ต้องบอกกันก่อนว่าการเรอกับการตดนับว่าเป็นเรื่องเดียวกับการอุจจาระปัสสาวะ หรือว่าง่ายๆ ก็คือการขับถ่ายนั่นแหละ แต่สิ่งที่ออกมาเป็นเพียงแค่แก๊ส ที่ออกมาโดยการบีบตัวของลำไส้ใหญ่ แต่ถ้าออกมาทางก้น หากมีกลิ่นเหม็นก็อาจเพราะเราไม่ขับถ่ายของหนักเป็นเวลานานหรือลำไส้มีแบคทีเรียสะสมอยู่มาก แต่ถ้าใครไม่มีการผายลมเลยอาจมีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้หรือมะเร็งแล้วก็เป็นได้ สำหรับผู้ที่ตดบ่อยแทนที่จะตดหนักรอบเดียว ก็อาจเกิดจากโรคหลายโรค เช่น กระเพาะอาหารอักเสบ นิ่วในถุงน้ำดี มะเร็งลำไส้ใหญ่ ตับอ่อนอักเสบ รวมถึงท้องผูกด้วยเช่นกัน ล้วนเป็นเหตุให้เกิดการผายลมได้ 

         อาทิเช่นไม่กินไข่ เนื้อ เบียร์ ถั่ว หรือผักประเททกะหล่ำมากเกินไป เพราะมีสารกำมะถันทำให้แบคทีเรียในลำไส้ย่อยเป็นแก๊สไข่เน่า ทำให้การผายลมมีกลิ่นได้ หรือแม้แต่การแช่ถั่วในน้ำ ให้น้ำท่วมถั่ว 2 นิ้ว ทิ้งไว้ 4 ชั่วโมงหรือข้ามคืน กินผักใบเขียว ทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีจุลินทรีย์ชนิดดีประจำ เช่นแลคโตบาซิลลัส เพื่อให้จุลินทรีย์ไปแย่งอาหารลดจุลินทรีย์กลุ่มที่สร้างแก๊สลง ไม่ดื่มน้ำอัดลม เบียร์ เพราะเป็นเครื่องดื่มที่อัดแก๊สเข้าไป ทำให้เมื่อดื่มแล้วจะเข้าไปเพิ่มปริมาณแก๊สในลำไส้ และถ้าหากดื่มเกิน 1 กระป๋องเล็กต่อวันอาจเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ รวมถึงควรลดอาหารไขมันสูง ควรทานอาหารไขมันต่ำแทน ข้อดีในอาหารไขมันต่ำคือการย่อยและดูดซึมอาหารนั้นช้าลง น้ำตาลในเลือดเพิ่มและลดช้าลง รู้สึกอิ่มนานและต้านทานโรคอ้วน และข้อสุดท้ายคือเคลื่อนไหวร่างกายให้มากเข้าไว้ เพราะการออกกำลังกายประจำทำให้ลำไส้และระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี ท้องไม่ผูกง่ายและลดการผายลม 

มันอาจเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำ แต่เรื่องเหล่านี้ก็ทำให้บุคลิคภาพเราเสียได้เสมอ อีกทั้งยังเป็นการบ่งบอกสุขภาพร่างกายของตนเองด้วย หากเราใส่ใจเรื่องนี้ก็ไม่เป็นเรื่องเสียหาย ยิ่งทำให้ดูดีทั้งภายในภายนอกเลยด้วยซ้ำ