดงว่าเรานั้นอาจจะมัวสังเกตสังกาคนอื่น
มากเกินไป แถมยังเชื่อว่าใครๆ
ก็มีชีวิตที่ดีกว่าและมีความรักที่เพอร์เฟ็คท์
แค่มองเห็นคู่รักเดินกอดกันกลมอยู่ข้างถนนก็เหมาเอาว่า
คนเหล่านั้นไม่มีปัญหาอะไรในชีวิต
จากนั้นก็จะหันมามองชีวิตและความรักของตัวเองแล้วก็รู้สึกว่าความทุกข์พุ่ง
จี๊ดขึ้นมาทันที เพราะเราไม่มีความสุขอย่างที่เราคิดว่าคนอื่นเป็น
และไม่มีอะไรจะทำให้เราทุกข์ทรมานได้มากไปกว่าความคิดที่ว่า ใครๆ
ก็มีความสุขสนุกสนานมากกว่าเรา

4.ฉันไม่สามารถมีความสุขได้ในฐานะคนโสดที่อยู่คนเดียว

มี
คนมากมายเชื่อว่าชีวิตจะมีความสุขได้ก็ต่อเมื่อมีคู่อยู่ด้วยกันเท่านั้น
ถ้าเราเชื่อแบบนี้ เราก็อาจเชื่อด้วยว่าคนรักจะทำให้เรามีความสุข
นอกจากจะเป็นการโยนความรับผิดชอบในความสุขของเราให้ปัจจัยภายนอกแล้ว
ยังยัดเยียดความรับผิดชอบนี้ให้คนรักของเราอีกด้วย
ซึ่งความจริงของชีวิตที่ไม่ควรลืมคือ ไม่มีใครอยู่กับเราได้ตลอดชีวิต
ในที่สุดไม่จากเป็นก็จากตาย
ดังนั้นถ้ายังเชื่อว่าชีวิตจะมีความสุขเมื่อมีคู่ละก็...เราก็จะทุกข์ทรมาน
ไปแบบนี้ละ

เชื่อว่า 4 วิธีนี้จะช่วยทำเรื่องอกหกของคุณกลายเป็นรอยยิ้มได้บ้างนะคะ ^++++^


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
SEX,XXX,เซ็ก,เซ็กส์,เซ็กซ์,ประสบการณ์,ความรัก,ร่วมเพศ,เทคนิคบนเตียง,เรื่องบนเตียง,ร่วมรัก,เพศ,รัก,XX




 

Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2555    
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2555 8:16:45 น.
Counter : 1235 Pageviews.  

เจ้าบ่าวและเจ้าสาว...ผู้กลัวฝน




เจ้าบ่าว/เจ้าสาว ผู้กลัวฝน



เจ้าบ่าว/เจ้าสาว ผู้กลัวฝน (BRIDE)





Healthy Couples STORY : Tan




          "นี่ ๆ เธอ เมื่อไหร่จะแต่งงาน?"
คำถามนี้คงเป็นคำถามที่สาว ๆ พบเจอกันเป็นประจำเมื่อวัยล่วงเลยมาสู่ 20
ตอนปลาย และคำถามเหล่านี้จะถี่ขึ้น ตามอายุที่มากขึ้นด้วย
ซึ่งส่วนใหญ่สำหรับหลายท่านที่มีคู่ดูใจกันอยู่แล้วก็คงเป็นเหตุผลถึงความ
ไม่พร้อมนานัปการ ทั้งเรื่องของวุฒิภาวะสภาพจิตใจ หรือจะเป็นฐานะทางการเงิน
ซึ่งถือว่าคนที่อยู่ในกลุ่มนี้ยังโชคดีอย่างมาก
เมื่อเรามองไปถึงคนอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นโรคกลัวการแต่งงาน




          Gamophobia
คือ โรคชนิดหนึ่งที่ไม่ได้เกิดจากเชื้อไวรัสแต่อย่างใด
แต่มันคือความผิดปกติของสภาพจิตใจที่ทำให้ผู้เป็นโรคนี้กลัวการแต่งงาน
หรือปฏิเสธทุกอย่างเกี่ยวกับการแต่งงานนั่นเอง
ซึ่งตามหลักทางการแพทย์แล้วถือว่าเป็นโรคเกี่ยวกับสภาพจิตใจชนิดหนึ่งที่พบ
มากขึ้นในปัจจุบัน 
โดยจะเกิดขึ้นกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง เนื่อง
จากสภาพสังคมที่หล่อหลอมมาทำให้ผู้หญิงส่วนใหญ่รู้สึกว่าการแต่งงานเป็นส่วน
หนึ่งในชีวิต (เหมือนกับผู้ชายที่คิดว่าต้องบวชนั่นแหละ)


          แตกต่างกับผู้ชายที่รู้สึกว่าชีวิตแต่งงานคือการถูก "พราก" เอาอิสรภาพในชีวิตไป ผู้ชายหลายท่านมีมุมมองเลวร้ายถึงขั้นมองว่าการแต่งงานคือการ "ติดคุก"
ที่เราต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตทั้งหมด และโดนลิดรอนสิทธิ์หลาย ๆ อย่างไป
(เหมือนตลกร้ายในภาพยนตร์ที่ชอบนำมาพูดกัน โดยเฉพาะภาพยนตร์ไทย)
ซึ่งจนแล้วจนรอดมักจะจบลงที่การแต่งงานอย่างจำใจ
เพราะทนไม่ไหวต่อการคาดหวังจากตัวคนรักหรือคนรอบข้าง
แต่สุดท้ายชีวิตคู่มักจะไปไม่รอดนั่นเอง





          สาเหตุโรค Gamophobia นั้นเกิดได้หลายข้อ ซึ่งสาเหตุหลัก
ๆ เกิดจากโลกปัจจุบันที่มีวิวัฒนาการไปมากกว่าเดิม
ชีวิตของมนุษย์มีอะไรให้ค้นหา มีกิจกรรมให้ทำมากมาย
รวมถึงมีการศึกษามากขึ้น
ทำให้มนุษย์รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องมีคู่ก็สามารถอยู่บนโลกนี้ได้อย่างสบาย
อีก
ทั้งค่านิยมของการอยู่กินกันโดยไม่แต่งงานที่มากขึ้น
ทำให้กลายเป็นทางเลือกหนึ่งที่คนมักวิ่งเข้าหามากกว่าการเลือกที่จะแต่งงาน
หรืออาจจะเพราะสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวการหย่าร้างหรือชีวิตครอบครัวในด้านลบ
ของดารา ข่าวอาชญากรรมที่เกิดขึ้นระหว่างคู่สมรสด้วยกันเอง
ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในครอบครัว

          และที่สำคัญที่มักจะกล่าวถึงบ่อยครั้งคือ
การกลัวโลกส่วนตัวจะต้องหายไปเพราะการแต่งงานและการมีครอบครัว ฯลฯ
หลายสาเหตุที่กล่าวมาจึงทำให้มนุษย์เริ่มกลัวที่จะแต่งงานแม้ว่าบางท่านจะ
ไม่ได้เป็นโรค Gamophobia ก็ตาม





         สาเหตุความกลัวที่มักเกิดขึ้นกับฝ่ายหญิง




          1.
อดใช้ชีวิตในแบบเดิม
อันนี้ถือเป็นค่านิยมของคนไทยที่ผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว
มักต้องอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน
ทำงานบ้านหุงหาอาหารจนไม่ค่อยได้ออกไปโลกภายนอกมากนัก
อีกทั้งเมื่อแต่งงานแล้วอะไรหลาย ๆ อย่างก็มักต้องเปลี่ยนตามไปด้วย เช่น
การแต่งตัว สถานที่เที่ยว
(ผู้หญิงมักเสียเปรียบในเรื่องนี้เพราะค่านิยมสังคมไทย) การพบปะเพื่อนฝูง
ฯลฯ การสูญเสียอิสรภาพเหล่านี้เองทำให้ผู้หญิงหลายท่านเลือกที่จะไม่แต่งงาน




          2.
กลัวการกลายเป็นคนไข้ อันนี้แน่นอน
ผู้ชายน้อยคนมักที่มักจะรับผิดชอบงานบ้าน
ด้วยเหตุผลที่ว่าตัวเองออกมาทำงานข้างนอก โดยลืมมองไปว่าผู้หญิงที่ทำงาน
บ้านให้นั้นส่วนใหญ่ก็ทำงานข้างนอกเช่นกัน ทั้งเรื่องความสะอาด อาหารการกิน
เสื้อผ้า ฯลฯ ทำให้ผู้หญิงที่แต่งงานรู้สึกว่าหน้าที่ของตนมากขึ้นจนเกินไป




          3.
กลัวคุณค่าของตนจะลดลง ความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนจากแฟน
ที่ผู้ชายต้องเอาอกเอาใจ มาเป็น "ของตาย" ที่ตอนแรกๆ
ผู้ชายก็อาจจะยังรักยังหลง ยังคงเอาใจเช่นเดิม
แต่เมื่อนานเข้าหลายท่านก็เลือกที่จะไปหาทานเอาข้างนอกเพื่อเปลี่ยนรสชาติ




          4.
กลัวสามีเปลี่ยนไป อันนี้เป็นผลจากข้อ 3
ผู้ชายโดยธรรมชาตินั้นมักมีข้อเสียเรื่องผู้หญิง
เพราะพันธุกรรมของมนุษย์เป็นอย่างนั้น
จึงหนีไม่พ้นปัญหาเรื่องผู้หญิงที่เข้ามาในชีวิตคู่ หรือหากไม่มี
ก็จะกลายเป็นเรื่องงานที่พรากเอาเวลาคนรักของคุณไป




        
5. กลัวการหย่าร้าง อย่างที่บอกไป
ปัจจุบันภาพการหย่าร้างมีให้เราพบเห็นมากมายทั้งจาคนรอบข้าง หรือสื่อต่าง ๆ
ที่ตะบี้ตะบันนำเสนอภาพข่าวการหย่าร้างของคนดัง
ทำให้ไม่ต้องแปลกใจหากว่าผู้หญิงหลาย ๆ ท่านจะเกิดกลัวขึ้นมา




         สาเหตุความกลัวที่มักเกิดขึ้นกับฝ่ายชาย



          1.
กลัวถูกรับอิสรภาพ อันนี้เป็นประเด็นหลักที่ผู้ชายหลาย ๆ ท่านกลัวกัน
เพราะวิถีชีวิตของผู้ชาย ทั้งเรื่องงาน การเข้าสังคม
มันเป็นวิถีชีวิตที่พวกเขา หวงแหน
เมื่อพวกเขาเหล่านี้ตัดสินใจแต่งงานพวกเขาต้องแบ่งชีวิตส่วนตัวทุ่มเทให้กับ
ครอบครัว โดยลดทอนเวลาความสุขเดิม ๆ ของเขา ทั้งการพบปะ เพื่อนฝูง
การจัดปาร์ตี้สังสรรค์ การดื่ม หรือการใช้ชีวิตอื่น ๆ
ซึ่งกลายเป็นสาเหตุอันดับ 1 ของการกลัวการแต่งงาน




          2.
กลัวการเปลี่ยนแปลง จากการวิจัยพบว่า
เพศที่กลัวการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดคือเพศชาย แม้จะเป็นเพศที่ขี้เบื่อ
แต่พวกเขาจะคุ้นเคยกับกิจวัตรเดิม ๆ และกลัวหากสิ่งเหล่านั้นเปลี่ยนแปลงไป




          3.
กลัวแต่งงานกับคนที่ไม่ใช่
เป็นประเด็นที่ผู้ชายมักนำมาพูดคุยกันเองเสียบ่อย
เหตุผลเพราะคนที่รักไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่เข้ากับเราได้
ผู้ชายหลายท่านเลยประสบปัญหาว่าคนที่เราคบอยู่ เรารัก
แต่เรารู้สึกว่าแต่งด้วยไม่ได้




          4.
กลัวภรรยาเปลี่ยนไป สาเหตุนี้แตกต่างกับของฝ่ายหญิงอย่างสิ้นเชิง
สิ่งที่ฝ่ายชายกลัวคือการที่ภรรยาของตนจะกลายร่างเป็นยายแก่ที่ไม่ดูแลตัว
เอง ขี้บ่น ต่างหาก




          5.
กลัวการเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ไม่ดี
อยากจะบอกว่าผู้ชายเวลารักใครก็รักจริงจังไม่ต่างจากเพศหญิงเช่นกัน
เพราะฉะนั้นเมื่อเขาคิดว่าเขาจะแต่งงานกับใคร เขาจะคิดไปไกลกว่าเพศหญิงมาก ๆ
พยายามมองมันด้วยเหตุผล เพื่อให้ครอบครัวของเขาสมบูรณ์ที่สุด
จึงเกิดความกลัวที่ว่าตัวเขาเองจะไม่สามารถเป็นผู้นำครอบครัวที่ดีได้




          สิ่งเหล่านี้คือ
สาเหตุหลัก ๆ
ที่ทำให้หลายท่านกลัวการแต่งงานและมองว่าการแต่งงานมักนำมาสู่ความเจ็บปวด
ภายหลัง ซึ่งมันอาจจะไม่มีปัญหาอะไรหากคุณทั้ง 2 มีความเห็นที่ตรงกัน
แต่สำหรับใครที่กำลังกลัวที่จะแต่งงานแต่ถูกคาดหวังจากคนรักหรือคนรอบข้าง
มีวิธีดี ๆ มานำเสนอกัน





          1. อย่าใช้เพียงความรู้สึก แต่จงใช้เหตุผลด้วย
มนุษย์ในสังคมใช้เหตุผลในการตัดสินใจปัญหา
เพราะฉะนั้นนอกจากความรู้สึกแล้วจงใช้เหตุผลในการตรองดูด้วย เช่น
ลองมองดูว่าคนคนนี้เข้ากับเราได้หรือไม่
ต่างฝ่ายต่างรับข้อเสียของกันและกันได้แค่ไหน นิสัยหรือ Life Style
เข้ากันได้หรือไม่ เป็นต้น




          2. การพบจิตแพทย์ สำหรับใครที่เป็นโรค Gamophobia
การพบจิตแพทย์เป็นทางเลือกหนึ่ง
ซึ่งค่านิยมของคนไทยเกี่ยวกับการพบจิตแพทย์นั้นเป็นเรื่องที่ผิดว่าคนที่พบ
จิตแพทย์ต้องเป็นโรคทางประสาทเท่านั้น แต่ในตะวันตก
คนปกติมักพบจิตแพทย์เป็นเรื่องธรรมดากันอยู่แล้ว
การพบจิตแพทย์นั้นจะทำให้เราได้รับการบำบัดอย่างถูกต้องและแก้ปัญหาได้อย่าง
ตรงจุดทางหนึ่ง




          อย่างไรก็ตาม ที่แน่ ๆ
การแต่งงานไม่ใช่จุดจบ แต่คือจุดเริ่มต้นของชีวิตใหม่ ๆ บนโลกนี้
ไม่มีใครที่รู้อนาคตการแต่งงานกับคนที่เราคิดว่าดีที่สุดไม่ได้แปลว่าคุณจะ
มีชีวิตที่มีความสุขในอนาคต เพราะเราไม่ทราบอนาคตนี่เอง
คือเสน่ห์ให้เรามีเสรีในการเลือกชีวิตให้เราเป็นอย่างที่อยากจะเป็น














ขอขอบคุณข้อมูลจาก



Vol.4 26th YEARS




 

Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2555    
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2555 8:25:23 น.
Counter : 3510 Pageviews.  

กลยุทธ์มัดใจแฟน ให้อยู่หมัด


SEX,XXX,ROMANCE,เซ็กซ์,เซ็ก,เซ็กส์,อารมณ์,โรแมนติก,ความรัก,ความรู้สึก,รัก,LOVE,XX



มา
เติมความรักของคุณให้ชุ่มชื่นหัวใจด้วยสิ่งเล็กๆ น้อยๆ
ที่บางครั้งเราก็หลงลืมไปบ้าง เพราะใกล้ชิดกันมากเกินไป
ลองปฏิบัติให้ได้ตามนี้ แล้วจะมัดใจคู่รักของคุณได้อยู่หมัดตลอดไป



- บางเวลาอาจต้องมีห่างกันบ้าง
เช่น เขาอาจไปทำงานต่างถิ่น หรือคุณผู้หญิงทำงานยุ่งจนไม่มีเวลาส่วนตัวให้
คุณต้องทำให้เขารู้ว่าคุณคิดถึง โทรศัพท์ อีเมลล์ การ์ด
อะไรก็ได้เลือกใช้ตามสะดวก แต่อย่าบ่อยหรือถี่เกินไป
อาจกลายเป็นจุ้นจ้านโดยไม่ได้ตั้งใจ

- หากเกิดเหตุการณ์ทะเลาะกัน หรือทำอะไรก็ตามผิดพลาดไป พูดขอโทษเมื่อผิด อย่าอาย ถ้าเป็นการขอโทษ ที่ออกมาจากใจจริง ไม่มีใครใจร้าย ไม่ยอมยกโทษให้คนที่สำนึกผิดหรอก

- อย่าลืมวันสำคัญ ให้ของขวัญเซอร์ไพรส์กันบ้าง ไม่ต้องมีราคามากมายอะไรหรอก เรื่องอย่างนี้มันสำคัญที่ใจ หรือไม่ก็ออกไปทานข้าวกัน เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง

- เป็นผู้ฟังที่ดี
ทั้งเรื่องมีสาระและไร้สาระ อดทนฟังหน่อยพร้อมใส่อารมณ์คล้อยตามว่าสนุก
น่าสนใจ รวมถึงการเข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน
รับฟังปัญหาร่วมเป็นกำลังใจให้กัน รับรองอยู่กันยาว

- มีความซื่อสัตย์มั่นคงต่อกัน ข้อนี้สำคัญมาก ต้องทำให้สม่ำเสมอ ไม่ใช่ผลุบๆ โผล่ๆ


- มาให้ตรงเวลา ทุกครั้งที่นัด รอนิดรอหน่อยยังดีกว่า ผิดเวลาให้อีกฝ่ายอารมณ์บูด

- หาเวลาเปลี่ยนบรรยากาศให้แก่กันและกันบ้าง อาจจะไปเที่ยว หรือทานอาหารนอกบ้าน ก็เป็นกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ได้ดีเหมือนกัน

- ช่วยกันทำงานบ้าน ผู้หญิงซักผ้า ผู้ชายก็ช่วยล้างจาน ถ้างานบ้านเสร็จ จะได้มีเวลาจู๋จี๋กันไงล่ะ

- ดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอ ทั้ง
ผู้ชายและหญิงนั่นแหละ ผู้หญิงบางคนแต่งงานแล้ว ยังสวยเช้ง
เป็นเคล็ดลับอีกอย่างที่ทำให้ผู้ชายของคุณยังอยู่กับคุณ
ถ้าเมื่อไหร่คุณปล่อยตัวเป็นช้างน้ำ หรือเป็นยัยเพิ้ง
โอกาสที่เขาจะไปมีกิ๊กเป็นเด็กสาวก็มีเปอร์เซ็นสูงนะ

- กิจกรรมบนเตียง ต้องมีสม่ำเสมอ
อย่าคิดว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญของคู่แต่งงานนะ
เพราะมันคือการช่วยกระชับความสัมพันธ์ของคุณและเขา หาเทคนิควิธีการใหม่ ๆ
จะช่วยให้ชีวิตคุณมีสีสันขึ้นเยอะ




 

Create Date : 31 มกราคม 2555    
Last Update : 31 มกราคม 2555 7:43:45 น.
Counter : 1665 Pageviews.  

50 คำคมความรัก



ใกล้จะก้าวเข้าสู่เดือนแห่งความรักแล้ว 
น้องๆวัยเรียนหลายคนเตรียมตัวซื้อสติกเกอร์รูปหัวใจไปติดปกเสื้อให้เพื่อนๆ
กันแล้ว บางคนมีแฟนก็เตรียมซื้อดอกกุหลาบหรือช็อกโกแลต ให้กันและกัน
เดือนนี้จึงหวาน(เลี่ยน) เป็นพิเศษ สำหรับเพื่อนๆ Sanook! Campus ที่ยังไม่มีแฟนก็ส่งผ่านความรักให้กับคนในครอบครัว และเพื่อนฝูง แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว..







สำหรับคำคมความรักของเราในวันนี้มีทั้งสุข เศร้า เหงา ผสมปนเป กันไป ชอบอันไหนอย่าลืมคอมเม้นต์บอกด้วยนะ ^^


1. ตัดกระดาษต้องใช้กรรไกร...แต่ตัดใจต้องใช้เวลา


2. จบแบบเจ็บ ๆ "ดีกว่า" เจ็บแบบไม่มีวันจบ...


3. ถ้าชอบก็กด "Like" ถ้าใช่ก็กด"Love"


4. ผู้ชายไม่ได้ต้องการนางฟ้า แต่ ต้องการ คนที่มีเวลาให้กัน ... ผู้หญิงไม่ได้ต้องการเทพบุตร แต่ ต้องการ คนที่หยุดสักที


5. รัก เป็นกริยา แต่อกหัก มันเป็น กรรม


6. เนื้อคู่ก็เหมือน IPhone 5 ถึงจะมาช้า แต่ก็จะรอ


7. ความเงียบ มันมักจะ จับมือกับ ความเหงา มาเล่นงานเรา ในเวลา ไม่มีใคร


8. ยอมเป็นแค่คนดีที่ไม่มีใคร ดีกว่าเป็นคนหลายใจที่ไม่มีอะไรดี


9. คุณสมบัติหนึ่งของน้ำตา เปลี่ยนสีชมพูให้เป็นสีเทา


10. บ่อยครั้ง... การหลอกตัวเองก็ทําให้เรามีความสุขมากกว่าได้รู้ความจริง


11. เหตุผลที่ต้องฆ่าเวลา เพราะเวลาทำให้เธอ เปลี่ยนไป


12. เบื่อจิงกับคำว่ารัก ... เบื่อนักกับคำว่าผิดหวัง ... เบื่อใจตัวเองที่โง่อยู่ลำพัง ... เบื่อใจเธอนั้นที่มาหลอกลวง


13. ฤดูร้อน ฤดูฝน ฤดูหนาว พบเจอหมดแล้ว แต่ทำไมยังไม่เจอ ฤดูรักซักทีนะ


14. อยากให้เธอเป็นตีนข้างซ้าย และฉันจะเป็นตีนข้างขวา แล้วเราจะก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน


15. ความรักคือการเดินทางไกล กว่าจะถึงหัวใจ มันต้องใช้เวลา


16. ฝืนใช้คำว่าเรา ทั้งๆที่ในกระจกเงาสะท้อนคำว่าลา


17. ถ้าคุณยังไม่พร้อมที่จะหยุดที่ใคร ... ก็อย่าหวังไปไกลว่าใครจะมาหยุดที่คุณ


18. ถึงจะเป็นคนคุ้นเคย ถ้าเอาแต่ละเลย ก็อาจกลายเป็นแค่คนเคยคุ้นกัน


19. สิ่งที่คนมีแฟนควรเรียนรู้ คือ คนไม่มีคู่เขาอยู่ได้อย่างไรในวันเดียวดาย


20. ถึงบางครั้งอาจจะพูดแรงไป... แต่ก็แรงไม่ยอมเปลี่ยนปลั๊ก รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง..


21. ก่อนจะพิมพ์คำว่า "เรา" อย่าลืมเปลี่ยนภาษาล่ะ ไม่อยากกลายเป็น "gik"


22. อยากบอกเธอว่า.. ปากกา พัดลม ปืน (PEN FAN GUN)..นะ


23. ผู้ชายก็มักกังวลกับสิ่งที่ผู้หญิงจำได้... ผู้หญิงมักใส่ใจกับสิ่งที่ผู้ชายลืม


24. ถ้าในวันๆนึงเราได้จับมือคนที่เรารัก นานเท่าจับเม้าท์ก้อคงจะดีนะ


25. คนที่พูดว่าไม่รู้..มักจะรู้...และคนที่พูดว่า ไม่เป็นไร...มักจะเป็น...แต่ถ้าใครพูดว่า ไม่รัก..มักจะจริง


26. อย่าทำตัวเป็นแฟนแค่ในนามและความคิด ... โปรดลงมือกระทำด้วย


27. ฉันดูแลตัวเองได้ เป็นคำบอกเลิก...ที่อยู่ในประโยคบอกเล่า ..
28. จำไว้.. "ห่างกันซักพัก"..เป็นคำสุภาพที่สุดของคำว่า "เลิกกันเถอะ"


29. บังคับตัวเองให้เลิกเหงา ยังดีกว่าบังคับเขาให้กลับมา


30. ลบฉันออกจากเพื่อนไม่เป็นไร แต่อย่าบล็อกได้ไหม เพราะฉันยังอยากรู้ความเคลื่อนไหวของเธอ


31. เราเป็น คนหลายใจ.. เพราะ ให้เธอได้ทั้ง จริงใจ, เข้าใจ, ใส่ใจ ... แต่ว่าเรา ดันลืมไปอย่างนึง ... เราลืมเผื่อใจ!


32. ความเปล่าเปลี่ยวเป็นความยากไร้ที่ทรมานที่สุด


33. ความรักไม่ได้วัดโดยความรู้สึกของคุณ แต่วัดจากการที่คุณทำให้เขารู้สึกอย่างไร


34. คุณอาจเป็นเพียงคนหนึ่งบนโลกใบนี้ แต่คุณอาจเป็นโลกทั้งใบของใครคนหนึ่งก็ได้


35. มิตรภาพมักจบลงด้วยความรัก แต่ความรักไม่มีวันจบลงด้วยมิตรภาพ


36. ความรัก"ที่ยิ่งใหญ่" คือ "ไม่เสียใจ" แม้..ไม่ได้อะไร "กลับมา"


37. ความรักคือความ เข้าใจของคน2คน ไม่ใช่ความอดทนของคนๆเดียว


38. หากไม่รักตัวเอง คุณจะไม่มีทางรู้จักคำว่ารัก


39. รักกันมาเป็นปี จะจบทั้งทีแค่วินาทีเดียว


40. ความหึงหวงเป็นผลพวงจากความรัก


41. คนที่ฉลาดที่สุดมักจะบอกว่าไม่รู้เรื่องความรัก ส่วนคนที่โง่ที่สุดมักจะพร่ำเพ้อว่าตัวเองรู้เรื่องความรักดี


42. รักใครหลายคน ไม่ใช่เหตุผลของคนหลายใจ


43. รักแท้ มีแม่คนเดียว


44. กุหลาบไม่มีหนาม มะขามไม่มีข้อ ผู้ชายไม่ใช่พ่อ จะไปง้อมันทำไม


45. ผู้หญิงถึงจะพูดความจริงสักแค่ไหน แต่ก็โกหกหน้าตายเป็นเหมือนกัน


46. อย่าใช้อดีตสร้างอนาคต แต่จงใช้อนาคตลบอดีต


47. เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือควาย


48. ผู้ชายก็เหมือนรองเท้า เมื่อใส่แล้วกัด ก็สลัดมันทิ้ง


49. อย่าเสียใจที่เขา ” ทิ้งเราไป ” แต่จงดีใจที่เราได้ ” หัวใจ ” เรากลับคืนมา


50. ความเชื่อใจเหมือน ยางลบ ผิดบ่อยๆ ยางลบก็ก้อนเล็กลง


ปล. คมคำทั้งหมดทีมงานไม่ได้แต่งขึ้นเองแต่อย่างใด


รวบรวมโดยทีมงาน Sanook! Campus












 

Create Date : 30 มกราคม 2555    
Last Update : 30 มกราคม 2555 8:24:48 น.
Counter : 2340 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.