Once Man United, Always Man United
Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
8 มกราคม 2552
 
All Blogs
 

20090108 วิพากษ์ DERBY vs UNITED (Carling semi-final 1st leg)

ดาร์บี้จ๋า...หมู่เฮาขอคารวะ


อรุณสวัสดิ์ครับ ทุกๆท่าน T_T ไม่ได้พบกันเกือบสองสัปดาห์ เนื่องจากเอฟ เอ คัพ รอบที่ผ่านมา ไม่ได้มีถ่ายทอดสด...เซ็งจิต ผมต้องนอนฟังวิทยุเอาเอง จินตนาการอะไรก็ไม่ค่อยออก เพราะผู้บรรยายเขาเน้นบอลลา ลีกา มากกว่าน่ะครับ พอมีจังหวะเสียวทีก็ค่อยพูดถึงที เฮ้ออออ.... รอมาหลายวัน เมื่อเช้ามืดก็เลยได้ตื่นมาถ่างตาดูคาร์ลิ่งคัพ รอบรองฯ แต่ดั๊นนนน ไม่สมหวังซะงั้น ก็ขอยกย่องหัวจิตหัวใจนักสู้ดาร์บี้ เคานท์ตี้ไว้ด้วยนะครับผม



เริ่มเกม ก็เช่นเดิม ที่พอเห็นโปรแกรมสุดสัปดาห์เป็นเกมชนช้างเชลซี ก็คาดเดาได้ไม่ยาก ว่าป๋าจัดชุดผสมลงอีกแน่นอน ซึ่งนัดนี้ป๋าได้สั่งพักเบอร์บาตอฟ, ตี๋ปาร์ค, ริโอ(นี่ยังเจ็บเล็กน้อย), เอวร่า(ติดแบนนัดสุดท้าย), น้าซาร์ ห้าคนนี้ไม่มีชื่อบนม้านั่งสำรอง ส่วนรูนี่ย์, โรนัลโด้, คาร์ริค, กิ๊กส์ และ เฟล็ทเชอร์ ล้วนมีชื่อสำรองทั้งหมด ทำให้หน้าตาทัพตัวจริงมีคุสแซ็คเฝ้าเสา แบ๊คโฟร์มีราฟาเอล, วิดิช, เอแวนส์ และ โอเช มิดฟิลด์คู่กลางใช้ สโคลส์ และอันแดร์สัน ตัวริมเส้นให้นานี่ยืนซ้าย กิ๊บสันยืนขวา และคู่หน้าใช้เว็ลเบ็คคู่เตเวซที่กำลังมีปัญหาเรื่องการเซ็นสัญญาถาวรกันอยู่

ส่วนทางฝั่งเจ้าบ้าน ดาร์บี้ เคานท์ตี้นั้น สาบานครับ ผมรู้จักแค่ รอย คาร์โรลล์ อดีตนายด่านยูไนเต็ดคนเดียวเลย อ้อ...จะมีอีกคนก็ในซุ้มสำรอง ที่เป็นร็อบบี้ ซาเวจ นี่ก็อดีตเด็กปั้นของเราเช่นกัน


เริ่มเกมมาก็เปิดเกมรุกกันทันที ทั้งคู่ผลัดกันต่อเกมรุกเข้าบดบี้ใส่กัน แต่แค่แป๊บเดียวเท่านั้น เกมก็เข้าทางดาร์บี้เจ้าบ้าน เมื่อพยายามใช้บอลโด่งข้ามแดนกลางมาหาผู้เล่นแนวรุกของตัวเองข้างหน้าได้สำเร็จหลายต่อหลายครั้ง ทำให้โซนการคุมพื้นที่ของแผงหลังยูไนเต็ดแตกกระจายตั้งแต่หัววัน คุสแซ็คโดนอัดหนักๆตั้งแต่นาทีแรก และยาวไปตลอดทั้งเกมจากลูกเปิดยาวและเปิดครอสเข้ากรอบโทษ ผู้เล่นดาร์บี้ตัวใหญ่ๆทั้งนั้น และฝั่งเราก็มีเพียงวิดิชที่หนาพอจะยันไว้ได้ ส่วนที่เหลือ ไม่หนาและแข็งแกร่งพอจะยืนหยัดปักหลักซดกันได้เต็มๆ ทำให้กองหน้าของดาร์บี้มักจะได้เปรียบในจังหวะชิงโหม่งอยู่ตลอด และนั่นก็คือแท็คติคหลักที่ดาร์บี้วางมาเล่นงานยูไนเต็ดในเกมนี้

นอกจากการใช้บอลยาวแล้ว ดาร์บี้ยังกล้าหาญชาญชัย ด้วยการไม่เล่นแผนตั้งรับลึกเหมือนทีมอื่นๆด้วย แต่กลับเลือกเกมเพรสซิ่ง วิ่งสู้ฟัด ไล่บดไล่บี้ทุกจังหวะตั้งแต่ในแดนยูไนเต็ดด้วยซ้ำ หากจะบอกว่าแท็คติคการเลือกเล่นบอลไดเร็กต์จะประสบความสำเร็จในการครองบอลของดาร์บี้แล้ว เกมเพรสซิ่งก็ถือว่าเป็นเกมรับที่ประสบความสำเร็จด้วยเช่นกัน บอลของยูไนเต็ดไปไม่ค่อยถึงข้างหน้า เนื่องจากถูกไล่กดดันเร็วตลอด และกองกลางเราทั้งสี่คนก็ไม่ใช่คนที่เคยลงสนามร่วมกันบ่อยนัก ทำให้ไม่สามารถสอดประสานให้บอลกันแบบวันทู วันทู ได้ง่ายๆ ยิ่งการเล่นร่วมกับกองหน้าอย่างเว็ลเบ็ค ที่ไม่สามารถเอาชนะตัวประกบ หาช่องว่างได้เลย หรือแม้แต่เตเวซ ที่ต้องถอยลงมาเล่นต่ำทุกช็อต ยิ่งทำให้การจ่ายบอลขึ้นหน้าเป็นอัมพาตเกือบตลอด



สโคลส์ซึ่งเริ่มโรยลงมา ก็แสดงให้เห็นปัญหาชัดเจนมากขึ้นในเกมนี้ เขาไม่สามารถพลิกบอลได้ด้วยสปีดเดิมๆ ทำให้เสียเปรียบในจังหวะครองบอลหลายครั้งมาก แต่เราจะไปต่อว่าสโคลส์ทั้งหมดก็คงไม่ได้ เมื่อผู้เล่นออฟเดอะบอลข้างหน้า หาพื้นที่ไม่ได้เลย สโคลส์ก็หาจังหวะจ่ายงามๆไม่ได้ ลองดูที่แอนนี่, กิ๊บสัน พวกนี้พยายามจ่ายเร็วทั้งนั้น แต่เมื่อแดนหน้า หาที่ว่างไม่ได้ สลัดตัวประกบไม่หลุด ต้องประสบการเพรสซิ่งเร็วทุกจังหวะ ก็จะเสียบอลกันตลอด มีจังหวะหลุดเข้าไปจบสกอร์เหน่งๆน้อยมากๆ หากไม่นับการยิงไกลจากแถวสอง

ในขณะที่ดาร์บี้ สามารถเล่นงานจุดอ่อนของทีมผสมยูไนเต็ดได้เต็มที่ โดยเฉพาะเรื่องการประสานงานที่ยังไม่ลงตัว ทำเอาผมยิ่งดูยิ่งเซ็ง แถมการเล่นเกมรุกของดาร์บี้ กลับดูเหมือนผมมองยูไนเต็ดเมื่อสิบปีก่อนยังไงยังงั้น ที่พอเพรสซิ่งไล่แย่งบอลได้ ก็วางคืนมาที่ตัวรุกอย่างแม่นยำ ซึ่งสามารถเก็บบอลได้ดี และพาบอลไปได้เร็วมากๆ ขนาดสลัดหนีราฟาเอลได้ก็หลายทีอยู่ ทำเอาแผงหลังเราหลุดตำแหน่งกันตลอด และกลางก็ลงมาช่วยไม่ทัน เพราะดาร์บี้ไม่เล่นต่อบอลให้เสียเวลา และ ดาร์บี้ก็ทำได้สำเร็จ เมื่อจังหวะสวนกลับสามารถออกบอลยาวได้แม่นยำอีกครั้ง บอลทะลุมาถึงคอมมอนส์ที่ประมาณ 25 หลา หน้ากรอบ ขณะเดียวกับที่คู่เซ็นเตอร์เราต้องตามกองหน้าดาร์บี้ที่หนีเข้ามาในกรอบ คอมมอนส์กลับไม่มีใครประกบ สามารถหาจังหวะแต่งบอลสวยๆก่อนซัดเต็มข้อโล่งๆส่งบอลตุงตาข่ายหนีมือคุสแซ็คได้อย่างสวยงาม



ผมเห็นประตูนี้ถึงกับอึ้ง ถึงแม้จะทำใจอยู่แล้วว่าเราอาจไม่ชนะได้ง่ายๆ จากรูปเกมก่อนหน้านั้น และดาร์บี้ก็หวุดหวิดจะได้ประตูมาหลายครั้งจากลูกกลางอากาศที่เราไม่ค่อยถนัดในการป้องกัน แต่สุดท้ายกลับมาเสียประตูจากลูกยิงไกลที่ไม่มีใครประกบ นับว่าเสียหายจริงๆกับประตูนี้ และทำให้ดาร์บี้มีความมั่นใจมากขึ้นเยอะ เกมเพรสซิ่งยิ่งมีพลังมากขึ้น และดูเหมือนมีเรี่ยวมีอแรงมากขึ้น ยูไนเต็ดเองกลับเล่นลำบากมากขึ้นเมื่อเว็ลเบ็คหายไปจากเกมแบบถาวร ไม่เคยได้จับบอลถนัดๆอีกเลย เตเวซเองก็ต้องลงต่ำมาล้วงลูก กองกลางไม่สามารถหาตัวรับบอลว่างๆข้างหน้าได้ จ่ายไปก็เสียบอลหมด มัวแต่หาช่องก็ถูกไล่เพรสซิ่งจนเสียบอลอีก ยิ่งเล่นยิ่งรวนครับ สุดท้ายจังหวะจบก็ได้แต่มาจากลูกยิงไกลหน้าเขตโทษแทบทั้งนั้น หาจังหวะทะลุไปยิงงามๆไม่ได้เลย

ก่อนจบครึ่งแรกก็ได้แต่หวังว่า เกมเพรสซิ่งของดาร์บี้น่าจะหมดพิษสงในครึ่งหลัง เมื่อเรี่ยวแรงน่าจะลดน้อยถอยลงไป และยูไนเต็ดยังมีไม้ตายก้นหีบอยู่อีกเพียบที่ข้างสนาม ในขณะที่ปลายๆครึ่งแรก ดาร์บี้ยังหวุดหวิดจะได้ลูกที่สองอีกหลายครั้ง จากจังหวะผิดพลาดของแผงหลังเรา โดยเฉพาะ เอแวนส์และราฟาเอล ที่ออกอาการทุกครั้งที่ถูกเบียดถูกกระแทกจากผู้เล่นหนาๆใหญ่ๆของดาร์บี้ (แต่เอแวนส์นี่ก็เซฟจังหวะน่าเสียประตูไปหลายดอกเหมือนกัน)



เริ่มครึ่งหลัง เกมยังคงเหมือนเดิม ยูไนเต็ดพยายามเปลี่ยนมาเล่นบอลฉาบฉวยมากขึ้น โดยการจ่ายบอลยาวให้กองหน้า พยายามออกบอลเร็ว แต่เกมเพรสซิ่งและการประกบคุมคนของดาร์บี้ยังแน่นหนามาก ไม่เปิดโอกาสให้ยูไนเต็ดได้ทำเกมง่ายๆเลย เตเวซกลิ้งเป็นลูกขนุนทุกครั้งที่ได้บอล เว็ลเบ็คยังคงเป็นมนุษย์ล่องหนเหมือนเดิม แต่แปลก ที่ดาร์บี้เปลี่ยนเกมก่อน โดยการส่ง แกรี่ ทีล ลงมาแทนสเตอร์ยอฟสกี้ แต่ไม่นาน ป๋าก็ขยับบ้าง หลังจากเห็นเกมยังไม่มีทีท่าจะดีขึ้น ด้วยการถอดเว็ลเบ็คออกตามคาด และส่งรูนี่ย์ลงมา พร้อมๆกับส่งโรนัลโด้ลงมาแทนสโคลส์ ที่ในวันนี้ ดูจะถูกเล่นงานจากสปีดของเขาที่ตกลงไปเยอะ

เกมหลังจากนั้นก็เริ่มดูดีขึ้นเล็กน้อย เมื่อโรนัลโด้ และรูนี่ย์สามารถเพิ่มมิติเกมรุกให้มากขึ้นได้ จากการลากเลื้อยของโรนัลโด้ และการเล่นบอลวันทัชของรูนี่ย์ ท่านเซอร์ขยับเอากิ๊บสันไปยืนกลางคู่แอนนี่ แล้วเอาโรนัลโด้มายืนริมเส้นแทน แต่นั่นต้องแลกด้วยหลายอย่างครับ เกมรุกในแดนหน้าดูดีขึ้น ดูวูบวาบและอันตรายขึ้น แต่เกมตรงกลางก็จะหายไป แอนนี่กับกิ๊บสันยังไม่ใช่ผู้เล่นที่สามารถคุมเกมได้ด้วยประสบการณ์เท่านี้ ยิ่งเจอเกมเพรสซิ่งเร็วยิ่งดูเหมือนทั้งคู่ต้องการรีบออกบอลมากขึ้น และเกิดข้อผิดพลาดมากขึ้น ทำให้เกมตรงกลางโหว่ไปเยอะ ยิ่งการชลอเกมโต้กลับของดาร์บี้ในจังหวะสวนนี่ยิ่งมันเลยครับ ดาร์บี้วิ่งสวนทางแบ๊คสองข้างกระจายเลย เพราะกองกลางรีบออกบอลมาก แบ๊คก็รีบเติมไปรับบอล พลาดปุ๊บก็โล่งโจ้ง ดาร์บี้สวนสนามกันขึ้นเลย


การแก้เกมในช็อตนี้ของดาร์บี้ เมื่อเจอโรนัลโด้และรูนี่ย์ก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากเพรสซิ่งเร็วขึ้น ไม่รู้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหนกันนะ และเพิ่มลูกหนักมากขึ้น ทำให้รูนี่ย์และโรนัลโด้เล่นได้ยากขึ้นไปอีก ท่านเซอร์ดูอยู่สิบนาทีก็ต้องเปลี่ยนอีกครั้ง ทีนี้ก็สมใจผม เพราะเอาคาร์ริคลงมาคุมเกมตรงกลางเสียที แต่ดันถอดแอนนี่ออกซะงั้น กลายเป็นคาร์ริคต้องจับคู่กิ๊บสันที่ดูเหมือนเป็นตัวโฮลด์บอลได้ดีทั้งคู่ ป๋าอาจตั้งใจที่จะลดดีกรีความน่ากลัวของเกมสวนกลับของดาร์บี้ครับ จึงตัดสินใจอย่างนั้น และอีกข้อก็คือ กิ๊บสันยังยิงไกลได้ดีกว่าแอนนี่เยอะ น่าจะช่วยในจังหวะจบสกอร์ได้มากขึ้น แต่ปัญหาของผมกลับกลายเป็นดูไม่ค่อยออกนี่สิครับ ว่าคนไหนเป็นคนไหน ท่าทาง บุคลิกทั้งคู่เวลาดูผ่านจอทีวี มันเหมือนกันจริงๆ

เกมตรงกลางสนามของยูไนเต็ดมีการปรับเล็กน้อยเมื่อคาร์ริคลงสนาม เราเน้นบอลยาวมากขึ้น เน้นการวางไปข้างหน้าให้ปีกและกองหน้าควบไปเอาบอลเพื่อหาช่องโจมตีต่อไป แต่ดาร์บี้ก็แก้เกมได้ดีครับ เมื่อประกบติดผู้เล่นยูไนเต็ดชนิดไม่ยอมให้ว่างสักวินาทีเดียว แม้แต่เวลาควบไปเอาบอล ยังสลัดไม่หลุด ผู้เล่นดาร์บี้วันนี้เร็วกันทุกคน เร็วชนิดยูไนเต็ดที่ว่าฝีเท้าจัดๆ ก็สลัดไม่หลุดสักราย แถมยังฟิตสุดๆ แรงดีไม่มีตก วิ่งประกบได้ตั้งแต่เริ่มเกมจนจบเกมเลย เล่นเอาลูกวางยาวของคาร์ริคและกิ๊บสันนั้น เสียเปล่าไปหลายลูก เพราะต้องให้น้ำหนักเผื่อมากขึ้นจากการที่ตัวรับบอลถูกประกบติดจนหลายครั้งเผื่อมากไปจนวิ่งไม่ทัน



เกมเมื่อเอาโรนัลโด้ลงมา ผลกระทบก็ลงที่นานี่เต็มๆครับ จากครึ่งแรกที่พอจะเห็นนานี่กระชากลากเลื้อยบ้าง ยิงไกลบ้าง นานี่ก็กลายเป็นมนุษย์ล่องหนไปอีกคนแทนที่เว็ลเบ็ค ยิ่งโรนัลโด้สลับฟากเล่น นานี่ยิ่งหายไปจากจอ และหายไปจนจบเกมนั่นเลย และข้อเสียของเกมนี้ที่พอมองเห็นอีกข้อก็คือ การประสานงานในช่วงที่โรนัลโด้และรูนี่ย์ลงมา ก็ไม่ได้ดีขึ้นมากนัก กลับมีปัญหาอย่างอื่นเพิ่มขึ้นมา ก็คือการออกบอลยากครับ ช่วงนี้ ผมเห็นมีรูนี่ย์คนเดียวเลย ที่พยายามเล่นบอลพาสซิ่ง แต่คนอื่นไม่สนใจ โรนัลโด้เอย นานี่เอย เตเวซเอย พยายามพาบอลแหวกไปเองตลอด ไม่รู้จะอะไรนักหนาสิครับ หลายจังหวะที่เพื่อนหาช่องได้แล้ว กลับไม่จ่ายให้กันเลย

ดาร์บี้เอง พอเข้าช่วงท้ายเกมก็ยังคงมีพิษสงอยู่เหมือนเดิม แนวรุกยังวิ่งได้ไม่มีหมด แถมยังเหลือแรงมากกว่าแผงหลังยูไนเต็ดอีกต่างหาก ยังโดดแย่งโหม่งได้ตลอด กลับเป็นแผงหลังยูไนเต็ดเสียอีก ที่เริ่มออกอาการโดดไม่ค่อยขึ้น ล้มแล้วลุกยากขึ้น เป๋ง่ายๆ รวมทั้งอาการที่เรียกว่า หมด จากหลายๆคน เช่นโอเช, เอแวนส์ และราฟาเอล ที่ปลายๆเกมเริ่มใช้ลูกปักหลักแหย่ขาสกัดถี่มากแทนที่จะใช้วิธีตามประกบปิดทางวิ่งเหมือนเดิม และหลายครั้งกลายเป็นความผิดพลาด ถูกสลัดหลุดเข้ามาบ่อยๆ ยังดีที่ดาร์บี้ไม่คม ไม่งั้นเราได้เห็นสกอร์ไหลแน่ๆ ก่อนหมดเวลา ดาร์บี้เปลี่ยนอีกสองคน และก็จบเกมไปด้วยชัยชนะของดาร์บี้ในเลกแรก




จบเกมนี้ลง ผมยังอยากมองในแง่ดีว่า เราแพ้แค่ลูกเดียวนี่ถือว่าโชคดีครับ โอกาสได้ประตูจะจะนั้นถ้าจะว่ากัน ดาร์บี้นี่มีมากกว่าเราเสียอีก ดีแล้วที่เสียแค่ประตูเดียว นัดหน้าเรายังมีโอกาสแก้มือในบ้านในวันที่ 20 มกราคม ซึ่งเราค่อยไปลุ้นอีกครั้งกันนะครับ

นอกจากนั้น ผมยังมองว่า เราเองขาดความมุ่งมั่น ขาดความกระหายในการเล่นไปมากกับเกมนี้ การเข้าปะทะ การเข้าแย่งบอล การเข้าถึงบอล ทั้งหมดมักจะช้ากว่าผู้เล่นดาร์บี้ครึ่งก้าวถึงหนึ่งก้าวเสมอๆ และผมเองยังไม่ค่อยอยากเชื่อสายตาตัวเองเลยว่า ผู้เล่นเราทุกๆคน ไม่สามารถวิ่งแซงผู้เล่นดาร์บี้ได้เลยสักครั้งในแต่ละจังหวะที่ต้องวิ่งแข่งกันไปในเกมนี้ ไม่ว่ารูนี่ย์, โรนัลโด้, นานี่ หรือราฟาเอล ที่ว่ากันว่า เร็วจัดๆก็พ่ายกันทั้งนั้น การบังบอล การครอบครองบอลที่เคยเหนียวแน่น ก็กลับถูกบดบี้แย่งไปได้ง่ายๆหลายครั้งจากแอนนี่ จากสโคลส์ จากเตเวซ รวมทั้งการที่แผงหลังหลุดสมาธิบ่อยๆจนวิดิชต้องโมโห ถ้าเกมนี้ไม่ได้วิดิชกระตุ้นอยู่ตลอด ผมว่าตายแน่ๆ



เครดิตทั้งหมดในชัยชนะ สมควรถูกยกให้ผู้เล่นดาร์บี้ทุกๆคน ที่สามารถยืนหยัดซดกับยูไนเต็ดได้อย่างสุดมัน และไม่ได้เล่นรับลึกเหมือนทีมอื่นๆ ในขณะที่ยูไนเต็ดเองก็สมควรถูกตำหนิที่เล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานตัวเองไปมาก ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด ถึงแม้จะมีบิ๊กแมตช์รออยู่ในอีกไม่กี่วัน แต่การหลุดสมาธิและความมุ่งมั่นแบบนี้ หากเกิดขึ้นหลายๆครั้ง มันก็ส่งผลกระทบต่อจิตใจได้เช่นกัน

มองในแง่ดีอีกครั้ง ก็ถือว่าโชคดีครับ ที่ just another day-off นี้ มาเกิดในเกมที่มีโอกาสแก้ตัวอีกครั้ง หากไปเกิดในเกมที่แพ้ตกรอบเลยก็คงเศร้า หรือเกิดในพรีเมียร์ลีก เราอาจหมดโอกาสไล่ตามจ่าฝูงได้ง่ายๆ ดังนั้นเมื่อหลุดไปในเกมนี้ ก็ถือว่ายังดี และต้องรีบเรียกสมาธิกลับคืนมาให้ได้ และต้องพร้อมสุดขีดด้วย หากคิดจะเก็บสามแต้มจากบิ๊กฟิลในคืนวันอาทิตย์นี้ครับ



(เครดิต: //www.manutd.com)


อย่าลืมเอาใจช่วยนะครับ
สงบใจ




 

Create Date : 08 มกราคม 2552
0 comments
Last Update : 8 มกราคม 2552 10:00:59 น.
Counter : 450 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สงบใจ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add สงบใจ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.