ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

"หน้ากากทองคำ"ในงานพระบรมศพ

จากภาพด้านบน พระราชพิธีสรงพระบรมศพ สมเด็จพระเจ้ากรุงกัมพูชาธิบดี ศรีสวัสดิ์ ก่อนอัญเชิญพระบรมศพลงในพระบรมโกศ
จากภาพด้านล่างซ้าย แผ่นทองคำจำหลักลายปิดพระพักตร์ พระชฎาทองในพิธีสรงน้ำพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาล7
จากภาพด้านล่างขวา บางส่วนจากภาพยนตร์เรื่องสุริโยไทเมื่อเจ้าพนักงานถวายแผ่นพระพักต์ทองคำถวายพระบรมศพสมเด็จพระบรมราชาหน่อพุทธางกูร
การพระราชพิธีพระบรมศพของพระมหากษัตริย์และเจ้านายชั้นสูงในพระราชวงศ์เมื่อสวรรคตหรือสิ้นพระชนม์ลง ก็จะมีการพระราชพิธีถวายน้ำสรงพระบรมศพ ถวายเครื่องขาวทรงพระบรมศพ และถวายเครื่องบรมราชภูษิตาภรณ์อย่างเต็มที่(เครื่องทรงพระบรมศพเต็มยศพระมหากษัตริย์) จากนั้นจะถวายขี้ผึ้งแผ่จนเต็มพระพักตร์ และพระทวารทั้งเก้า จากนั้นนำฉลองพระพักตร์ที่เรียกว่า"พระสุพรรณจำหลักปริมณฑลฉลองพระพักตร์" หรือเพื่อเข้าใจง่ายๆก็คือแผ่นปิดพระพักตร์ทองคำ เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติพระบรมศพ เพื่อไม่ให้เห็นพระพักต์หากพระบรมศพมีสภาพที่มิบังควรเห็น จากนั้นถวายมหาสุกำพระบรมศพ(มัดตราสัง)โดยใช้สายสิญจน์พันที่พระศอ พระดัชนี และ พระบาท ตามนัยคติทางพระพุทธศาสนาว่า บ่วงทั้งหลายคือ บุตร ทรัพย์ ภรรยา
จากนั้นก็มีคล้ายพิธีราษฎร์คือ ถวายซองทองคำ มีดอกไม้ธูปเทียนใส่พระหัตถ์ไว้ เพื่อไปทรงสักการะเจดีย์พระจุฬามณีบนดาวดึงส์ ที่มีความเชื่อว่า ท้าวสักกกะเทวราชทรงสร้างเพื่อประดิษฐานพระเกศโมลีและพระเขี้ยวแก้วด้านขวาของพระพุทธเจ้า จากนั้นเมื่อถวายมหาสุกำพระบรมศพแล้ว จึงเชิญพระบรมศพประดิษฐานบนผ้าขาวสองชั้น และผ้าเยียระบับอีกหนึ่งชั้น วางให้เหลี่ยมๆกันและเชิญพระบรมศพจัดในท่านั่ง 
คลังประวัติศาสตร์ไทย




 

Create Date : 28 เมษายน 2557    
Last Update : 28 เมษายน 2557 14:23:48 น.
Counter : 3020 Pageviews.  

20 ข้อ ที่ควรรู้และปฏิบัติก่อนอายุ 40



1. ไม่ต้องตั้งใจเรียนมากไป เอาแค่พอใช้ได้ก็พอ
เพราะโลกแห่งความเป็นจริง วัดกันที่ผลงาน ไม่ใช่ที่เกรด

2. การทำกิจกรรมในรั้วมหาวิทยาลัยนั้นสำคัญมาก
พอๆ กับการคร่ำเคร่งหน้าตำราเรียน

3. เลือกงานที่เราชอบนั้นใช่ แต่อย่าลืมด้วยว่า อาชีพนั้น..
สามารถเลี้ยงดูตัวเราได้จริงหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ก็อย่าหลอกตัวเอง

4. เมื่อถึงวัยทำงาน ใครเก็บเงินก่อน รวยเร็วกว่าและสิ่งสำคัญ
ที่ต้องจำไว้ คือ "ชีวิตที่ไม่มีหนี้ คือชีวิตที่ประเสริฐที่สุด"

5. หาเป้าหมายในชีวิตให้เจอโดยเร็วที่สุด เพราะมัน
จะเป็นเครื่องนำทางของคุณ ในชาตินี้ตลอดไป

6. ซื้อบ้านก่อน ที่จะซื้อรถ เพราะบ้านมีแต่จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น
รถมีแต่มูลค่าลดลง ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า รถ=ลด

7. ดอกเบี้ยบ้านนั้นมหาโหดมาก รีบใช้ให้หมด
โดยเร็วพลัน ก่อนที่จะแก่ แล้วผ่อนไม่ไหว

8. การเก็บเงินเป็นแค่บันไดขั้นแรก
สู่ความร่ำรวย แต่ขั้นต่อมา คือ ต้องรู้จักลงทุน

9. อย่าเป็นศัตรูกับใครก็ตามบนโลกใบนี้ เพราะคุณจะไม่มีทาง
รู้ว่าวันหนึ่งเขาอาจจะยิ่งใหญ่มาก จนกลับมาทำร้ายคุณก็เป็นได้

10. คอนเน็คชั่นหรือสายสัมพันธ์เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ
ต่อให้เก่งแค่ไหน ก็สู้การมีเพื่อนเยอะไม่ได้

11. ควรมีงานทำมากกว่า 1 งาน
เพราะความมั่นคง ไม่เคยมีบนโลกใบนี้

12. อย่าคิดว่าตัวเองทำอะไรได้แค่อย่างเดียว
เพราะความสามารถของคนเรา มีมากกว่า 1 เสมอ

13. เมื่อมีโอกาสใดก็ตามเข้ามา
จงอย่าปฏิเสธ ถึงจะล้มเหลว แต่มันก็คือ ประสบการณ์

14. สร้างเนื้อ สร้างตัว
ให้ได้เร็วที่สุด ในขณะที่คุณยังมีกำลัง ยังเป็นหนุ่ม-สาว
เพราะการฝ่าฟันอุปสรรคในช่วงอายุมาก ไม่ใช่เรื่องสนุก

15. ออกเดินทางท่องเที่ยวตั้งแต่ยังหนุ่มสาว
เพราะเมื่อมีครอบครัว การเดินทางจะเป็นเรื่องยุ่งยากกว่าเดิม

16. เลือกคู่ชีวิต จงคิดให้ดีๆ อย่าดูแต่ข้อดีของเขา
แต่ต้องดูด้วยว่าเราสามารถรับข้อเสียของเขาได้มากแค่ไหน

17. การมีแฟน หรือสามีภรรยา ยังเลิกกันได้ แต่ความเป็น
พ่อแม่ลูก นั้นเลิกกันไม่ได้ เพราะฉะนั้น ควรดูแลพวกเขาให้ดีๆ

18. ความสำเร็จที่มากมายแค่ไหน ก็ไม่สามารถ
ทดแทนความล้มเหลวของครอบครัวได้

19. ลองหาเวลาอยู่ว่างๆ ไม่ต้องทำอะไรเลยดูบ้าง อย่าแบก
โลกทั้งใบไว้คนเดียว และอีกอย่างงานก็ไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต

20. สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญอันหนึ่ง โปรดถนอม
ตัวเองให้มาก เมื่อยังเป็นวัยรุ่น อย่าใช้ชีวิตให้หนักเกินไป


ที่มา: ///โดย DJ Tai Seed 97.5 FM --




 

Create Date : 28 เมษายน 2557    
Last Update : 28 เมษายน 2557 14:06:03 น.
Counter : 1095 Pageviews.  

วิธีป้องกัน งู เข้าบ้าน วิธีป้องกัน งู เข้าบ้าน

วิธีป้องกัน งู เข้าบ้าน

จากข่าวสุดสยอง ที่มีงูเห่าเลื้อยเข้าบ้าน แค่งูตัวเดียวก็พากันสยองขนลุกไปไหนต่อไหนแล้ว แต่ข่าวนี้เล่นเข้ามาทั้งหมด 23 ตัว เล่นพูดไม่ออกทีเดียว

เชื่อว่ามีบ้านอยู่หลายบ้าน ที่เจอปัญหางู เข้าบ้านมาแบบไม่ได้รับเชิญอยู่หลายหลังแน่ๆ เอม มีวิธีป้องกันงูเข้าบ้านง่ายๆมาฝากค่ะ

สาเหตุที่งูเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้าน

1. บ้าน หรือสถานที่นั้นเป็นแหล่ง "อาหาร" ที่อุดมสมบูรณ์
เช่น บ้านที่มีหนูชุกชุมเพราะรกรุงรัง หรือมีบ่อน้ำ สระน้ำที่มีปลาเยอะ หรือมีการเลี้ยงนกเลี้ยงไก่ไว้ ฯลฯ ยิ่งบ้านที่ขาดการจัดให้เป็นระบียบ บ้านที่จัดพื้นที่สวนแต่ปล่อยให้รก ทั้งนี้เพราะงูทุกชนิดเป็นสัตว์นักล่า กินเหยื่อเป็นสัตว์ด้วยกัน

2. ลักษณะบ้านเป็นที่ "ปลอดภัย" สำหรับงู
ไม่มีศัตรูก่อความรำคาญ หรือ ทำร้ายจนถึงชีวิต เช่น ไม่มีหมาคอยไล่เห่า ไม่มีห่านไล่งับหรือไม่มีสัตว์
คู่อริเช่น พังพอน หรือเมื่อมีน้ำท่วมขังงูก็จะหนีน้ำขึ้นไปอาศัยบนที่สูง

3. บ้านมี "ที่อยู่" เหมาะสม เพียงพอ
ได้แก่ มีที่หลบซ่อนตัว หลับนอน หลบภัย วางไข่ เช่น ใต้ถุนบ้าน บ้านที่มีฝ้าเพดาน ฯลฯ สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับงู นับแต่อุณหภูมิอบอุ่นจากดินหรือแสงแดด พื้นผิวที่ไม่ระคายเคือง ไม่มีกลิ่นและเสียงรบกวน ( ซึ่งมากับความสั่นสะเทือน ) ฯลฯ
วิธีป้องกันงูเข้าบ้านคุณ

การป้องกันงูเข้าบ้านนั้นสามารถป้องกันได้โดยแก้จากเหตุจูงใจให้งูอยากเข้าบ้าน หรือหาสิ่งของที่เขาว่ากันว่าป้องกันงูได้ มาวางไว้

1. อย่า ให้บ้านเราเป็นแหล่งรวมอาหารของงู
เช่น กำจัดหนูโดยการดัก เบื่อ และจัดบ้านให้สะอาด เป็นระบียบเรียบร้อยไม่รกรุงรัง

2. ทิ้งขยะให้เป็นที่และมิดชิดเพื่อไม่ให้หนูกิน
เมื่อประชากรหนูลดลง งูก็จะลดลงตามไปด้วย

3. น้ำมันรถยนต์
มีรายการรายการหนึ่งทางวิทยาศาสตร์ เคยทดลองเรื่องนี้มาแล้ว ปรากฏว่า งูเลื้อยหนีกลิ่นน้ำมันรถยนต์ ดังนั้น จึงใช้ผ้าชุดน้ำมันรถ มาวางไว้รอบๆ บ้าน ก็ช่วยได้

4. ใช้ผงกำมะถัน ( สีเหลืองๆ ) มาผสมน้ำแล้วราดบริเวณรอบบ้าน
แต่วิธีนี้ต้องทำบ่อยหน่อย อย่างน้อย เดือนละครั้ง เพราะกำมะถันเจือจางแล้วงูก็เข้าอีก

5.เลี้ยงสุนัข สุนัขจะช่วยเป็นหูเป็นตาให้เราได้เป็นอย่างดี เมื่อมีสิ่งแปลกๆ เข้ามาในบ้าน ในบางครั้ง แค่สุนัขเริ่มเห่า งูก็ตกใจกลัว เลื้อยหนีไปแล้ว แต่ก็มีในบางกรณี สุนัขของท่านก็อาจจะเสียท่าให้งูได้ หากงูตัวใหญ่กว่า

6. เลี้ยงห่าน
จากข้อมูลเว็บบอร์ดหลายๆแห่ง คนที่เลี้ยงจำนวนมากยืนยันว่า ตั้งแต่เลี้ยงห่านก็ไม่ได้เห็นงูในบ้านอีกเลย จะมีเห็นก็แค่ตอนที่ห่านกินงู นอกจากนี้มีหลายคนเชื่อว่างูไม่ถูกกับกลิ่นขี้ห่าน บ้างก็ว่าเสียงร้องของห่าน

7. แผ่นกันงู เอาไว้กันในแนวดิ่ง เช่นเสา กำแพง วัสดุมีความลื่นสูงจนงูไม่สามารถเลื้อยขึ้นไปได้

และเมื่องู เข้ามาอยู่ในบ้านแล้ว จะทำอย่างไร

1. สังเกตุและแยกแยะประเภทของงูก่อนเลยค่ะ ว่าเป็นงูมีพิษหรือไม่มีพืษ
โดยสังเกตุง่ายๆ ที่ หัวหากลักษณะเป็น สามเหลี่ยม นั้นคืองูมีพิษ แต่หาก มีลักษณะ มนกลม งูไม่มีพิษ ซึ่งบ้านเรามีอยู่ชัดๆ เจอบ่อยๆ 2 พวกคือ งูเหลือม งูหลาม กับ งูเห่า ซึ่งแยกค่อนข้างชัด โดยที่งูเหลือมงูหลามเป็นงูไม่มีพิษแต่มีอันตรายโดยการรัดเหยื่อ ส่วนงูเห่ามีแม่เบี้ยแผ่ให้เห็นชัดเจน ทำร้ายโดยการกัดและปล่อยพิษ ฉะนั้นการหลบหลีก หรือจับก็จะแตกต่างกัน และต้องได้รับการฝึกฝนเป็นการเฉพาะ

2. ไม่ควรใช้วิธีไล่งูเพราะถึงคุณจะไล่ได้ในวันนี้วันอื่นๆมันก็จะกลับมาเหมือนเดิม งูจะพุ่งฉกหรือกัดเหยื่อที่เคลื่อนไหวฉะนั้นหากเผชิญกับงูให้อยู่นิ่งๆแล้วเคลื่อนไหว หรือถอยฉากหนีอย่างช้าๆโดยจับตาดูการเคลื่อนไหวของงูไว้ เพื่อหลบหลีกและควรอยู่ในระยะที่ปลอดภัย

3. เฝ้าสังเกตุว่างูยังอยู่ที่เดิมหรือมีทิศทางการเคลื่อนที่ไปในทิศทางใด
เพื่อกันการหลบหนี

4. กันสมาชิกในบ้านให้อยู่ห่างมันไว้ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก หรือสัตว์เลี้ยง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมาเอาไว้ให้ห่าง เพราะอาจโดนฉกหรือทำร้ายได้ และ อาจจะเป็นการไล่งู ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปถึง

5. เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน เพราะมนุษย์นั้นไม่ใช่เหยื่อโดยธรรมชาติของงู
หากเราไม่ทำร้ายงูก่อน งูก็จะหลีกเลี่ยงไม่ทำร้ายมนุษย์เช่นกัน

6 . โทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือ

ที่มา: sanook.com




 

Create Date : 23 เมษายน 2557    
Last Update : 23 เมษายน 2557 21:39:49 น.
Counter : 1381 Pageviews.  

กระเทยสวยที่สุดในไทย 10 อันดับ

กระเทย หรือ สาวประเภทสอง ปัจจุบันนั้นเรียกได้ว่าสวย เซ็กซี่ หุ่นดี จนสาวแท้ต่างอายไปตามๆกันล่าสุดได้มีการจัดอันดับ  กระเทยสวยที่สุดในไทย 10 อันดับ ปี 2013 มาดูกันมาใครจะอยู่อันดับไหน ตรงใจทีคุณคิดกันหรือเปล่า

10. เบลล์ นันทิตา ฆัมภิรานนท์

กระเทยสวยที่สุดในไทย 10 อันดับ ปี 2013

 นักร้องจากรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ เบลล์โด่งดังไปทั่วโลกจากการแสดงร้องเพลงประสมเสียงหญิงและชายของเธอ และออกซิงเกิลยอดฮิต “เสียงที่เปลี่ยน” 

9.เจเล่ พรรณวิลาส มงคล


กระเทยสวยที่สุดในไทย 10 อันดับ ปี 2013

น้องเจเล่ พรรณวิลาส มงคล เจ้าของตำแหน่งมิสทิฟฟานี่ยูนิเวิร์ส 2012 และรองอันดับ 2 มิสอินเตอร์เนชั่นแนลควีน เธอเรียนอยู่ที่ ม.ธุรกิจบัณฑิต รับงานเดินแบบและงานถ่ายแบบ

8.ไก่โต้ง รัชระวี จิรพัฒน์พากรณ์


กระเทยสวยที่สุดในไทย 10 อันดับ ปี 2013

ไก่โต้ง รัชระวี จิรพัฒน์พากรณ์ มิสทิฟฟานี่ยูนิเวิร์ส 2006 ปัจจุบันไก่โต้งหันมาเอาดีทางด้านธุรกิจเสริมความงามกับแบรนด์ Secret Queen by Ratrawee ของเธอเอง

7.เน็ค เนฐนภาดา กัลยานนท์


กระเทยสวยที่สุดในไทย 10 อันดับ ปี 2013

เน็ค เนฐนภาดา กัลยานนท์ ครองตำแหน่งมิสทิฟฟานี่ยูนิเวิร์สปีล่าสุด และกำลังเตรียมความพร้อมที่จะเข้าประกวดเวทีมิสอินเตอร์เนชั่นแนลควีนเร็วๆ นี้

6. แซมมี่ ศิรภัสสร อัฒยกร


กระเทยสวยที่สุดในไทย 10 อันดับ ปี 2013
แซมมี่ ศิรภัสสร อัฒยกร สาวประเภทสองที่สวยที่สุดคนหนึ่งของโลก การันตีด้วยรางวัลชนะเลิศจากทั้งเวทีมิสทิฟฟานี่ยูนิเวิร์สและเวทีมิสอินเตอร์เนชั่นแนลควีน 

5.น้องฟิล์ม ธัญญรัศม์ จิราภัทร์ภากร


กระเทยสวยที่สุดในไทย 10 อันดับ ปี 2013

น้องฟิล์ม ธัญญรัศม์ จิราภัทร์ภากร มิสทิฟฟานี่ยูนิเวิร์ส 2007 และมิสอินเตอร์เนชั่นแนลควีน 2007  น้องฟิล์มเคยเป็นข่าวฮือฮาเมื่อเธอไเป็นลูกเรือรุ่นแรกๆ ของสายการบินพีซีแอร์

4.เอมมี่ รัชฏา ครุฑรามาศ


กระเทยสวยที่สุดในไทย 10 อันดับ ปี 2013

เอมมี่ รัชฏา ครุฑรามาศ สาวประเภทสองที่ไม่มีตำแหน่งทางการประกวด แต่เป็นข่าวกับดาราในวงการมากมาย

3. ลูกปัด ปุริมปรัชญ์ ไชยะคำ


กระเทยสวยที่สุดในไทย 10 อันดับ ปี 2013

ลูกปัด ปุริมปรัชญ์ ไชยะคำ รองมิสอัลคาซ่าร์ปี 2548 ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ปี 2มีทั้งผลงานละคร ภาพยนตร์ และมิวสิกวีดีโอมากมาย

2.พลอย พิชณนันท์ ศรีสวัสดิ์ภากร


กระเทยสวยที่สุดในไทย 10 อันดับ ปี 2013

มีข่าวฉาวกับพระเอก อาร์ต พศุตม์ บานแย้ม จนเกือบเลิกกับแฟนสาว น้ำฝน พัชรินทร์ จัดกระบวนพล ผลงานต่างๆบันเทิงพอสมควร

1.ปอย ตรีชฎา เพชรรัตน์


กระเทยสวยที่สุดในไทย 10 อันดับ ปี 2013

น้องปอย คว้าอันดับที่ 1 ตามคาด น้องปอย ตรีชฎา เพชรรัตน์ สาวสวยร่างเล็กเจ้าของตำแหน่ง มิสทิฟฟานี่ยูนิเวิร์ส 2004 และมิสอินเตอร์เนชั่นแนลควีน 2004 ฮ็อตทั้งโลกออฟไลน์และออนไลน์ โดยเฉพาะบนอินสตาแกรม เธอมีผู้ติดตามถึงกว่า 7 แสนคนแล้ว น้องปอยโกอินเตอร์ไปเล่นภาพยนตร์ที่ฮ่องกงประกบซุปตาร์ชื่อดังและเตรียมเข้าฉายในปลายปีนี้

ที่มา: ที่มา : เครดิต : แจ๋วจัดไป แหล่งที่มา : //club.sanook.com/




 

Create Date : 23 เมษายน 2557    
Last Update : 23 เมษายน 2557 21:39:11 น.
Counter : 3314 Pageviews.  

มานะ มานี ปิติ ชูใจ

มานะ มานี ปิติ ชูใจ เป็นชุดแบบเรียนภาษาไทย ระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6 รวม 12 เล่ม (ภาคเรียนละ 1 เล่ม) ซึ่งใช้ในการเรียนการสอนภาษาไทย ระหว่างปี พ.ศ. 2521–2537 เขียนเรื่องโดยอาจารย์รัชนี ศรีไพรวรรณ และมีรูปภาพประกอบ ซึ่งวาดขึ้นโดย เตรียม ชาชุมพร นักเขียนการ์ตูนและนิยายภาพ จากชัยพฤกษ์การ์ตูน, โอม รัชเวทย์ และปฐม พัวพิมล

ที่มาของแบบเรียน เริ่มจากที่กระทรวงศึกษาธิการ เห็นว่าแบบเรียนภาษาไทย ชุดที่ใช้อยู่ก่อนหน้านั้น มีเนื้อหาที่ไม่ทันต่อยุคสมัย จึงต้องการปรับปรุงหลักสูตรใหม่ โดยวางวัตถุประสงค์ให้นักเรียนอ่านแล้ว มีความรู้สึกสนุกสนาน เพื่อกระตุ้นให้อยากเรียนภาษาไทย แบบเรียนชุดนี้ ใช้เวลาเขียนอยู่นานกว่า 4 ปี มุ่งให้ความรู้ทางภาษาไทย ทั้งการฟัง พูด อ่าน เขียน หลังจากนั้นจึงนำมาปรับปรุง และทดลองใช้เรียนจนแน่ใจว่า เนื้อหาที่นักเรียนประถมทั้งประเทศ ต้องอ่านเพื่อใช้ศึกษา เป็นเรื่องราวอันบริสุทธิ์ดีงาม ไม่เป็นพิษเป็นภัย โดยกำหนดจำนวนคำ ให้เรียนรู้ในแต่ละระดับชั้น ทั้งนี้ เมื่อแรกเผยแพร่ยังไม่มีชื่อ แต่รัชนีผู้เขียนเล่าว่า มีผู้เรียกอย่างลำลองว่า ตำนานเด็กดี จนกระทั่ง พ.ศ. 2537 กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศยกเลิกแบบเรียนชุดนี้ เนื่องจากมีเนื้อหาที่ไม่ทันต่อยุคสมัย

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524 จนถึงปัจจุบัน กระทรวงศึกษาธิการของไทย อนุญาตให้ศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมไทย (Thai Language and Culture Centre; ชื่อย่อ: TLCC) นครเมลเบิร์น เครือรัฐออสเตรเลีย ซึ่งขอนำแบบเรียนชุดนี้ ไปใช้เป็นหนังสือเรียนภาษาไทยของสถาบัน

สาระของบทเรียน

มานะ มานี ปิติ ชูใจ มีเรื่องราว ตัวละคร และการดำเนินเรื่อง ซึ่งจำลองมาจากชีวิตจริง เพื่อให้มีความสนุกสนาน ชวนให้สนใจอ่าน และเพิ่มทักษะการเรียนรู้ทางภาษา ทั้งแสดงถึงบุคลิกภาพ และลักษณะนิสัยอันดีงาม ของแต่ละตัวละคร แต่ละบทจะมีภาพวาดประกอบ โดยช่วงท้ายของแต่ละบท จะมีแบบฝึกเพื่อทดสอบความรู้ โดยกำหนดจำนวนคำพื้นฐาน ซึ่งจำเป็นต่อการเรียนรู้ ไว้ในหลักสูตรของแต่ละระดับชั้น สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-4 จำนวน 4,000 คำ ประกอบด้วย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 450 คำ, ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 800 คำ, ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 1,200 คำ และชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 1,550 คำ สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 6 ไม่กำหนดจำนวนค

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
เล่ม 1-2 รวม 40 บท มีคำใหม่ 450 คำ โดยเล่ม 1 นำคำที่สื่อความหมายได้ มาเรียงเป็นคำ ๆ ผสมคำจากพยัญชนะบางตัวและรูปสระง่าย ๆ เริ่มจาก แม่ ก กา จนมีตัวสะกดทั้ง 8 แม่ คำควบกล้ำ, อักษรนำ, สระ, เครื่องหมายไม้ยมก, รูปวรรณยุกต์ทั้ง 4 รูป และไม้ทัณฑฆาต คำต่าง ๆ นั้นผูกเป็นเรื่องราว มีตัวละครจำนวน 5 คน ได้แก่ มานะ, ปิติ, วีระ เด็กหญิง 2 คน ได้แก่ มานี, ชูใจ มีสัตว์เลี้ยงประจำตัวเด็ก เช่น มานี มานะ มีหมาชื่อ เจ้าโต, วีระ มีลิง ชื่อ เจ้าจ๋อ, ปิติ มีม้า ชื่อ เจ้าแก่ และชูใจ มีแมวชื่อ สีเทา

เล่ม 2 มีเนื้อหาสอดแทรกให้เด็กรู้จักรักสัตว์ รักเพื่อน รักธรรมชาติ รักษาความสะอาดในโรงเรียน ตลาด มารยาทสังคม เช่นการกล่าวสวัสดี ขอโทษ และการใช้หางเสียง เป็นต้น

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2

รวมมี 30 บท มีคำใหม่ 800 คำ ตัวละครยังคงเป็นชุดเดิม สอนคำใหม่อย่าง คำควบกล้ำ, ตัวสะกดไม่ตรงมาตรา, อักษรนำ การย้ำคำที่ ย, ว สะกด โดยผูกกับเรื่องราวที่มีสาระเกี่ยวกับประสบการณ์ที่เด็กควรรู้ ควรปฏิบัติ เช่น การศึกษาเล่าเรียนในโรงเรียน, ดวงจันทร์, รุ้งกินน้ำ, การเดินทางโดยรถไฟ, ภูมิประเทศสองข้างทางรถไฟ ทำความรู้จักกับยานพาหนะชนิดต่าง ๆ เช่น เครื่องบิน, รถยนต์ ยังคงกล่าวย้ำเรื่องความสะอาดในสถานที่ต่างๆ วัฒนธรรมอย่างการขนทรายเข้าวัด ตักบาตร ลอยกระทง นอกจากนั้นยังสอนให้รู้จักเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน สัญญาณจราจร, การรู้จักบุคคลในท้องถิ่น เช่น สาธารณสุขอำเภอ, เกษตรอำเภอ, ตำรวจ, นายอำเภอ เป็นต้น

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
รวมมี 20 บท มีคำใหม่ 1,200 คำ สอนเรื่องคำที่สะกดไม่ตรงมาตราในแม่ต่าง ๆ, การใช้ รร, ทร เป็น ซ, กลุ่มคำซ้อน, คำประวิสรรชนีย์, คำพ้องเสียง, คำราชาศัพท์ที่ควรรู้ ผูกเรื่องราวโดยแทรกนิทานพื้นบ้างอย่าง โสนน้อยเรือนงาม, ศรีธนนไชย, พระอภัยมณี ตอนสุดสาครปราบม้านิลมังกร, ขุนช้างขุนแผน ตอนพลายชุมพลปราบจระเข้ นอกจากนั้นยังมี เรื่องความรู้ทั่วไปนำมาสอดแทรกอย่างเช่น ยาเสพติด กิจกรรมของลูกเสือ ความรู้เชิงธรรมชาติศึกษา และยังมีการนำวรรณคดีไทย นิทานพื้นบ้าน แทรกเข้ามา ส่วนตัวละครเริ่มเห็นนบุคลิกภาพต่างๆ กัน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
รวมมี 30 บท มีคำใหม่ 1,550 คำ นอกจากการเรียนรู้ภาษาไทยยังมีให้ความรู้ในวิชาอื่น ในส่วนภาษาไทย ความรู้ที่ได้เช่น เกมต่อคำไทย, กลุ่มคำ, รูปประโยคแบบต่าง ๆ, สำนวน, พังเพย, ภาษิตต่าง ๆ, ปริศนาคำทาย, การเขียนจดหมาย, การบันทึกประจำวัน, การใช้เครื่องหมายวรรคตอนต่าง ๆ เช่น ปรัศนี, อัศเจรีย์, นขลิขิต เป็นต้น ราชาศัพท์ มีเรื่องวรรณคดีไทยอย่างเช่น ขุนช้างขุนแผน ตอน กำเนิดพลายแก้ว, คนังเงาะน้อย, สังข์ทอง, รามเกียรติ์ ตอน หนุมานลองดีพระฤๅษี, สุวรรณสาม ในด้านการให้ความรู้ประวัติศาสตร์เช่น ดอนเจดีย์, ท้าวเทพกษัตรีย์ ท้าวศรีสุนทร ส่วนด้านประเพณีไทยเช่น สงกรานต์, เล่นสะบ้า, ละครลิง, เพลงพวงมาลัย ในด้านความรู้ด้านอาชีพ เช่น เกษตรอำเภอ, การเลี้ยงปลานิล, การปลูกเงาะ, การเลี้ยงหอย นอกจากนั้นยังให้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐาน เช่น การทำโทรศัพท์อย่างง่าย อีกทั้งยังมีการสอดแทรกด้านจริยธรรม เช่นการที่ปิติที่ไม่ยอมลอกข้อสอบของเพื่อน และตอนเก็บกระเป๋าสตางค์ได้แล้วนำไปคืนเจ้าของ

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ในหนังสือเรียนชั้นปีนี้มี 2 ส่วน ส่วนแรกมี 20 บท ส่วนหลังเป็นนักเรียนค้นคว้านอกเวลา 4 เรื่อง มีการเรียนรู้ ความหมายของคำ ทุ่ม-โมง, ย่ำ-ยาม, เกาะหนู เกาะแมว, เกษตรกรที่หุบกะพง ส่วนด้านวรรณคดีไทย กล่าวถึงเรื่อง พระอภัยมณี ตอน สินสมุทร, รามเกียรติ์ ตอนน้ำบ่อน้อย ด้านการละเล่นไทยพูดถึงลักษณะเพลงเกี่ยวข้าว เรียนรู้เรื่องธรรมชาติและการท่องเที่ยวเช่น เรื่องธรรมชาติของน้ำตก วีรกรรมที่บ้านบางระจัน, ประเพณีบุญบั้งไฟของชาวอีสาน และนิทานเรื่องสามัคคีเภท

ส่วนหลังของเล่ม ที่เป็นหนังสืออ่านนอกเวลา 4 เรื่องคือ เรื่องนกกระจาบ, เรื่องสังข์ทอง ตอนเลือกคู่และหาเนื้อหาปลา, เรื่องการผจญภัยของผ้าขี้ริ้ว (ผลงานนักเรียน) และ เรื่องแปล 1 เรื่อง คื่อเรื่องเมาคลีลูกหมาป่า

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
เล่ม 1 มี 10 บท โดยสอนเรื่องด้านต่าง ๆ ทั้งการฟัง, พูด, อ่าน, เขียน และคิด เช่น การตั้งใจฟัง, การพูดในโอกาสต่าง ๆ, การเขียนจดหมาย, การใช้สำนวนอุปมาอุปมัย, การเลือกใช้คำให้เหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคล เป็นต้น ในส่วนวรรณคดี เช่น เรื่อง พระรถเมรี, พระสังข์ศิลปไชย มีการให้ความรู้ด้านประวัตศาสตร์และตำนานอย่างเรื่อง พระยาพิชัยดาบหัก และประวัติวัดพนัญเชิง (พระเจ้าสายน้ำผึ้ง และนางสร้อยดอกหมาก) ในส่วนรัฐพิธี กล่าวถึงพิธีพืชมงคล, พิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ และการลงคะแนนเสียงตามระบอบประชาธิปไตย ส่วนท้ายเล่มมีหนังสืออ่านนอกเวลา 3 เรื่องคือ ละครพูดเรื่อง พระร่วง พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 6 สองตอน บทละครเรื่อง ระบำดอกฝิ่น (ผลงานนักเรียน) และเรื่องสั้น ไอ้ตุ่น ของรัชนี ศรีไพรวรรณ

เล่ม 2 มี 10 บท มีเนื้อหาเกี่ยวกับสมุดบันทึก สอนให้ฝึกหัดการบันทึก ประวัตินักเล่านิทานอย่างอีสปและสุนทรภู่ ในด้านภาษา สอนการฝึกพูดโต้วาที เรื่อง การอ่านยากกว่าการเขียน มีเนื้อหาวรรณคดีอย่าง รื่อง รามเกียรติ์ ตอนศึกทรพี ส่วนในบทสุดท้าย กล่าวถึงการเรียนจบประโยคประถมศึกษา ในตัวละครของเรื่องก็แยกย้ายกันไปตามวิถีชีวิตของตน

รายชื่อและประวัติของตัวละครในแบบเรียน มานี มานะฯ  ของอาจารย์รัชนี ศรีไพรวรรณ

มานะ รักเผ่าไทย : พี่ชายของมานี เลี้ยงสุนัขไว้ตัวหนึ่งชื่อ เจ้าโต เขาขยันตั้งใจเรียน จึงมีผลการเรียนดี จึงเป็นนักเรียนคนเดียวของโรงเรียน ที่สามารถเข้าศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษาในกรุงเทพมหานคร เมื่อจบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 6

มานี รักเผ่าไทย : น้องสาวของมานะ เลี้ยงนกแก้วไว้ตัวหนึ่ง เมื่อขึ้นชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เพื่อนๆ เลือกตั้งให้เธอเป็นรองประธานนักเรียน

ปิติ พิทักษ์ถิ่น : เลี้ยงม้าไว้ตัวหนึ่งชื่อ เจ้าแก่ แต่ภายหลังก็ตายไปตามวัย ทำให้ปิติเสียใจมาก ต่อมาเขาถูกรางวัลสลากออมสิน เป็นเงิน 10,000 บาท จึงนำไปซื้อลูกม้าตัวใหม่ เพื่อทดแทนเจ้าแก่ และตั้งชื่อให้ว่า เจ้านิล

วีระ ประสงค์สุข : มีพ่อเป็นทหาร แต่เสียชีวิตในระหว่างรบ ตั้งแต่วีระยังอยู่ในท้อง ส่วนแม่ตรอมใจ เสียชีวิตหลังจากคลอดวีระได้ 15 วัน ทำให้เขาต้องอยู่กับลุงตั้งแต่เกิด และเลี้ยงลิงแสมไว้ตัวหนึ่งชื่อ เจ้าจ๋อ

ดวงแก้ว ใจหวัง : มีบ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรี

ชูใจ เลิศล้ำ : เป็นเพื่อนสนิทของมานี เลี้ยงแมวไว้ตัวหนึ่งชื่อ สีเทา เธอพักอยู่กับย่าและอาตั้งแต่ยังเล็ก โดยไม่ทราบว่าใครเป็นพ่อแม่ ซึ่งความจริงก็คือ พ่อเสียชีวิตตั้งแต่เธอมีอายุเพียง 1 ขวบ ส่วนแม่อาศัยอยู่ในต่างประเทศ และต่อมาก็เดินทางกลับมา ตั้งใจจะรับลูกสาวกลับไปอยู่ด้วยกัน แต่เธอเลือกจะอยู่กับย่าต่อไป

สมคิด : เมื่อจบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 6 แล้ว เขาย้ายกลับไปอาศัยอยู่กับปู่ และศึกษาต่อชั้นมัธยมที่จังหวัดภูเก็ต

เพชร : เกิดในครอบครัวยากจน มีบ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี เคยพุ่งฉมวกเข้าปักงูในอุโมงค์ เพื่อช่วยเหลือเพื่อน แม่ของเขาถูกงูกัดเสียชีวิต ขณะเข้าไปเก็บหน่อไม้ในป่า

จันทร : เป็นเด็กหญิงพิการขาลีบข้างหนึ่ง ในตอนท้ายของเรื่อง โรงเรียนคัดเลือกให้เป็นผู้แทนร้องเพลง "ความฝันอันสูงสุด" รวมถึงอ่านทำนองเสนาะถวาย เฉพาะพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยแพทย์พระราชทาน รับเธอไปผ่าตัดขาที่กรุงเทพมหานคร จนกระทั่งหายเป็นปกติ

คุณครูไพลิน : เป็นครูประจำชั้น ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 3 เมื่อคราวไฟไหม้ตลาด เธอมีโอกาสพบ ทวีป เกษตรอำเภอเป็นครั้งแรก และต่อมาลูกศิษย์ของเธอ เป็นสื่อนำพาให้รู้จักคุ้นเคย และแต่งงานกันในที่สุด โดยทั้งคู่มีบุตรสาวด้วยกัน 1 คน

คุณครูกมล : เป็นครูประจำชั้น ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - 6

*****  เมื่อปี พ.ศ. 2536 ในสตูดิโออัลบั้มชุดแรกของโมเดิร์นด็อก มีเพลงหนึ่งชื่อ มานี (Manee) เนื้อเพลงส่วนหนึ่งมาจากบทร้อยแก้ว ในแบบเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ต่อมาในปี พ.ศ. 2541 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำเค้าโครงของเรื่องนี้ มาเสนอเป็นละคอนถาปัด โดยให้ชื่อว่า มานีและชูใจ

จากนั้น นิตยสารอะเดย์ ฉบับที่ 5 ประจำเดือนมกราคม พ.ศ. 2544 นำเรื่องราวเกี่ยวกับแบบเรียนชุดนี้ มาเผยแพร่เป็นเรื่องจากปก และต่อมายังเชิญรัชนี ผู้เขียนเรื่องตามแบบเรียนเดิม ขอให้เขียนวรรณกรรมชุดใหม่ในชื่อ ทางช้างเผือก โดยนำเค้าโครงมาจากเรื่องดังกล่าว แล้วนำลงตีพิมพ์ระหว่างฉบับที่ 26 ประจำเดือนตุลาคม พ.ศ. 2545 จนถึงฉบับที่ 37 ประจำเดือนกันยายน พ.ศ. 2546 รวมทั้งสิ้น 12 ตอน ซึ่งเนื้อหาดำเนินไปอย่างสมจริงมากขึ้น และเป็นเรื่องยาวต่อเนื่องกัน ต่างจากเรื่องราวในแบบเรียน ที่ต้องระมัดระวังในสำนวนภาษา และถ้อยคำที่กำหนดให้เรียนรู้ตามหลักสูตร โดยในเดือนกันยายนปีถัดมา (พ.ศ. 2547) สำนักพิมพ์อะบุ๊ก นำมาตีพิมพ์รวมเล่ม และเพิ่มเนื้อหาเรื่องราวมากขึ้น รวมทั้งมีตัวละครใหม่เพิ่มเติม หลังจากนั้นยังมีการพิมพ์ซ้ำอีกหลายครั้ง ระหว่างเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 มีการจัดแสดงละครเวทีเรื่อง มานีและชูใจ ขึ้นโดยนำเค้าโครงของเรื่องนี้มาเขียนบทใหม่

มีการนำตัวละครมาใช้ ทั้งเพื่อหวนรำลึกถึงอดีต และนำมาล้อเลียนเสียดสี เช่น แฟนเพจในเฟซบุ๊ก หนังสือเพี้ยน ป.1 และ กาตูนร์ ระทม ที่นำตัวละครอย่างมานี ซึ่งเป็นเด็กเรียบร้อยเรียนดี มาสร้างเป็นมีมในแก๊ก และแฟนเพจ มานีมีแชร์ ที่นำมานี เจ้าโต และตัวละครอื่นในบางโอกาส มาใช้ล้อเลียนทางการเมือง และวัฒนธรรมปัจจุบัน

เนื้อหาโดย: Spirit of Queen




 

Create Date : 19 เมษายน 2557    
Last Update : 19 เมษายน 2557 16:43:33 น.
Counter : 2017 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.