https://goo.gl/Etxanw



 

https://goo.gl/nacG3S

กะเพรา

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ocimum sanctum (Latin name)
ชื่อภาษาอังกฤษ : Holy Basil, Sacred Basil or Tulsi Basil *
วงศ์ : Labiatae (วงศ์กะเพรา หรือ วงศ์มินต์)

ชื่ออื่น ๆ : กอมก้อ (เชียงใหม่) กอมก้อดง (เชียงใหม่) กะเพราขน (กลาง)
กะเพราขาว (กลาง) กะเพราแดง (กลาง) ห่อกวอซู (กะเหรี่ยง แม่ฮ่องสอน)
ห่อตูปลู (กะเหรี่ยง แม่ฮ่องสอน) อิ่มคิมหลำ (เงี้ยว แม่ฮ่องสอน) และ
อีตู่ไทย (ตะวันออกเฉียงเหนือ)



 

https://goo.gl/Oo5T4F
 

กะเพรา เป็นไม้ล้มลุกตระกูลเดียวกับ โหระพา และ แมงลัก มีความสูงของต้นประมาณ 30-60 เซนติเมตร
จัดเป็นพืชผักจำพวกเครื่องเทศที่ใช้ใบสดใบอ่อนในการประกอบอาหาร เพื่อช่วยดับกลิ่นคาวและช่วยให้อาหาร
มีกลิ่นหอม ใบกะเพราใช้เป็นผักชูรส เช่น ใส่แกงเผ็ด แกงป่า แกงเลียง ผัดเผ็ด ผัดกะเพรา ใส่หอยนึ่ง ฯลฯ

นอกจากจะมีคุณค่าทางอาหารมากมายแล้วยังจัดเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง มีรสฉุน ร้อน ช่วยขับลมแก้ซาง
แก้ท้องขึ้น จุกเสียดแน่นท้อง ปวดท้อง ช่วยในการย่อยอาหาร และช่วยบำรุงธาตุ เป็นต้น ในต่างประเทศ
โดยเฉพาะประเทศอินเดียถือว่ากะเพราเป็นยารักษาโรคได้สารพัด และยังจัดเป็นราชินีแห่งสมุนไพร
(The Queen of herbs) หรือเป็นยาอายุวัฒนะ (The Elixir of life) เลยก็ว่าได้

https://goo.gl/iKiBfI



ดอก ออกเป็นช่อตั้งขึ้นคล้ายฉัตร ออกบริเวณปลายยอดและปลายกิ่ง ดอกย่อยมีขนาดเล็ก รูปคล้ายระฆัง
กลีบดอกมีทั้งชนิดสีขาวลายม่วงแดงและสีขาว กลีบเลี้ยงเชื่อมติดกันปลายแยกเป็น 5 กลีบ กลีบดอกยาว
3 มิลลิเมตร เชื่อมกันเป็นหลอดสั้น ปลายแยกเป็น 2 ปาก สีชมพู ขาว เกสรเพศผู้ 4 อัน โผล่พ้นหลอดดอก

https://goo.gl/Zw7CUy

ผล แห้งแล้วแตกออก เมล็ด เล็ก รูปไข่สีน้ำตาลถึงดำ มีจุดสีเข้ม
เมื่อนำไปแช่น้ำ เปลือกหุ้มเมล็ดพองออกเป็นเมือก





https://goo.gl/gj92CS



กะเพรา มี 2 ชนิด คือ กะเพราแดง และ กะเพราขาว เรียกชื่อตามสีของก้านใบและก้านดอก มีลักษณะ
ทั่วไปคล้ายโหระพา ต่างกันที่กลิ่นและกิ่งก้าน ซึ่งมีขนปกคลุมมากกว่า ใบกะเพราขาวสีเขียวอ่อน ส่วนใบ
กะเพราแดงสีเขียวแกมม่วงแดง ดอกออกเป็นช่อที่ปลายยอด ดอกย่อยสีชมพูแกมม่วง ดอกกะเพราแดง
สีเข้มกว่ากะเพราขาว


 

https://goo.gl/X3YLY9 - https://goo.gl/GxW2wk

กะเพราแดง vs กะเพราขาว ชนิดไหนดีเลิศกว่ากัน
https://goo.gl/azgoPI


ปกติแล้วกะเพราทั้งสองชนิด มีฤทธิ์ร้อน สรรพคุณขับลม แก้อาการท้องอืด จุกเสียด แต่รู้หรือไม่ว่า
ลักษณะการใช้ทั้งสองมีความแตกต่างกัน ดังนี้

Excellent (กะเพราแดง) : ใบและก้านใบมีสีเขียวอมม่วงแดง มีฤทธิ์และกลิ่นแรงกว่า
กะเพราขาว เหมาะสำหรับใช้ทำยา

Good (กะเพราขาว) : ใบและก้านสีเขียวอ่อน มีฤทธิ์และกลิ่นฉุนน้อยกว่ากะเพราแดง
เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบความฉุนของกะเพรา นิยมนำมาทำอาหารมากกว่า



 

https://goo.gl/1hMMpb



 

https://goo.gl/7nZ4FB
 

สรรพคุณ สำคัญของใบกะเพรา ที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้กันทั้งที่ใช้บริโภคกันอยู่ในชีวิตประจำวัน ก็คือ
สรรพคุณขับไขมัน ... เมนูจานเด็ดจำพวก ผัดกะเพราหมู กะเพราไก่ ไม่เพียงแค่ใช้ใบกะเพราดับกลิ่นคาว
เนื้อสัตว์เท่านั้น ผลพลอยได้ที่สำคัญคือช่วยขับไขมันและน้ำตาลส่วนเกินออกจากร่างกายด้วย

น้ำสกัดทั้งต้นมีฤทธิ์ลดการบีบตัวของลำไส้ สามารถรักษาแผลในกระเพาะอาหาร
ในใบมีฤทธิ์ขับน้ำดี ช่วยย่อยไขมันและลดอาการจุกอก

รักษาโรคกรดไหลย้อนด้วยน้ำกะเพรา
สูตรจาก นพ. เปี่ยมโชค ชลิดาพงศ์
https://goo.gl/Etxanw





https://goo.gl/9dEgLo



กะเพรา ช่วยขับลม เป็น Buffer ปรับสมดุลกรดในกระเพาะอาหาร ช่วยเร่งการย่อยอาหาร ได้ผลดีเยี่ยม
กับคนที่เป็นโรคในลำไส้เล็ก เช่น จุกเสียดในลำไส้เล็ก (โรคนี้เวลาเป็น นั่งอยู่ดี ๆ ก็เจ็บเหมือนถูกแทง
หรือถูกต่อย) น้ำกะเพราเหมาะสำหรับคนที่เป็นกรดไหลย้อนที่มีอาการท้องอืดร่วมด้วยเป็นประจำ




------------------------------------

อ้างอิง :
https://goo.gl/nJJz1S
https://goo.gl/X3YLY9
* https://www.sanook.com/news/8358410/

Richard Clayderman - Hungarian sonata