ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

ยากันยุงธรรมชาติ



หลายๆ ครอบครัวต้องทนกับปัญหายุงรบกวนเพราะไม่อยาก ใช้ยากันยุงที่เต็มไปด้วยส่วนผสมของสารเคมีอันตรายเราจึงมียากันยุงสูตรธรรมชาติมาฝากคุณแม่บ้าน

ให้ลองนำไปทำดู ยากันยุงสูตรนี้มีเปลือกส้มเป็นพระเอก ทำง่าย ส่วนผสมก็หาได้ง่าย มีความปลอดภัยสูง และยังประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย วิธีทำไม่ยุ้งยากเพียงใช้เปลือกส้มที่นำไปตากแดดสัก 2-3 แดดจนแห้งสนิทแล้วนำมาจุดไฟให้เกิดควัน เมื่อต้องการไล่ยุงก็นำมาใส่ภาชนะที่ปลอดภัยจากการติดไฟแล้วนำไปวางไว้มุมห้องหรือในสถานที่ที่ต้องการ ควันจากเปลือกส้มจะทำให้ยุงตายแต่ไม่เป็นอันตรายกับคน เพียงแค่นี้ก็ช่วยป้องกันยุงได้อย่างปลอดภัยแล้ว

ที่มาข้อมูลและภาพ xn--42c8ao1akazf5c2be0gsk.com




 

Create Date : 28 มิถุนายน 2556    
Last Update : 28 มิถุนายน 2556 7:41:22 น.
Counter : 1992 Pageviews.  

หิวกลางดึก กินอะไรไม่ทำลายสุขภาพ



หลายต่อหลายคนคงเคยมีอาการท้องร้องยามดึก หิวจนนอนไม่หลับ บางคนอดใจไม่ไหว ต้องไปหาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปชามใหญ่ บ้างก็ไปหาของในตู้เย็น หรือแม้แต่ลงทุนขับรถออกไปหาก๋วยเตี๋ยวชามใหญ่หรือข้าวมันไก่มาทานให้หายหิวกลางดึก!

หากทำอย่างที่ว่าบ่อยๆ ขอเตือนว่าส่งผลเสียต่อสุขภาพแน่ๆ แล้วจะเลือกทานอะไรให้หลับสบายในยามดึกบ้าง และไม่กระเทือนสุขภาพล่ะ มุมสุขภาพศุกร์นี้มีคำตอบ

หลายคนทราบถึงหลักการทานอาหารมื้อเย็นที่ไม่ทำให้เสียสุขภาพ คือ การทานอาหารก่อนเวลาเข้านอนอย่างน้อย 4 ชั่วโมงขึ้นไป เพื่อป้องกันน้ำหนักส่วนเกิน ป้องกันโรคกรดไหลย้อน และช่วยให้หลับดี แต่ถ้ารู้สึกหิวกลางดึกขึ้นมา คุณหมอด้านการควบคุมน้ำหนัก และนักโภชนาการแนะนำว่า อาหารกลุ่มที่เราควรเลือกทาน ในช่วงเวลาคับขันนี้ ควรจะเป็นอาหารเบาๆ ในปริมาณไม่มาก ไม่มีแป้ง และไขมันสูง เช่น โยเกิร์ตไขมันต่ำ นมพร่องมันเนย หรือ นมไขมัน 0% แอปเปิ้ล หรือผลไม้น้ำตาลน้อย 4 – 5 ชิ้น หรือถั่ว ซัก 15 เม็ด อาหารเหล่านี้จะช่วยบรรเทาอาการหิวได้ และไม่ส่งผลมากมายต่อน้ำหนักของผู้ที่อยู่ในช่วงควบคุมน้ำหนักนะคะ
ส่วนใครที่อยากสบายท้อง แถมยังหลับสบายได้อีกด้วย ผู้เขียนขอแนะนำให้ทานอาหารที่มีสารทริปโตแฟน (Tryptophan) ค่ะ โดยสารนี้เป็นกรดอะมิโนจำเป็นธรรมชาติ ทำหน้าที่เป็นวัตถุดิบตั้งต้นเพื่อให้สมองสร้างฮอร์โมนที่ชื่อว่า "เมลาโธนิน" (Melatonin) หรือมีฉายาว่า ฮอร์โมนแห่งความมืด ซึ่งช่วยควบคุมการนอนหลับ และทำให้เราหลับสบาย

โดยปกติกรดอะมิโนตัวนี้จะทำงานตามลำพังไม่ได้ ต้องทำงานเป็นทีมร่วมกับกรดอะมิโนตัวอื่นๆ และจะต้องมีวิตามิน เกลือแร่ เช่น วิตามินบี 6 ไนอะซิน และแมกนีเซียม เข้าร่วมทำปฏิกิริยา จึงจะทำให้เกิดการสร้างสารเมลาโธนินขึ้นมา สำหรับอาหารที่มีกรดอะมิโนที่ชื่อว่าทริปโตแฟนอยู่นั้น ได้แก่ กล้วย นม นมถั่วเหลือง ถั่วลิสง เมล็ดงา ปลา และอาหารที่มีโปรตีนสูง

นอกจากทริปโตแฟนจะมีผลโดยตรงที่ช่วยส่งเสริมการนอนหลับอย่างเป็นธรรมชาติแล้ว ทริปโตแฟนยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกหลายเรื่อง เช่น ช่วยลดความไวต่อความเจ็บปวด, เป็นสารต้านการซึมเศร้าโดยไม่ต้องใช้ยา, บรรเทาอาการไมเกรน ช่วยลดความกังวลและความเครียด, ช่วยบรรเทาอาการสารเคมีในร่างกายผิดปกติ ซึ่งเป็นผลมาจากแอลกอฮอล์ และช่วยควบคุมอาการของโรคพิษสุราเรื้อรังอีกด้วย

ดังนั้นถ้าเราอยากอิ่มท้อง นอนหลับสบาย และไม่อ้วน นมพร่องมันเนย หรือนมไขมัน 0% โยเกิร์ตไขมันต่ำ นมถั่วเหลืองผสมงาดำ ซักกล่อง หรือกล้วยลูกเล็กสักลูกน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี

ได้รู้จักทั้งเจ้ากรดอะมิโนทริปโตแฟน ตัวช่วยสร้างฮอร์โมนแห่งรัตติกาลแล้ว อย่าลืมดูแลตัวเองและคนที่เรารักยามที่หิวกลางดึกด้วยอาหารที่มีสารดังกล่าว เพื่อการนอนหลับพักผ่อนที่ดี และเตือนกันเสมอค่ะว่า You are what you eat อยากมีสุขภาพดี ก็เริ่มที่การเลือกทานอาหารดีๆ ให้ร่างกายกันนะคะ

ที่มาข้อมูลและภาพ trueplookpanya.com




 

Create Date : 27 มิถุนายน 2556    
Last Update : 27 มิถุนายน 2556 7:29:52 น.
Counter : 1415 Pageviews.  

7 เคล็ดลับสลายนิ่วด้วยตัวเอง



ขอพูดถึงต้นเหตุของการฉี่ผิดปกติ
ต้นเหตุคือ ก้อนนิ่วในไตในกระเพาะปัสสาวะหรือในท่อปัสสาวะ ถ้าเรียกเป็นภาษาแพทย์ก็ว่า "RENAL CALCULUS" ถ้ามีก้อนเดียวเป็น CALCULUS แต่ถ้ามีหลายก้อนก็เป็น RENAL CALCULI

ก้อนนิ่วเกิดจากความผิดปกติของการย่อยร่วมกับการหมุนเวียนของระบบย่อยร่วมกับระบบขับถ่าย อาหารบางอย่างที่เรากินเข้าไปมีพวกเกลือแร่มากเกินไปประกอบกับการหมุนเวียนและการทำงานในระบบต่างๆไม่สมบูรณ์ จึงทำให้เกิดก้อนเกลือแร่เหล่านี้ตกค้างอยู่ในไต กระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะ

เกลือแร่ที่จับตัวเป็นก้อน ได้แก่ เกลือแร่ ประเภท กรดยูริค (Uric Acid) ฟอสเฟต (Phos phate) และก้อนผลึกจากแคลเซียม

เรามีไตสองข้างอยู่ระดับใต้ซี่โครง ด้านหลังของไตสองข้างนี้มีท่อไตต่อลงมาถึงกระเพาะปัสสาวะ (URETER) จากกระเพาะปัสสาวะจะมีท่อปัสสาวะ (URETARA) ฉะนั้น เวลาเราเป็นนิ่ว ก้อนนิ่วจะมีก้อนเดียวหรือหลายก้อนก็ตามจึงสามารถตกค้างอยู่ในที่ต่างๆได้ถึง 4 แห่ง คือ ที่ไต ท่อไต กระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะ ก้อนนิ่วอาจจะเป็นก้อนเล็กๆอยู่ในไตหรือต่อมาจะเลื่อนมาอยู่ที่ท่อไต จากนั้นเลื่อนต่อมาถึงกระเพาะปัสสาวะ แล้วก็เลื่อนมาถึงจุดสุดท้ายที่ท่อปัสสาวะ ถ้าเป็นก้อนเล็กๆอาจจะอยู่ในไตหรือกระเพาะปัสสาวะได้พร้อมกัน แต่การจะอยู่พร้อมกันหมดทั้ง 4 แห่งนั้น ยังไม่เคยได้ยิน ระหว่างที่ก้อนนิ่วเป็นก้อนเล็กๆนั้น อาจจะเคลื่อนมาติดอยู่ในท่อไต หรือท่อปัสสาวะได้ การติดค้างอยู่ในท่อใดท่อหนึ่ง จะสร้างความเจ็บปวดมาก และหลายคนฉี่ไม่ออก เพราะก้อนนิ่วอุดตันในท่อสองแห่งนี้

แต่ถ้าก้อนนิ่วเคลื่อนมาถึงกระเพาะปัสสาวะและตกค้างอยู่ที่นั่น ถ้าเป็นก้อนแคลเซียมมันอาจจะสะสมตัวเองเป็นก้อนโตขึ้นๆ เคยพบว่า บางคนมีก้อนนิ่วโตขนาดกำปั้นของตัวเองก็ยังมี ผู้ป่วยของไทยเราพบมากที่สุด คือ คนจากภาคอีสาน

เมื่อก้อนนิ่วติดอยู่ในท่อไตหรือท่อปัสสาวะ อาการที่เกี่ยวกับ "ฉี่" คือ ผู้ป่วยมักจะฉี่ไม่ออก บางครั้งฉี่ออกมากะปริบกะปรอยและมีเลือดปนออกมาด้วย อาการทั่วๆไปนอกจากเกี่ยวกับฉี่แล้ว คือ จะมีอาการปวด ปวดถี่ๆหรือปวดๆหยุดๆ การปวดจะเป็นการปวดบริเวณหลังใต้บั้นเอว บางคนมีไข้ต่ำๆหรือบางครั้งไข้ก็ขึ้นสูงได้ ถ้าประกอบกับติดหวัดหรือเชื้ออย่างอื่นด้วย จะแถมด้วยอาการคลื่นไส้ก็มี โดยเหตุที่การฉี่ผิดปกติแบบนี้เกิดจาก ก้อนนิ่วโดยตรง ถ้าแก้ต้นเหตุได้ การฉี่ผิดปกติก็จะหายไป

อย่างไรก็ตาม ถ้าก้อนนิ่วไม่โตมากและไม่ไปอุดท่อไตหรือท่อปัสสาวะ ผู้ป่วยก็พอจะฉี่ได้บ้างไม่ได้บ้าง แพทย์บางคนจะให้ยาประเภทช่วยให้กล้ามเนื้อหย่อน กล้ามเนื้อที่ท่อปัสสาวะก็จะขยาย และบางครั้งก้อนนิ่วก็หลุดตามปัสสาวะออกมาด้วย อย่างไรก็ตาม ถ้านิ่วไม่ได้หลุดออกมา คงต้องอาศัยการผ่าตัด แต่ปัจจุบันนี้การผ่าตัดใหญ่ดูจะไม่จำเป็น เพราะมีเครื่องมือสลายนิ่วด้วยคลื่นเสียงที่เรียกว่า ลิทโฮทริบเตอร์ ( LITHOTRIPTOR)

ที่มาข้อมูลและภาพ cheewajit.com




 

Create Date : 26 มิถุนายน 2556    
Last Update : 26 มิถุนายน 2556 7:23:13 น.
Counter : 1982 Pageviews.  

ทำไม "ชีวจิต" ถึงไม่แนะนำให้รับประทานเนื้อสัตว์



  “พวกเนื้อ พวกไก่ พวกหมู สัตว์ที่เป็นอาหารเดี๋ยวนี้ เรามีวิธีเลี้ยงแบบ Mass Production ที่ต้องมีอาหารสัตว์ ต้องมีการให้ยา ต้องมีการให้ฮอร์โมน ให้ยาบำรุงทุกอย่าง แถมการให้นั้นเป็นการให้แบบ Overdose ซึ่งจะตกค้างอยู่ในตัวของสัตว์ เมื่อเราเอามากินกัน จึงอาจเป็นอันตรายจนถึงขั้นร้ายแรงที่สุดได้ คือ มะเร็ง”

   “อย่างไก่ตอน ตั้งแต่ไก่เริ่มเกิดมาก็ให้พวกวัคซีน พอโตขึ้นมาก็ให้ยาป้องกันโรค พอโตขึ้นมาอีกหน่อยก็ให้ฮอร์โมนเข้าไปเพื่อให้มันโตเร็ว เขาฝังไว้ที่คอเป็นเม็ดเบ้อเร่อ พอฆ่าไก่ตาย สารต่างๆ ก็ยังสะสมอยู่ในคอไก่นั่นเอง และสิ่งที่ตกค้างอยู่ในสัตว์นี้ ได้มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์มาแล้วว่าเป็นสารก่อมะเร็ง ด้วย”

   “เมื่อพิจารณาในเรื่องเนื้อสัตว์แล้ว อาหารทะเลมีประโยชน์กว่าเนื้อสัตว์อื่นๆ โดยเฉพาะเนื้อปลา นอกจากจะเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพดีแล้ว ปลาทะเลยังมีสารและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์อีกมากมาย เช่น ไอโอดีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็ก”

   แต่ใครหลายคนอาจสงสัยต่อว่า เมื่ออาหารทะเลมีประโยชน์ ทำไมจึงแนะนำให้รับประทานเพียงอาทิตย์ละหนึ่งครั้งเท่านั้น ที่แนะนำเช่นนี้ เนื่องจาก การกินปลา หรืออาหารทะเลอื่นๆ เพียงต้องการให้ร่างกายได้รับแอมิโนแอซิดบางตัวมาจากโปรตีนให้ครบถ้วนตามความต้องการของร่างกายเท่านั้น ไม่ใช่กินเพื่อความเอร็ดอร่อยแต่อย่างใด หากแต่เป็นการกินในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้สุขภาพของคุณดีขึ้นนั่นเอง

   สำหรับเนื้อปลาที่แนะนำ ถ้าเป็นเนื้อปลาสีขาวจะดีมาก เพราะปลาชนิดนี้จะมีไขมันน้อย รับรองไม่ทิ้งไขมันสะสมไว้ในร่างกายให้รำคาญใจ


ที่มาข้อมูล cheewajit.com
ที่มารูปภาพ thaiza.com




 

Create Date : 25 มิถุนายน 2556    
Last Update : 25 มิถุนายน 2556 7:36:22 น.
Counter : 1456 Pageviews.  

"มะละกอสุก" ช่วยกำจัดรอยด่างดำจากแผลเป็น



ปัญหาแผลเป็น รอยดำ เวลาอยากจะใส่กระโปรงสั้นหรือกางเกงขาสั้นในวันที่อากาศร้อนๆ ทีไร ก็อายขาลายๆ ของตัวเอง สุดท้ายก็ต้องหยิบกางเกงขายาวมาใส่ปกปิด เรามีวิธีช่วยลบรอยแผลเป็นแบบโฮมเมด นั่นคือการใช้ มะละกอสุก ที่หาได้ตามตลาดบ้านเรา ลองหันมาใช้วิธีการบ้านๆ แบบไม่ต้องเปลืองเงิน เปลืองแรงอะไรเลย เพียงแค่ใช้เวลาก่อนอาบน้ำเพียงห้านาทีเท่านั้นเอง

ขอเตือนว่า ใครที่ผิวบอบบาง แพ้ง่าย ไม่เหมาะกับวิธีการนี้นะคะ และที่สำคัญ ห้ามใช้สูตรนี้กับใบหน้าเด็ดขาด เพราะจะทำให้ผิวหน้าบาง จนทำให้ผิวไวต่อแสงแดด ซึ่งก่อให้เกิดฝ้า กระ ตามมาได้ และที่แย่ไปกว่านั้นคือ อาจทำให้เป็นมะเร็งผิวหนังได้ด้วย

ส่วนผสม
 •มะละกอสุก 2-3 ชิ้น บดให้ละเอียด
•เกลือป่นละเอียด 5 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนง่ายๆ
1. ล้างขาและเท้าให้สะอาด ซับให้แห้ง
2. นำมะละกอสุกที่บดแล้ว มาผสมกับเกลือ จากนั้นนำมาขัดเบาๆ ให้ทั่วขาและหลังเท้า หรือทาเฉพาะบริเวณที่มีรอยแดง รอยดำ
3. ขัดประมาณ 1 นาที จากนั้นก็นำมะละกอผสมที่เหลือ มาพอกให้ทั่วขา พอกทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที
4. ล้างออกด้วยน้ำสะอาด ซับให้แห้ง แล้วทาครีมบำรุงผิวเป็นขั้นตอนสุดท้าย

ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง รับรองว่ารอยแผลเป็น รอยแดง รอยดำจะค่อยๆ จางลง


ที่มาข้อมูล teenee.com
ที่มารูปภาพ vitamin.co.th




 

Create Date : 24 มิถุนายน 2556    
Last Update : 24 มิถุนายน 2556 7:29:48 น.
Counter : 1658 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.