ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

ไฟเขียวนักโทษมีเซ็กซ์กับแฟน ปีละ2วัน

นักวิชาการเปิดงานวิจัย “เพศในคุก”เผยนักโทษมีความสัมพันธ์ทางเพศกันทั้งในคุกชาย-คุกหญิง ด้วยเหตุผลหลายอย่าง แม้เป็นสิ่งต้องห้าม แนะเปิดโอกาสให้นักโทษมีเซ็กซ์กับแฟนปีละ2วัน

วานนี้ (17 มี.ค.) รศ.ดร.ศิริวรรณ ไกรสุรพงศ์ อาจารย์ภาควิชาสังคมและสุขภาพ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยา ลัยมหิดล (มม.) เปิดเผยผลการศึกษาวิจัยเรื่อง “เพศในคุก” ว่าจากมูลเหตุปัญหาของสภาวะสุขภาพนักโทษทั่วโลกที่พบมีอัตราการติดเชื้อเอชไอวี ไวรัสตับอักเสบ และวัณโรค สูงกว่าคนทั่วไปหลายเท่า ทั้งยังพบการติดยาเสพติด สุรา จำนวนมาก จึงหยิบยกเป็นประเด็นศึกษาถึง “เพศในคุก” ของประเทศไทย โดยเป็น การทบทวนค้นคว้าข้อมูลงานวิจัยที่เกี่ยวกับวิถีทางเพศ ความสัมพันธ์ทางเพศ และความรุนแรงทางเพศที่เกิดขึ้นในเรือนจำประเทศไทยช่วงปี พ.ศ. 2543 เป็นต้นมา พบมีงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงเป็นวิทยานิพนธ์ 4 เรื่องและหนังสือ 1 เรื่องเท่านั้น ซึ่งมีงานวิจัยบ่งชี้ว่านักโทษมีความสัมพันธ์ทางเพศกันทั้งในคุกชายและคุกหญิง

อาจารย์ภาควิชาสังคมฯ กล่าวว่า แม้ว่าเรื่องนี้จะถือเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับเรือนจำ แต่ทางปฏิบัติเกิดขึ้นจริงทั้งคุกในกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่น ๆ หลายแห่ง ซึ่งความสัมพันธ์ทางเพศในนักโทษไทยเกิดขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนสิ่งของเงินตรา ความพอใจทางเพศ การคุ้มครองความปลอดภัย การแสดงความเป็นอิสระจากกฎขององค์กร และเป็นการประคับประคองความรู้สึกในภาวะที่ต้องถูกจองจำ รูปแบบมีทั้งเพศสัมพันธ์ทางปาก ทางทวารหนัก การใช้วัตถุหรือส่วนของอวัยวะในร่างกายเป็นตัวช่วย

รศ.ดร.ศิริวรรณ กล่าวต่อไปว่า วิถีทางเพศที่พบเช่น การสัก การฝังมุก การฉีดน้ำมันมะกอกเข้าอวัยวะเพศชาย การมีศัพท์เฉพาะ รวมถึงการสร้างครอบครัวสมมุติ โดยในกลุ่มนักโทษชายพบการสักจำนวนมากเพื่อบ่งบอกความเป็นหัวหน้ากลุ่มหรือหัวโจก กลุ่มคนเหล่านี้จะมีอิทธิพลในการเลือกคู่ขา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกะเทย หรือบางคนไม่ได้เป็นกะเทยแต่ดูอ่อนแอก็มีโอกาสถูกเลือกเป็นคู่ขา และใช้รูปแบบการร่วมเพศทางทวารหนักเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ยังมีการฝังมุก โดยการใช้พลาสติกหรือแก้วเหลาให้กลมเป็นเม็ดและกรีดบริเวณหนังหุ้มแล้วยัดเข้าไป การฝังจะแสดงความเป็นลูกผู้ชายและทำให้อีกฝ่ายมีความสุข ขณะที่นักโทษหญิงกลุ่มที่มีบทบาทอิทธิพลจะพัฒนาตนเองโดยไม่ได้เรียกว่าทอม แต่จะเรียกว่า แมน ทั้งที่แต่เดิมเป็นหญิงโดยปกติ แต่พอเข้าไปในคุกมีการพัฒนาลักษณะให้เป็นผู้ชาย เช่น ตัดผมสั้น เอาผ้ารัดหน้าอก และวางบทบาทเป็นสามี คู่ขาก็จะวางบทบาทเป็นภรรยา มีการปรนนิบัติกัน รวมถึงมีการหึงหวง

อย่างไรก็ตามมีรายงานชัดเจนว่ากลุ่มคนเหล่านี้ก่อนเข้าคุกไม่ได้เป็นเพศที่สามหรือมีความเบี่ยงเบนทางเพศ แต่เมื่อเข้าไปอยู่ในคุกแล้วไม่มีทางเลือก ถือเป็นความเบี่ยงเบนทางเพศชั่วคราวเพื่อให้ตนมีความสุข เพราะ คนเหล่านี้คิดว่าเป็นเพียงบทบาทสมมุติที่เกิดขึ้นเฉพาะในคุก สังคมภายนอกไม่มีใครรับรู้ ในต่างประเทศมีรายงานเรื่องความสัมพันธ์ในแง่วิถีทางเพศระหว่างผู้คุมกับนักโทษด้วย โดยระบุถึงผู้คุมแสวงหาหรือฉกฉวยโอกาสในการหาความพึงพอใจทางเพศกับนักโทษเช่นกัน สำหรับประเทศไทยยังไม่มีรายงานวิจัยเรื่องนี้ แต่เดาว่าน่าจะมีเช่นกัน เพื่อเป็นการสร้างเงื่อนไขที่ทำให้นักโทษต้องจำยอม สิ่งเหล่านี้รอการศึกษาเปิดเผยทั้งหมด

สำหรับประเทศไทยยังไม่มีนโยบายที่ชัดเจนหรือการแทรกแซงที่มีประสิทธิภาพต่อวิถีทางเพศของนักโทษ อาจนำไปสู่การเกิดความรุนแรงทางเพศในนักโทษได้ง่าย องค์กรที่ทำงานเกี่ยวข้องกับนักโทษจึงต้องตระหนักวิถีทางเพศ เพศสัมพันธ์ และความรุนแรงทางเพศในนักโทษ และความเกี่ยวข้องกับสุขภาพ รวมถึงการระบาดของโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ในนักโทษซึ่งพบจำนวนมากขึ้น

ทั้งนี้ไม่อยากให้มองเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ ถ้าจะเกิดขึ้นในคุกเป็นความผิดหรือเป็นเรื่องที่จะต้องจับกุม ทำร้ายหรือปิดบัง ต้องห้าม ความจริงเรื่องเพศในคุกสามารถใช้เป็นช่องทางที่ทำให้นักโทษบรรเทาภาวะต่าง ๆ ทางจิตใจได้ แต่ต้องขอย้ำว่าถ้าทั้งสองฝ่ายไม่ถูกบังคับแต่เป็นความยินยอมพร้อมใจ คิดว่าน่าจะเปิดโอกาสให้

ขณะเดียวกันต้องรู้จักการป้องกัน เช่นที่ต่างประเทศจะมีการขอถุงยางอนามัยได้ และที่อยากให้เน้นมากซึ่งยังไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย คือ การเปิดโอกาสให้มีวันที่นักโทษได้อยู่กับคู่ครองร่วมกันอาจจะปีละ 2 วัน โดยคัดเลือกนักโทษประเภทไหนที่จะได้มีโอกาสเช่นที่ว่า เพราะในต่างประเทศมีการเปิดโอกาสให้คู่ที่แม้จะต้องโทษได้มีโอกาสอยู่ร่วมกัน เพราะเรื่องเพศเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่เราไปมองว่านักโทษจะต้องถูกจำกัดสิทธิทั้งหมด ลองนึกถึงนักโทษที่ต้องถูกจำคุก 20 ปี หมายถึงสิทธิอันนี้จะหายไปเลย.

ที่มา: //www.toptenthailand.com/news/detail/20140318112851621




 

Create Date : 19 มีนาคม 2557    
Last Update : 19 มีนาคม 2557 0:09:34 น.
Counter : 1742 Pageviews.  

หยุดอาการท้องเสีย ด้วยฝรั่ง

ถ้า อาหารจานแซบ จานโปรด เกิดทำพิษให้คุณๆ ต้องท้องเสียจู๊ดๆ ขึ้นมาอย่าลืมเรียกหาพระเอกข้างบ้านอย่าง "ฝรั่ง" มาช่วยแก้สถานการณ์ เพราะ ฝรั่งลูกเขียวๆ เนี่ยแหละที่จะช่วยให้ท้องของคุณกลับมาทำงานเป็นปกติได้อีก มีให้เลือกตั้ง 3 สูตรแน่ะ มาดูกันเล้ยยยย....

สูตร 1 เลือกฝรั่งที่ยังอ่อนๆ อยู่มาหั่นเป็นชิ้นๆ จิ้มกินกับเกลือ หรือจะนำไปต้มเป็นน้ำฝรั่งดื่มก็ได้ผลเช่นเดียวกัน

สูตร 2 ใช้ แต่ใบฝรั่ง 10-15 ใบ ล้างให้สะอาดแล้วตำพอแหลก เติมน้ำลงไป 1 แก้วใหญ่ แล้วนำไปต้มใส่เลือเล็กน้อย พอเดือดก็ยกลงทิ้งให้อุ่นแล้วนำมาดื่มแก้ท้องเสีย

สูตร 3 เด็ด ใบฝรั่งที่ไม่อ่อนและไม่แก่เกินไปมาล้างให้สะอาด ตัดหัวตัดท้าย จากนั้นนำไปแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีตัวยาจากใบฝรั่งจะละลายอยู่ในน้ำ เราก็สามารถเอาน้ำนั้นมาจิบแก้ท้องเสียได้




 

Create Date : 19 มีนาคม 2557    
Last Update : 19 มีนาคม 2557 0:06:56 น.
Counter : 1256 Pageviews.  

มาดูสรรพคุณของถั่วเขียว อาหารสำหรับหน้าร้อนกันนะ

ถั่วเขียว อาหารสำหรับหน้าร้อน

อากาศร้อนๆ อย่างนี้ หลังทำงานเหน็ดเหนื่อย กินถั่วเขียวต้มสักชามก็คงจะรู้สึกชุ่มฉ่ำใจ แก้กระหายน้ำได้เป็นอย่างทีดีเชียวล่ะค่าคุณๆ ขา

หรือถ้าเป็นคนที่ชอบนอนดึกมีอาการร้อนใน หรือตาแดง เจ็บคอ ท้องผูก ถ้าต้มถั่วเขียวกินก็จะทำให้อาการดังกล่าวหายไป เราสามารถเลือกกินได้ทั้งร้อนหรือเย็น หวานหรือจืดก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล

หน้าร้อน ผิวหนังมักเป็นผดผื่นคัน ใช้ถั่วเขียว ใบบัว และน้ำตาลทราย ต้มกินน้ำ ก็จะทำให้อาการผดผื่นคันบรรเทาและหายไป หรือจะเอาถั่วเขียวที่ต้มแล้วพอกบริเวณผดผื่นคัน ก็จะทำให้หายเร็วขึ้น

หน้าร้อนต้มถั่วเขียวกิน จะมีประโยชน์ต่อร่างกายมาก เนื่องจากในหน้าร้อน เมตาโบลิซึมของร่างกายสูง ทำให้เหงื่อออกมาก ร่างกายสูญเสียพลังงานไปมาก ถั่วเขียวนอกจากจะสามารถแก้ร้อน ลดอาการกระหายน้ำ ทำให้ร่างกายสดชื่นและขับปัสสาวะแล้ว ถั่วเขียวยังอุดมไปด้วยโปรตีนกลุ่มวิตามินบี แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก เป็นต้น ซึ่งล้วนแต่มีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งสิ้น

แป้งที่ทำจากถั่วเขียว แก้ร้อนใน ฝี และแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก

เปลือกหุ้มเมล็ด (สีเขียว) มีสรรพคุณรักษาโรคตาต่างๆ เช่น ตาแดง ตาอักเสบ
ถั่วงอกจากถั่วเขียว หรือดอกต้นถั่วเขียว แก้อาการเมาเหล้า ใบถั่วเขียวตำให้แหลกคั้นน้ำ เติมน้ำส้มสายชูลงไปเล็กน้อย ทำให้อุ่น แก้กินน้ำ แก้อาการอาเจียนและท้องเดิน

สรรพคุณ
ถั่วเขียว แก้ร้อนในกระหายน้ำ ขับปัสสาวะ รักษาฝี
เปลือก (สีเขียว) แก้ร้อนใน กระหายน้ำ ทำให้ตาสว่าง รักษาตาอักเสบ
ถั่วงอก แก้พิษเหล้า

ตำรับยา
1. คางทูม (เป็นใหม่) ต้มถั่วเขียว 70 กรัม จนใกล้สุก ใส่แกนกะหล่ำปลีลงไป 2 หัว ต้มอีก 15 นาที กินเฉพาะน้ำ วันละ 2 ครั้ง อาการคางทูมก็จะหาย
2. อาเจียน (จากการดื่มเหล้า) ให้ดื่มน้ำถั่วเขียวพอประมาณ
3. ตาพร่า ตาอักเสบ ต้มถั่วเขียวกินครั้งละ 15-20 กรัม เป็นประจำ

สารเคมีที่พบ
ในเปลือก (สีเขียว) ของถั่วเขียว มีโปรตีน 79.0 % มีกรด Amino หลายชนิดคือ Aspartic acid 94.42 ม.ก./กรัม Thrconine 24.98 ม.ก./กรัม Serine 41.73 ม.ก./กรัม Glutamic acid 145.77 ม.ก./กรัม Proline 29.84 ม.ก./กรัม Glycine 27.92 ม.ก./กรัม Alanine 32.18 ม.ก./กรัม Valine 40.05 ม.ก./กรัม Cystine 3.78 ม.ก./กรัม Methionine 10.02 ม.ก./กรัม Iso-leucine 33.40 ม.ก./กรัม Leucine 67.02 ม.ก./กรัม Tyrosine 26.42 ม.ก./กรัม Phenylalanine 51.04 ม.ก./กรัม Lysine 52.44 ม.ก./กรัม Histidine 19.26 ม.ก./กรัม Arginine 50.24 ม.ก./กรัม Tryptophan 9.02 ม.ก./กรัม

ที่มา: นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่: 100 คอลัมน์: เรื่องอาหารและสมุนไพร โดยนักเขียนหมอชาวบ้าน: คุณวิทิต วัณนาวิบูล




 

Create Date : 19 มีนาคม 2557    
Last Update : 19 มีนาคม 2557 0:04:57 น.
Counter : 1145 Pageviews.  

ไอ คิว (I.Q)

ไอ คิว (I.Q)

IQ เป็นคำที่ทุกคนคงเคยได้ยินกันมานานจนคุ้นเคยกันดี ต่างจาก EQ และ AQ ซึ่งเป็นคำที่ทันสมัยกว่า และเป็นที่สนใจซักถามกันมากในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามการที่คนเราจะประสบความสำเร็จพร้อมๆ กับการมีความสุขในชีวิต ก็ควรจะต้องมีองค์ประกอบของทั้ง 3 สิ่งนี้อยู่ในตัวในเกณฑ์ที่เหมาะสม จะขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปไม่ได้

แต่ในวันนี้เราจะมาคุยกันถึง IQ อย่างเดียวก่อนนะครับ

คนเราทุกคนจะเกิดมาพร้อมกับลักษณะเฉพาะตัว และถูกหล่อหลอมด้วยสภาพแวดล้อมในภายหลัง IQ หรือความสามารถทางเชาว์ปัญญาก็เป็นสิ่งหนึ่งซึ่งถูกกำหนดมาตั้งแต่แรกเกิด โดยมีปัจจัยด้านพันธุกรรมไปเกี่ยวข้องด้วย และสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ในครรภ์ของมารดาจนกระทั่งหลังคลอดก็เป็นปัจจัยอีกอย่างหนึ่งที่มีผลต่อเชาว์ปัญญาเช่นกัน เช่น ภาวะแวดล้อมที่มีการให้ความรัก ความอบอุ่น ให้การกระตุ้นพัฒนาการที่เหมาะสมกับวัย ก็จะมีผลต่อการเสริมสร้างศักยภาพนี้ให้มากขึ้น หรือในทางกลับกันก็บั่นทอนให้ลดลงได้

เชาว์ปัญญาเป็นนามธรรมที่จับต้องไม่ได้ แต่แสดงออกให้เห็นได้ผ่านพฤติกรรมต่างๆ ที่แสดงถึงความสามารถในการเรียนรู้ ความสามารถปรับตัวต่อเหตุการณ์ใหม่ๆ ความสามารถในการเข้าใจ และเชื่อมโยงเหตุการณ์ต่างๆ อย่างมีเหตุผล และเป็นพฤติกรรมที่มีจุดมุ่งหมาย จะเห็นว่าเชาว์ปัญญาไม่ใช่ผลจากความสามารถอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะฉะนั้นเราจึงไม่สามารถนำพฤติกรรมใดเพียงอย่างเดียวไปตัดสินว่าคนๆ นั้นโง่หรือฉลาดได้

เนื่องจากเชาว์ปัญญาเป็นสิ่งที่คนสนใจกันมานาน จึงมีการคิดมาตรวัดเชาว์ปัญญาขึ้นเพื่อให้ได้ผลออกมาเป็นตัวเลขที่สื่อกันได้ง่าย และเป็นที่รู้จักกันในคำว่า IQ นั่นเอง

คำว่า IQ ย่อมาจาก Intelligence Quotient เป็นคำที่ William Stern เป็นผู้บัญญัติขึ้น เพื่อบ่งถึงระดับเชาว์ปัญญาของแต่ละบุคคล

โดยมีสูตรคำนวนก็คือ

IQ = อายุสมอง (MENTAL AGE) นำมาหารกับอายุจริง (CHRONOLOGICAL AGE) และคูณกับ 100

โดยอายุสมอง มาจากการวัดโดยการใช้แบบทดสอบเชาว์ปัญญา ค่าคะแนนที่ได้จากการทดสอบจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับคะแนนมาตรฐานที่บุคคลในระดับอายุเดียวกันนั้นทำได้ จะเห็นว่าถ้าอายุสมองเท่ากับอายุจริง ค่า IQ ของบุคคลนั้นจะออกมาเท่ากับ 100 ซึ่งคือ ค่าเฉลี่ยของ IQ ในคนส่วนใหญ่นั่นเองครับ

ซึ่งในปัจจุบันนี้เราก็สามารถจะตรวจสอบ IQ ด้วยตัวเราเองผ่านทาง Internet ซึ่งมีเว็บมากมายที่มีแบบทดสอบไว้บริการ หรือถ้าอยากให้แน่นอนที่สุดก็สามารถไปตรวจตามสถาบันหรือโรงพยาบาลได้เช่นกันครับ




 

Create Date : 18 มีนาคม 2557    
Last Update : 18 มีนาคม 2557 23:55:37 น.
Counter : 1151 Pageviews.  

ทำไมก๋วยเตี๋ยวเรือถึงต้องชามเล็ก?

ก๋วยเตี๋ยวเรือ มีทั้งก๋วยเตี๋ยวเนื้อ และ ก๋วยเตี๋ยวหมู เป็นก๋วยเตี๋ยวที่ผูกพันกับวิถีชีวิตคนไทยมานาน ในสมัยก่อน จะขายในเรือพายตามคลอง จึงเป็นที่มาของชื่อ ชามที่ใส่จะมีลักษณะเล็ก

ทำไมก๋วยเตี๋ยวเรือถึงต้องชามเล็ก?

เพราะว่าสมัยก่อน พ่อค้าแม่ค้าก๋วยเตี๋ยวเรือใน 1 ลำ มีเพียง 1 คนเท่านั้น ทำทุกอย่างตั้งแต่ พายเรือ ลวกเส้น ปรุงก๋วยเตี๋ยว เสริฟ เก็บตังค์ เก็บชาม ล้างชาม ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ทำโดยไม่ได้ขยับเลยแม้แต่น้อย คือ พายเรือมา พอมีคนเรียก ก็จะมาจอดเทียบท่า เอาขาข้างนึงยันบันไดท่าน้ำเป็นฐานไว้  แล้วเริ่มลวกก๋วยเตี๋ยวขาย ส่วนกระบวนการล้างชามนั้นก็แค่แกว่งๆ จุ่มๆ ในคลองนั่นเอง (เพราะเมื่อก่อนน้ำในคลองสะอาดจึงล้างได้)

ทีนี้ การที่คนขายอยู่ในเรือ คนซื้ออยู่บนฝั่ง การส่งก๋วยเตี๋ยวขึ้นมาสู่ลูกค้านั้น หากเป็นชามใหญ่อาจทำให้หนัก ยกลำบาก และเรือที่โคลงเคลงอาจทำให้น้ำซุปกระฉอกมาลวกขาคนขายได้ ดังนั้นก๋วยเตี๋ยวเรือจึงทำชามเล็กๆ น้ำซุปน้อยๆแต่เข้มข้นเข้าไว้ ทำให้ส่งมอบสินค้าได้ง่าย ปลอดภัยด้วยประการฉะนี้แล




 

Create Date : 17 มีนาคม 2557    
Last Update : 17 มีนาคม 2557 23:32:46 น.
Counter : 4113 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.