### บะหมี่หวาน เพื่อสุขภาพ ### บะหมี่หวาน เป็นอาหารประเภทขนมหวาน มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน รับประทานได้ทั้ง 2 แบบ คือแบบร้อน และแบบเย็น ทานแล้วทำให้รู้สึกกระชุ่มกระชวย แก้ร้อนได้ดีในหน้าร้อน มาแช่น้ำร้อนแช่สัก 5-6 ชั่วโมง จึงนำมาใช้ได้ ส่วนพุทราจีนไม่ต้องแช่นานนักก็ได้ เพราะพุทราจะเปื่อยง่ายกว่า นำส่วนผสมจากข้อแรก มาต้มในน้ำเดือดจนสุก แล้วช้อนขึ้นมาพักไว้ก่อน จากนั้นนำบะหมี่มายีออก ให้สลัดแป้งที่เกาะบะหมี่ออกไปให้มากๆ เพราะแป้งส่วนนี้มีด่างมาก ซึ่งทำให้กลิ่นและรสเสีย นอกจากนี้ก็จะทำให้น้ำข้นไม่น่ากินด้วย นำบะหมี่ลงไปต้ม พอสุกก็นำขึ้นมาพักไว้ก่อน นำน้ำตาลทรายมาใส่ลงไปในน้ำเพื่อทำน้าเชื่อม เมื่อน้ำเชื่อมเริ่มเดือดให้ใส่เมล็ดบัว เมล็แปะก๊วย ถั่วแดงหลวง จากนั้นก็ต้มต่อสักพัก จึงค่อยนำมาเทในถ้วยที่มีบะหมี่รออยู่ หรือจะนำบะหมี่ลงไปต้มในน้ำเชื่อมด้วย ก็จะทำให้ยิ่งหวานมากขึ้น ประโยชน์ที่คุณจะได้รับ อย่างที่คุณคาดไม่ถึง เช่น บะหมี่ไข่ ที่มีส่วนผสมของไข่ซึ่งอุดมไปด้วย กรดอะมิโนที่จำเป็นต่อสมอง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอย่างเป็นระบบ เมล็ดแปะก๊วยที่ช่วยบำรุงความจำโดยตรง เมล็ดบัวและถั่วแดงหลวงอันเป็นธัญพืช ที่อุดมไปด้วยวิตามินบีรวม ซึ่งช่วยให้ผ่อนคลายสลายความเครียด ทำให้สมองที่เหน็ดเหนื่อยได้พักบ้าง คือช่วยให้ผ่อนคลายหายจากอาการเครียด ยิ่งถ้ากินเมนูนี้ก่อนนอนสักถ้วยเล็กๆ ก็จะช่วยให้หลับฝันดี ได้ดีมาก และเมื่อหลับได้ดี ไม่มีหลับๆตื่นๆ ก็ถือเป็นการพักผ่อนสมองไปด้วย โดยการใส่เกาลัด ลูกเกด หรือถั่วเขียว แทนพวกธัญพืชต่างๆ ในเมนูนี้ได้ รับรองได้ประโยชน์ไม่แพ้กัน และนอกจากนี้คุณอาจเปลี่ยนจากน้ำตาลทราย มาเป็นน้ำตาลทรายแดง ก็จะได้รสชาดที่ต่างออกไป มีความหอม หวานแบบเย็นๆ ไม่หวานจัด และสีสันก็จะออกสี น้ำตาลแดงน่ากินอีกด้วย เวลาลวกบะหมี่ต้องใช้น้ำเย็นล้างเท่านั้น เพื่อไม่ให้เป็นเมือก เพราะจะทำให้น้ำเชื่อมใส ดูแล้วน่ารับประทาน
ถ้าต้องการใส่ไข่ ควรใช้ไข่ไก่ที่สดใหม่ เพราะเวลาตอกไข่ใส่ไปแล้ว ไข่แดงจะได้ไม่แตก และไม่คาว
//blog.janthai.com/ |
บทความทั้งหมด
|