ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

“มะนาวโซดา”รักษามะเร็ง”ไม่ได้”


คอลัมน์ เครื่องแนม

เป็นประเด็นที่น่าสนใจและมีการแชร์อยู่บ่อยครั้งบนโลกไซเบอร์

ผู้ป่วยหลายคนมักคิดว่าไม่มีอะไรจะเสียมากกว่านี้แล้วไปๆมาๆ เลยเกิดเป็นอุปทานว่า ดื่มแล้วดี กระปรี้กระเปร่า อาการทุเลาลง

นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ ย้ำว่า "มะนาวโซดารักษามะเร็งไม่ได้" พร้อมกับแจกแจงข้อดี-เสียให้ฟังว่า

มะนาวมีคุณสมบัติคล้าย "ยาขับปัสสาวะอ่อนๆ" ช่วยกระตุ้นตับและถุงน้ำดีให้บีบตัว ซึ่งบางกรณีทำให้นิ่วในถุงน้ำถูกขับออกมา

แต่ก็มีข้อเสียคือ ทั้งมะนาวและโซดาต่างมีฤทธิ์เป็น "กรด" จึงไม่ควรดื่มขณะท้องว่าง อีกทั้งผู้เป็นโรคกระเพาะ โรคกรดไหลย้อน ห้ามเด็ดขาด

สำหรับประเด็นว่ารักษามะเร็งได้หรือไม่ ยังไม่มีงานวิจัยที่ไหนรับรองสรรพคุณดังว่า แม้จะมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระได้ แต่ไม่เหมือนยาเคมีบำบัดแน่นอน

ประโยชน์ที่พอจะได้อยู่บ้างคือ การที่ร่างกายได้เติมน้ำให้สดชื่น ซึ่ง...แค่น้ำมะนาวคั้นสดก็เป็นคุณเหมือนกันแล้ว

เก็บโซดาไว้ผสมอย่างอื่นดีกว่า เช่น...น้ำแดงโซดา

ขอขอบคุณ มติชนออนไลน์ ผู้สนับสนุนเนื้อหา




 

Create Date : 03 มีนาคม 2558    
Last Update : 3 มีนาคม 2558 8:03:02 น.
Counter : 987 Pageviews.  

7 ข้อดี จากการกินเผ็ด!


หนึ่งเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของอาหารไทย คือ รสเผ็ดจากพริกหรือเครื่องเทศที่ใช้ นอกจากจะเสริมให้อร่อยลิ้นแล้ว ถ้ารับประทานรสเผ็ดที่เหมาะสมย่อมส่งผลดีต่อสุขภาพ

นายแพทย์กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ เล่าว่า การกินเผ็ดแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้นั้นจะนำความเดือดร้อนมาให้ได้ เช่น กินเผ็ดจนเป็นโรคกระเพาะ หรือกินเผ็ดจัดในขณะท้องว่าง แถมยังกินผิดเวลา อย่างนี้เผ็ดก็เป็นโทษได้ ส่วนผู้ที่กินเผ็ดอย่างเข้าใจนั้นนอกจากจะได้เรื่องความอร่อยลิ้นแล้วยังได้อานิสงส์จากความเผ็ดในแง่สุขภาพอีกหลายข้อ ในวันนี้จะขอนำประโยชน์เผ็ดจาก “พริก” มาเล่าให้ฟังเป็นข้อๆ

เริ่มจากพริกช่วยป้องกันหัวใจ ด้วยวิตามินสำคัญ คือ วิตามินเอ, วิตามินซี, แคลเซียม และธาตุเหล็กมีมากในพริกสดและพริกแห้ง ถ้าห่วงเรื่องการเผ็ดมากให้ไปรับประทานพริกไทยหรือพริกหวานที่ใส่ในสลัดก็ยังได้

ต่อมาช่วยขยายหลอดลม มีเคมีที่ช่วยขับเสมหะและเปิดคอให้โล่งขึ้น ในคนที่เป็นภูมิแพ้ การกินเผ็ดจะช่วยได้ดีมาก หากเป็นเด็กอาจเพียงแค่พริกไทยหรือใช้หัวหอมที่เผ็ดน้อยพอ และสำหรับเด็กน้อยกับผู้สูงวัยขอให้ระวังอย่าให้สำลักพริกด้วย

ทั้งยังช่วยไล่เซลล์มะเร็ง แค่พริกป่นง่ายๆ อย่างนี้ก็ช่วยกำจัดเซลล์มะเร็งได้ โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมากในผู้ชาย และมะเร็งผิวหนังกับมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วย เพราะพริกช่วยล้างพิษ (Detox) ให้กับร่างกาย ลำพังใช้พริกป่นในพวงเครื่องปรุงก๋วยเตี๋ยวก็ช่วยได้แล้ว แต่ถ้ายิ่งได้รับประทานพริกสดด้วย อย่างน้ำปลาพริกขี้หนูสดก็ยิ่งช่วยได้ดี

นอกจากนี้ความเผ็ดของพริกช่วยลดไขมัน ป้องกันลิ่มเลือดจับตัว และช่วยคุมน้ำหนัก เพราะทำหน้าที่เผาผลาญพลังงานให้ด้วย ทั้งนี้จากการศึกษาในอินเดียพบว่า อาสาสมัครที่รับประทานพริกนั้นให้ผลในการลดลิ่มเลือดอุดตันตามหลอดเลือดได้ อีกทั้งปลอดภัยจากสารพิษตกค้างไม่เหมือนกับกินยาด้วย

แล้วยังสามารถลดปวดด้วยกรดเผ็ด ที่เรียกว่า “แคปไซซิน” ในพริก รวมถึงสาร “เคอคิวมิน” ในเครื่องเทศอย่างขมิ้นที่ช่วยดับไฟอักเสบได้ จึงเหมาะกับผู้มีอาการปวดไปจนถึงแสบร้อนจากการอักเสบตามที่ต่างๆ อาทิ โรคเริม, งูสวัดไปจนถึงปวดอักเสบตามข้ออย่างรูมาตอยด์, ข้อเสื่อม และอาการปวดฟกช้ำทั้งหลาย

พริกเผ็ดยังช่วยคลายเครียด พริกเป็นอาหารร่าเริงที่แท้จริงเพราะสร้าง “เอ็นดอฟิน” เป็นเคมีสุขที่ทำให้สดชื่นมีชีวิตชีวาหลั่งออกมาภายหลังจากกินเผ็ดไปไม่นาน ลองสังเกตอาการหลังทานส้มตำพริกสิบเม็ดได้ว่าเหงื่อออกแล้วสบายตัวสดชื่นดี

และสุดท้ายช่วยเรียกน้ำย่อยเจริญอาหาร ผู้ใหญ่มักเบื่ออาหารเมื่อถึงวัยหนึ่ง ดังนั้นการได้รับประทานรสเผ็ดจะช่วยสะกิดต่อมรับรสให้รู้โอชะได้ดีขึ้น นอกจากรสขมแล้วเผ็ดเป็นรสที่ช่วยกระตุ้นดอกลิ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง.

 

ข้อมูลจาก : //www.dailynews.co.th/




 

Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2558    
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2558 8:25:10 น.
Counter : 1032 Pageviews.  

วิธีการเลือกหมอน ให้หลับสบาย

วิธีการเลือกหมอน ให้หลับสบาย

ความทุกข์ของคนอาจจะเกิดจากเป็นโรค บางคนถ่ายไม่ได้หรือถ่ายลำบากก็ทุกข์ รับประทานมากเกินไปหรือน้อยเกินไปก็ทุกข์ การนอนไม่หลับก็เป็นทุกข์โดยเฉพาะผู้สูงอายุ การนอนหลับเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด เป็นการพักผ่อนทั้งร่างกายและจิตใจหลังจากที่ได้ทำงานหนักทั้งกายและใจ การจะนอนให้หลับดีต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง การเลือกหมอนที่เหมาะสมก็อาจจะทำให้นอนหลับดีขึ้น และยังลดอาการของอาการปวดหลังหรือปวดคอ

วิธีการหนุนหมอน
1.นอนหงาย ตำแหน่งที่จะใช้หนุนได้แก่บริเวณศีรษะ คอไหล่ และเข่า
2.นอนตะแคง มีหมอนใบหนึ่งหนุนศีรษะโดยที่หมอนต้องไม่สูงเกินไป และมีหมอนข้างอีกใบไว้ระหว่งขา บางท่านอาจจะใช้ผ้าขนหนูม้วนหนุนข้อมือด้านที่ตะแคง
3.นอนคว่ำ ไม่ต้องใช้หมอนหรือหากจะใช้ต้องค่อนข้างจะแบน และอาจจะมีหมอนใบเล็กๆหนุนตรงบริเวณท้อง

ชนิดของหมอน
1.หนุนที่เข่าซึ่งสามารถหนุนได้สองรูปแบบ คือนอนหงายแล้วเอาหมอนหนุนใต้เข่า หรือนอนตะแคงหมอนอยู่ระหว่างขา ท่านอนและการใช้หมอนท่านี้จะช่วยลดอาการปวดหลังเนื่องจากกล้ามเนื้อหลังอักเสบ หมอนที่ใช้คือหมอนข้าง

2.หมอนหนุนทีศีรษะและคอ หมอนที่ดีควรจะรองตั้งแต่ต้นคอจรดถึงศีรษะ ความสูงของหมอนประมาณ 4-6 นิ้วโดยหมอนควรจะนุ่มเพื่อที่ส่วนที่รองศีรษะยุบจนกระทั่งหมอนสามารถรองรับบริเวณคอ หมอนชนิดนี้เหมาะสำหรับคนที่ปวดต้นคอ หากหมอนสูงเกินไปเมื่อนอนหงายหรือนอนตะแคง กล้ามเนื้อคอจะถูกยืดมากเกินไปทำให้ปวดกล้ามเนื้อคอ และที่สำคัญในทางนอนหงายหากหมอนสูงไปจะทำให้ทางเดินหายใจแคบเกิดอาการกรน

3.หมอนรูปตัว U เป็นหมอนทีใช้สำหรับหนุนคอขณะเดินทางโดยสารเพื่อป้องกันมิให้คอเอียงไปทางด้านใดด้านหนึ่ง หรือหงายไปทางด้านหลัง เหมาะสำหรับนั่งหลับขณะโดยสารในรถหรือเครื่องบิน

4.หมอนรองหลัง ใช้สำหรับหนุนหลังส่วนเอว เหมาะสำหรับคนที่ต้องทำงานนั่งนาน หรือขับรถนาน เพื่อลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อหลัง

5.หมอนรูปโดนัท เหมาะสำหรับผู้ที่มีกระดูกก้นกบหัก เวลานั่งจะไม่ปวดก้น

เมื่อท่านเลือกที่จะใช้หมอนที่ใดที่หนึ่งให้ลองดูสัก 1-2 สัปดาห์จึงจะเห็นผล เมื่อใช้หมอนไประยะเวลาหนึ่งความนุ่มของหมอนจะเสียไป ต้องเปลี่ยนหมอนแล้วล่ะ

ที่มาข้อมูล vajira.ac.th
ที่มารูปภาพ decorreport.com




 

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2558    
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2558 8:32:30 น.
Counter : 1088 Pageviews.  

5 หินนำโชคเสริมมงคลเน้นรวยโชคลาภ

กระแสของ "" ยังคงแรงอย่างต่อเนื่อง แม้บางคนจะยืดถือเอาจริงเอาจัง หรือบางคนก็เน้นใส่สวยงามเรื่องเสริมดวงถือว่าเป็นผลพลอยได้ก็ตาม แต่ก็มีคนจำนวนมากที่ยังคงเชื่อในเรื่องที่ว่าหินเหล่านี้จะ “นำโชค” มาสู่ผู้ที่สวมใส่

หินนำโชค

ซึ่งหิน 5 ชนิดที่มาแนะนำกันในวันนี้ถือได้ว่าเป็นหินยอดนิยมอันดับต้นๆ ของผู้ที่ชื่นชอบหินสีต้องมีไว้ครอบครองกันเลยทีเดียว เพราะเจ้าหินทั้ง 5 ชนิดนี้ จะช่วยในเรื่องของเงินๆ ทองๆ เสริมรวยเน้นให้เกิดโชคลาภแก่ผู้สวมใส่เป็นหลัก มีดังต่อไปนี้

ยูนาไคต์ (Unakite)

1. ยูนาไคต์ (Unakite) หินมงคลเสริมดวงเงินทองและเสริมบารมี พบมากในแอฟริกาใต้หรืออเมริกาใต้ เป็นหินที่ชาวอินเดียนแดงยกให้เป็นหินศักดิ์สิทธิ์ เป็นสัญลักษณ์ของการเกิดใหม่ และหินแห่งความสมปรารถนา ผู้ที่พกหินชนิดนี้จะเสริมในเรื่องการ ทำมาหาเงิน เสริมทรัพย์สินเงินทอง และบารมี

นอกจากนี้แล้ว ยูนาไคต์ ยังเป็นหินเรียกทรัพย์รับโชค เหมาะกับคนที่ชอบการเสี่ยงโชค ชอบเล่นการพนัน และยังช่วยกระตุ้นให้เกิดโชคลาภแบบไม่ทันตั้งตัว ในส่วนของคนที่ต้องงานในสถานที่เสี่ยงภัย พลังอำนาจของหินจะช่วยเสริมจิตใจให้มีความกล้า เผชิญหน้า กล้าตัดสินใจ ทำอะไรด้วยความเด็ดขาดและรอบคอบ

หินไหม 5 สี

2. หินไหม 5 สี สุดยอดหินมงคลนำพาโชคลาภที่ต้องมี เป็นหินมงคลที่ช่วยเสริมความมั่งคั่งร่ำรวย เสริมให้มีชื่อเสียงในแวดวงการทำงานงาน ช่วยขจัดอุปสรรคปัญหาในการทำงาน

ช่วยฟื้นฟูฐานะเงินทองและฟื้นฟูกิจการให้ก้าวหน้ามากขึ้น หินไหม 5 สีประกอบไปด้วย ไหมทอง ไหมเงิน ไหมนาค ไหมดำ และไหมเขียว

ลาพิส ลาซูลี (Lapis Lazuli)

3. ลาพิส ลาซูลี (Lapis Lazuli) หินมงคลเสริมเงินทอง ความโชคดี และบารมี ถือเป็นของมีค่ามาตั้งแต่โบราณเพราะมีสีน้ำเงินสด ประกอบไปด้วย แร่ 3 ชนิด

ทำให้มีสีต่างกันคือ แร่ไพไรท์ (Pyrite) สีทอง, แร่คาลไซท์ (Calcite) สีขาว, แร่ลาซูไรท์ (Lazurite) สีน้ำเงิน เป็นหินหายากที่หากใครมีพกไว้กับตัวจะช่วยเสริมความเจริญรุ่งเรืองในทุกๆด้าน

เหมาะสำหรับคนที่ใช้เงินเก่ง พลังอำนาจของหินจะช่วยอุดรูรั่ว และช่วยให้มีเงินทองเหลือเก็บมากขึ้น

ไหมทอง หรือ หินรูไทล์ควอทซ์ (Rutile Quartz)

4. ไหมทอง หรือ หินรูไทล์ควอทซ์ (Rutile Quartz) หินมงคลที่เสริมดวงในเรื่องเงินทอง และโชคลาภ หากพกไว้ติดตัวจะช่วยเรียกเงินเรียกทอง

เป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งร่ำรวย นำพาซึ่งความอุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังเป็นหินที่มีพลังบำบัดสูง ช่วยเสริมให้จิตใจมีชีวิตชีวา มีความกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น

หินอาเกต (Agate)

5. หินอาเกต (Agate) หรือที่นิยมเรียกกันในหลายๆชื่อไม่ว่าจะเป็น หินโมรา หินปกป้อง หินร่ำรวย หินคุ้มกัน หินใจเย็น และอื่นๆ นับเป็นหินมงคลนำมาโชคลาภที่ได้รับความนิยมไม่แพ้หินชนิดอื่นๆ

เนื่องจากมีพลังอำนาจในการเสริมทรัพย์สินเงินทอง เสริมความมั่งคั่งร่ำรวยให้กับผู้พกพาได้เป็นอย่างมาก

…ถ้าชาว Sanook! Horoscope คนไหนที่อยากจะเสริมดวงด้านการเงิน เพิ่มความรวยความเฮงก็ลองหาหินนำโชคทั้ง 5 ชนิดนี้มาสวมใส่กันดูค่ะ




 

Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2558    
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2558 8:06:44 น.
Counter : 2744 Pageviews.  

ชาเขียวกับสุขภาพ ประโยชน์อันโดดเด่นที่ไม่ควรมองข้าม

อย่างที่ทราบกันดีแล้วว่าการกินอาหารอย่างผักผลไม้ล้วนให้คุณประโยชน์สุขภาพร่างกายดีอยู่แล้ว รองลงมาหากเป็นเครื่องดื่มก็ย่อมต้องเป็นน้ำเปล่าแน่นอนที่นับว่าเป็นสุดยอดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพดี อย่างไรก็ตาม อย่าเพิ่งมองข้ามเครื่องดื่มอย่างชาเขียวอีกหนึ่งชนิดกันนะคะ

เพราะชาเขียวมากด้วยประโยชน์มากกว่าที่คิด วันนี้เราจึงไม่พลาดกับการนำเอาประโยชน์จากชาเขียวมาแนะนำให้ได้ทราบกัน หากรู้กันแล้วเชื่อว่าทุกคนย่อมไม่มีพลาดกับการหันมาดื่มชาเขียวเป็นประจำอย่างแน่นอน ทว่าจะต้องเป็นชาที่ชงดื่มแบบร้อนๆ เท่านั้นนะคะ ไม่ใช่เครื่องดื่มชาเย็นเด็ดขาด เพราะการดื่มแบบเย็นให้สารอาหารที่ได้จากใบชาน้อยกว่าการดื่มแบบร้อน และยังทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารจากชาได้น้อยกว่าอีกด้วยนั่นเอง เอาล่ะ เรามาดูประโยชน์อันโดดเด่นจากชาที่ไม่ควรมองข้ามไปพร้อมกันเลย

ชาเขียวกับสุขภาพ ประโยชน์อันโดดเด่นที่ไม่ควรมองข้าม

ชาเขียวกับสุขภาพ ประโยชน์อันโดดเด่นที่ไม่ควรมองข้าม

ดื่มชาเขียว 2 ถ้วยต่อวัน ป้องกันอาการขี้ลืมได้
เพราะมีการศึกษาจากผู้สูงอายุในญี่ปุ่นที่ดื่มชาเขียวเป็นประจำทุกวัน อย่างน้อยวันละ 2 ถ้วยพบว่า ผู้สูงอายุเหล่านั้นมีอาการสูญเสียความจำหรือหลงลืมน้อยกว่าคนวัยเดียวกันที่ไม่ได้ดื่ม เพราะในชาจะมีกรดอะมิโนแอล-ธีอะนิน (L-theanine) ที่มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นคลื่นอัลฟ่าในสมอง ดื่มแล้วจะทำให้จิตใจสงบนิ่ง ผ่อนคลายและมีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่ทำได้ดีขึ้นในระยะหนึ่งทีเดียว สำหรับกรดอะมิโนนั้นพบได้จากใบชาทุกชนิด ทว่าจะพบมากที่สุดจากใบชาเขียวนั่นเอง

ชาเขียวกับสุขภาพ ประโยชน์อันโดดเด่นที่ไม่ควรมองข้าม

ชาเขียวกับสุขภาพ ประโยชน์อันโดดเด่นที่ไม่ควรมองข้าม

ดื่มชาแค่ไหนจึงจะเหมาะสมต่อวัน
การดื่มชาเพื่อให้ได้ผลดีต่อสุขภาพ เราควรดื่มแบบไม่ใส่น้ำตาลนั่นแหละดีที่สุด และสามารถดื่มได้มากถึง 4-9 ถ้วยต่อวันเลยทีเดียวหรือสามารถจิบน้ำชาแทนน้ำเปล่าได้นั่นเอง อย่างไรก็ตาม ไม่ควรดื่มหลังจาก 5 โมงเย็นไปแล้วเด็ดขาด เพราะไม่เช่นนั้น ฤทธิ์จากคาเฟอีนจะกระตุ้นสมองให้เกิดการตื่นตัวจนส่งผลให้นอนไม่หลับนั่นเองค่ะ

ดื่มชาให้ได้ประโยชน์สูงสุด ควรดื่มเวลาไหนดีนะ?

ดื่มชาให้ได้ประโยชน์สูงสุด ควรดื่มเวลาไหนดีนะ?

2 ประโยชน์อันโดดเด่นกับการดื่มชาที่ไม่ควรมองข้าม!
1.ดื่มชาชงร้อน แนะนำให้ดื่มชาชงร้อนเป็นประจำทุกวันๆ ละ 4 ถ้วย เพื่อช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง เนื่องจากสารไฟโตเคมีคอลจากใบชามีส่วนบำรุงไม่ให้กระดูกเปราะบางลง ดังนั้น แนะนำให้ชงชาร้อนดื่มแบบไม่ใส่น้ำตาลอย่างน้อย 4 ถ้วยต่อวันนะคะ ประสิทธิผลดังกล่าวก็จะเกิดขึ้นกับกระดูกและฟันจนแข็งแรงแน่นอน

ชาเขียวกับสุขภาพ ประโยชน์อันโดดเด่นที่ไม่ควรมองข้าม

ชาเขียวกับสุขภาพ ประโยชน์อันโดดเด่นที่ไม่ควรมองข้าม

2.ดื่มชาเขียว 5 แก้วทุกวันจะมีประสิทธิภาพช่วยลดน้ำหนัก ลดการสะสมของไขมันได้ เพราะสารไฟโตเคมีคอลจะช่วยลดการสะสมของไขมันและยับยั้งไม่ให้ร่างกายดูดซึมไขมันมาเก็บไว้ จนเกิดเป็นไขมันส่วนเกินตามส่วนต่างๆ นั่นเอง ดังนั้น หากคุณหมั่นดื่มชาเขียววันละ 5 แก้วต่อวันก็จะยิ่งช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญแคลอรี่ให้ทำงานได้สูงมากถึง 70-80 แคลอรี่กันเลยทีเดียว

ทราบถึงคุณประโยชน์จากการดื่มชาอันโดดเด่นเพียงนี้แล้ว ไม่อยากจะพลาดการดื่มชาซะแล้วล่ะ แล้วคุณจะอยากหันมาจิบน้ำชาแทนน้ำเปล่าเพื่อสุขภาพกันมากขึ้นแน่นอนค่ะ




 

Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2558    
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2558 10:22:56 น.
Counter : 1138 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.