ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 
ทำไมควายกินหญ้า....

มหัศจรรย์..วัวกินหญ้า..แต่โปรตีนสูง

อยากได้โปรตีนต้องทานจากเนื้อสัตว์เท่านั้น เป็นความคิด ความรู้ ความเข้าใจ แบบวิชาที่ได้เรียนมาจากฝั่งตะวันตก แล้วเคยสงสัยมั้ยว่า ทำไม วัวที่กินแต่หญ้ากลับมีโปรตีนสูงลิบ มีพละกำลังมากมาย บึกบึน มีเนื้อมาก ทั้งๆ ที่วัวไม่ได้กินโปรตีน

ส่วนประกอบของคาร์โบไฮเดรต คือ คาร์บอน+ไฮโดรเจน+ออกซิเจน ในขณะที่โปรตีนมีส่วนประกอบทางเคมีคือ คาร์บอน+ไฮโดรเจน+ออกซิเจน+ไนโตรเจน สูตรของโปรตีนเท่านั้นที่มีไนโตรเจนเพิ่มขึ้นมาต่างจากคาร์โบไฮเดรตและไขมัน

แล้วไนโตรเจนของโปรตีนในร่างกายมาจากไหน?

ร่างกายมนุษย์สามารถสังเคราะห์ไนโตรเจนขึ้นมาโดยใช้ คาร์บอน กับออกซิเจน ซึ่งการสังเคราะห์นี้ใช้ได้กับร่างกายที่มีชีวิตเท่านั้น อย่าลืมว่า อากาศที่เราหายใจอยู่ทุกขณะมีไนโตรเจนประกอบอยู่ถึง 78% ในขณะที่ออกซิเจนที่เราหายใจมีแค่ 21%

ดังนั้น เมื่อเราหายใจ ไนโตรเจนก็เข้าไปในเส้นเลือด และกระจายไปยังส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำเหลือง น้ำย่อย ฮอร์โมนต่างๆ ด้วย

เพราะฉะนั้น ถ้าร่างกายต้องการโปรตีน ก็ไม่จำเป็นต้องทานจากเนื้อสัตว์ หากแต่ให้ร่างกายสังเคราะห์ขึ้นเองด้วยระบบของร่างกายเท่านั้น นี่แหละ จึงจะเป็นโปรตีนที่แท้จริง เป็นโปรตีนตามสเปก ตามวงจรของเซลล์ หากรับโปรตีนจากเนื้อสัตว์ก็เป็นเพียงโปรตีนที่ใช้แล้วจากสัตว์ เป็นโปรตีนสำเร็จรูป เป็นพลังขาออก พลังที่มีมลภาวะ ร่างกายใช้เป็นวัตถุดิบไม่ได้ เป็นได้ก็แค่ขับทิ้งออกมาและตกตะกอนสร้างภาวะหมักหมมเน่าเฟะในลำไส้ทั้งระบบ

ในขณะที่เรากินข้าวกล้องเป็นอาหารหลัก แม้ว่าในข้าวนั้นจะไม่มีสัดส่วนของโปรตีนสูงให้เห็นก็ตาม แต่ปัจจัยที่มีอยู่ในข้าวกล้องเป็นตัวแปรสำคัญ เป็นตัวเชื่อมตัวสุดท้ายให้กับการสร้างโปรตีนในร่างกายขึ้นมา ซึ่งเป็นโปรตีนแท้ๆ ที่ร่างกายต้องการ

ที่มา: //www.oknation.net/blog/lifetime/2009/12/09/entry-3


Create Date : 08 เมษายน 2557
Last Update : 8 เมษายน 2557 16:22:15 น. 0 comments
Counter : 2413 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.