Once Man United, Always Man United
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
4 พฤษภาคม 2552
 
All Blogs
 

20090504 วิพากษ์ MIDDLESBROUGH vs MAN. UNITED

ถึงจะแก่ แต่ก็เก๋า เพราะเราชื่อกิ๊กส์


สวัสดีเช้าวันจันทร์ที่สดใสเป็นอย่างยิ่ง ทำไมน่ะหรือครับ ก็เพราะพรุ่งนี้เราจะหยุดกันน่ะสิ อิอิอิ หลังจากไปถอนฟันกรามซี่ในสุด (ซี่ที่สามแล้วนะ) มาเมื่อวันแรงงาน แล้วมีเพียงแต่อาการระบมเล็กๆเท่านั้น ซึ่งวันเดียวก็หาย เป็นการถอนฟันที่สุโค่ยยยย จริงๆครับ หลังจากมีประสบการณ์สุดย่ำแย่จากการที่ต้องผ่าฟันคุดซี่แรกที่เล่นเอาเจ็บสุดๆเกือบเดือน ตามด้วยการถอนที่เจ็บน้อยลงเยอะในซี่ที่สอง คราวนี้ก็สบายซะที บอกตรงๆ ผมเองยังไม่รู้ตัวเลยครับ ว่าโดนถอนไปตอนไหน อยู่ๆหมอก็บอกว่า ถอนเสร็จแล้วค่ะ...//ฮ่าฮ่าฮ่า

สำหรับวิพากษ์เกมวันนี้ ก็คงเป็นอรรถรสสบายๆ เนื่องจากรูปเกมที่ออกมานั้น ก็ค่อนข้างสบายจริงๆ และดูเหมือนว่าทางฝั่งท่านเซอร์ จะไม่ค่อยหนักอกหนักใจเท่าไหร่ ดูได้จากการจัดทัพมาเยือนริเวอร์ไซด์ สเตเดี้ยม สนามยากๆอีกแห่งในเกมนี้ ที่ออกจะตรงข้ามกับความรู้สึกของแฟนผีอย่างผม ที่เกรงๆสนามนี้เหลือเกิน สงสัยว่าจะเป็นความฝังใจจากยุด สตีฟ แม็คลาเรน ที่อาจจะยังคงหลอกหลอนผมอยู่ก็เป็นได้

การจัดทัพในวันนี้ จะบอกว่าท่านเซอร์สบายใจสุดๆ ก็คงจะดูเกินเลยไปหน่อย เพราะท่านเซอร์ยังคงจัดแผงหลังชุดใหญ่ลงสนามอยู่ แต่พักน้าซาร์ไว้ข้างสนาม วันนี้เลือก เบน ฟอสเตอร์ มายืนเป็นปราการด่านสุดท้ายแทน แผงหลังมีจอห์น โอเชีย และ ปาทริซ เอวร่า เป็นฟูลแบ๊คสองฝั่ง ให้เนมานย่า วิดิช และ จอนนี่ อีแวนส์ ลงมายืนเป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ เนื่องจาก ริโอ เฟอร์ดินานด์ มีอาการเจ็บซี่โครงจากนัดก่อนหน้านี้ และต้องลุ้นว่าจะกลับมาได้ในเกมเยือนรังปืนพรุ่งนี้หรือไม่ มิดฟิลด์คู่กลางเลือกสองเก๋า สโคลส์ และกิ๊กส์ รูนี่ย์ริมเส้นซ้าย ปาร์คริมเส้นขวา และเบอร์บาตอฟ กับมาเคด้า เป็นหน้าคู่หากจะดูให้เป็น 4-4-2 แต่จากการเล่นในเกม ก็ยังคงยึดรูปแบบ 4-2-3-1 (หรือบางท่านอาจชอบเรียก 4-3-3 มากกว่า) เป็นหลัก คือกิ๊กส์และสโคลส์ ปักหลักกลางสนาม เบอร์บายืนไลน์ต่ำอยู่เคียงข้างรูนและปาร์ค โดยทิ้งมาเคด้าไว้ข้างหน้าคนเดียว

ส่วนทางเจ้าบ้านนั้น การขาดหายไปของเอ็มมานูเอล โปกาเตทซ์, คริส ริกก็อตต์, แอนดรูว์ เทย์เลอร์ นั้น ส่งผลกระทบต่อรูปเกมพวกเขาพอสมควร การจะเล่นเกมหนักเพื่อตัดการทำเกมของแชมป์เก่า จึงทำได้ไม่ต่อเนื่องและไม่ง่ายนัก แต่เซาธ์เกตยังคงพอมีความหวังอยู่บ้างกับการที่มี สจ๊วร์ต ดาวนิ่งในทีม ยังมี เฌเรมี่ อาลียาดิแยร์ รวมทั้งตัวเลือกแดนหน้าอย่าง มาร์ลอน คิง แถมยังมี อฟองโซ่ อัลเวส รอเสียบอยู่ข้างสนามอีก และเพลย์เมกเกอร์ของทีมอย่าง ตุนชาย ซานลี่ ก็สามารถลงเล่นได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีแม็ทธิว เบตส์ ยืนเคียงข้างเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางสองคน

เริ่มเกม เราก็ได้เห็นการวางหมากของท่านเซอร์อย่างชัดเจนทันทีครับ โบโร่เร่งเกมเข้าใส่เราทันที โดยการเข้าหาบอลเร็ว พยายามไล่กดดันแย่งบอลจากเท้าตลอดเวลา และดูเหมือนจะตั้งใจเปิดแผลแรกให้ได้เร็วที่สุดตอนที่ผู้มาเยือนยังไม่ทันตั้งตัว แต่ความเก๋าของกิ๊กส์ และสโคลส์ ความขยันของรูนี่ย์ และปาร์ค ยังพอช่วยให้เอาตัวรอดจากความคึกของเจ้าบ้านได้ เกมรุกของโบโร่ดูวูบวาบเพียงชั่วประเดี๋ยวประด๋าวเท่านั้น ก็ถูกเกมของยูไนเต็ด ค่อยๆกลืนแพสชั่นไปเรื่อยๆ ทีละเล็กละน้อย จนในที่สุดเกมก็ตกเป็นของผู้มาเยือนซะมากกว่าจนได้ แกรี่ โอนีลที่ยืนริมเส้นทางขวา กดดันเอวร่าไม่ได้มาก ยิ่งต้องพะวงกับรูนี่ย์ที่เด่นทั้งรุกและรับ ยิ่งทำให้โอนีล ไม่สามารถเติมได้อย่างดุดันนัก ในขณะที่ดาวนิ่งกลับเงียบเกินไปมาก ตรงนี้ครับ ที่ผมมองว่าคือปัญหาแรกสุดของโบโร่เลย ที่ต้องหนีตกชั้นในเวลานี้

เกมของโบโร่ปีสองปีก่อนหน้านี้ ที่ยังน่ากลัวอยู่ได้ ก็เพราะดาวนิ่ง และฟอร์มของศูนย์หน้าที่แข็งแกร่งในลูกกลางอากาศ รวมทั้งการทำเกมตรงกลางของซานลี่ การตัดเกมของและเติมของบัวเต็ง ซึ่งเกมของโบโร่นั้นพึ่งพานักเตะแกนหลักมากเกินไป นี่คือองค์ประกอบหลักที่ทำให้โบโร่เป็นทีมที่ขึ้นชื่อว่า ผีเข้าผีออก หรือ ชนะได้ทุกทีม ก็แพ้ได้ทุกทีม เพราะฟอร์มของทีมขึ้นอยู่กับฟอร์มของนักเตะแกนหลักมากเกินไปนั่นเอง วันไหนที่ตัวหลักพากันท็อปฟอร์ม โบโร่นั้นไม่เคยกลัวใคร แต่วันไหนที่แกนหลักสามสี่คน ฟอร์มผีออกไปซะสองสามคน วันนั้น เกมของโบโร่ก็จะดูไม่จืด เช่นเกมนี้ ที่ดาวนิ่งหาความอันตรายและความจัดจ้านของตัวเองไม่พบ กองหน้าที่เคยฟอร์มดุช่วงแรกๆอย่างอัลเวส ก็ออกทะเลไปนานแล้วจนต้องส่งอาลิยาดิแยร์มาคู่กับคิง ซึ่งตรงนี้แย่ครับ การประสานงานทั้งเกมที่เข้าท่าเข้าทาง เกิดขึ้นครั้งเดียวเท่านั้น นั่นคือจังหวะที่คิง จ่ายตัดหลังให้อาลียาดิแยร์ทะลุเข้าไปยิงติดบล๊อคฟอสเตอร์

การที่นักเตะตัวหลักฟอร์มตกต่อเนื่อง ทำให้ฟอร์มของโบโร่กู่ไม่กลับยาวจริงๆ อาลิยาดิแยร์ ไม่ว่าแง่ไหน ผมก็มองว่า ตำแหน่งที่อันตรายที่สุดของเขาคือริมเส้นด้านขวา ที่เขาสามารถใช้ความเร็วความคล่องได้เต็มที่ โดยมีคิง, อัลเวส กับมิโด้ สลับกันมาลงสนามเป็นหน้าคู่ และขนาบด้วยซ้ายที่มีดาวนิ่งทำเกม ตรงกลางมีซานลี่วิ่งพล่านทำเกมรุกหลังกองหน้า นั่นคือโบโร่ที่ผมว่าน่ากลัว แต่วันนี้ จากการที่ดาวนิ่งฟอร์มตกสุดกู่ อาลียาดิแยร์ต้องหุบเข้ามาเล่นกองหน้าที่เขาไม่มีพื้นที่ให้เล่นอย่างเคย โอนีลผมว่าตอนนี้ก็ฟอร์มดร็อปลงไป คิงนี่ไม่ต้องพูดถึงเลยครับ แพ้แม้กระทั่งโอเชีย แม้กระทั่งอีแวนส์ในการดวลเดี่ยว เมื่อแนวรุกทำไม่ได้เลย ภาระตรงกลางก็หนัก ซานลี่ต้องพล่านทำเกมรุก แต่เพื่อให้กองหน้าเอาไปทิ้งขยะซะงั้น เบตส์ยิ่งต้องพล่านหนักในการกรองบอลตรงกลางจากเกมรุกแมนฯยูฯอย่างหนัก

เมื่อหน้าทำไม่ได้ กลางรับภาระหนักเกินตัวไปมาก ทุกอย่างที่หลุดจากกลางไปได้ ก็ถึงหลัง และไอ้ทุกอย่างที่หลุดไปได้นี่แหละครับ ที่มันเกิดขึ้นบ่อยเหลือเกิน วันนี้ท่านเซอร์เลือกแผน นิ่งและเก๋า เผาความคึกคัก เมื่อทราบดีว่าโบโร่กำลังหนีตาย และน่าจะทราบเช่นกัน ว่าฟอร์มโบโร่วันนี้ไม่หลงเหลือเค้าความน่ากลัวอะไรนัก คงมีเพียงอย่างเดียว นั่นคือ ความสด และความมุ่งมั่นที่จะต้องหนีตายให้ได้ แนวทางของโบโร่ จึงถูกท่านเซอร์อ่านขาดมาก่อนแล้วว่าจะต้องมาเล่นเร็ว แรง หนัก พกความคึกคักและความสดมาเต็มกระเป๋าแน่ๆ ท่านเซอร์จึงวางสองเก๋ามาคุมจังหวะทีม และให้ลดความเร็วของเกมลง ซึ่งสองเก๋าก็ไม่ทำให้ผิดหวังแต่อย่างใด

กิ๊กส์ และสโคลส์ รวมทั้งปาร์ค และรูนี่ย์ คือคีย์แมนหลักในการเดินเกมตรงกลางของยูไนเต็ด คอยสกรีนบอลจากโบโร่ ปิดทางวิ่ง ปิดการเติมเกมริมเส้น และปิดพื้นที่การทำเกมของซานลี่ตรงกลาง เมื่อตัดบอลได้ บอลจะถูกถ่ายมาทางกิ๊กส์และสโคลส์ ซึ่งจะดึงจังหวะทันที ทั้งคู่จะเบรคเกมเร็วของโบโร่ลง ทำให้สปีดเกมโดยรวมสะดุด และผู้เล่นโบโร่ต้องขยับเข้าหาบอลที่สองคนนี้เพื่อแย่งบอล ตอนนั้นเอง รูนี่ย์, ปาร์ค และเบอร์บาตอฟจะมีบทบาทเพิ่มขึ้นทันที ด้วยการหาพื้นที่ว่างในแนวรับของโบโร่ และคอยรับบอลจากการจ่ายของกิ๊กส์ หรือ การวางของสโคลส์ ซึ่งทำได้ดีมากๆ และมีลุ้นจะได้ประตูหลายจังหวะทีเดียว

ประตูแรกที่เกิดขึ้นในเกม เป็นประตูที่ปลดปล่อยความกดดันทั้งหมดออกจากบ่า ลูกคอร์เนอร์ที่ถูกเคลียร์ออกมาได้ แต่รูนี่ย์ก็ตัดคืนกลับไปให้วิดิชที่ยังอยู่บริเวณเส็นเขตโทษทางขวา วิดิชจ่ายเรียดขวางคืนมาหน้าประตู มาเคด้าวิ่งมาสกรีนบอลจังหวะหนึ่ง ลูกหลุดมาเข้าทางกิ๊กส์ที่มีเวลาและพื้นที่มากเหลือเกิน กิ๊กส์จับก่อนจะยิงเสียบเสาขวามือสุดปัญญาแบรด โจนส์จะป้องกัน เป็นประตูขึ้นนำในนาทีที่ 25 หลังจากนั้น ยูไนเต็ดโดยการนำของสองเก๋า ก็เริ่มประคองเกมมากขึ้นและดึงจังหวะเกมตรงกลางให้ช้าลงไปอีก บีบให้นักเตะโบโร่ต้องทิ้งตำแหน่งขยับเข้ามาหาเพื่อเพรสซิ่งไล่บอลตรงกลางสนามสูงขึ้น เป็นการเปิดพื้นที่หน้าแผงหลังให้วางบอล จ่ายบอลได้สะดวกยิ่งขึ้น และก็ทำได้จริงๆ เพียงแต่ แผงหลังโบโร่ยังบล๊อคลูกจ่ายสุดท้าย และลูกยิงได้เรื่อยๆจนหมดครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

เข้าสู่ครึ่งหลัง ท่านเซอร์ปรับแท็คติคเล็กน้อย ให้สองเก๋าคอยติ๊ดชึ่งตรงกลางสนามมากขึ้น เน้นความแน่นอนมากขึ้น และไม่เสี่ยงเข้าปะทะ ส่งผลให้รูปเกมอาจจะเนือยลงมาบ้าง แต่การเข้าทำก็ยังมีจากจังหวะเดิมๆ คือการจ่ายยัดเข้าไปในพื้นที่ว่างหน้าแผงหลังของโบโร่ ในนาทีที่ 51 รูนี่ย์ขยับไปรับบอลทางซ้าย ลากตัดเข้ากลาง ก่อนจะจ่ายตัดหลังสวนเข้ากรอบทางซ้ายมือที่มีปาร์ควิ่งตัดเข้าไปอย่างพอเหมาะพอเจาะ ปาร์คตวัดยิงด้วยซ้ายสวนตัวโจนส์เสียบเสาสองอย่างสวยงาม รุนแรง เป็นลูกที่ยูไนเต็ดต้องการมากๆในเกมนี้ และส่งผลให้เซาธ์เกตต้องขยับเปลี่ยนเกมทันที ด้วยการส่ง อฟองโซ่ อัลเวส ลงมาแทนคิง และดิดิเยร์ ดิการ์ด ลงมาแทนโทนี่ แม็คมาน ท่านเซอร์ปรับตามด้วยการส่งเตเวซลงมาแทนมาเคด้า ที่กระดูกยังไม่ขัดมันนัก โดนเดวิด วีเธอร์, โรเบิร์ต ฮู้ท และ จัสติน ฮ้อยท์ ทำลายจังหวะตลอดเกือบชั่วโมงที่อยู่ในสนาม แต่ถึงกระนั้น เจ้าตัวก็เกือบลั่นสกอร์ได้สองสามครั้ง แต่ติดที่โบโร่ปรี่เข้ามาบล๊อคทันตลอด

เกมของโบโร่ยังไม่กระเตื้อง อัลเวสไม่สามารถบันดาลอะไรให้ดีกว่าคิงได้ นอกจากจังหวะกระชากลากเลื้อยจากนอกกรอบ แต่ก็เสียบอลตลอดก่อนจะเข้ากรอบโบโร่ปรับมาให้ดาวนิ่งเล่นเป็นตัวฟรีหลังกองหน้า โดยขยับซานลี่มาทำเกมรุกเต็มตัว แต่ก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ ตอนนี้ นอกจากโบโร่จะมีปัญหาเรื่องฟอร์มของนักเตะดร็อปลงไปหลายรายแล้ว ยังมีอีกปัญหาใหญ่ นั่นคือการประสานงานในเกมรุก ซานลี่ทำเกมขึ้นไป ไม่มีใครต่อบอล อัลเวสกระชากขึ้นไป แต่ดันไม่จ่าย ดาวนิ่งกับโอนีล จ่ายให้เพื่อนก็ผิดช่องผิดทาง แล้วก็โดนดักโดนปิดหมด คือโอกาสโบโร่ไม่ใช่ไม่มี เพียงแต่พวกเขาโยนมันทิ้งก่อนจะได้จบด้วยการยิงเท่านั้นเอง

เซาธ์เกตเสี่ยงครั้งสุดท้าย ส่งมาร์วิน เอ็มเนสลงมาแทน แกรี่ โอนีล แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ป๋าเราก็ส่งนานี่ตามน้ำลงมา โดยถอดปาร์คออก แต่รูปเกมตอนนั้น ยูไนเต็ดปิดเกมเต็มที่แล้ว นานี่จึงไม่เหลือโอกาสมากนักในการแสดงฝีเท้า ไม่เหมือนเตเวซที่ยังมีเวลาตอนลงมาในสนาม ทำให้เจ้าตัวเกือบได้ส่องเป็นประตูหลายครั้งอยู่ จากนั้นก็มีข่าวร้าย เมื่อต้องถอดเอวร่าออกจากการบาดเจ็บที่ทีแรกดูเหมือนจะเล่นต่อได้ แต่สุดท้ายก็ไม่ฝืน ราฟาเอลลงมาแทนและขยับไปยืนแบ๊คขวา โยกโอเชียมาทางซ้ายแทนเอวร่า เป็นการเปลี่ยนครบโควต้าของทั้งสองทีมในที่สุด

เกมช่วงท้ายเป็นการปิดเกมของยูไนเต็ดแบบร้อยเปอร์เซนต์ พยายามครองบอลและถ่ายบอล มีจังหวะก็หาทางบวกประตู เมื่อไม่มีก็พยายามถ่ายบอลดึงเกมไป เปิดช่องว่างไปเรื่อยๆ เสียบอลเมื่อไหร่ก็ไล่บี้แย่งเอาคืนมาเพื่อดึงจังหวะทำลายเวลาไปอีก เกมนี้เราจะเห็นว่า เบอร์บาตอฟยังคงครองบอลในแดนหน้าได้แบบสุดยอดนะครับ อย่างน้อย ถ้าเกมนี้ เราเน้นเกมบุกจริงๆจังๆ ผมว่าการครองบอล ดึงคู่ต่อสู้เข้าหาตัว และออกบอลของเบอร์บานี่แหละ จะเป็นทีเด็ดในเกม เหมือนเช่นเกมที่ถล่มสเปอร์สในครึ่งหลังนั่นเอง เกมมาถึงตรงนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว ก่อนจะจบไปด้วยชัยชนะของแชมป์เก่าและว่าที่แชมป์ซีซั่นนี้ด้วยสกอร์ สองศูนย์

การจะบอกว่าผู้เล่นคนไหนของเราเล่นได้ดีที่สุด ก็คงไม่ผิดที่ผมจะขอยกย่องไรอัน กิ๊กส์ วันนี้เขาร่ายเวทมนตร์ได้เหมือนตอนเอ๊าะๆไม่มีผิด ทั้งคุมเกมคู่กับสโคลส์ กระชากลากเลื้อย หรือพาบอลค่อยๆเลาะทะลุทะลวงเข้ากรอบ รวมทั้งการจ่ายบอลทะลุ ทั้งหมดนี้ กิ๊กส์ทำได้ราวกับว่า เขาได้กลายเป็นมิดฟิลด์กลางสนามอย่างเต็มตัวไปแล้วไม่มีผิด สำหรับผมวันนี้นอกจากกิ๊กส์แล้ว ผมยังลุ้นสโคลส์ให้ยิงประตูเพิ่มอีกด้วย เพื่อเก็บให้ครบร้อยลูกซะที แต่เจ้าตัวก็ดันยิงออกนอกกรอบไปซะหมด นอกจากนั้น รูนี่ย์และปาร์คนี่ก็วิ่งไม่มีหมดจริงๆ แผงหลังก็เล่นได้ดี วิดิชที่ขึ้นชนทุกจังหวะ ทุกคน เพื่อให้งานของน้องแวนซ์ง่ายขึ้นก็ทำได้ดี ทำให้อีแวนส์มั่นใจขึ้นมาก จนสามารถเอาชนะการดวลเดี่ยวได้ทุกจังหวะ และสามารถบล๊อคลูกยิงจากเท้าคู่ต่อสู้ได้ด้วย

สำหรับแนวรุกคงไม่ต้องชมกันมาก เพราะทำผลงานได้ดีทุกๆคน ผมเองอยากชมโอเชียมากกว่า ที่ปีนี้ เขาแปลงร่างได้สำเร็จเต็มตัว คงเหมือนๆบราวน์ปีที่แล้ว ที่สามารถกลายร่างมายืนฟูลแบ๊คและเซ็นเตอร์ได้แทบจะเต็มปี มาปีนี้ ถึงเวลาโอเชีย เขาถูกจับมาเล่นแบ๊คขวา แบ๊คซ้าย เซ็นเตอร์ แทบจะทั้งปีเลย แถมยังเล่นได้ดีมากๆ ในสายตาผม คืออย่าไปเทียบเขากับฟูลแบ๊คระดับโลกเลยครับ แต่ให้นึกถึงความแน่นของเขา ในการรับมือปีกระดับโลกที่เขาสามารถหยุดยั้งได้เป็นอย่างดี แนวรับที่ยกเว้นน้าซาร์สักคน ก็มีโอเชียนี่แหละ ที่ยืนหยัดให้เรามากนัดที่สุด ในช่วงที่เราทำสถิติคลีนชีตประวัติศาสตร์นั่น...ใช่ไหมครับ

กับเกมนี้ ที่เห็นกับตา ผมรู้สึกแปลกๆที่โบโร่ในวันนี้ ไม่สิ ในช่วงหลังมานี้ต่างหาก เล่นได้อย่างที่ต้องบอกว่า ไร้จินตนาการจริงๆ เกมรุกทางปีกสวยๆจากดาวนิ่ง จากโอนีล จากอาลียาดิแยร์ ที่เคยเห็นมันก็หายไปหมด ความแข็งแกร่งของอัลเวส ของมิโด้ ของคิง ไม่เหลือเค้าที่น่าเกรงขามแม้แต่น้อย ซานลี่คนเดียวต่อให้เปลี่ยนเป็นเมสซี่ก็เถอะ ก็คงไม่สามารถจะบันดาลแต้มให้ทีมได้หรอก หากข้างหน้าเล่นกันแบบนี้ ผมสงสารก็แต่แนวรับที่พยายามทุกๆอย่างแล้ว แต่ไม่สามารถหยุดยั้งคู่ต่อสู้ได้ แต่ผู้เล่นข้างหน้า กลับทำเสียกันง่ายเหลือเกิน และท่าทางมันจะเป็นแบบนี้มาหลายนัดติดต่อกันแล้วด้วย

หากจะบอกว่าเวสต์บรอมวิชเล่นได้ดีกว่านี้ ก็อาจไม่ถูกนักเพราะตำแหน่งในตาราง มันก็บอกความเป็นจริงในตัวมันเองได้ดีอยู่แล้ว แต่ผมบอกได้เลยว่า เกมรุกของเวสต์บรอมฯ ดูดีมีตระกูลกว่านี้เยอะ ต่างกันเพียงแค่พวกเขามีแนวรับที่ยวบยาบและอ่อนยุ่ยเหลือเกินต่างหาก ที่ทำให้พวกเขาต้องมาจมบ๊วยเช่นนี้ แต่หากให้เทียบกัน สัปดาห์นี้ นิวคาสเซิลยังเล่นได้ย่ำแย่กว่าโบโร่ซะอีก อาจเพราะเป็นทีมเยือน ในขณะที่โบโร่ได้เล่นในบ้าน แต่ฟอร์มแนวรุกของนิวฯสัปดาห์นี้ บอกได้คำเดียวครับ เล่นแบบนี้ ต่อให้อยู่ในแชมเปี้ยนชิพก็หมดหวังเหมือนกัน ที่จะลุ้นขึ้นชั้น ยิ่งแนวรับที่หลุดกระจุยกระจายแบบนี้ ยิ่งย่ำแย่ครับ จับตาดูไว้เลย เวสต์บรอมฯน่ะ ไม่รอดแน่ๆทีมหนึ่งอยู่แล้ว ส่วนโบโร่กับนิวฯ เกมหน้าที่ทั้งคู่ต้องพบกันนี่แหละ ดูให้ดีๆครับ ผู้แพ้จะตกชั้นแน่นอน

สำหรับเรา ก่อนเกมรอบรองฯ UCL เลกสองวันพรุ่งนี้ ก็ต้องบอกว่า สถานการณ์ค่อนข้างสบายใจพอสมควร เราสามารถทุ่มสมาธิไปที่เกมนี้ได้แบบเต็มร้อย เกินร้อยก็ยังไหว เมื่อห้วงสัปดาห์นี้ เราจะเก็บเกมตกค้างได้ครบถ้วนแล้ว นั่นคือ วันเสาร์นี้ น้องหงส์อาจแซงได้ชั่วคราว จากเกมเยือนอัพตันปาร์ค ส่วนเรา จะเปิดบ้านรับแมนฯซิตี้ ที่กำลังฟอร์มดีขึ้นผิดหูผิดตาในสองสามนัดหลังๆ ซึ่งไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร เราจะแซงคืนได้หรือไม่ ในกลางสัปดาห์ถัดไปนั้น เราก็จะได้เก็บตกเกมเยือนวีแกนในวันพุธ อันจะทำให้จำนวนนัดออกมาเท่ากับลิเวอร์พูลทันที หากถึงตรงนั้นแล้ว จบเกมเยือนวีแกนแล้ว เรายังสามารถนำห่างได้หกแต้มเหมือนเดิม ก็ค่อนข้างเบาใจได้พอสมควรครับกับสองนัดสุดท้าย ที่ต้องรับมืออาร์เซน่อล และเยือนฮัลล์ ซิตี้ โดยมีเกมยุโรปที่โรมเป็นเกมสุดท้ายของซีซั่น

ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ ผมน่ะขอลุ้นแบบชิลล์ๆดีกว่าครับ มันสบายใจกว่ากันเยอะ ไม่ชอบลุ้นแบบหนักหน่วงหัวใจ ดังนั้น ผมว่า เรามาลุ้นให้ยูไนเต็ดผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ UCL ได้สำเร็จ และเก็บได้หกแต้มเต็มๆจากสองเกม ซิตี้ และ วีแกน กันดีกว่า

แล้วมาลุ้นกันนะครับ


สงบใจ




 

Create Date : 04 พฤษภาคม 2552
0 comments
Last Update : 4 พฤษภาคม 2552 11:49:06 น.
Counter : 423 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สงบใจ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add สงบใจ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.