ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

หัวหอมใหญ่ยาครอบจักรวาล



ทราบหรือไม่ว่า...การทานหัวหอม ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการปรุงอาหาร แล้วจะช่วยให้คุณห่างไกลจากโรคหัวใจ และไขมันอุดตัน ซึ่งในปัจจุบันการทานอาหารมีวิธีการทานที่จะต้องแข่งกับเวลาซะเป็นส่วนใหญ่ อาหารที่ได้รับในแต่ละวันจึงไม่ตรงกับความต้องการของร่างกายตัวเอง งั้นคุณลองหันมาทาน "หัวหอมใหญ่" ที่เป็นส่วนประกอบของอาหารต่างๆ ดีกว่าค่ะ

หอมหัวใหญ่ มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันตก มีสรรพคุณเป็นพืชสมุนไพร มีสารสำคัญคือ ฟลาโวนอยด์ ไกลโคไซด์ (Flavonoid glycosides) ซึ่งมีคุณสมบัติขัดขวางไขมัน ไม่ให้เกาะตามผนังเส้นเลือด ซึ่งถ้าเกาะมากๆ จะเกิดภาวะเส้นโลหิตอุดตันทำให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือดได้ นอกจากนี้ หอมหัวใหญ่ยังช่วย "ลดไขมันในเลือด" ได้อีก ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่เป็นโรคอ้วน

น่าสนใจมากที่ปัจจุบัน นิยมนำหอมหัวใหญ่มาทำเป็นน้ำมันหอมระเหย หรือที่เราเรียกกันว่า การบำบัดแบบ "อโรมาเทอราปี" โดยหอมหัวใหญ่ที่สุกจะมีน้ำมันหอมที่ชื่อว่า "อัล ลิลิก ไดซัลไฟด์ (Allilic disulfides)" ซึ่งมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียได้ ถ้าสูดดมมากๆ จะช่วยกระตุ้นการขับปัสสาวะ บรรเทาอาการหวัด และลดเสมหะได้ หรือน้ำคั้นจากหอมหัวใหญ่ ก็จะช่วยลดอาการอักเสบบวม หรือลดความดันโลหิตและน้ำตาลในเส้นเลือด เนื่องจากหอมหัวใหญ่มีธาตุฟอสฟอรัสที่สูง จึงช่วยทำให้ความจำดีขึ้นอีก และยังสามารถนำหอมหัวใหญ่ไปใช้เป็นยาทาภายนอก ช่วยลดอาการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรียใช้แก้พิษแมลงกัดอาการปวดบวมตามข้อหรือทาแก้สิวได้ด้วย

           หอมหัวใหญ่ คนไทยนำมาประกอบอาหารหลายชนิด เช่น ยำต่างๆ ข้าวผัด สลัด ไข่เจียว ซุปหรือสตูต่างๆ ซึ่งถ้ารับประทานกันแบบสดๆ จะมีรสชาติกรอบ เผ็ดร้อน แต่ถ้านำไปปรุงอาหาร หรือถูกความร้อนก็จะมีรสชาติหวาน เนื่องจากสารที่ชื่อ "อัลลิลโปรบิลซัลไฟต์" ระเหยไประหว่างที่ถูกความร้อนและได้สารที่มีรสหวานมาแทน ว่ากันว่า...ถ้ารับประทานหอมหัวใหญ่วันละครึ่งหัวทุกวัน ติดต่อกันอย่างน้อย 2 เดือน จะช่วยลดอาการโรคหัวใจและหลอดเลือดได้

แทบจะเรียกได้ว่าเป็นยาครอบจักรวาลเลยก็ว่าได้ เมื่อคุณทราบกันแล้วว่าหัวหอมดีอย่างไร อย่าลืมทุกครั้งที่ทำอาหาร ให้คุณลองเติมเมนูที่มีหอมหัวใหญ่ไปด้วย เพื่อสุขภาพของคนที่คุณรักน่ะค่ะ


ที่มาข้อมูล myhomeveg.com
ที่มารูปภาพ thaiza.com




 

Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2557    
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2557 8:03:29 น.
Counter : 1387 Pageviews.  

10 สุดยอดผู้นำในโลกประวัติศาสตร์

หลายคนคงไม่รู้เรื่องราวกับผู้นำในโลกของแต่ละประเทศ วันนี้ทางทีมงาน toptenthailand จึงขอนำเสนอ 10 อันดับผู้นำในโลกประวัติศาสตร์ ซึ่งเราไปดูกันเลยค่ะว่าจะมีบุคคลท่านใดบ้างใน 10 อันดับนี้ค่ะ

ที่มา :

10.Ashoka the Great

พระเจ้าอโศกมหาราช ทรงเป็นจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโมริยะ ผู้ปรีชาสามารถพระองค์สุดท้ายของราชวงศ์ ทรงปกครองแคว้นมคธ มีพระราชธานีชื่อว่า ปาฏลีบุตร เป็นพระโอรสของพระเจ้าพินทุสารแห่งราชวงศ์โมริยะ พระมารดานามว่า สิริธรรม พระเจ้าอโศกมีพระโอรส และธิดา 11 พระองค์สมเด็จพระมหาจักรพรรดิอโศกมหาราช หรือพระเจ้าอโศกมหาราช เดิมเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่โหดร้าย ชอบการทำสงครามกับแว่นแคว้นต่างๆ จนได้รับสมญานามว่า จัณฑาโศกราช (พระเจ้าอโศกผู้โหดเหี้ยม) แต่หลังจากที่พระองค์หันมานับถือพระพุทธศาสนา พระองค์ก็ทรงกลายเป็นองค์เอกอัครพุทธศาสนูปถัมภก์ ผู้อุปถัมภ์บำรุงพระพุทธศาสนาให้มีความเจริญรุ่งเรืองและแผ่ขยายมากที่สุดในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา และจากพระราชกรณียกิจมากมายนานัปการที่พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญด้วยทศพิธราชธรรมอย่างแท้จริง ทำให้ภายหลังทรงได้รับการขนานพระราชสมัญญานามว่า ธรรมาโศกราช (พระเจ้าอโศกผู้ทรงธรรม)

9.Elizabeth I of England

สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ และทรงเป็นสมเด็จพระราชินีนาถแห่งอังกฤษ และสมเด็จพระราชินีนาถแห่งไอร์แลนด์ ตั้งแต่ วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2101 จนเสด็จสวรรคต บางครั้งพระองค์ก็ทรงได้รับพระฉายานามว่า “ราชินีผู้ทรงพรหมจรรย์” เนื่องจากการไม่อภิเษกสมรสเลยตลอดพระชนม์ชีพ สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 1 ทรงเป็นกษัตรีย์พระองค์ที่ 5 และนับเป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์ทิวดอร์

8.Nelson Mandela

เนลสัน โรลีลาลา แมนเดลา เกิดวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2461 ที่ดินแดนปกครองตนเองทรานสไก ประเทศแอฟริกาใต้[1] ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ในช่วงปี พ.ศ. 2537-2542 และเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่ได้รับเลือกตั้งตามกระบวนการทางประชาธิปไตยอย่างถูกต้อง ก่อนหน้าการดำรงตำแหน่งนี้นี้ เขาได้เป็นที่รู้จักกันทั้งในและนอกประเทศในฐานะที่เคยเป็นนักเคลื่อนไหวตัวยงเพื่อต่อต้านการถือผิวในประเทศแอฟริกาใต้ จากที่แรกเริ่มเป็นผู้เคลื่อนไหวในทางสันติ ได้กลายมาเป็นผู้นำกลุ่มกองกำลังติดอาวุธของพรรคสมัชชาแห่งชาติแอฟริกา และได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่อต้านใต้ดินโดยใช้อาวุธ เช่น การก่อวินาศกรรม ในช่วงเวลาดังกล่าว ผู้นำต่างชาติที่นิยมการถือผิวในประเทศแอฟริกาใต้ เช่น มาร์กาเรต แทตเชอร์ และโรนัลด์ เรแกน ได้ประณามกิจกรรมเหล่านี้ว่าเป็นการก่อการร้าย

7.Chinggis Khaan

เจงกีส ข่าน เจงกีส แปลว่า “เวิ้งสมุทร, มหาสมุทร”ซึ่งเปรียบได้ว่า เจงกีส ข่าน มีความยิ่งใหญ่ ดั่งเวิ้งมหาสมุทรนั่นเอง จักรพรรดินักรบชาวมองโกลผู้พิชิต ผู้ก่อตั้งจักรวรรดิมองโกล เดิมมีนามว่า เตมูจิน ตามสถานที่เกิดริมฝั่งแม่น้ำโอนอน เป็นผู้นำครอบครัวแทนบิดาเมื่ออายุเพียง 13 ปี และต้องดิ้นรนต่อสู้ขับเคี่ยวกับชนเผ่าต่างๆ ที่เป็นอริอยู่หลายปี ปราบเผ่า “ไนแมน” ทางด้านตะวันตก พิชิตชนชาติ “ตันกุต” และยอมรับการจำนนของชาว “อุยกูร์เติร์ก”

6.Napoleon Bonaparte

จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 หรือ นโปเลียน โบนาปาร์ต เป็นนายพลในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส ดำรงตำแหน่งกงสุลใหญ่ของฝรั่งเศส ตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2342 และได้กลายเป็นจักรพรรดิ ของชาวฝรั่งเศสระหว่างปี พ.ศ. 2347 ถึง พ.ศ. 2357 ภายใต้พระนามว่า นโปเลียนที่ 1 ผู้ได้มีชัยและปกครองดินแดนส่วนใหญ่ของทวีปยุโรป และได้แต่งตั้งให้แม่ทัพและพี่น้องของเขาขึ้นครองบัลลังก์ในราชอาณาจักรยุโรปหลายแห่งด้วยกัน เช่น ประเทศสเปน เมืองเนเปิลส์ในประเทศอิตาลี แคว้นเวสต์ฟาเลียในประเทศเยอรมนี ประเทศเนเธอร์แลนด์ และประเทศสวีเดน

5.George Washington

จอร์จ วอชิงตัน 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1732 เป็นผู้นำทางทหารและการเมืองที่โดดเด่นของสหรัฐอเมริกาที่เพิ่งก่อตั้งขึ้น ระหว่าง ค.ศ. 1775 ถึง 1799 เขานำสหรัฐจนได้รับชัยชนะเหนือบริเตนใหญ่ในสงครามปฏิวัติอเมริกัน ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพภาคพื้นทวีปใน ค.ศ.1775-1783 และรับผิดชอบการร่างรัฐธรรมนูญใน ค.ศ. 1787 เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกา ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. 1789-1797วอชิงตันเป็นผู้นำการสร้างรัฐบาลแห่งชาติที่เข้มแข็งและมีการคลังที่ดี ซึ่งวางตนเป็นกลางในสงครามที่ปะทุขึ้นในยุโรป ปราบปรามกบฏและได้รับการยอมรับจากชนอเมริกันทุกประเภท รูปแบบความเป็นผู้นำของเขาได้กลายมาเป็นระเบียบพิธีของรัฐบาลซึ่งปฏิบัติสืบต่อกันมานับแต่นั้น อาทิ การใช้ระบบคณะรัฐมนตรีและการปราศรัยในโอกาสเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ วอชิงตันได้รับการยกย่องทั่วไปว่าเป็น "บิดาแห่งประเทศของเขา" ด้วย

4.Julius Caes

จูเลียส ซีซาร์ หรือชื่อจริง ไกอัส จูเลียส เป็นรัฐบุรุษในประวัติศาสตร์เขาได้สถาปนาตนเองขึ้นปกครองกรุงโรม และได้ทำให้อาณาจักรโรมมีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักของชาวโลกมาจนตราบเท่าทุกวันนี้ จูเลียสได้สร้างชื่อซีซาร์อันยิ่งใหญ่นี้ขึ้น และเป็นต้นแบบของกษัตริย์โรมในสมัยต่อมาที่ใช้ชื่อซีซาร์นี้ถึงสิบสององค์ แม้คำว่า ชาห์ แห่งอิหร่าน ซาร์ แห่งรัสเซีย ไกเซอร์ แห่งเยอรมัน ล้วนแล้วแต่มีรากศัพท์มาจากคำว่าซีซาร์ทั้งสิ้น และได้สืบทอดคำเรียกเหล่านี้มาจนถึงปัจจุบัน

3.Mahatma Gandhi

มหาตมา คานธี มีชื่อเต็มว่า โมหันทาส กะรัมจันท คานธี เป็นผู้นำและนักการเมืองที่มีชื่อเสียงชาวอินเดียและศาสนาฮินดู คานธี เกิดวันที่ 2 ตุลาคม ค.ศ. 1869 ในแคว้นคุชราตทางทิศตะวันตกของอินเดีย มารดาของคานธี เป็นภรรยาคนที่ 4 ของบิดาของคานธี

2.Abraham Lincoln

อับราฮัม ลินคอล์น เป็นประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐอเมริกา เจ้าของคำพูด “จงทำลายศัตรูของท่านด้วยการทำให้เขาเป็นมิตร”ดำรงตำแหน่งตั้งแต่เดือนมีนาคม ค.ศ. 1861 กระทั่งถูกลอบสังหารเมื่อเดือนเมษายน ค.ศ. 1865 ลินคอล์นประสบความสำเร็จในการนำพาประเทศผ่านพ้นสงครามกลางเมืองอเมริกา ซึ่งเป็นวิกฤตการณ์รัฐธรรมนูญ ทางทหารและศีลธรรมครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยรักษาไว้ซึ่งสหภาพ ขณะที่เลิกทาส และการส่งเสริมการทำให้เศรษฐกิจและการเงินทันสมัย ลินคอล์นเกิดในครอบครัวยากจนทางชายแดนตะวันตก ส่วนใหญ่ลินคอล์นศึกษาด้วยตนเอง และกลายเป็นทนายความชนบท ผู้นำพรรควิก สมาชิกสภานิติบัญญัติรัฐอิลลินอยส์ระหว่างคริสต์ทศวรรษ 1830 และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกาหนึ่งสมัยระหว่างคริสต์ทศวรรษ 1840 หลังการโต้วาทีใน ค.ศ. 1858 ซึ่งทำให้ประเทศมองเห็นการคัดค้านการขยายความเป็นทาสของเขา ลินคอล์นก็แพ้การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาแก่คู่แข่งคนสำคัญ สตีเฟน เอ. ดักลาส

1.Alexander มหาราช

อเล็กซานเดอร์ที่ 3 แห่งมาซิโดเนีย หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า อเล็กซานเดอร์มหาราช เป็นกษัตริย์กรีกจากแคว้นมาซิโดเนีย ผู้สร้างชื่อเสียงมากที่สุดของราชวงศ์อาร์กีด เป็นผู้สร้างจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคโบราณ เกิดที่เมืองเพลลา ตอนเหนือของมาซิโดเนีย เมื่อปีที่ 356 ก่อนคริสตกาล ได้รับการศึกษาตามแบบกรีกดั้งเดิมภายใต้การกำกับดูแลของอริสโตเติล นักปรัชญากรีกผู้มีชื่อเสียง สืบทอดราชบัลลังก์ต่อจาก ฟิลิปที่ 2 แห่งมาซิโดเนีย เมื่อปีที่ 336 ก่อนคริสตกาลหลังจากที่พระบิดาถูกลอบสังหาร สิ้นพระชนม์ในอีก 13 ปีต่อมาเมื่อพระชนมายุเพียง 32 พรรษา แม้ว่าราชบัลลังก์และจักรวรรดิของอเล็กซานเดอร์จะอยู่เพียงชั่วครู่ยาม แต่ผลกระทบจากการพิชิตดินแดนของพระองค์ส่งผลสืบเนื่องต่อมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ อเล็กซานเดอร์ถือเป็นหนึ่งในบุรุษผู้มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกยุคโบราณ มีชื่อเสียงเลื่องลือในความสามารถทางการรบ ยุทธวิธี และการเผยแพร่อารยธรรมกรีกไปในดินแดนตะวันออก




 

Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2557    
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2557 0:43:32 น.
Counter : 1858 Pageviews.  

10 อันดับ เรือที่โด่งดังในประวัติศาสตร์

ประวัติศาสตร์ของเรือมีมาอย่างยาวนาน และมีเรืออยู่ไม่กี่ลำที่มีคนรู้จัก จนถึงทุกวันนี้ วันนี้มีทีมงาน Toptenthailand.com ขอเสนอ "10 อันดับ เรือที่โด่งดังในประวัติศาสตร์"

ที่มา : toptenthailand

10. The Santa Maria

ซานตามาเรีย เป็นเรือสินค้าของสเปน คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ได้ใช้เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของโลก โดยใช้ออกเดินทางจากยุโรปข้ามมหาสมุทร์แอตแลนติก เพื่อสำรวจดินแดนใหม่ ทำให้เขาได้ค้นพบหมู่เกาะเวสต์อินดีส ในปี ค.ศ. 1492

9. C.S.S. Hunley

C.S.S. Hunley เป้นเรือดำน้ำ ที่ใช้ในสงครามกลางเมือง ของอเมริกา ( Amarican civil war )

8. U.S.S. Monitor และ C.S.S. Virginia

การรบระหว่างเรือเหล็กครั้งแรกของโลก เป็นการรบระหว่าง USS Monitor กับ CSS Virginia โดยทั้งคู่เป็นของสหรัฐทั้งคู่ แต่เป็นฝ่ายเหนือและฝ่ายใต้ ตามลำดับ เพราะเกิดขึ้นในยุคสงครามการเมือง การรบที่เกิดขึ้น ทั้งสองฝ่ายสูสีกัน ไม่มีใครเพลี่ยงพล้ำกันเลยครับ แต่ก่อนหน้านี้ เรือ CSS Virginia สอยเรือรบไม้ที่ดีที่สุดของฝ่ายเหนือไปได้ถึง 3 ลำ ก่อนที่ USS Monitor จะมาช่วยไว้ได้ทัน

7. U.S.S. Constitution

เรือรบหนักในตำนานแห่งราชนาวีสหรัฐอเมริกา มีอายุกว่า 213 ปี หลังจากที่ถูกสร้าง

6. U.S.S. Missouri

ยูเอสเอส มิสซูรี (BB-63) ("ไมท์ตีโม" หรือ "บิกโม") เป็นเรือประจัญบานชั้นไอโอวาของกองทัพเรือสหรัฐ และเป็นเรือลำที่สี่ของกองทัพเรือสหรัฐที่ใช้ชื่อรัฐตามรัฐมิสซูรี มิสซูรี เป็นเรือประจัญบานลำสุดท้ายที่สร้างขึ้นโดยสหรัฐและเป็นที่เซ็นสัญญายอมจำนนของจักรวรรดิญี่ปุ่นในตอนจบของสงครามโลกครั้งที่สอง มิสซูรี สั่งต่อเรือในปี ค.ศ. 1940 และขึ้นระวางประจำการในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1944 ในสมรภูมิมหาสมุทรแปซิฟิกของสงครามโลกครั้งที่สอง เรือได้เข้าร่วมการรบที่อิโวะจิมะและโอะกินะวะ และล้อมแผ่นดินแม่ญี่ปุ่น และเรือยังเข้าร่วมในสงครามเกาหลีในระหว่างปี ค.ศ. 1950 ถึง 1953 เรือปลดประจำการในปี ค.ศ. 1955 กลายเป็นกองเรือสำรองของกองทัพเรืออเมริกา แต่ได้รับการนำกลับเข้าประจำการและปรับปรุงใหม่ในปี ค.ศ. 1984 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนกองเรือ 600 และให้การยิงสนับสนุนในระหว่างปฏิบัติการพายุทะเลทรายในเดือนมกราคม / กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1991 มิสซูรี ได้รับ 11 ดาวยุทธการจากการเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่สอง สงครามเกาหลี และ สงครามอ่าวเปอร์เซีย สุดท้ายเรือได้รับการปลดประจำการเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 1992 แต่ยังคงชื่อไว้กองทัพเรือจนกระทั่งชื่อถูกจำหน่ายออกในเดือนมกราคม ค.ศ. 1995 ในปี ค.ศ. 1998 เรือถูกบริจาคให้กับสมาคมอนุสรณ์ ยูเอสเอส มิสซูรี และกลายเป็นพิพิธภัณฑ์เรือที่ท่าเรือเพิร์ลในรัฐฮาวาย

5. HMS Victory

เอชเอ็มเอสวิกตอรี HMS Victory ซึ่งมีความยาว 175 ฟุตของกองทัพเรืออังกฤษที่อับปางลงเมื่อปี ค.ศ. 1744 จากการชนหินโสโครกที่บริเวณช่องแคบอังกฤษ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ค.ศ. 1744 การอับปางครั้งนั้นทำให้มีทหารเสียชีวิต 1,100 นาย ทองมูลค่ามหาศาลปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท ยังจมหายไปกับเรือด้วย

4. U.S.S. Maine

1895 รัฐบาลสเปนได้ส่ง General Valeriano Weyler y Nicolau เพื่อที่จะปราบปรามพวกกบฏคิวบา นายพลคนนี้รู้จักกันในอเมริกาว่า Butcher ซึ่งจากวิธีของนายพลคนนี้ทำให้เกิดภาวะการขาดแคลนอาหารในคิวบาและทำให้คนคิวบาตายไปกว่าหมื่นคน ทำให้สหรัฐเริ่มเข้ามาแทรกแซงเพื่อยุติสภาวะเช่นนี้โดยการให้รัฐบาลสเปนในคิวบาเรียกตัวนายพลคนนี้กลับ และเปิดการเจรจากับฝ่ายกบฏ แต่ก็ไม่สำเร็จ จนกระทั่งฝ่ายสนับสนุนนายพลคนนี้ได้ยุยงให้เกิดการจลาจลขึ้นในต้นปี 1898 จนทำให้รัฐบาลสหรัฐโดยปธน McKinley ได้ส่งเรือ USS Maine เพื่อที่จะคุ้มกันคนอเมริกันในคิวบา ในตอนค่ำของวันที่ 15 กุมภาพันธ์ USS. Maine ก็ได้ระเบิดขึ้นตรงส่วนล่างของเรือทำให้กลาสีเรือต้องเสียชีวิตทันที 260 คน และเสียชีวิตภายหลังอีกหกคน ซึ่งในภายหลังก็ได้มีการเปิดเผยของทีมงานสอบสวนว่าการระเบิดเกิดจากดินปืนของปืนใหญ่จำนวนห้าตัน หลังจากการระเบิด เจ้าหน้าที่สเปนและเรือ City of Washington ก็ได้รุดมาช่วยเหลือคนเจ็บ ซึ่งตอนนั้นก็ได้มีการสงสัยกันว่าจะเป็นการก่อวินาศกรรม ถึงขนาดกัปตันของ USS Maine, Captain Charles Sigsbee ได้ลงท้ายในรายงานทางโทรเลขว่า อย่าเพิ่งให้ความเห็นใดๆต่อสาธารณะในตอนนี้จนกว่าจะมีรายงานความคืบหน้าเข้ามา เนื่องจากความตึงเครียดระหว่างสเปนและสหรัฐที่มีอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว ทันทีที่เกิดเหตุ กระทรวงทหารเรือได้จัดตั้งทีมงานสอบสวนสาเหตุของเหตุการณ์นี้ซึ่งใช้เวลาประมาณสี่อาทิตย์ แต่เนื่องจากซากเรือที่ยังอยู่ใต้น้ำที่ยังกู้ไม่ได้ ประกอบกับความไม่ชำนาญในทางเทคนิคของทีมงานสอบสวน ทำให้มีการสรุปออกมาว่ามีการระเบิดเกิดจากการจุดระเบิดของทุ่นระเบิดใต้น้ำ แต่ทีมงานไม่ได้ระบุว่า ทุ่นระเบิดใต้น้ำนั้นได้ถูกวางที่ตรงไหน หลังจากรายงานได้ออกไปสู่สาธารณะ ก็ได้มีการกล่าวหาว่ารัฐบาลสเปนได้อยู่เบื้องหลังการวินาศกรรมครั้งนี้ ปธน.สหรัฐได้ปิดล้อมน่านน้ำคิวบาในวันที่ 21 เมษายน และตามด้วยการประกาศสงครามกับสเปนในวันที่ 23 เมษายน 1898 หลังจากนั้นในปี 1911 ทีมงานสอบสวนเหตุการณ์นี้ก็ได้ถูกตั้งขึ้นอีกชุดหนึ่ง หลังจากทีสภาของสหรัฐได้ให้งบประมาณในการกู้ซากเรือ USS Maine ซึ่งจากการสำรวจจุดที่ระเบิด ทีมสอบสวนก็ได้สรุปว่า ทุ่นระเบิดใต้น้ำได้ระเบิดตรงแผงบรรจุลูกปืนสำรองขนาดหกนิ้ว ซึ่งเป็นสาเหตุของการระเบิดของเรือ USS Maine และทำให้จมลง ในเวลาเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคนิคมีความเห็นไม่ตรงกับข้อสรปของทีมสืบสวน เขาเชื่อว่าการเผาไหม้เองของถ่านหินในถังใส่ถ่านหินที่อยู่ติดกับแผงบรรจุลูกปืนน่าจะเป็นสาเหตุหลักมากกว่าที่จะเป็นการก่อวินาศกรรม ซึ่งความเห็นนี้ก็ได้รับการสนับสนุนจากทีมสอบสวนอิสระของ Admiral Hyman G. Rickover ผู้เขียนหนังสือ How the Battleship Maine Was Destroyed ในปี 1976 แต่นักประวัติศาสตร์บางท่านก็ปฏิเสธผลสรุปของผู้เชี่ยวชาญ และ ท่านจอมพลคนนี้โดยให้เหตุผลว่าเป็นไปไม่ได้ที่ผู้รับผิดชอบในส่วนของห้องเก็บถ่านหินจะไม่เห็นสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้น แต่ว่าในส่วนของบทสรุปที่มีทุ่นระเบิดใต้น้ำมาเกี่ยวข้องหลักฐานสนับสนุนก็มีน้อยมากเช่นกัน

3. Battleship Bismarck

เรือประจัญบาน บิสมาร์ค (อังกฤษ: Bismarck) เป็นเรือประจัญบานเต็มรูปแบบ ลำแรกของกองทัพเรือนาซีเยอรมัน (Kriegsmarine) และเป็นเรือประจัญบานที่โด่งดังที่สุดในสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยการสำแดงพลัง จมเรือลาดตะเวณประจัญบาน "ฮู้ด" ของอังกฤษ จมในยุทธนาวีที่ช่องแคบเดนมาร์ก

2. U.S.S. Arizona

เรือประจัญบานของสหรัฐอเมริกาสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดนเครื่องบินญี่ปุ่นทิ้งระเบิดจมที่ Perl Habor

1. RMS Titanic

อาร์เอ็มเอส ไททานิก (อังกฤษ: RMS Titanic) หรือ โรยาล เมล ชิป ไททานิก (อังกฤษ: Royal Mail Ship Titanic) คือ ชื่อเรือเดินสมุทรของบริษัทไวท์ สตาร์ ไลน์ (อังกฤษ: White Star Line) เริ่มก่อสร้างเมื่อ ค.ศ. 1909 สร้างเสร็จเมื่อ ค.ศ. 1911 ที่เบลฟาสท์, ไอร์แลนด์ พร้อม ๆ กับเรือคู่แฝดที่ชื่อว่า อาร์เอ็มเอส โอลิมปิก (อังกฤษ: RMS Olympic) ซึ่งเบากว่าไททานิกถึง 1,000 ตัน ซึ่งครั้งหนึ่งเรือคู่นี้เคยเป็นเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก




 

Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2557    
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2557 0:41:42 น.
Counter : 3024 Pageviews.  

ย้อนความหลัง ครั้งเป็นเด็ก ตอน 3

ดูดจนหน้ามืด ชิบหาย

ทีวีกดภาพ

จิกซอร์กระดาษ โดนน้ำก็ขาด แค่ลมเบาๆ ก็ปลิว..

หน้ากากใหญ่ 5เกียร์ ดิสหน้าหลัง โช๊คเดี่ยว

สาวๆชอบแกะใส่ขวดโหลไปให้

สิ่งมโน ของคนยุค 90s

การ์ดโปเกม่อน 3 มิติ

ปลาหมึก อร่อยฝุดๆ

ซื้อมา เล่นไม่เป็น ตั้งไว้บนตู้อย่างนั้น

หางดาบกับเป็ดน้อย คู่จิ้นในยุคนั้น

หนึบๆ รสโค้กอร่อยสุด

เกลียดด่านลิง บางจังหวะแม่มให้ลูกลิงขี่คอมาด้วย

ไอติมวอลล์ อะพอลโล่ & ทวิสเตอร์

แต่งริงโทนแป๊บ

ปราบเซียนต้องสะพานสูงสองชั้นติดๆเเล้วก้อโค้งมุดสะพานสิบจุด

เวลาได้การ์ดเลเซอร์ รู้สึกดีใจเหมือนถูกหวย

ป่ะ เย็นนี้... เจอกัน center point

เทอโบเรนเจอร์(คาร์เรนเจอร์) - ช่อง 9 ตอนเย็นๆ

พ่อท้องผูก นั่งนานไปหน่อย

สะสมจนขี้เกียจ เอาไปเล่นเขี่ยกับเพื่อนหมด

เคยมีแบบโดนความเย็นแล้วเปลี่ยนสี

โธเอ๋ย

เป็นความบันเทิงเดียว ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในขณะนั้น

โคตรเขินตอนบอกข้อความให้โอเปอเรเตอร์ฟัง

หน้าดำเพราะกรรมทำมา.... กูจำเพลงได้

บีท X

เป่าๆให้ลูกบอลลอยไปลงห่วงณ ตอนนั้นมันดูอะเมซิ่งมากๆ

เรียงไม่ถูกแงะ

การ์ตูนครองแชมป์ยาวที่สุดไม่จบสักที

เด็กไทยทุกคนที่กินขนมอันนนี้ต้องใช้ลิ้นตวัดเลียไม่ให้เหลือแม้แต่นิดเดียว

บริษัทผู้อยู่เบื้องหลัง ผลิตกล่องขนมในตำนาน

ตอนนั้น กิจกรรมอะไรไม่รู้ที่ รร เอามาแจกให้กินกันในห้อง กินกันเพลิน

เทขนมแป๊บ

ตอนประถม เจอดักจับ อย่างกะ ค้ายาบ้า

กระสือ กลางวันมันเป็นหญิง ...มีทุกสิ่ง ธรรมด๊าาาา ธรรมดา

กินแต่น้ำตาล ขนมปังโยนทิ้ง โดนแม่ดุ

ถังขยะโรงเรียนเต็มไปด้วยซองช้างน้อยเพราะการ์ดนี่แหละ

มันคือสุดยอดนวัตกรรมเลยทีเดียว

แก้วสเลอร์ปี้ รุ่นเก่า สีสันโดดเด่น

อันนึงลบจนกระดาษฉีก อันนึงลบก็เหมือนไม่ได้ลบ

เอามาเล่นเป็นคฑา แปลงร่าง!!

เล่น 2 คน ก่ะ พี่ ชาย . .แม่ม ชอบ ยก กล่อง มา ทุ่ม หัว กัน เอง

ลุ้นว่าจะได้อะไร ที่สำคัญต้องเขย่าก่อน. อิอิ

ง่วงเนอะ บ๊วยแมะ?

ซื้อประจำเลย ชอบที่มันมีคอปเตอร์นี่แหล่ะ

กว่าจะแกะออกมาต่อได้ หักหมด

อารมณ์ตอนเอาม้วนวิดีโอใส่เครื่อง แล้วเครื่องมันดูดเข้าไป ......อ่าาาาส์ฟินนน

เคยมีดาบวงพระจันทร์อะ ฮ่าๆ

พ่อค้าเพิ่งไปเยี่ยวมา อร่อยละสิ

แค่เห็นฟ้อนท์ก็ขนลุกซู่วววว

กดๆให้ม้าวิ่ง

ชอบคอร์นเฝล็กรสธรรมชาติฮะ สิบสองบาท

ชอบขี่สเกตบอร์ด ^^

ยุคไร้เซนเซอร์

แก้วสเลอปี้ + เข็มกลัด Rockman จาก 7-11

เปิดใหม่..

อรองเท้านักเรียน แล้วได้เป็นของแถม ให้มันไต่ขึ้นลงบันได

การ์ดอุนตร้าแมน แถม 7-11

ตอนเด็กเอาเคยไข่จิ้งจกมาเล่นไหม?

ของแถมสมัยก่อนนี่ลงทุนในการแถมมากๆนะ หาไม่ได้ในของแถมสมัยนี้

พอเเค่นี้ก่อนละกัน อิอิ

ขอบคุณ ข้อมูล รูปภาพ จากเพจ Thai Retro (ย้อนความหลัง ครั้งเป็นเด็ก)




 

Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2557    
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2557 0:29:27 น.
Counter : 2285 Pageviews.  

สุดยอดสิ่งมหัศจรรย์ ที่ถูก(คน)ลืม

ทีมงาน toptenthailand ขอเสนอ "10 สุดยอดสิ่งมหัศจรรย์ ที่ถูก(คน)ลืม"

ที่มา :

10. Banaue Rice Terraces

บันไดข้าวที่บานาเวนั้นเป็นการเกาะสลักภูเขาทั้งลูกในการอยู่ในจังหวัดอีฟูเกา ประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อใช้ในการปลูกข้าว จากประวัตินั้นมันมีอายุกว่าพันปี สมัยก่อนนั้นการทำนาจะต้องใช้พื้นที่ราบ หากแต่พื้นที่ภูมิประเทศนี้เต็มไปด้วยเขาสูงมีที่ราบ น้อย น้ำและเนื้อที่ในการทำการเกษตรจึงเป็นปัญหา ด้วยภูมิปัญญาชาวบ้าน จึงได้คิดวิธีทำนาแบบขั้นบันไดขึ้นตามไหล่เขา โดยสกัดไหล่เขาให้เป็นชั้น ๆ ลดหลั่นลงมาเป็นขั้นบันได เพื่อ ช่วยเพิ่มเนื้อที่ในการเพาะปลูก เป็นการรักษาหน้าดินไม่ให้ถูกชะล้างไป อีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหาเรื่องน้ำทั้งในแง่การชลประทานโดยการเก็บกักน้ำฝน และยังช่วยป้องกันน้ำท่วมอีกด้วย โดยนาข้าวที่บานาเวนั้นเป็นภูเขาสูงอยู่เหนือน้ำทะเล 5,000 ฟุต นาข้าวแต่ละแห่งมีเนื้อที่ 10,360 ตารางกิโลเมตร และในปี ค.ศ.1985 องค์การยูเนสโกได้จัดสถานที่นี้เป็นมรดกของโลก

9. Sigiriya

คีริยา เป็นเมืองใหญ่โบราณมหึมาของศรีลังกา สร้างขึ้นโดยพระเจ้ากัสสัปปะ ประมาณ ค.ศ. 470 โดย พระองค์ได้สร้างเมืองนี้ขึ้นอยากให้มันเป็นโลกศักดิ์ สิทธ์ของพระองค์ เป็นสวรรค์ตนเองอยู่บนตำแหน่งสูงสุด และมันก็เป็นไปตามนั้นจริงๆ เพราะมันที่ใหญ่อลังการมาก ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1,300,000 ตาราง เมตร มีถนน มีระบบชลประทาน และสถานที่เกี่ยวกับศาสนามากมาก หนึ่งในนั้นนั่นก็คือถ้ำที่พระองค์ทรงสร้างเพื่อมอบแก่พุทธสาวกได้ปฏิบัติ ธรรมแต่สิ่งที่น่าอัศจรรย์ที่สุดก็คือที่ใจกลางเมือง มีภูผาหินขนาดยักษ์ ที่เป็นที่ตั้งของพระราชวังกับป้อมปราการอันน่าเกรงขามและทิวทัศน์ตระการตา สวยงาม ฐานของป้อมที่ก่อด้วยอิฐ มีอายุมากกว่า 1,500 ปี ฮินดู และเป็นหนึ่งในมรดกโลกของศรีลังกา

8. Torun

เมืองทอรูน เป็นเมืองทางเหนือในประเทศโปแลนด์ ที่ยังคงสภาพเป็นเมืองเก่าสมันกลางไว้ได้ ที่นี้เป็นบ้านเกิดของนิโคเลาส์ โคเปอร์นิคัส( Nicolaus Copernicus)นัก ดาราศาสตร์ที่เสนอทฤษฏีว่าโลกเป็นจุดศูนย์กลาง โดยอายุของเมืองนี้มีมาอย่างยาวนานถึง 1,100 ปี ซึ่งเป็นที่ตั้งถิ่นฐานเก่าของโปแลนด์ โดดเด่นคือเป็นเมืองศูนย์กลางค้า

7. Tower of Hercules

ประภาคารเฮอร์คิวลิส เป็นประภาคารและสถานที่ทางเข้าของ 'ลา คอรุญญา' ท่าเรือสำคัญ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของสเปน เมืองแห่งนี้สร้างขึ้นโดยชาวโรมันมาถึงบริเวณเมืองนี้ในศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาล ผู้อาศัยในนิคมนี้ได้สร้างตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ไว้ และในไม่ช้าเมืองนี้ก็มีความสำคัญขึ้นในการค้าทะเล และหอหอเฮอร์คิวลิส เป็นประภาคารที่เปิดทำการต่อเนื่องมาเป็นเวลาเกือบ 1,900 ปี ซึ่งในบริเวณเดียวกันมีสวนประติมากรรม หินแกะสลักจากเหล็กและสุสานมุสลิม ในยุคที่อาณาจักรโรมันยังเรืองอำนาจ ถือเป็นลักษณะเฉพาะตัวที่บ่งบอกถึงประภาคารโบราณสมัย กรีก-โรมัน ซึ่งยังคงให้เห็นความสมบูรณ์แบบของรังวัดในโครงสร้าง และการทำหน้าที่แต่ละ

6. Ajanta Caves

ถ้ำอชันตา ได้ชื่อว่าเป็นวัดถ้ำในพุทธศาสนาที่งดงามและเก่าแก่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาสลับซับซ้อน ในบริเวณฝั่งตะวันตกของที่ราบสูงเดกกัน โดยวิธีการสร้างนั้นเป็นขุดเจาะเข้าไปในหินบาซอลต์ (แกรนิตแข็ง) โดยขุดจากหินก้อนเดียวจนเป็นวิหารขนาดใหญ่โดยใช้สิ่วและค้อนเท่านั้น ระยะเวลาการเจาะทั้งหมด 800 ปี เริ่มเจาะตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 3 จนกลายเป็นถ้ำมากกว่า 30 ถ้ำ เรียงตัวต่อเนื่องกันยาวหลายร้อยเมตรบนเชิงเขาสูงวงโค้งรูปพระจันทร์เสี้ยว ภายในมีวิหารขนาดใหญ่ภายในเต็มไปด้วยงานแกะสลักหิน เป็นเจดีย์ เป็นพระพุทธรูป เป็นเรื่องราวต่างๆ ในพุทธประวัติและชาดกเต็มไปหมด โดยไม่ผุพังตามกาลเวลาแม้แต่น้อย โดยสถานที่แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่อยู่ของสงฆ์เพื่ออยู่อย่างสันโดษ แต่ แล้วสถานที่แห่งหนึ่งก็เริ่มหมดความสำคัญลง เมื่อพระพุทธศาสนาเสื่อม ขาดการดูแล และถูกทิ้งร้างไปในที่สุด และได้เลือนหายไปจากความทรงจำของชาวอินเดีย จนมาถูกค้นพบโดยกองทหารอังกฤษ นำโดยร้อยเอกจอห์น สมิธ เมื่อ 1819

5. Valley of Flowers

เป็นสถานที่มาท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อยู่ในเทือกเขาหิมาลัย ในรัฐ Uttaranchal ซึ่งอยู่ทางเหนือของอินเดีย ประเทศอินเดีย ที่ถูกยอมรับว่าเป็นสถานที่มีชื่อเสียง สวยงามอย่างกับสวรรค์บนดินจนถูกนำมาบรรยายในวรรณคดีมาหลายศตวรรษและปรากฏใน ศาสนาฮินดูมาช้านานเพราะที่นั้นมีทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์เฮ็มกุน (Hemkund Sahib)ที่ พวกพราหมณ์ชอบนำน้ำในแม่น้ำนี้มาประกอบพิธีกรรมทางศา สนาประจำ(ใครเคยดู สารคดีตามรอยพระพุทธเจ้าอาจคุ้นๆ) อีกทั้งนักพฤษศาสตร์ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะที่นั้นเต็มไปด้วยพรรณไม้ ดอกไม้

4. Metora

เมทิโอร่า ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของประเทศกรีซ เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชมเป็นจำนวนมากด้วยความเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่สร้างอยู่บนก้อนหินใหญ่สูงสง่า โดยอดีตสถานที่แห่งนึ้ถูกใช้เป็นที่พํานักของนักบวชคริสต์นิกายออร์โธด็อกซ์ ซึ่งได้สร้างอารามไว้บนยอดเขาด้วยมีความเชื่อที่ว่า จะได้ใกล้ชิดกับสวรรค์ และเป็นการง่ายต่อการป้องกันศาสนาอื่นมารุกรานอีกด้วย ด้วยความโดดเด่นของการสร้างสรรค์ของศิลปะแบบไบแซนไทน์เมทิโอร่า จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโก้ใน ปี 1988

3. Bagan

พุกาม เป็นเมืองในประเทศพม่า เคยเป็นที่ตั้งอาณาจักรโบราณพุกาม (1044 - 1287) เป็นอาณาจักรแห่งแรกในประวัติศาสตร์พม่า ปัจจุบันตั้งอยู่ในเขตมัณฑะเลย์ (Mandalay Division) อยู่ ห่างประมาณ 90 ไมล์ หรือ 145 กิโลเมตร ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของมัณฑะเลย์ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ เขตเมืองเก่า (เขตที่ตั้งอาณาจักรพุกาม) เขตเมืองใหม่ (เขตที่อยู่อาศัยปัจจุบัน) และยองอู (เขตพาณิชยกรรมและเศรษฐกิจ) มีสนามบินชื่อ สนามบินยองอู เป็นสนามบินประจำเมือง รายได้หลักของเมืองคือ การท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ มีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาเยือนที่นี่เสมอทุกช่วงปี โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากแถบเอเชียด้วยกัน เนื่องจากพุกามได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งทะเลเจดีย์ที่ สวยงามและมีคุณค่า หรือ ดินแดนแห่งเจดีย์สี่พันองค์ เพราะในสมัยรุ่งเรืองเคยมีเจดีย์มากมายถึง 4,446 องค์ ปัจจุบันเหลือแค่เพียง 2,217 องค์ น่าเสียดายตอนนี้พุกามเป็นเมืองที่ยังไม่ได้รับการรั บรองจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นมรดกโลก ทั้ง ๆ ที่มีคุณสมบัติเต็มพร้อม ปัจจุบันรัฐบาลทหารพม่ากำลังพยายามเร่งเสนอชื่อและเตรียมความพร้อมให้เป็น มรดกโลกทางศิลปวัฒนธรรมแห่งต่อไป

2. Leptis Magna

เมืองเลปติส เมกนา ตั้งอยู่ทางตะวันออกของกรุงทริโปลีในประเทศลิเบียถูก ขนาม นามว่าเป็น อาณาจักรโรมันที่มีชื่อเสียงและงดงามมากที่สุดในแอฟริกา ซึ่งปัจจุบันยังคงสภาพ ความรุ่งโรจน์ ด้วยเพราะอาณาจักรถูกสร้างโดยหินปูน จึงทำให้ทนต่อการเกิดแผ่นดินไหวนับครั้ง ไม่ถ้วน จุดเด่นของเมืองมิใช่เพียงแค่ความงาม เท่านั้น แต่ผังเมืองที่ถูกออกแบบมาอย่างดี ไม่ว่า จะเป็นถนน, อาคารซึ่งถูกประดับตกแต่งอย่างงดงาม, โรงอาบน้ำโรมัน ซึ่งถูกวางผังไว้ในตำแหน่ง เหมาะสม, สภาประชุม, หอประชุมสำหรับขุนนาง หรือไม่ว่าจะเป็น โรงละคร หรือคอมเพล็กซ์ สำหรับการพักผ่อนเพลิดเพลินของประชาชน แสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองที่สุดของอาณาจักร เลปติส เมกนา ในช่วงเวลา ปี 111 ก่อนคริสต์กาล จนถึงช่วงที่รุ่งเรืองที่สุด ปี ค.ศ. 211 โดยกษัตริย์ Septimus Severus อาณาจักรเริ่มเสื่อมสลายในช่วงศตวรรษที่ 4 และท้ายที่สุดโดนทรายแห่ง อาหรับลบเลือนไปจากโลกภายนอกปัจจุบัน อาณาจักรเลปติส เมกนา ถูกค้นพบอีกครั้งโดยนัก โบราณคดีชาวยุโรป และยังคงสภาพสมบูรณ์ไว้อย่างชัดเจน จน

1. The Library of Celsus

ห้องสมุดเซลซุสตั้ง เมืองเอเฟซุส ประเทศตุรกี ซึ่งเมืองเอเฟซุสเป็นถิ่นที่อยู่ของมนุษย์มาตั้งแต่สมัยปลายยุคโลหะ ในราวศตวรรษที่ 7 ก่อน คริสตกาล ภายใต้การปกครองของอาณาจักรลิเดีย เอเฟซุสเป็นเมืองที่รุ่งเรืองและมั่งคั่งที่สุดในแถบ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และรุ่งเรืองถึงขีดสุดอีกครั้งภายใต้การปกครองของโรมัน เป็นเมืองใหญ่ที่สุด 1 ใน 5 ของจักรวรรดิโรมัน และใหญ่ที่สุดในเขตเอเชีย... และห้องสมุดเซสซุสก็เป็นหนึ่งในโบราณสถานที่หลงเหลือ อยู่ในอาณาจักรแห่งนี้ ปัจจุบันเหลือเฉพาะด้านหน้าของอาคารเท่านั้น ห้องสมุดเซลซุส เป็นอาคาร 2 ชั้น สร้างในปี ค.ศ.114-117 โดย ดิเบริอุส จูลิอุส อาควิลา เพื่ออุทิศให้กับ 'ดิเบริอุส จูลิอุส เซลซุส' ผู้เป็นบิดา โดยฝังโลงศพหินเอาไว้ที่ใต้หอสมุดและใช้เป็นแหล่งรวบ รวมความรู้ แสดงให้เห็นความยิ่งใหญ่ในอดีต ห้องสมุดแห่งนี้มีทางเข้า 3 ทาง โดยบริเวณประตูทางเข้ามีรูปแกะสลักเทพี 4 องค์ประดับอยู่ ได้แก่ เทพีแห่งปัญญา เทพีแห่งคุณธรรม เทพีแห่งความเฉลียวฉลาด และเทพีแห่งความรู้ รูปแกะสลักเทพีทั้ง 4 องค์นี้เป็นของจำลอง ส่วนของจริงนักโบราณคดีชาวออสเตรียได้นำกลับไปออสเตรีย และตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กรุงเวียนนา




 

Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2557    
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2557 0:26:00 น.
Counter : 1632 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.