ชื่อวิทยาศาสตร์ : Porana volubilis Burm.f.
ชื่อสามัญ : Bridal Creeper, Snow Creeper, Snow Vine
ชื่ออื่น : กะลาเผือก (แม่ฮ่องสอน), ลัดดาวัลย์ (กลาง)
วงศ์ : Convolvulaceae (ไม้วงศ์ผักบุ้ง)
ถิ่นกำเนิด : ประเทศอินเดีย







ลัดดาวัลย์, ลดาวัลย์ ไม้เลื้อยดอกหอม ช่อดอกสีขาว
ไม้เลื้อยขนาดเล็ก เจริญเติบโตค่อนข้างช้า ทรงพุ่มไม่แน่นอนตามสถานที่ยึดเกาะ

ฤดูการออกดอก : ปลายฤดูฝน - กลางฤดูหนาว (ต.ค. - ธ.ค.)
เวลาที่ดอกหอม : ช่วงเช้า ๆ ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น







ขยายพันธุ์ ด้วยการเพาะเมล็ดหรือแยกต้นเล็ก ๆ งอกจากไหล ไปปลูกเลี้ยง
ในกระถางราว 45 วันก็นำไปปลูกลงดินได้

การตอน ต้องเป็นกิ่งที่ใหญ่ เพราะพันธุ์ไม้ชนิดนี้กิ่งหักง่าย
การปักชำ ควรทำในช่วงฤดูฝน
การทับกิ่ง บริเวณที่เป็นข้อ ควรทำในช่วงฤดูฝน และหาเศษวัสดุมาบังแสงเฉพาะส่วนที่ทับกิ่ง

เป็นพันธุ์ไม้เลื้อยดอกหอมอายุหลายปี ที่การเจริญเติบโตไม่รวดเร็ว น้ำหนักต้นไม่มาก เหมาะที่
จะทำเป็นไม้ขึ้นซุ้มที่นั่งพักผ่อน ออกดอกพร้อม ๆ กันเกือบทั้งต้น เวลาออกดอกจะสวยงามมาก
ต้องการน้ำไม่มากในการเจริญเติบโต







ลัดดาวัลย์แตกกิ่งยืดยาว เนื้อไม้แข็งเหนียว ปลายกิ่งชูขึ้น รับแสงแดดเพื่อออกดอก การปลูกไม้หอม
ชนิดนี้เพื่อขึ้นซุ้ม ควรทำหลักปักและนำต้นมาผูกกับหลักนำต้นขึ้นซุ้ม เพราะโดยธรรมชาติของ
พันธุ์ไม้หอมชนิดนี้ไม่ค่อยเลื้อยขึ้นซุ้มเอง







ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบ กลีบดอกเป็นรูประฆัง ปลายดอกแยกออกเป็น 5 แฉก มีเกสร
ตัวผู้ 5 อัน ดอกมีกลิ่นหอมในตอนเช้าและกลิ่นจะค่อย ๆ จางลงเมื่อเวลาบ่าย

ดอกแต่ละช่อมีดอกย่อยบานเกือบพร้อมกัน ดอกที่เริ่มแย้มบานจะมีสีขาว ต่อมาจะค่อย ๆ
เปลี่ยนเป็นสีเหลืองนวลและส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ตลอดวัน ดอกบานวันเดียวแล้วโรย

ลัดดาวัลย์เป็นพืชเถาเลื้อยยืนต้นอายุยืนนาน มีเถาขนาดเล็กแต่เหนียวนัก พุ่มแน่น ยิ่งปลูกนานก็ยิ่งเพิ่ม
สง่าราศรีแก่บ้านเรือน สามารถเลื้อยคลุมไม้ใหญ่ได้มิดทั้งต้น ออกดอกเป็นช่อแน่นระย้าตามปลายกิ่ง เป็นดอก
สีขาวเล็ก ๆ แต่มีกลิ่นหอมรัญจวนใจ ทั้งยังส่งกลิ่นหอมไปได้ไกลมากกว่าดอกไม้หอมชนิดใด ๆ อีกด้วย
 (ผู้เชี่ยวชาญเรื่องความหอมของดอกไม้บอกมา) ช่อดอกช่อหนึ่งยาวเกินกว่า 50 ซม.ขึ้นไปเกือบทุกช่อ
ดอกสีขาวเล็กมากมี 5 กลีบ ดอกกว้างประมาณ 1.5 ซม.







ใบ เป็นไม้ใบเดี่ยว และมีใบดกตลอดทั้งปี ใบจะออกสลับกันไปตามข้อต้น ใบสีเขียวเข้มปลายใบแหลม
โคนใบเว้าหรือมนเล็กน้อย เป็นรูปหัวใจ ยาว 5-8 เซนติเมตร ด้านบนของใบมองเห็นเส้นใบย่อยเป็นร่องเด่นชัด







ดอกลัดดาวัลย์จะบานพร้อมสะพรั่งในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน วันที่ดอกลัดดาวัลย์บานนั้นฝูงแมลง
จะพากันมาชุมนุมกันอย่างพร้อมเพรียง ทำให้เกิดภาพที่สวยงาม เป็นต้นไม้ที่ควรหามาปลูกไว้เพราะปลูกง่าย
ขึ้นง่าย ชอบดินชุ่มชื้นร่วนซุย จะใช้ปุ๋ยอะไรก็รับได้หมดไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยคอก ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ ตอนช่วง
ปลูกใหม่ก็ดูแลให้น้ำหน่อย ต่อไปก็ปล่อยไปตามธรรมชาติได้