ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

ลิ้มรส KitKat รสพิเศษ ที่ไม่มีขายในไทย

Sweet Potato (さつまいも味) KitKat รสมันเทศ
ที่ใช้มันเทศขึ้นชื่อของ Koedo Kawagoe แห่งจังหวัด Saitama เป็นส่วนผสม วางจำหน่ายเฉพาะในเขตคันโต (จังหวัด Tokyo, Kanagawa, Chiba, Saitama, Ibaraki, Tochigi, และ Gunma) วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม 2009




Yamagata Cherry (山形さくらんぼ) KitKat รสเชอร์รี่
ที่ใช้ผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัด Yamagata เป็นส่วนผสมทำให้เกิดรสเปรี้ยวอมหวานที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี  วางจำหน่ายเฉพาะในเขต Tohoku  (จังหวัด Akita, Aomori, Fukushima, Iwate, Miyagi และ Yamagata) วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม 2009


Beni Imo (紅いも) KitKat รสมันสีม่วง
ที่ใช้มันม่วงสินค้าขึ้นชื่อของจังหวัด Okinawa เป็นส่วนผสม วางจำหน่ายเฉพาะในเขต Okinawa และ Kyushu (จังหวัด Fukuoka, Kagoshima, Kumamoto, Miyazaki, Nagasaki, Ōita และ Saga) วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน 2011




Shinshu Apple (信州りんご) KitKat รสแอปเปิ้ล
ที่ใช้แอปเปิ้ลผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัด Nagano (ชื่อเดิมคือ Shinshu) เป็นส่วนผสม วางจำหน่ายเฉพาะในจังหวัด Nagano วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน 2011


Itohkyuemon Uji Matcha (伊藤久右衛門 宇治抹茶) KitKat รสชาเขียว
ที่ใช้ชาเขียวจากร้าน Itohkyuemon  ร้านจำหน่ายชาเก่าแก่และขึ้นชื่อของเมือง Kyoto ที่คัดสรรแต่ชาเขียวชั้นดีเท่านั้น รสเข้มข้นกลมกล่อมของชาเขียวกับช็อกโกแลตก็เข้ากันเป็นอย่างดี  วางจำหน่ายเฉพาะในเขต Kansai (จังหวัด Mie, Nara, Wakayama, Kyoto, Osaka, Hyōgo และ Shiga) วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน 2011




Kobe Pudding (神戸プリン風味) KitKat รสพุดดิ้ง
ที่ใช้พุดดิ้งของร้าน Kobe Pudding ร้านพุดดิ้งชื่อดังของจังหวัด Kobe  เป็นส่วนผสม วางจำหน่ายเฉพาะในจังหวัด Kobe วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม 2011


Tochi Otome (とちおとめ) KitKat รสสตรอเบอร์รี่
ที่ใช้สตรอเบอร์รี่ผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัด Tochigi เป็นส่วนผสม วางจำหน่ายเฉพาะในจังหวัด Tochigi วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน 2011




Blueberry Cheese Cake (ブルーベリーチーズケーキ味) KitKat รส Blue Berry Cheese Cake
ซึ่งเป็นของหวานยอดนิยมของเขต Jou ・Kou Shin Etsu (จังหวัด Yamanashi, Nagano, Niigata และGumma) เป็นส่วนผสม วางจำหน่ายเฉพาะในจังหวัด Yamanashi, Nagano, Niigata และGunma วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม 2010


Strawberry Cheese Cake (ストロベリーチーズケーキ味) KitKat รส Strawberry Cheese Cake
ซึ่งเป็นของหวานที่ขึ้นชื่อของจังหวัด Yokohama วางจำหน่ายในเขตคันโต (จังหวัด Tokyo, Kanagawa, Chiba, Saitama, Ibaraki, Tochigi, และ Gumma) วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม 2011




Yubari Melon (夕張メロン) KitKat รส Yubari Melon
ที่ใช้ Melon พันธุ์ Yubari ผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัด Hokkaido ที่ทั้งหวานและหอมเป็นส่วนผสม วางจำหน่ายเฉพาะในจังหวัด Hokkaido และวางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม 2011




ที่มา: //webboard.sanook.com/forum/?topic=3735446







 

Create Date : 22 มิถุนายน 2556    
Last Update : 22 มิถุนายน 2556 8:39:19 น.
Counter : 2053 Pageviews.  

ฟังเพลงถูกใจเหมือนร่างกายได้ออกกำลังกาย



ขอแสดงความยินดีต่อบรรดาคนรักเสียงเพลงทั้งหลายด้วย เพราะนอกจากคุณจะเป็นคนที่มีดนตรีในหัวใจแล้ว คุณยังอาจจะเป็นคนที่มีสุขภาพดีที่สุดอีกคนหนึ่งด้วย

 เพราะมีผลศึกษาใหม่พบว่า การฟังเพลงโปรดช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลทำให้เกิดความรู้สึกดีๆ เช่นเดียวกับการออกกำลังกาย

ฟังเพลงถูกใจเหมือนร่างกายได้ออกกำลังที่เป็นเช่นนั้นเนื่องจาก การฟังเพลงที่คนฟังรู้สึกว่าเป็นเพลงที่ทำให้หัวใจเบิกบาน ส่งผลให้หลอดเลือดขยายกว้างขึ้น เลือดจึงไหลเวียนดีขึ้น แต่ผลลัพธ์จะกลับกันหากเป็นเพลงที่คนฟังไม่ชอบ

จากผลวิจัยดังกล่าวนี้ นักวิจัยได้ให้ความรู้เสริมว่า ผลลัพธ์แง่บวกจากที่ฟังเพลงที่ชื่นชอบนั้นทำให้หลอดเลือดขยายตัวมีความชัดเจนมากพอๆ กับการออกกำลังกายหรือการใช้ยาลดคลอเรสเตอรอลเลยทีเดียว

เรารู้กันอยู่แล้วว่า ความเครียดมีผลทำให้หลอดเลือดหดตัว แต่เราอยากรู้ว่าเมื่อเล่นเพลงโปรด จะทำให้หลอดเลือดขยายได้หรือไม่ จากกลุ่มตัวอย่างที่ทำการทดลองเราคิดว่าจะได้เห็นเลือดไหลเวียนดีขึ้น แต่ไม่คิดว่าจะมากเท่านี้" ดร.ไมค์ มิลเลอร์ ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจและหลอดเลือดหัวใจของศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์ สหรัฐฯ ผู้ทำการวิจัยนี้กล่าว

ทั้งนี้ผลการศึกษาดังกล่าวได้แสดงให้เห็นว่า เพลงที่ฟังแล้วมีความสุขช่วยส่งเสริมการไหลเวียนของโลหิต ส่งผลต่อเนื่องให้คลอเรสเตอรอลลดลง ลดอาการอักเสบ และลดความเสี่ยงเส้นเลือดอุดตันนอกจากนี้ยังทำให้สมองหลั่งไนตริกออกไซด์ หรือฮอร์โมนเอนดอร์ฟินที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกดี ออกมามากขึ้นเมื่อกลุ่มตัวอย่างได้ฟังเพลงโปรด

ไม่น่าเชื่อเลยว่าการฟังเพลง นอกจากจะช่วยผ่อนคลายความเครียดแล้วยังมีผลดีต่อการไหลเวียนของเลือดในร่างกายเราด้วย แบบคงต้องฟังเพลงโปรดบ่อยๆ เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง
แล้วคุณหล่ะชอบฟังเพลงอะไรกันบ้าง??

ขอบคุณบทความจาก สสส.


ที่มาข้อมูลและภาพ kroobannok.com




 

Create Date : 21 มิถุนายน 2556    
Last Update : 21 มิถุนายน 2556 7:46:10 น.
Counter : 1377 Pageviews.  

กำจัดสิวผด



สิวผดหรือสิวเทียมเป็นเนื้องอกของต๋อมเหงือ เราจะสังเกตุเห็นเป็นตุ่มเล็กๆ คล้ายผดบนใบหน้า เวลาที่ตากแดดแรงๆ ตุ่มเหล่านี้จะเห็นชัดขึ้นและมีลักษณะแข็ง

ชอบขึ้นบริเวณใต้ตา ต่างจากผดธรรมชาติซึ่งเป็นเม็ดใสเล็กๆ ที่อักเสบแล้วจะเป็นตุ่มแดง มีหนองขึ้นมา สิวผดเกิดจากแสงแดดจัดบ่อยๆ จะมีสิวผดขึ้นได้ง่าย วิธีแก้ไขคือการทายา แต่ก็มีผลข้างเคียงเพราะยารักษาสิวผดทำให้เกิดการระคายเคืองง่าย ดังนั้นเราจึงค้นหาวิธีกำจัดสิวผดแบบปลอดภัยมาฝากใครที่ไม่อยากมีสิวผดหรือมีสิวผดแล้วอยากกำจัด

1.อย่าอดนอน พยายามนอนให้หลับสนิทอย่างผ่อลคลาย
2.รับประทานผักทุกมื้อ
3.งดนวดหน้า ขัดหน้า เช็ดถูหน้าแรงๆ รวมทั้วแคะ แกะ และบีบสิว
4.ล้างหน้าเท่าที่จำเป็นไม่เกินวันละ 2-3 ครั้ง ด้วยน้ำเปล่า ไม่ใช้สบู่หรือน้ำอุ่น
5.หลีกเลี่ยงการใช้ยารักษาสิวประเภท Retinoic Acid,Benzoyel Peroxide AHA,BHA
6.เลี่ยงแดดแรงๆ และทาครีมกัรแดด SPF 30 และ PA++ อยู่เสมอ ที่สำคัญไม่ควรซื้อยาทาเอง  หากเป็นเยอะมากควรไปพบแพทย์จะดีที่สุด

ที่มาข้อมูลและภาพ xn--42c8ao1akazf5c2be0gsk.com




 

Create Date : 20 มิถุนายน 2556    
Last Update : 20 มิถุนายน 2556 7:33:58 น.
Counter : 1354 Pageviews.  

ประวัติ หลวงปู่เณรคํา ฉัตติโก พระดังวัดป่าขันติธรรม




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก luangpunenkham.com

ประวัติ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก แห่งวัดป่าขันติธรรม นั่งเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว สวมแว่นตาดำราคาแพง ใช้ไอโฟน และถือกระเป๋าแบรนด์เนม จนทำให้ทุกคนต่างอยากรู้ ประวัติ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก

หลังจากที่ได้มีการนำเสนอข่าว หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ นั่งเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว สวมแว่นตาดำราคาแพง ใช้ไอโฟน และถือกระเป๋าแบรนด์เนม แถมพระเณรที่ร่วมเดินทางไปด้วยนั้น ก็ล้วนแต่มีของใช้ราคาแพง ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เกิดคำถามมากมายในสังคมว่าการกระทำเช่นนี้ ถือว่าผิดวินัยสงฆ์หรือไม่ และที่สำคัญ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก คือใครกันแน่

          และเพื่อให้ทุกคนได้คลายข้อสงสัย วันนี้ กระปุกดอทคอม ขอนำประวัติ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก พระชื่อดังแห่งวัดป่าขันติธรรม มาฝากกัน โดย หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก เริ่มปฏิบัติธรรมด้วยการนั่งสมาธิ เดินจงกรม นอนในป่าช้า มาตั้งแต่อายุเพียง 6 ขวบ และเมื่ออายุครบ 15 ปี หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ก็ได้บรรพชาเป็นสามเณร ซึ่งระหว่างนั้นก็ได้เดินทางจาริกธุดงค์ไปยังสถานที่ต่าง ๆ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2542 หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ที่วัดป่าดอนธาตุ จ.อุบลราชธานี โดยได้รับฉายาทางพระพุทธศาสนา ว่า "ฉัตติโก"  หลังจากนั้นก็ได้เดินทางมายัง วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ
ประวัติ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก

  หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก มีนามเดิมว่า "วิรพล สุขผล" เกิดที่บ้านทรายมูล ต.ทรายมูล อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2522 ทั้งนี้  หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก เป็นบุตรคนที่ 4 จากพี่น้องทั้ง 5 คน ของนายรัตน์ สุขผล และนางสุดใจ สุขผล เมื่อ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก บวชเป็นพระภิกษุแล้ว ได้รับฉายาทางพระพุทธศาสนาว่า "ฉัตติโก" หรือ "พระอาจารย์ วิรพล ฉัตติโก"

  สำหรับเส้นทางในการเข้าสู่ทางธรรมนั้น หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ได้เริ่มปฏิบัติตามแนวทางคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งแต่ครั้งที่ยังอายุ 6 ขวบ ด้วยการปฏิบัติจิต บำเพ็ญภาวนากรรมฐานมาโดยตลอด และเมื่อถึงช่วงวันพระ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก จะหยุดเรียน และนุ่งขาวห่มขาวเข้าไปถือศีลบำเพ็ญภาวนาในวัด ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ รวมทั้งยังเดินจงกรมสลับกับการนั่งภาวนาใต้ร่มไทร นอกจากนี้ ในช่วงกลางวัน หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก จะไปนอนในป่าช้า เพื่อฝึกจิตให้ตั้งมั่น ซึ่งผลจากการปฏิบัติธรรมตั้งแต่เยาว์วัย เป็นเหมือนการบอกถึงความจริงในการบำเพ็ญบารมีของแต่ละคนว่า "แม้เราบำเพ็ญในชาตินี้หรือว่าชาติไหน ๆ ผลของการปฏิบัติบำเพ็ญนั้นมันยังคงอยู่เหมือนเดิม ไม่เสื่อมไปไหน"

          และในขณะที่ศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษา หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ก็คิดอยู่เสมอว่า "ถ้าเสร็จจากภารกิจทางโลกแล้ว เราจะไม่กลับมาทางโลกอีก เราคงเคยเกิดมาหลายชาติแล้ว เราคงพอแก่การเกิดได้แล้วในชาตินี้ เห็นอะไรก็เกิดความสลดสังเวชไปหมด จึงเป็นแนวทางทำให้รู้สึกเหมือนกับว่า เรารู้มาก่อน เห็นมาก่อน ตั้งแต่อดีตชาติ เหมือนกับเราจะได้ต่อเติมเส้นทางแห่งการปฏิบัติธรรมการบำเพ็ญเพียรเพื่อให้ หลุดพ้น"

ด้วยความคิดเช่นนั้น หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก จึงได้หมั่นปฏิบัติธรรมเพิ่มขึ้น โดยหลังเลิกเรียนของทุก ๆ วัน หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ก็ได้ไปปักกลด นั่งบำเพ็ญภาวนาที่อยู่ที่กระต๊อบกลางน้ำ ที่ปลายนาของโยมพ่อโยมแม่ทุกวัน วันพระจะถือกลดไปโรงเรียนด้วย พอเลิกเรียนจะเข้าไปปักกลดบำเพ็ญภาวนาที่วัด บางครั้งก็ไปปักกลดนั่งบำเพ็ญภาวนาอยู่ที่กระต๊อบกลางน้ำที่ปลายนาของโยมพ่อโยมแม่ทั้งคืนจนสว่าง ปฏิบัติเช่นนี้เป็นกิจวัตร

    จนกระทั่งเมื่อ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก อายุได้ 15 ปี ก็ได้ออกบวชเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2537 ที่วัดภูเขาแก้ว อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี โดยมีท่านหลวงปู่โชติ อาภัคโค เป็นพระอุปัชฌาย์ ซึ่งหลังจากบรรพชา หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ได้ไปจำพรรษาที่วัดป่าดอนธาตุ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ระยะหนึ่ง ซึ่งได้รับการอบรมธรรมะจากพระเดชพระคุณท่าน หลวงปู่สมบูรณ์ ขันติโก อย่างนานัปการ
จากนั้น หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ได้ออกเดินทางจาริกธุดงค์ ปักกลดอยู่ถ้ำภูตึก บ้านคุ้มปากมูล อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี โดยในขณะที่นั่งบำเพ็ญภาวนาอยู่ในถ้ำภูตึกนั้น ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น เนื่องจากมีงูเหลือมตัวหนึ่งได้เลื้อยมาพาดขา พาดตัก บางคืนนอนอยู่ที่ตัวของ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก และในบางครั้ง งูเหลือมจะเลื้อยมาขดอยู่บนหน้าอกของ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก แต่ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ก็มิได้หวาดหวั่นต่ออันตรายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งหลังจากที่ได้บำเพ็ญภาวนาอยู่ในถ้ำภูตึกเป็นเวลา 3 เดือน หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ก็ได้เริ่มออกจาริกธุดงค์ เพื่อทำการเผยแผ่หลักธรรมคำสอน ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

  ซึ่งระหว่างที่ออกธุดงค์นั้น หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ได้ไปกราบนมัสการหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ที่วัดอรัญบรรพต ต่อจากนั้นไปที่วัดหินหมากเป้ง เพื่อกราบนมัสการหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ซึ่งท่านได้ให้ธรรมะชั้นสูง จากนั้นเดินทางด้วยเท้าเปล่าไปถึง เชียงใหม่ นครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี แล้วกลับมาที่วัดป่าดอนธาตุ เพื่อเข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2542 โดย หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ได้รับฉายาทางพระพุทธศาสนาว่า "ฉัตติโก" หรือ "พระอาจารย์ วิรพล ฉัตติโก" ซึ่งเป็นอุปสมบทเป็นพระภิกษุเรียบร้อย หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ได้ออกเดินทางมายัง จ.ศรีสะเกษ

       โดยปัจจุบัน หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก มีตำแหน่งเป็นประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ และยังเป็นผู้เขียนหนังสือ "ชาติหน้าไม่ขอเกิด" และ "นิพพานมีจริง" อีกด้วย ส่วนเหตุที่เรียกตัวเองว่า "หลวงปู่" เพราะเป็นการรวมอายุในชาติที่แล้วกับชาตินี้นั่นเอง



//fb.kapook.com/hilight-87427.html




 

Create Date : 19 มิถุนายน 2556    
Last Update : 19 มิถุนายน 2556 22:52:43 น.
Counter : 3211 Pageviews.  

เปลือกผลไม้มาใช้ประโยชน์


ในบ้านเรามีผลไม้หลายชนิดที่เราไม่กินเปลือก เช่น ส้ม สับปะรด กล้วย หรือแม้แต่ทุเรียน เรามาดูกันดีกว่าว่าเราจะนำเปลือกผลไม้เหล่านี้มาใช้ประโยชน์ได้อย่างไรบ้าง เริ่มจาก

เปลือกกล้วย
มีคุณสมบัติทำให้ผิวชุ่มชื่น เพียงคุณใช้เปลือกกล้วยล้างน้ำให้สะอาดแล้วใช้ถูกับมือ ข้อเท้า ขา หรือใบหน้าก็ได้ นอกจากจะทำให้ผิวชุ่มชื่นไม่แห้งกร้านแล้วยังทำให้ผิวนุ่ม นอกจากนั้นเปลือกล้วยน้ำว้ายังสามารถใช้แทนน้ำยาขัดรองเท้าได้อีกด้วย

เปลือกทุเรียน
เวลาที่กินทุเรียนแล้วไม่รู้จะเอาเปลือกไปไว้ไหน ขอแนะนำให้คุณเอาไปตากให้แห้งใช้เป็นเชื้อเพลิงแทนถ่านไม้ได้ หรือเวลาที่คุณกินทุเรียนแล้วเกิดอาการร้อนใน ขอแนะนำให้ลองดื่มน้ำที่รินใส่เปลือกทุเรียนผสมกับเกลือเล็กน้อย อาการก็จะบรรเทา ยิ่งไปกว่านั้นน้ำที่ใส่ในเปลือกทุเรียนหากเอามาล้างมือล้างปากก็สามารถแก้กลิ่นทุเรียนที่ติดอยู่ได้อีกด้วย

เปลือกส้มโอ
นอกจากจะเอาไปทำส้มโอเชื่อมและส้มโอมือแล้ว เปลือกส้มโอยังสามารถใช้ขัดภาชนะที่ทำจากอะลูมิเนียมให้มีความใสและมันวาวได้อีกด้วย เพียงนำเปลือกส้มโอมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ในน้ำเดือดประมาณ 20 นาที ก่อนที่จะนำเปลือกส้มโอที่ต้มแล้วมาขัดถูภาชนะพร้อมกับสบู่ แค่นี้เครื่องครัวของคุณก็จะแวววาวสดใสโดยไม่ต้องเปลืองตังค์ไปซื้อน้ำยาราคาแพง

เปลือกสับปะรด
ที่สามารถนำมาใช้กับภาชนะทองเหลืองได้เพียงเอาภาชนะพวกทองเหลืองหรือเครื่องเงินลงแช่ในน้ำใส่เปลือกสับปะรดลงไปให้มิดทิ้งไว้สักหนึ่งคืนก่อนที่จะนำมาล้างให้สะอาดด้วน้ำธรรมดา เครื่องเงินและทองเหลืองของคุณก็จะสดใสงามราวกับของใหม่

บ้านใครมียุงชุมก็ขอแนะนำให้ใช้ เปลือกส้ม กำจัดยุง หลังจากที่กินส้มเขียวหวานเรียบร้อยแล้ว เปลือกส้มเขียวหวานอย่าทิ้ง นำไปตากให้แห้งสักแดดสองแดด นำมาสุมไฟไล่ยุงได้เป็นอย่างดีไม่มีสารตกค้าง รู้อย่างนี้แล้วก็อย่าลืมไปลองทำกันดูนะ รับรองว่าคุณจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะทีเดียว


ที่มาข้อมูล blogspot.com
ที่มารูปภาพ munzzz.com




 

Create Date : 18 มิถุนายน 2556    
Last Update : 18 มิถุนายน 2556 7:25:40 น.
Counter : 1989 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.