ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

ดื่มน้ำอย่างไรให้ร่างกายได้ประโยชน์มากที่สุด

ให้เพียงพอในแต่ละวันเป็นสิ่งที่สำคัญต่อร่างกาย แต่พฤติกรรมการดื่มน้ำของเราอาจไม่ถูกวิธี และจะส่งผลทำให้ร่างกายได้ประโยชน์ไม่ได้รับประโยชน์จากการดื่มน้ำอย่างแท้จริง



น้ำเป็นส่วนประกอบหลักของร่างกายประมาณ 60 % ของน้ำหนักตัว คือ น้ำ ทุกระบบของร่างกายต้องการน้ำ เพื่อให้การทำงานเป็นปกติ ร่างกายจะสูญเสียน้ำออกไปทางระบบทางเดินหายใจ เหงื่อ ทางเดินอาหาร ทางเดินปัสสาวะ โดยทั่วไปแพทย์จะแนะนำให้ดื่มน้ำประมาณ 8 แก้วต่อวัน

การอดน้ำเป็นเวลานานหลายชั่วโมงแล้วดื่มทีเดียวเป็นขวดๆ นั้น ถือว่าดื่มเยอะจริง แต่แทบจะหาประโยชน์ไม่ได้เลย เพราะแทนที่น้ำจะค่อยๆ ถูกดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้ตลอดเวลา แต่เมื่อร่างกายต้องขาดน้ำเป็นเวลาหลายชั่วโมงพอได้รับน้ำ ก็ได้รับมากเกินไปจนดูดซึมไปใช้ไม่ทัน พากันไหลไปออกทางปัสสาวะหมด สุดท้ายก็คือการขาดน้ำ ดังนั้น การดื่มน้ำที่ถูกควรค่อยๆ ดื่มทีละน้อย แต่บ่อยครั้ง

การดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน จะช่วยให้การทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายทำงานเป็นปกติ เพราะน้ำ มีหน้าที่ช่วยทำให้เลือดไม่ข้น หนืด ช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย และนำพาสารอาหารไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย ทำให้ผิวพรรณสดใส มีอ่อนกว่าวัย และมีน้ำมีนวลมากขึ้น ถ้าคุณดื่มน้ำได้มากพอจะไม่รู้สึกหิวน้ำ และมีปัสสาวะใส หรือแค่เหลืองอ่อน ๆ แปลว่าร่างกายได้รับน้ำอย่างเพียงพอ


เรียบเรียงจาก : //www.samitivejhospitals.com/ , //thearokaya.co.th/


by Phennapha C.




 

Create Date : 05 มกราคม 2558    
Last Update : 5 มกราคม 2558 7:31:34 น.
Counter : 965 Pageviews.  

ข้อควรเลือก และ เลี่ยง ในการเลือกซื้อกระเช้าของขวัญ

ข้อควรเลือก และ เลี่ยง ในการเลือกซื้อกระเช้าของขวัญ

เผลอแป็บเดียว ก็จะปีใหม่แล้วหลายคนคงเตรียมหาขอขวัญ ไม่ว่าจะเป็นการให้ในนามองค์กร ให้บุคคลที่เราเคารพรัก ให้ผู้มีพระคุณ ให้ญาติผู้ใหญ่ ไปจนถึงคนป่วย สื่อถึงความรัก และความใส่ใจ แต่กระเช้าปีใหม่ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ล้วนเต็มไปอาหาร และเครื่องดื่มที่ทำลายสุขภาพ มากกว่าให้ประโยชน์ หากบริโภคเป็นจำนวนมา และเราจะมีวิธีการดูการเลือกซื้ออย่างไรละ วันนี้เรามีคำแนะนำมาให้คุณเลือก และ เลี่ยง ในการเลือกซื้อกระเช้ากันนะค่ะ
ควรเลี่ยงสุรา วิสกี้ เพราะสิ่งเหล่านี้ เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เราทราบกันไหมว่า แอลกอฮอล์นั้น ส่งผลร้ายได้ตั้งแต่เริ่มดื่มจากปาก หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ตับ ไปจนถึงระบบประสาทและสมอง
คุ้กกี้ เวเฟอร์ มันฝรั่งทอด ขนมขบเคี้ยวเหล่านี้ อุดมไปด้วย แป้ง และไขมัน หลายชนิดเป็นไขมันทรานส์ ที่ส่งผล ต่อร่างกาย เพราะหากร่างกายได้รับไขมันที่มากเกินความพอดี มีผลตั้งแต่ทำให้ระดับไขมันในเลือดสูง ทำให้หลอดเลือดแดงแข็ง ตีบ อุดตัน ส่งผลให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจขาดเลือด อัมพฤกษ์ อัมพาต ไตวาย หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงขาตีบตัน ตับอ่อนอักเสบ เป็นต้น
ช็อคโกแล็ต ผลไม้กระป๋อง แยม การให้ของเหล่านี้ เหมือนหยิบยื่นน้ำตาลปริมาณสูงให้ผู้รับ โดยการบริโภคน้ำตาลในปริมาณสูง ก็เป็นที่มาของโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคความดันโลหิตสูง โดยเฉพาะโรคเบาหวาน
ควรเลือก น้ำสมุนไพร น้ำผลไม้ น้ำลูกพรุน น้ำธัญพืช เครื่องดื่มเหล่านี้ อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย มีทั้งวิตามิน แร่ธาตุ หลากหลายชนิด รวมไปถึงใยอาหาร ที่แสนจะมีประโยชน์ต่อระบบทางเดินอาหารและขับถ่าย
ขนมธัญพืชอบกรอบ ผลิตภัณฑ์ผัก ผลไม้อบแห้ง ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เหล่านี้มากมายในท้องตลาด โดยเฉพาะตามร้านอาหารเพื่อสุขภาพ เราจะเจอผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยว เพื่อสุขภาพเหล่านี้มากมายอย่างไม่น่าเชื่อ ได้ทั้งวิตามิน และแร่ธาตุ ไปจนถึงใยอาหาร ให้แก่ร่างกาย
ชาเขียว ชาสมุนไพร เครื่องดื่มธัญพืชรวม ขิงผงสำเร็จรูป เครื่องดื่มแห้งพร้อมชงดื่มเหล่านี้ เป็นตัวเลือกที่แสนจะน่าสนใจ และมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากนะคะ ทั้งโพลีฟีนอลในชาร้อน สรรพคุณดี ๆ จากชาสมุนไพร แหล่งพลังงานชั้นดีจากเรื่องดื่มธัญพืชที่ให้ทั้งวิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร
หลักง่าย ๆ ก็คือการเลือกผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ซึ่งเลือกกันได้ไม่ยากกันเลย ยิ่งในปัจจุบัน ผู้คนหันมาสนใจ ใส่ใจในการเลือกบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ จึงทำให้มีร้านค้าที่ขายอาหารและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพขึ้นมารองรับมากขึ้นนอกจากจะเลือกผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพกันแล้ว อย่าลืมตรวจดูวันผลิต วันหมดอายุของผลิตภัณฑ์ มีการแสดงฉลากอาหารที่ชัดเจน และมีเลข อย. กันด้วย ให้มั่นใจว่าเราได้ของที่ใหม่ ไม่หมดอายุ และมีการขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย เครื่องกระป๋องก็ไม่บวมบุบบู้บี้ ไม่มีสนิม ไร้รอยรั่ว ที่อาจทำให้เกิดเชื้อจุลินทรีย์ภายในกระป๋องได้ หากเป็นไปได้ ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์มาจัดกระเช้าด้วยตนเอง อย่างน้อยก็เพื่อความมั่นใจว่า ของที่เลือกมีคุณภาพดี หรือหากต้องซื้อกระเช้าปีใหม่สำเร็จรูป ต้องเลือกที่มีการแสดงฉลากถูกต้องและชัดเจนเป็นวิธีที่ดีที่สุด เนื่องจากตามกฎหมาย อย. ได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการแสดงฉลากของอาหารจัดรวมในภาชนะ มีข้อกำหนดดังนี้
- กระเช้าของขวัญที่มีผลิตภัณฑ์อาหารจัดรวมอยู่ในภาชนะเดียวกัน โดยมีการหุ้มห่อ ไม่ว่าจะเป็น กระเช้า ตะกร้า กล่อง ถุง หรือภาชนะใดต้องแสดงข้อความภาษาไทยที่เห็นได้ชัดเจน อ่านได้ง่าย และข้อความต้องแสดงรายละเอียด ได้แก่ ชื่อหรือประเภทหรือชนิดของอาหารแต่ละรายการที่บรรจุในกระเช้า วันเดือนปีที่หมดอายุหรือควรบริโภคก่อนของอาหารที่จัดรวมในภาชนะบรรจุ  หากผู้บริโภคพบเห็นการจำหน่ายกระเช้าปีใหม่ใส่ผลิตภัณฑ์หมดอายุ หรือไม่มีการแสดงฉลากตามข้อกำหนด สามารถร้องเรียนได้ที่ สายด่วน อย. 1556 กรณีที่พบผู้จำหน่ายนำผลิตภัณฑ์อาหารหมดอายุมาจัดกระเช้า และผลการตรวจวิเคราะห์คุณภาพพบสิ่งที่น่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ หรือมีการปนเปื้อนวัตถุอันตราย จะเข้าข่ายเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากพบว่าผลิตภัณฑ์อาหารแสดงฉลากไม่ถูกต้อง เช่น ไม่แสดงรายการผลิตภัณฑ์ ไม่ระบุวันหมดอายุหรือควรบริโภคก่อนจะมีโทษปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท
- กระเช้าปีใหม่แบบผลไม้สด ก็เป็นทางเลือกที่ดี ไม่แพ้กระเช้าที่มีผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปนะคะ นอกจากจะสวยงามแล้ว ผู้รับยังได้ทานผลไม้สดที่มีทั้งน้ำตาลธรรมชาติ วิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ไปจนถึงใยอาหารที่มีประโยชน์ต่อระบบขับถ่าย แต่ระวัง เลือกผลไม้ที่น้ำตาลไม่สูง หรือผลไม้กลุ่มที่มีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณมาก เช่น แอปเปิ้ล ส้ม ทับทิม สตอเบอรี่ กีวี่ กล้วย มะม่วง แคนตาลูป แก้วมังกร เสาวรส เป็นต้น
ผู้อ่านคงได้เทคนิคที่จะช่วยเลือกสรรกระเช้าปีใหม่ที่ทรงคุณค่า และรักษาสุขภาพร่างกายของผู้รับ ให้แข็งแรง มีชีวิตอยู่ได้ยาวนาน ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคที่มาจากอาหาร

รูปภาพจาก : //www.healthmee.com ข้อมูลจาก : Twitter @Princessfangy




 

Create Date : 24 ธันวาคม 2557    
Last Update : 24 ธันวาคม 2557 7:37:15 น.
Counter : 1035 Pageviews.  

ของขวัญชนิดใด? ที่ไม่ควรให้ในแต่ละประเทศ

ใกล้เข้าสู่ช่วงเทศกาลและปีใหม่แล้ว การหาซื้อหรือให้ของขวัญแก่คนอื่นเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าในหลายประเทศ มีวัฒนธรรมในเรื่องของต้องห้ามในการใช้เป็นของขวัญไม่ว่าในเทศกาลใดๆ ก็ตาม ซึ่งแต่ละประเทศต่อไปนี้ถือเป็นวัฒนธรรมที่เราควรรู้หากเรามีญาติ เพื่อน หรือคนรู้จัก เป็นชาวในประเทศนั้นๆ


1. ประเทศนอร์เวย์ ไม่ควรห่อช่อดอกไม้ก่อนจะมอบให้คนอื่น ที่นั่นนิยมให้เป็นดอกไม้ดอกเดียวมากกว่า และเวลาไปบ้านคนนอร์เวย์ ควรนำของติดไม้ติดมือไปด้วย


2. ประเทศรัสเซีย ไม่ซื้อดอกไม้จำนวนคู่ให้เป็นของขวัญ เพราะเลขคู่จะใช้สำหรับคนตายแล้ว ช่อดอกไม้ที่เหมาะสมจะมี 1 ดอก 3 ดอก 5 ดอก 7 ดอก 9 ดอก เป็นต้น


3. ประเทศเยอรมัน ห้ามอวยพรวันเกิดล่วงหน้า ต้องให้พอดีวัน หรือไม่ก็หลังจากวันนั้น เพราะคนเยอรมันเขาถือเรื่องโชคลาง บอกว่าจะโชคร้ายตลอดปีถ้ามาอวยพรวันเกิดล่วงหน้า


4. ประเทศจีน ห้ามให้ "ร่ม" หรือ "นาฬิกา" เป็นของขวัญ เพราะ "นาฬิกา" ในภาษาจีนจะออกเสียง "ซี่วจง" ซึ่งไปคล้ายกับคำว่า "ซุ่ยจง" ที่แปลว่า ดูใจครั้งสุดท้าย มันเป็นเรื่องอัปมงคลอย่างมาก ส่วน "ร่ม" จะออกเสียงคล้ายกับคำที่มีความหมาย "กระจัดกระจาย" ซึ่งเป็นความหมายไม่ดี คนจีนเลยไม่ชอบ จริงๆแล้วของต้องห้าม ที่ไม่ควรให้ชาวจีนเป็นของขวัญ ยังมี สาลี่ ที่เหมือนการแช่ง ผ้าเช็ดหน้า ที่คนจีนถือเพราะมันเป็นผ้าไว้ซับน้ำตา


5. ประเทศเวียดนาม ห้ามรับของมือเดียว (โดยเฉพาะมือซ้าย) มีหลายประเทศที่มีข้อห้าม หรือธรรมเนียมปฏิบัติข้อนี้ เพราะ "มือซ้าย" หลายๆประเทศเห็นว่าเป็นมือสำหรับชำระล้าง เป็นมือสกปรก จึงไม่ควรรับสิ่งของใดๆ หรือหากจะใช้ ต้องใช้พร้อมกันสองมือในการรับของ


6. ประเทศเนเธอร์แลนด์ ห้ามให้ กรรไกร หรือของมีคม เป็นของขวัญ จริงๆแล้ว การให้ของมีคมเป็นของขวัญ ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรอยู่แล้ว เพราะอันตรายแถมไม่ได้เป็นของที่สื่อถึงความจริงใจ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการให้ของมีคมเป็นของขวัญ

ที่มา ครอบครัวข่าว3




 

Create Date : 22 ธันวาคม 2557    
Last Update : 22 ธันวาคม 2557 8:26:56 น.
Counter : 870 Pageviews.  

ของมงคลเสริมโชคลาภ

ความเชื่อของใครหลายคนที่คิดว่าสิ่งของเหล่านี้เป็นของที่สามารถเสริมดวงได้ ซึ่งสิ่งของที่ว่านั้นก็มีด้วยกันหลายหลายประเภท ซึ่งก็สามารถช่วยเสริมดวงต่างกันออกไป Sanook! Horoscope รวบรวมมาไว้ให้แล้วดังนี้

เทพเจ้ากวนอู

1. เทพเจ้ากวนอู ตั้งให้มองเห็นเมื่อเปิดประตู ต้องตั้งประจันหน้ากับประตูเพื่อป้องกันสิ่งที่ไม่ดี หรือพลังงานที่มองไม่เห็น มี 2 ปาง คือ ปางนั่งอ่านหนังสือ เหมาะกับบ้านเรือนทั่วไป และ ปางถือง้าว ขี่ม้า เงื้อง้าวจะฟัน เหมาะกับงานปราบปราม งานกฎหมาย หรืองานที่ต้องแข่งขันต่อสู้

2. ม้าคู่สีขาว ช่วยให้เป็นมงคลเจริญก้าวหน้าเหมือนการก้าวย่างรวดเร็วของม้า ห้ามใช้ม้าดำหรือม้าที่มีลักษณะยกเท้าคู่หน้าเหมือนม้าพยศ เพราะเป็นอัปมงคล ห้ามตั้งหลังโต๊ะทำงาน ไม่ตั้งหันหน้าออกทางประตูทางเข้า ไม่ตั้งม้าประจันกับหน้าโต๊ะทำงานเรา

ภาพปลาคู่

3. ภาพปลาคู่ หมายถึง มีกิน มีใช้ ไม่รู้จบ วางได้ทุกทิศ ทุกตำแหน่ง

4. ต้นไม้จุ้ยเจีย มีลักษณะเป็นต้นไม้อัญมณี ทำจากหยกหรืออัญมณีอื่นๆ มีพลังในการดึงดูดโชคลาภเงิน

ขลุ่ยจีน

5. ขลุ่ยจีน ติดโดยให้ด้านเป่าคว่ำลงแขวนแบบทแยงมุม 45 องศา ส่งเสริมเรื่องการค้า โดยให้ติดเป็นคู่ใกล้เครื่องคิดเงินในร้าน ทอง

ธนบัตร 9 ใบ

6. ธนบัตร 9 ใบ ติดตรงประตูทางเข้าออกบ้าน เป็นนัยว่าเมื่อออกไปนั้นคือออกไปหาเงิน เมื่อกลับเข้าบ้านแล้วก็เก็บเงินเก็บทองไว้ที่บ้านตลอด

พระสังกัจจายน์

7. พระสังกัจจายน์ เป็นเทพเกี่ยวกับความมั่งคั่ง ทิศที่ควรตั้งพระสังข์กัจจายน์ คือ ตั้งในห้องรับแขก หรือ ห้องอาหาร ให้พระหันเข้าหาโต๊ะรับแขกหรือโต๊ะอาหาร มุมที่จัดตั้งพระควรโปร่ง สว่าง และทำความสะอาดได้ง่าย เชื่อกันว่า นอกจากพระยิ้มจะนำโชคมาสู่บ้านคุณแล้ว ยังก่อให้เกิดความอบอุ่นอารมณ์ดีแก่คนในบ้านอีกด้วย

ฮก ลก ซิ่ว

8. ฮก ลก ซิ่ว เทพเจ้าทั้ง 3 นี้ จะช่วยดลบันดาลให้คุณมั่งคั่ง ร่ำรวย มียศศักดิ์ และสุขภาพแข็งแรง ควรตั้งไว้ในตำแหน่งที่เทพทั้ง 3 หันหน้าเข้าหาโต๊ะรับแขก และควรเป็นจุดที่มีแสงสว่างพอสมควร ไม่อยู่ในมุมทึบอับเกินไป ห้ามตั้งเทพ ฮก ลก ซิ่ว หันหน้าเทพทั้ง 3 ออกสู่หน้าต่าง หรือประตูหน้าบ้าน ต้องหมั่นดูแลความสะอาดอย่าให้ฝุ่นจับ

9. กระถางเงิน กระถางทอง ใส่ของมีค่าในกระถางนี้จะได้เป็นอัญมณี ฉะนั้นการนำโชคแล้วของประดับตกแต่งเข้าบ้านก็ควรเสริมสิริมงคลกับตัวเราและคนในครอบครัวด้วย แนะนำเป็นของที่หาได้ง่าย

เช่นอัญมณีสีเขียว ตั้งใกล้ประตูทางเข้า ช่วยป้องกันพลังไม่ดีทั้งหลายไม่ให้เข้าบ้าน หรือหากเข้ามาก็จะเปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดีได้ เป็นต้น

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.horolive.com




 

Create Date : 18 ธันวาคม 2557    
Last Update : 18 ธันวาคม 2557 8:19:29 น.
Counter : 3847 Pageviews.  

ดักไขมันอย่างง่ายด้วย"กะหล่ำ"!!

คอลัมน์ เครื่องแนม

ยังไม่มีโอกาสได้ขึ้นไปพิสูจน์ด้วยตาตนเอง

แต่จากเสียงเล่าลือ ทำให้ทึ่งกับความมหัศจรรย์ของพลัง ที่เมื่อรวมตัวกัน สามารถทำให้ดอยทั้งดอยที่แทบไม่มีร่มไม้ใหญ่ กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใครๆ ก็ต้องบุกไปแชะแอนด์แชร์

ในแง่ของคุณค่าทางอาหารยิ่งน่าทึ่ง

ใครจะเชื่อว่า กะหล่ำปลีมีคุณสมบัติที่สาวๆ ต้องพิจารณาเป็นพิเศษ ด้วยช่วยควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี

นอกเหนือจากการเป็น ผักŽ กินอย่างไรก็ไม่อ้วน แต่การที่กะหล่ำปลีมีกรดทาร์ทาริก ช่วยยับยั้งขัดขวางไม่ให้น้ำตาลและแป้งกลายไปเป็นไขมัน จึงช่วยลดน้ำหนักได้

อ๊ะอ๊ะ อย่าเพิ่งรีบเหมาซื้อเสียหมดตลาด เพราะกะหล่ำปลีกินมากก็ไม่ดี เนื่องจากมีสาร

กอยโตรเจน (Goitrogen) ซึ่งมีผลทำให้ต่อมไทรอยด์ไม่จับกับไอโอดีน ที่มาของการเกิด

โรคคอหอยพอก ยังดีที่สารดังกล่าวจะหมดไปถ้าปรุงกะหล่ำปลีให้สุกเสียก่อน

จะเป็นกะหล่ำปลีผัดไข่ ผัดน้ำมันหอย หรือกะหล่ำปลีทอดน้ำปลา เมนูที่กำลังฮิต

ก็อร่อยได้คุณค่าเหมือนกัน

ข้อพึงระวังคือ กะหล่ำปลีเป็นผักที่เสี่ยงต่อการปนเปื้อนมากที่สุด จึงควรลอกใบนอกๆ ทิ้งไป ที่เหลือแกะเป็นกลีบ แช่น้ำสะอาดประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง จะช่วยลดสารพิษตกค้างได้กว่าครึ่ง

จะให้ดีปลูกเองเสียเลย ..ของดีอย่างเนี่ย




 

Create Date : 16 ธันวาคม 2557    
Last Update : 16 ธันวาคม 2557 7:00:54 น.
Counter : 1371 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.