บลูเบอร์รี่
 



https://goo.gl/gveuBm




ชื่อสามัญ : Blueberry
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Vaccinium spp.
สกุล : Ericaceae









บลูเบอร์รี่ เป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่มีผิวสีน้ำเงินเข้ม เป็นผลไม้ที่มีค่าแอนตี้ออกซิแดนท์สูงมากชนิดหนึ่งและ
ถือเป็นหนึ่งในสุดยอดอาหารรักษาโรค เนื่องจากในบลูเบอร์รี่มีสารแอสไพรินตามธรรมชาติ ซึ่งช่วยลดการระคายเคือง
สารที่มีในบลูเบอร์รี่สามารถเข้าไปขัดขวางแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะ ส่งผลให้ลดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ









นอกจากนี้บลูเบอร์รี่ยังมีวิตามินซี และสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่มีผลดีต่อหัวใจอยู่สูง ให้พลังงานน้อยและมี
เยื่อใยอาหารสูง ช่วยในการลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง ส่งผลดีต่อการมองเห็น การทำงานของสมอง
และระบบย่อยอาหาร

จากการทดลองของ Tufts University ในการตรวจสอบความสามารถในการต่อต้านอนุมูลอิสระจากผักและผลไม้
เกือบ 60 ชนิด พบว่าบลูเบอร์รี่อยู่ในกลุ่มที่มีกิจกรรมสูงที่สุด นั่นคือ บลูเบอร์รี่สามารถยับยั้งอนุมูลอิสระ
ซึ่งจะส่งผลร้ายต่อเซลล์ร่างกายได้


 
 

https://goo.gl/PPKFo3



สารต่อต้านอนุมูลอิสระในบลูเบอร์รี่คือ anthocyanidins ซึ่งเป็นสารที่มีมากในผลไม้ที่มีสีน้ำเงินแดงเข้ม บลูเบอร์รี่มี
 anthocyanidins สูงกว่าไวน์แดงถึง 38 เปอร์เซ็นต์ สารต่อต้านอนุมูลอิสระและสารออกฤทธิ์ที่ได้จากพืช (phytonutrients)
ป้องกันการเกิดโรคหัวใจได้โดยการป้องกันการออกซิไตซ์โคเลสเตอรอลชนิดไม่ดี และป้องกันการเกาะตัวของ
โคเลสเตอรอลที่เส้นเลือดหัวใจ และยังช่วยให้เส้นเลือดหัวใจมีความแข็งแรงมากขึ้น
 


 
https://goo.gl/M3G4au



สารประกอบกลุ่มฟีนอล (Phenolic compounds) ที่มีในบลูเบอร์รี่อาจจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้
และมะเร็งรังไข่ นอกจากนี้บลูเบอร์รี่ยังมีสารกลุ่มฟลาโวนอยด์คือ kaempferol ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งรังไข่





https://goo.gl/4csHOs



ผลจากการนำสารต้านอนุมูลอิสระมาเปรียบเทียบกัน ทั้งแบบสด ทอด ปิ้ง ปรุงด้วยไมโครเวฟ และแช่น้ำร้อน
พบว่า คุณค่าของสารต้านอนุมูลอิสระในบลูเบอร์รี่ไม่ลดลง และไม่ถูกทำลายด้วยความร้อน

นอกจากนั้นการนำไปทอดในเวลาสั้น ๆ ยังเพิ่มฤทธิ์ของสารต้านอนุมูลอิสระเล็กน้อย ซึ่งคาดว่า น่าจะเป็นผล
จากการที่ความร้อนจากการทอดไปทำให้ผนังเซลล์ของบลูเบอร์รีแตกออก ทำให้สารนี้ออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น





https://picpost.postjung.com/209883.html



การกินพืชผักให้ได้รับสารต้านอนุมูลอิสระเต็มที่มีหลักการสำคัญดังต่อไปนี้

1. พืชผักสีเข้มมีแนวโน้มจะมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าพืชผักสีจาง

2. การกินพืชผักวันละอย่างน้อย 3 สีไฟจราจร (เขียว-เหลือง-แดง) หรือ 5 สีตามสีรุ้ง (ม่วง-คราม-น้ำเงิน
+ เขียว + เหลือง + แสด (หรือส้ม) + แดง) ช่วยเสริมฤทธิ์มากกว่าการกินพืชผักชนิดเดียว

3. พืชสมุนไพร เช่น ขมิ้น ฯลฯ มีแนวโน้มจะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง

4. ควรกินพืชผักใต้ดิน โดยเฉพาะหอม กระเทียม ขิง ข่า เสริมด้วย เพื่อให้ได้สารพฤกษเคมี
หรือสารคุณค่าพืชผัก และแร่ธาตุ เช่น เซเลเนียม ฯลฯ เพื่อป้องกันโรคครบครัน






อ้างอิง :
https://gotoknow.org/blog/health2you/146661

 



Create Date : 28 ธันวาคม 2553
Last Update : 15 มกราคม 2564 11:20:38 น.
Counter : 10653 Pageviews.

5 comments
  
สวัสดีค่ะ..

ดอกก็สวย สีสรรก็งาม..มีประโยชน์มากๆนะค่ะ

อ้อมแอ้มก็ชอบทานบลูเบอรี่เพราะบำรุงสายตาดีค่ะ

มีความสุขมากๆในทุกๆวันนะค่ะ..

โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 28 ธันวาคม 2553 เวลา:20:56:08 น.
  

โดย: CoffeeBake วันที่: 1 มกราคม 2554 เวลา:4:20:46 น.
  
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โดย: สาวสะตอใต้ วันที่: 4 มกราคม 2554 เวลา:22:06:21 น.
  


*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*

HappY NeW YeaR 2011
โดย: *~ต้นกล้า...ของหัวใจ~* วันที่: 5 มกราคม 2554 เวลา:13:27:39 น.
  
เคยได้เมล็ดมาปลูกค่ะ แต่สะเพร่าโรยลงสนามไม่ยอมใส่กระถางเพาะก่อน พอเค้าขึ้นมาก็ไม่ทราบ ดันถอนทิ้ง
อนาถใจสุดๆค่ะ
โดย: darlingtalang วันที่: 6 มกราคม 2554 เวลา:23:06:18 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Fasaiwonmai.BlogGang.com

ฟ้าใสวันใหม่
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]

บทความทั้งหมด