ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

ดูที่นี่! "จาก เรือดำน้ำ ยัน โนอาอาร์ค" : สิ่งประดิษฐ์แบบ "คิดเอง-ทำเอง" ของ คนจีนยุคนี้

จากเศรษฐกิจที่เติบโตอบ่างก้าวกระโดดของจีน ทำให้จำนวนนักลงทุนและเจ้าของกิจการเพิ่มขึ้นสูงตามไปด้วย โดยทั้งเกษตรกร นักวิศวกรและนักธุรกิจ ต่างโจนทะยานร่วมวง ผลิต สินค้าแบบ "คิดเอง-ทำเอง" ประดิษฐ์ ตั้งแต่ เรือดำน้ำ เฮลิคอปเตอร์ อาวุธ และอื่นๆ อีกมากมาย

เว็บไซต์ "ดิแอตเลนติก" ได้รวบรวมสิ่งประดิษฐ์อันน่าทึ่งของชาวจีนไว้บางส่วน ที่นี่..


"เรือดำน้ำ"






ภาพจาก China daily


"จาง วูลี่" กับ เรือดำน้ำของเขา ซึ่ง ในจังหวัด หูเบ่ย ของจีน เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2012 โดย อาชีพหลักของจางคือเกษตรกรท้องถิ่น แต่เขากลับมีความสนใจเรื่องสิ่งประดิษฐ์เป็นชีวิตจิตใจ ในที่สุด เขาก็ได้ประดิษฐ์เรือดำน้ำขนาดเล็กจำนวน 7 ลำ เพื่อขายให้แก่นักธุรกิจชาวจีนในราคา 100,000 หยวน หรือประมาณ 471,000 บาท โดยจาง ได้อาศัย "ปลิงทะเล" เป็นต้นแบบ และเรือดำน้ำแต่ละลำสามารถดำน้ำได้ลึกถึง 66-99 ฟีต และสามารถดำน้ำติดต่อกันได้ถึง 10 ชั่วโมง


"มอเตอร์ไซค์ยักษ์"




รถมอเตอร์ไซค์ยักษ์ ที่เห็นในรูปนี้ เป็นผลงานการคิดค้นของ ′อบูลาจัน′ ชายชาวอุยกูร์ ที่ได้ใช้เวลานานนับปีผลิตมอเตอร์ไซค์ยักษ์ที่หนักเกือบ 300 กิโลกรัม และมีความสูงประมาณ 4.3 เมตร ยาวเกือบ 2.4 เมตร ซึ่งจากขนาดที่ใหญ่ยักษ์นี้ ดูจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ ชายคนนี้จะขี่เจ้ามอเตอร์ไซค์คันนี้ไปไหนมาไหนได้ อีกทั้ง เขายังจะแบกรับภาระค่าน้ำมันอีก เพราะเจ้ามอเตอร์ไซค์ยักษ์คันนี้ ซดน้ำมันถึง เกือบ 1,300 ดอลลาร์ หรือประมาณ 38,000 บาท เพื่อเร่งเครื่องให้ถึง 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

"สไลเดอร์อพยพ"




Zhou Miaorong ชาวจีนวัย 70 ปี ได้ใช้เวลาเกือบ 2 ปี ประดิษฐ์ สไลเดอร์ เพื่อใช้อพยพจากเหตุฉุกเฉิน เช่น เพลิงไหม้ ซึ่งเกิดในอาคารสูง โดยเจ้าสไลเดอร์ทุ่นแรงนี้ ที่ไม่ต้องอาศัยไฟฟ้าทำให้ไม่มีปัญหาการใช้งานเมื่อไฟดับ โดยแรงบันดาลใจของนักประดิษฐ์ชราวัย 70 ปีนี้ เกิดจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ร้ายแรงในปี ค.ศ.2012 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เนื่องจาก ไม่มีช่องทางหนีไฟที่เพียงพอ ทำให้เขาเริ่มตระหนักถึง ความจำเป็นของช่องทางการอพยกหนีภัยในอาคารสูง



"โนอาห์ อาร์ค"




โนอาห์ อาร์ค แบบฉบับของชาวจีน นั้นเป็นลูกบอลน้ำหนักกว่า 5,443 กิโลกรัม ซึ่งคิดค้นโดย Yang Zongfu โดยเขาต้องใช้เวลากว่า 2 ปี กับเงินจำนวนกว่า 7 ล้านบาท เพื่อสร้างเจ้าลูกบอลยักษ์นี้ขึ้นมา โดยคุณสมบัตินอกจากลอยน้ำได้แล้ว ภายในลูกบอลนี้ยังสามารถบรรทุกคนได้อีก 3 คน รวมไปถึงเสบียงอาหารต่างๆ ที่ใช้ประทังชีวิตเป็นเวลา 10 เดือน นอกจากนั้น มันยังถูกออกแบบป้องกัน แรงกระแทก ความร้อน และน้ำท่วมอีกด้วย


"หน้ากาก ไนลอน กันแดด"




ผ้าไนลอนปกติๆ ได้ถูกใช้เป็น หน้ากากกันแดดสำหรับสาวๆ ชาวจีน ที่อยากสนุกกับน้ำทะเล แต่ไม่อยากหนักใจความความคล้ำของผิวที่อาจตามมา โดยหน้ากากกันแดดนี้ ได้ถูกประดิษฐ์ขึ้นเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมาแล้ว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันแสงแดด และจากความนิยมของหน้ากากกันแดดนี้ ทำให้บรรดาร้านขายชุดว่ายน้ำต้องวางขายเจ้าหน้ากากกันแดดนี้ด้วย

หุ่นยนต์ ลากรถ




เกษตรกรชาวจีน นาม Wu Yulu ดูจะชื่นชอบการประดิษฐ์เป็นชีวิตจิตใจ โดยในปี ค.ศ.2003 ชายผู้ซึ่งจบการศึกษาเพียงแค่ชั้นประถม ได้เริ่มผลิต "หุ่นยนต์" จากความคลั่งไคลของเขานานกว่า 10 ปีแล้ว และในที่สุดในปี ค.ศ.2009 เขาก็สามารถผลิตหุ่นยนต์ที่สามารถเดินไปมาได้ เพื่อใช้เป็นรถลาก ทุ่นแรง คอยลกเขาไปไหนมาไหนได้


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน




 

Create Date : 29 พฤษภาคม 2556    
Last Update : 29 พฤษภาคม 2556 7:43:58 น.
Counter : 2450 Pageviews.  

กทม.คว้าที่1น่าท่องเที่ยวที่สุด แซงลอนดอน-ปารีส-นิวยอร์ก


กทม.คว้าที่1น่าท่องเที่ยวที่สุด แซงลอนดอน-ปารีส-นิวยอร์ก


27 พ.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มาสเตอร์การ์ด โกลบอล เดสติเนชั่น ซิตี้ อินเด็กซ์ 2013 เปิดเผยผลสำรวจสุดยอดจุดหมายปลายทางของโลก ประจำปี 56 จาก 132 เมืองทั่วโลกว่า กทม.ได้รับตำแหน่งชนะเลิศ สุดยอดเมืองท่องเที่ยวโลก แซงหน้าแชมป์เก่าปีที่แล้วอย่าง กรุงลอนดอน ปารีส สิงคโปร์ และมหานครนิวยอร์ก ตามลำดับ โดยกรุงเทพฯ มีนักท่องเที่ยว 15.98 ล้านคนในปีนี้ วัดจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตลอดจนการใช้จ่ายข้ามพรมแดนที่เกิดขึ้นในจุดหมายปลายทาง

รายงานแจ้งว่า ดร.ยุวะ เฮ็ดดริก-หว่อง ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจโลก มาสเตอร์การ์ด เวิลด์วายด์

ระบุว่า ด้วยความโดดเด่นของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งมีตลาดเกิดใหม่ รวมทั้งภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว ส่งผลให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยปีนี้จาก 132 เมืองทั่วโลกที่ติดอันดับ มีถึง 42 เมืองที่มาจากทวีปเอเชีย ขณะที่ปัจจัยค่าเงินบาทแข็งค่ามีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวบ้าง แต่ไม่ถือว่ามาก เนื่องจากทิศทางค่าเงินในแถบเอเชียมีแนวโน้มแข็งค่าในหลายประเทศ ขณะที่ กทม. มีศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยวค่อนข้างมาก

“อัตราการเติบโตของนักท่องเที่ยวที่เที่ยวในกรุงเทพฯ มีกว่า 9.8% ขณะที่ปีที่แล้วอยู่ที่ 18.7% ลดลงจากปีที่แล้ว แต่ยังถือว่าจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่อันดับติด 1 ใน 5 ของโลก ส่วนมูลค่าการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวกรุงเทพฯ ติดอันดับ 4 รองจากมหานครนิวยอร์ก กรุงลอนดอน และปารีส ซึ่งไทยมีการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวมากที่สุดในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก สะท้อนว่าอัตราการเติบโตด้านการท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ”


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์แนวหน้า




 

Create Date : 28 พฤษภาคม 2556    
Last Update : 28 พฤษภาคม 2556 7:48:57 น.
Counter : 1567 Pageviews.  

เทคโนโลยีเสื้อผ้าใหม่ ใส่ร้อยวันไม่ซักก็ยังไม่มีกลิ่นเหม็น !?



บริษัทที่กำลังเริ่มกิจการใหม่ในเมืองนิวยอร์คนั้นกล่าวอ้างว่า ทางบริษัทสามารถผลิตเสื้อเชิ๊ตติดกระดุมขนแกะของผู้ชายที่นุ่มมาก ไม่ต้องรีด และไม่มีกลิ่นถึงแม้ว่าจะสวมใส่ติดกันเป็นเวลา 100 วันก็ตาม ซึ่งผู้ก่อตั้งบริษัทก็เพิ่งได้พิสูจน์ไปไม่นานมานี้เอง

บริษัทเสื้อผ้าที่มีชื่อว่า Wool&Prince นั้นได้เริ่มธุรกิจเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาโดย Mac Bishop จาก Portland ในรัฐ Oregon และเพื่อนอีกสองคน ซึ่งรุ่นต้นแบบของเสื้อเชิ๊ตนั้นทำมาจากขนแกะที่ผ่านกระบวนการพิเศษที่ทำให้มั่นนุ่ม ไม่เป็นรอยยับ และไร้กลิ่น ในขณะที่พวกเขาไม่ได้เปิดเผยถึงเทคนิคที่ทำให้ได้ผลลัพธ์ดังกล่าว Bishop ได้บันทึกการใส่เสื้อเชิ๊ํตดังกล่าวติดกันเป็นเวลา 100 วันไว้ 

Bishop ได้กล่าวชมข้อดีของขนแกะ และพูดคุยกับ Margaret Frey ซึ่งเป็นรองศาสตราจารย์ด้านวิทยาการเส้นใยและการออกแบบเสื้อผ้าที่ Cornell University โดยแกะของออสเตรเลียนั้นได้ถูกเลี้ยงดูเพื่อให้เส้นใยขนที่นุ่มสำหรับเนื้อผ้าที่มีความราบเรียบเท่ากัน ซึ่ง Frey ได้กล่าวว่า “ใยดังกล่าวนั้นไม่ทำให้เกิดอาการคันที่เรามักโยงเข้ากับขนแกะ”

อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อกังขาเกี่ยวกับคุณสมบัติการไร้กลิ่นอยู่บ้างหลังจากเห็นภาพของ Bishop ที่ยืนอยู่ข้างคนสูบบุหรี่ แต่เนื่องจากนอกจากเขาแล้วยังไม่เคยมีใครได้ลองใส่เสื้อดังกล่าวมาก่อนก็เลยต้องรอให้มีการพิสูจน์เป็นเรื่องเป็นราวกันต่อไป ซึ่งตอนนี้ทางบริษัทได้เริ่มการขอเงินทุนผ่านโครงการ Kickstarter เพื่อที่จะทำให้พวกเขามีทุนมากพอจะสั่งโรงงานผลิตเสื้อมาขายได้ในราคา 98 ดอลล่าร์สหรัฐฯ

ผู้สื่อข่าวกล่าวว่า การที่เขาอาศัยอยู่ในรัฐ Colorado นั้นทำให้เขาสามารถสะสมเสื้อผ้าขนแกะที่มีคุณภาพสูงถึงแม้ว่าจะมีราคาแพงไว้ใช้เวลาเดินทางออกนอกบ้าน ซึ่งรวมไปถึงเสื้อผ้าชั้นในและถุงเท้าด้วย แต่การซักล้างนั้นเหมือนจะทำให้ความสามารถในการต้านกลิ่นนั้นลดลงอยู่ ซึ่งหลายชิ้นนั้นมีกลิ่นคล้ายๆแกะหลังจากถูกซักอย่างเบาๆแล้วแขวนทิ้งไว้ แล้วถุงเท้าเองหลังจากใช้งานหนักๆและมีเหงื่อมากๆแล้วก็เริ่มจะมีกลิ่นเหมือนกัน

ถ้าหากว่าบริษัทที่ตั้งอยู่ที่นิวยอร์คแห่งนี้สามารถขยายฐานผลิตภัณฑ์ไปถึงถุงเท้าและชุดชั้นในที่เมื่อใช้ไปเป็นระยะเวลานานมากๆแล้วก็ยังไม่มีกลิ่นจริงๆล่ะก็อาจจะน่าสนใจขึ้นมาจริงๆก็เป็นได้ และฤดูร้อนกับเหงื่อที่น่ารังเกียจปริมาณมากก็กำลังจะมาให้เราได้พิสูจน์คุณภาพของแบรนด์เสื้อผ้าดังกล่าวแล้วเร็วๆนี้  สำหรับเมืองไทยเราเอง ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวก็อาจจะเป็นที่ต้องการอย่างมากก็เป็นได้





ขอบคุณ : vcharkarn




 

Create Date : 27 พฤษภาคม 2556    
Last Update : 27 พฤษภาคม 2556 7:23:47 น.
Counter : 1405 Pageviews.  

เผยกลไกสมองในการควบคุมอารมณ์ตนเอง



การระงับอารมณ์ของตัวเอง กับการได้รับคำสั่งให้เก็บอารมณ์ของตัวเองนั้น ส่งผลให้สมองถูกกระตุ้นไม่เหมือนกัน จากการค้นพบของนักวิทยาสตร์อังกฤษและเบลเยี่ยม

งานวิจัยจากสถาบันประสาทวิทยาการรับรู้ มหาวิทยาลัยลอนดอน อังกฤษ และมหาวิทยาลัยเกนท์ เบลเยี่ยม ได้รับการเผยแพร่ในวารสารวิชาการ Brain Structure and Function แล้ว โดยนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการสแกนสมองของอาสาสมัครแล้วพบว่า ระบบสมองบางส่วนจะถูกกระตุ้นเมื่อคนๆหนึ่งเลือกที่จะเก็บอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ด้วยการตัดสินใจของตัวเอง

"ผลการทดลองนี้แสดงให้เห็นว่า การควบคุมความรู้สึกของตัวเองเกี่ยวข้องกับสมองคนละส่วนกับที่เมื่อได้รับคำสั่งให้ตอบสนองต่ออารมณ์อย่างไร" ดร.ไซม่อน คุห์น แห่งมหาวิทยาเกนท์ หัวหน้าทีมวิจัยเผย

ในการศึกษาก่อนหน้านี้ อาสาสมัคมักจะได้รับคำสั่งให้ควบคุมความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ แต่ในชีวิตประจำวันของคนนั้น ไม่มีใครได้รับคำสั่งให้เก็บระงับความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ และโดยส่วนใหญ่แล้วก็มักจะมาจากการตัดสินใจของตัวเองว่าจะรู้สึกหรือควบคุมอารมณ์ตนเองอย่างไร

ในการศึกษาครั้งใหม่นี้ นักวิจัยได้แสดงภาพที่น่ากลัวหรือภาพที่ทำให้รู้สึกไม่ดีต่อผู้หญิง 15 คน อาสาสมัครกลุ่มนี้สามารถเลือกได้เองว่าจะแสดงความรู้สึกนั้นออกมาเมื่อเห็นภาพหรือจะเก็บความรู้สึกเอาไว้

นักวิจัยได้ใช้  functional magnetic resonance imaging (fMRI) ทำการสแกนสมองของอาสาสมัคร และได้เปรียบเทียบกิจกรรมของสมองกับการทดลองอื่นที่อาสาสมัครแต่ละคนได้รับคำสั่งให้แสดงความรู้สึกออกมา หรือได้รับคำสั่งให้เก็บความรู้สึกเอาไว้ (ไม่ได้เลือกด้วยตัวเอง)

นักวิจัยพบว่า สถานการณ์ที่แตกต่างกันดังกล่าวนี้ ทำให้สมองถูกกระตุ้นคนละส่วนกัน เมื่ออาสาสมัครตัดสินใจว่าจะเก็บความรู้สึกลบเอาไว้ นักวิทยาศาสตร์พบว่า สมองส่วน dorso-medial prefrontal จะได้รับการกระตุ้น ซึ่งฏ็สอดคล้องกับสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจว่าจะยับยั้งการเคลื่อนไหว

ตรงกันข้าม อาสาสมัครในอีกการทดลองหนึ่งที่ได้รับคำสั่งว่าต้องเก็บความรู้สึกเอาไว้ จะมีกระตุ้นที่สมองส่วน lateral มากกว่า

"เราคิดว่า การควบคุมความรู้สึกของคนๆหนึ่ง กับการควบคุมพฤติกรรมของคนๆหนึ่ง มีกลไกที่ซ้อนเหลื่อมกัน" ดร.คุห์นเผย

"เราควรจะแยกแยกว่า การควบคุมความรู้สึกแบบสมัครใจกับแบบได้รับคำสั่ง มันไม่เกี่ยวข้องกันเลย เราต้องแยกแบบเดียวกับที่เราแยกว่า อันไหนที่เราตัดสินใจทำเอง กันอันไหนที่ได้รับคำสั่งให้ทำ"

การควบคุมอารมณ์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา และเป็นสิ่งที่สำคัญต่อสุขภาพจิตของคน ตัวอย่างเช่น หลายคนมักจะกลัวที่จะต้องพูดต่อสาธารณชน ขณะที่บางคนเช่น พนักงานดับเพลิง จะต้องควบคุมความกลัวที่เกิดขึ้นในอาชีพของตัวเอง

ศาสตราจารย์แพทริก ฮากการ์ด แห่งสถาบันประสาทวิทยาการรับรู้ มหาวิทยาลัยลอนดอน นักวิจัยร่วมในงานวิจัยครั้งนี้ชี้ว่า การศึกษาครั้งน่าจะทำให้เราไปสู่วิธีการรักษาได้ดียิ่งขึ้น

"ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ของคนก็เป็นผลมาจากสุขภาพจิตของแต่ละคนเช่นกัน ดังนั้น การศึกษากลไกนี้ทำให้เรานำไปต่อยอดได้อีกมาก"

"การศึกษาส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางอารมณ์ในสมองต่างก็ตั้งสมมติฐานว่า คนจะถูกกระตุ้นแล้วจึงเกิดอารมณ์ และก็จะตอบสนองต่ออารมณ์นั้นโดยอัตโนมัติ แต่ในทางตรงข้ามแล้ว พื้นที่สมองที่ถูกกระตุ้นแล้วแท้ที่จริงก็ขึ้นกับความสามารถของแต่ละคนในการควบคุมอารมณ์ต่างๆด้วย"

"กลไกการควบคุมตนเองนี้อาจจะเป็นเรื่องที่ดี เช่นว่า เราอาจจะโดนมองไม่ดีหากว่าแสดงออกทางอารมณ์ตรงเกินไป แต่การเก็บอารมณ์เกินไปจนฟังก์ชันส่วนนี้ในสมองเปลี่ยนไป อาจจะทำให้เราเลือกการตอบสนองต่ออารมณ์หนึ่งๆยากขึ้นไปด้วย ก็เป็นได้"


อ้างอิง: University College London (2013, May 9). Brain system for emotional self-control discovered. ScienceDaily. Retrieved May 10, 2013, from //www.sciencedaily.com/releases/2013/05/130509104354.htm

งานวิจัย: //www.eurekalert.org/pub_releases/2013-05/ucl-sfb050913.php




 

Create Date : 26 พฤษภาคม 2556    
Last Update : 26 พฤษภาคม 2556 10:18:40 น.
Counter : 1674 Pageviews.  

สวนสัตว์สงขลาโชว์สมาชิกใหม่"ลูกเก้งเผือก"นับเป็นตัวที่สามของโลก

สวนสัตว์สงขลาได้สมาชิกใหม่เป็นลูกเก้งเผือก จากพ่อที่เป็นเก้งเผือกพระราชทานและแม่ที่เป็นเก้งแดงธรรมดา ร่วมกันตั้งชื่อลูกเก้งเผือก เพื่อความเป็นสิริมงคล

วันที่ 23 พ.ค. ที่ สวนสัตว์สงขลาได้สมาชิกใหม่เป็นลูกเก้งเผือก ตัวที่สามของโลก พ่อชื่อเทียนซึ่งเป็นเก้งเผือก และเป็นเก้งเผือกที่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถพระราชทาน และแม่ชื่อศรี ซึ่งเป็นเก้งแดงหรือเก้งธรรมดา โดยเก้งเผือกตัวนี้ได้คลอดออกมาเมื่อ วันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมาและขณะนี้อายุครบ1เดือนพอดี ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงและสีสันเป็นสีเผือกทั้งตัววิ่งเล่นอยู่กับพ่อแม่และฝูงเก้งภายในส่วนแสดงเก้งของสวนสัตว์สงขลา

นายเฉลิมวุฒิ เกษตรสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์สงขลา เปิดเผยว่าถือเป็นฤกษ์งามยามดีที่ลูกเก้งเผือกตัวนี้ อายุครบ 1 เดือนพอดีและอยู่ในช่วงวันวิสาขบูชา ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่มงคล ทางสวนสัตว์สงขลา จึงได้เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมความน่ารักของลูกเก้งเผือกตัวนี้และร่วมกันตั้งชื่อให้คล้องกับพ่อชื่อเทียนและแม่ชื่อศรี

ลูกเก้งเผือก - ภาพจาก มติชน
ลูกเก้งเผือก - ภาพจาก มติชน

ลูกเก้งเผือก - ภาพจาก มติชน
ลูกเก้งเผือก - ภาพจาก มติชน

ลูกเก้งเผือก - ภาพจาก มติชน
ลูกเก้งเผือก - ภาพจาก มติชน

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน




 

Create Date : 25 พฤษภาคม 2556    
Last Update : 25 พฤษภาคม 2556 7:32:26 น.
Counter : 1480 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.