Once Man United, Always Man United
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
28 พฤศจิกายน 2550
 
All Blogs
 

20071128 วิพากษ์ Man UTD VS Sporting Lisbon

สวัสดีครับ เกมเมื่อคืนเป็นอย่างไรกันบ้างเอ่ย ถูกใจ ไม่ถูกใจ สมหวัง ผิดหวังกันอย่างไร เอามาบอกกล่าวกันนะครับ ถือว่าแลกเปลี่ยนข้อมูลกันเพื่อความบันเทิงในด้านการชมกีฬาครับ สำหรับผม ก็ยอมรับตรงๆว่าผิดหวังเล็กๆ ที่ไม่ได้เห็นปิเก้ถูกส่งลงมาเรียกความมั่นใจกลับคืนมา หลังพลาดไปในเกมก่อนหน้ากับโบลตัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การที่เห็นเตเวซ ยิงประตูได้ กับเจ้าโด้ยิงฟรีคิกได้ พร้อมทำหน้ากวนมากๆก็พอกล้อมแกล้มล่ะครับ


สำหรับเกมเปิดบ้านต้อนรับเหยี่ยวลิสบอนเมื่อคืนนี้นั้น เป็นเกมที่ออกจะคาดเดาการส่งนักเตะของเจ้าบ้านลงเตะได้ยากสักหน่อย นั่นก็เพราะเราเข้ารอบไปแล้ว อยู่ที่ว่า จะพักตัวจริง หรือ จะเน้นเพื่อเป็นที่หนึ่งโดยไม่ต้องไปวัดกับโรม่าในนัดสุดท้าย และรูปการณ์ที่ออกมาก็คือ ป๋าบรรจงจัดทัพผสมในครึ่งแรกพร้อมลองสูตร 4-3-3 ที่ใช้ผู้เล่นแปลกๆ ในแดนกลางกับหน้า ตรงนี้อาจจะเป็นการลองทีมเพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ผู้เล่นบาดเจ็บในอนาคตก็เป็นได้ครับ

คุสแซ็คเป็นผู้รักษาประตู พักน้าซาร์ไว้บ้างหลังลงสนามค่อนข้างต่อเนื่องมาตลอด แบ๊คขวาใช้โอเช ซ้ายเป็นเอวร่า ที่ดูยังไงก็ไม่เห็นวี่แววความล้าจากแก เซ็นเตอร์เป็นริโอกับวิดิช ที่เพิ่งฟื้นจากอาการบาดเจ็บ และก็ดูท่าว่าจะยังคงมีอาการขัดๆอยู่บ้าง เวลาเบียดกระแทกกับคู่ต่อสู้หนักๆ กลางสามตัวเป็นอันแดร์สัน, คาร์ริค และเฟล็ทเชอร์ ส่วนหน้าสามตัวใช้ ซาฮา นานี่ และโรนัลโด้

จากรูปเกม ก็เป็นไปตามที่ผมคาดการณ์ไว้ คือลิสบอนไม่มีทางเลือกอื่น หากอยากเข้ารอบ ก็คือต้องชนะ และลุ้นให้โรม่าได้อย่างมากแต้มเดียวจากเคียฟ ทำให้ลิสบอนเปิดเกมรุกเต็มสูบแต่แรก และเน้นการให้บอลเร็ว ขยับหาที่ว่างเร็ว และเข้าประกบเร็ว เพื่อเบียด แย่งบอลจากผู้เล่นแมนยูไนเต็ดให้ได้เร็วที่สุด และทำเกมรุกโต้กลับมายิงประตูให้ได้ ในขณะที่แมนยูไนเต็ดนั้น ยังดูติดๆขัดๆในการเดินเกมกลางสนาม อาจจะเป็นเพราะการจัดแผงกลางมายืนแบบแปลกๆก็เป็นได้ ยังดีที่มีอันแดร์สัน ที่สามารถจ่ายบอลเปิดเกมขึ้นหน้าได้ในจังหวะเดียว ไม่ต้องผ่านหลายจังหวะ จึงยังคงช่วยให้เกมรุกของยูไนเต็ดมีจังหวะวูบวาบอยู่บ้างในช่วงแรกๆ


เริ่มเกมได้พักเดียว สมาธิและความอดทนของผู้มาเยือนก็แตกซ่าน เมื่อได้ทราบข่าวว่าโรม่าขึ้นนำเคียฟ เพราะหลังจากตัววิ่งขึ้นหน้าจอว่าปานุชชี่ทำประตูขึ้นนำได้ แค่พักเดียวเท่านั้น ลิสบอนก็ตั้งเกมโหมบุกกระหน่ำอย่างหนักหน่วงทันที ทำให้บรรดาแผงกลางของเราต้องลงมาตั้งรับกันเต็มเหนี่ยว การขึ้นเกมรุกของลิสบอน ดูจะฝากไว้ที่ เจา มูตินโญ่, อิสไมลอฟ มีเวโลโซ่คุมเกมเป็นคล้ายๆจอมทัพ และใช้เลียดสันเป็นตัวปั่นป่วนหน้าปากประตู แต่เกมนี้ การขึ้นเกมรุกของอาเบลทางกราบขวา (ทางเอวร่าของเรา) ทำได้สุดยอดจริงๆครับ เหมือนแลกหมัดกันเลย ระหว่างเอวร่าและอาเบล ผลัดกันขึ้นผลัดกันลงตลอด แล้วแต่ว่าใครจะหลุดแล้วลงมาทันรึเปล่า ซึ่งลูกที่เสียประตูไป ก็เป็นเพราะจุดนี้เช่นกัน อาเบลฉวยโอกาสยิงจากริมเส้น ในขณะที่คุสแซ็คเองก็ติดประมาท เพราะยืนห่างเสาแรกไปมาก น่าจะคาดว่าอาเบลต้องเปิดแน่ๆ เลยทำให้กะจุดยืนผิดไป และอาเบลก็ยิงแม่นและแรงจริงๆ ทำให้คุสแซ็คขยับมาปัดไม่ทัน

หลังจากนั้น คุสแซ็คก็ดูจะออกอาการลนๆไปสักเกือบสิบนาที กว่าจะกลับมาเล่นได้อย่างมั่นใจและโชวฟอร์มหนึบอีกครั้ง ทั้งจังหวะการตัดลูกครอส และออกมาชิงจังหวะแทงทะลุของฝั่งลิสบอน หากเขาไม่เสียประตูนั้น คะแนนในค่ำคืนนี้คงออกมาดูดีทีเดียวครับ ในขณะที่ทางลิสบอนโหมกระหน่ำตลอดครึ่งแรกนั้น ฝั่งเจ้าบ้านเอง ก็ดูจะมีเพียงโรนัลโด้, และ เอวร่า เท่านั้น ที่ดูจะออกหมัดได้น้ำได้เนื้อกว่าคนอื่น อันแดร์สันเอง ก็ต้องลงต่ำเกินไป เพื่อประคองเกมรับ ทำให้ไม่ค่อยได้แสดงอะไรมากนัก แต่การจ่ายบอลขึ้นหน้าแต่ละลูก ก็ยังน่ากลัวและอันตรายเหมือนเดิม ขณะที่นานี่เอง ยังคงสลัดความสับสนและลังเลออกจากตัวเองไม่ได้ ทำให้ออกลูกกั๊กๆ และฝืนๆอยู่หลายจังหวะ

กองกลางของเราสามคน คงมีอันแดร์สัน ล่ะมั้ง ที่โชว์ฟอร์มได้ดีกว่าเพื่อนในครึ่งแรก ทั้งตัดบอลทั้งครองบอล และจ่ายขึ้นหน้าทำเกมรุก ในขณะที่คาร์ริคกับเฟล็ทเชอร์ดูจะออกกั๊กกันสุดๆ น่าจะเป็นเพราะครึ่งแรกเป็นการโชว์การบุกกระหน่ำของลิสบอน ทั้งการต่อบอล และการเจาะเข้าทำประตู ทำให้บรรดาแผงกลางของเราต้องลงมารับมากกว่าปั้นเกมรุก คาร์ริค กับเฟล็ทเชอร์เองก็ไม่ใช่ประเภทจอมทักษะ ทำให้เสียบอลง่ายเวลาถูกประกบเร็ว และถูกเข้ารุมกดดันจากผู้มาเยือน อีกทั้งความขยันในการไล่บอลของเฟล็ทเชอร์ ยิ่งทำให้เขามักจะทำให้เกิดการทับไลน์กับอันแดร์สันและคาร์ริคบ่อยๆ ยิ่งทำให้เกิดความสับสนในแผงกลางมากขึ้น แต่นัดนี้ เรายังมีสามประสานที่เซนส์ทันกัน นั่นก็คือ เอวร่า, โรนัลโด้, และอันแดร์สัน ที่มักจะให้บอลจังหวะเดียวหลุดขึ้นหน้าทะลุแผงหลังเป็นกระบิๆทีเดียว

ส่วนซาฮานั้น ผมเองค่อนข้างผิดหวังอยู่มาก จากการขาดหายไปของรูนี่ย์ ทำให้ความคาดหวังก้อนเบ้อเริ่มตกลงมาใส่เขาอย่างช่วยไม่ได้ และการที่เขาจะแสดงให้เห็นว่าคู่ควรกับการแย่งชิงตำแหน่งนี้มาจากกองหน้าคนใดคนหนึ่งนั้น มันต้องมีมากกว่านี้ครับ สองนัดติดต่อกันแล้วที่ซาฮาพักบอลไม่ได้เลย ทำให้พลิกมาเล่นไม่ได้ นัดนี้ยังดีที่ซาฮาค่อนข้างได้เปรียบได้การชิงจังหวะโหม่ง กับกองหลังลิสบอน เวลาบอลถูกสาดมาจากหลัง ทำให้ซาฮาชิงโหม่งเช็ดทำทางได้หลายครั้งในครึ่งหลัง แต่ผมเองมองว่า ซาฮาต้องมีทีเด็ดมากกว่านี้ครับ ถ้าทำได้แค่นี้ คงไม่ใช่แค่ผมหรอก แม้แต่ป๋าเองก็คงผิดหวังเช่นกัน


เมื่อเข้าสู่ครึ่งหลัง ป๋าจัดการแก้เกมกลับมาเป็น 4-4-2 ตามสูตรถนัด เอากิ๊กส์ลงมาแทนเฟล็ทเชอร์ และให้เล่นปีกซ้ายส่วนนานี่นั้น ถูกถอดออก และส่งเตเวซลงมาแทน ทำให้กลางเรากลายเป็น โรนัลโด้ อันแดร์สัน คาร์ริค กิ๊กส์ ส่วนหน้าคู่ก็เป็นเตเวซ กับซาฮา หลังจากเปลี่ยนกลับมาเป็นเกมถนัด รูปเกมเราก็ดีขึ้นมาทันตาเห็น การที่มีโรนัลโด้ในทีม ช่วยเพิ่มมิติในเกมรุกได้มากขึ้นเยอะ และความน่ากลัวของการรุกทางริมเส้น ก็มีเพิ่มมากขึ้น จากสามประสาน ตอนนี้เรามีถึงสี่แล้ว ที่เซนส์ในการทำเกมทันกันตลอด นั่นคือ อันแดร์สัน, เอวร่า, โรนัลโด้ และเตเวซ นั่นยิ่งทำให้การรุกเริ่มมีสมดุลมากขึ้น เกมจากกราบซ้ายขวา สามารถต่อเข้ามากลางปากประตูได้มากขึ้น ความขยันและทักษะการเล่นบอลของเตเวซ ยิ่งทำให้ผู้เล่นลิสบอนต้องปวดหัวมากขึ้น


และในที่สุดเตเวซก็ปลดปล่อยความกดดันได้ในที่สุด ถึงแม้จะยิงไม่เต็ม ไม่ถนัด แต่การได้ประตู น่าจะทำให้เจ้าตัวสบายใจขึ้นมาก จากนั้น เกมของเจ้าบ้านก็เหมือนกับเล่นตามสูตรไปแล้ว นั่นก็คือพยายามตัดบอล และวางบอลโต้กลับเร็ว สวนการรุกของลิสบอล และน่าจะทำได้ดีกว่านี้ในหลายๆจังหวะ หากไม่ยิงนกตกปลาไปซะเยอะ การที่เอาฮาร์กรีฟส์ลงมาแทนซาฮาในปลายๆเกม ก็น่าจะเป็นเพราะซาฮาคงเหนื่อยและล้า อีกทั้งอาจจะไม่มั่นใจตัวเองมากขึ้น เมื่อรวมกับการที่ป๋าต้องการประคองเกม และเห็นว่าเริ่มมีเสียบหลักๆมากขึ้น การถอดเอาซาฮาออกจึงน่าจะเป็นการดีที่สุด อย่างน้อย ก็เป็นกองหน้าแค่หนึ่งในสองที่มีตอนนี้ หากเจ็บไปอีกคน คงดูไม่จืด ในขณะที่ฮาร์กรีฟส์เอง ก็ดูไม่ได้ลำบากลำบนในการประคองเกมที่เหลือสักเท่าไหร่ แถมมีจังหวะสอดเข้าไปยิงอีกต่างหาก




สุดท้าย จังหวะที่โรนัลโด้ได้ส่องฟรีคิกและเป็นประตูนั้นผมเองยังไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง แม้กระทั่งตากล้องยังอุตส่าห์แพนกล้องไปจับสีหน้าป๋า ที่ดูออกจะแปลกใจเช่นกัน ก็ถือว่านี่เป็นฟรีคิกลูกแรกล่ะมั้งครับ ที่เขายิงได้ในฤดูกาลนี้ หลังจากส่องมาประมาณยี่สิบกว่าลูก


เกมนี้ ผมคาดหมายไว้หลายๆอย่าง หนึ่งก็คือ อยากเห็นเตเวซยิงประตูเพื่อกู้ความมั่นใจตนเอง ก็ได้เห็นไปแล้ว สองก็คือ อยากเห็นว่า ในยามไร้รูนี่ย์นั้น เกมที่ไม่มีกับมีโรนัลโด้ ต่างกันขนาดไหน ก็ได้เห็นไปแล้วว่าต่างกันเยอะมาก ในด้านความหลากหลายและอันตรายในการเข้าทำ เมื่อโด้กับเตเวซเล่นกันได้อย่างทันกันตลอด สามก็คือ อยากเห็นฟอร์มของเวโลโซ่ และ เจา มูตินโญ่ สองมิดฟิลด์ที่ว่ากันว่าป๋ากำลังเล็งจะทุ่มมาอีก (ทำไม) ซึ่งผลก็คือ ทั้งคู่ต่างโชว์ฟอร์มได้ดีไม่แพ้กัน โดยเวโลโซ่ออกจะเหลื่อมล้ำกว่านิดๆ แต่โดยรวมก็ถือว่าทำผลงานได้ดีทีเดียวครับ ทั้งทักษะ ความคล่อง การเอาตัวรอดในสถานการณ์คับขัน รวมถึงการเติมเกมรุก แต่เกมนี้ ผมไม่เห็นปิเก้ถูกส่งมาเรียกความมั่นใจแฮะ ถือเป็นเรื่องน่าผิดหวังเล็กๆสำหรับผมครับ

อีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้กัน ก็คือ ผมต้องการเห็นการคัมแบ๊กได้เร็วที่สุด จากความพ่ายแพ้เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น และจิตใจที่พร้อมจะกลับมา อันเป็นคุณสมบัติที่ขาดไม่ได้ หากหวังจะป้องกันแชมป์ ยิ่งการถูกยิงนำไปก่อน และสามารถพลิกแซงกลับมาได้ ทั้งๆที่รูปเกมไม่ได้เป็นต่อมากมายนัก ก็ยิ่งแสดงให้เห็นแล้วว่า ทีมของเรา พร้อมจะกลับมาสู่เส้นทางลุ้นแชมป์อีกครั้ง หลังแวะซื้อของข้างทางไปนัดหนึ่ง ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผลงานในลีกนัดต่อๆไปก็คือ จนกว่าจะถึงปีใหม่ เราจะพลาดแบบนี้อีกไม่ได้แล้ว โดยเฉพาะกับทีมลุ้นแชมป์ด้วยกัน หากพลาดอีก และอาร์เซนอลไม่พลาดให้บ้าง ตอนนี้ สามแต้ม บวกกับอีกสามในเกมตกค้าง หากพลาดอีก ก็อาจทะลุไปเก้าแต้มได้ ถือว่ามากจนน่ากลัวครับ

หลังเกมจบ เราก็เห็นความประทับใจ เมื่อโรนัลโด้เข้าไปพูดคุยกับเพื่อนเก่า และหยอกล้อกันอย่างน่าเอ็นดู ทั้งๆที่โด้เอง ยิงสองประตูทำให้ลิสบอนทีมเก่าของเขา ไม่ได้แม้แต่แต้มเดียวจากหกแต้มจากการเจอกันทั้งสองนัด นี่แหละครับ คำว่ากีฬา และคำว่า น้ำใจนักกีฬา แพ้ชนะ อยู่แค่ระหว่างเสียงนกหวีดเริ่มเกมกับเสียงนกหวีดจบเกม หลังจากนั้น ก็เพื่อนร่วมอาชีพกันทั้งนั้น ภาพนี้ สมควรเป็นอย่างยิ่งที่จะใช้สอนนักเตะเด็กๆของเราให้ได้รับทราบถึงความมีน้ำใจนักกีฬา

หลังจากนี้ ผมเองก็ได้แต่หวังว่า จะเห็นปิเก้ถูกส่งลงมาเรียกความมั่นใจอีกครั้ง อย่าให้เป็นเหมือนหลายต่อหลายคนก่อนหน้านี้ ที่พลาดจังๆนัดเดียว หายยาว เพราะนั่นจะยิ่งเป็นการบั่นทอนกำลังใจนักเตะเป็นอย่างยิ่ง และหวังว่า ท่านเซอร์ จะเข้าใจในจุดนี้ด้วยครับ

สวัสดีครับ




 

Create Date : 28 พฤศจิกายน 2550
0 comments
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2550 14:28:13 น.
Counter : 721 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สงบใจ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add สงบใจ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.