สวัสดีค่าา
สำหรับวันนี้เราก็จะพาไปกินและดื่มที่ร้าน ณ ร้าน Hot Rod ที่พาร์คเลนเอกมัยนั่นเองหละค่ะ โดยการไปครั้งนี้ก็เกิดจากบล็อกเกอร์ คุณ Ontcu (อิชั้นสะกดล็อกอินคุณถูกมั้ยเนี่ย ฮา) ซึ่งเป็นเพื่อนบล็อกที่เจอกันบ่อยตามงานของโอเพิ่นไรซ์ ทำการนัดหมายให้เป็นบล็อกเกอร์ปาร์ตี้กันเมื่อวันศุกร์ที่ 17 ที่ผ่านมานั่นเองหละฮับ โดยของสายบล็อกแกงค์ก็จะมีเรา คุณเบนซ์และชื่นค่ะ แต่นอกนั้นจะเป็นบล็อกเกอร์เว็บอื่นกันนะฮับ หลายคนก็คุ้นหน้ากันหละค่ะ อย่างคุณเมเม่ คุณเหมียวจาก nanareview พี่แหม่ม ณ วงในเป็นต้นค่ะ
โดยการไปครั้งนี้เค้านัดกันที่ 18.30 น.ค่ะ เราก็เอารถไปเองอีกเช่นเคยนะคะ ลงทางด่วนตรงสุขุมวิท 50 จากนั้นก็วิ่งเส้นสุขุมวิท แต่ไปติดที่แยกเอกมัย (ที่จะเลี้ยวขวาเข้าเอกมัยน่ะค่ะ) อยู่ 45 นาที คือ ไม่ปล่อยไฟแดงให้เลี้ยวเลยอะค่ะ งงมาก เลยกว่าจะไปถึงก็ 19.45 น.แล้วค่ะ เค้ากินกันจะอิ่มแล้ว แงๆ เพราะงั้นรีวิวอาจจะไม่ครบถ้วนเหมือนคนอื่นเค้านักนะคะ แหะๆ
ร้าน Hot Rod จะอยู่ในโครงการพาร์คเลนเลยค่ะ ถ้ามาจากทางสุขุมวิท เลี้ยวเข้าเอกมัยมา สังเกตทางซ้ายมือจะเจอปั๊มเอสโซ่ โครงการนี้จะอยู่ติดกับปั๊มเอสโซ่เลยค่ะ (อย่าเชื่อ google map ค่ะ มันบอกให้ไปทางขวาคนละฝั่งเลยซะงั้น เหอๆ) มีอาคารจอดรถ โดยต้องวิ่งไปทางด้านหลังของโครงการนะคะ เอารถขึ้นไปจอดได้ค่ะ แต่ต้องประทับตราจากทางร้านนะคะ ถึงจะไม่เสียค่าใช้จ่าย
ส่วนตัวของร้าน จะอยู่ตรงข้ามกับร้านโอมุเลยค่ะ หน้าตาร้านก็ตามภาพนี้เลยฮับ
ส่วนนี่เป็นเมนูแรกที่ได้ถ่ายค่ะ หอยลายต้มโบราณ ราคา 150 บาทค่ะ
ถ่ายแต่ไม่ได้กินนะคะ ฮาา แต่มีนักชิมที่นั่งฝั่งพี่แหม่มบอกว่าต้องกินกับเครื่องดื่มอีกตัวคือ สุขุมวิท 63 เป็นค็อกเทล จะช่วยส่งรสขึ้นนะคะ
เมนูค่ะ จะเห็นว่าเบลอมาก เพราะแสงน้อยมาก แต่ที่ถ่ายอาหารจานแรกไป (และจานอื่นๆ ต่อไปอีกบางจาน) แล้วแสงดูดีนี่เป็นเพราะเครื่องมือไฟจากคุณเหมียวกับคุณเบนซ์ค่ะ เล่นเอาอยากหาซื้อบ้างเลยทีเดียว สะดวก ภาพออกมาสวยงามมากๆ อ้ะ
ส่วนราคาอาหารก็ปกติของร้านประมาณนี้หละนะคะ
ส่วนอันนี้เป็นเครื่องดื่มของคุณเหมียว แต่ก็ได้ชิมด้วยค่ะ ชื่อ Eastern Candleค่ะ รสชาติออกแนวกะทิอบควันเทียน แต่มีรสเปรี้ยวตาม ซึ่ง..แปลก และเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อค่ะ อร่อยแบบเก๋ๆ อ้ะ
ต้มยำแห้งซี่โครงหมูค่ะ ตัวนี้เนื้อนิ่มล่อนเปื่อยดีมากค่ะ เครื่องค่อนข้างโปะมาจัดเลยค่ะ ทำให้แม้ตัวเนื้อหมูจะรสไม่ชัด แต่เครื่องก็ช่วยชูรสได้ดีขึ้นค่ะ เก๋ดี
ต่อไปเป็นเครื่องดื่มค่ะชื่อสาวยาคูลท์ จะมีสองแบบ ถ้าเวอร์จิ้น จะไม่มีแอลกอฮอล์ แล้วก็แบบมีแอลกอฮอล์นะคะ ตัวรสชาติ จะเป็นยาคูลท์ผสมแตงกวาค่ะ มีกลิ่นและรสแตงกวาจางๆ เข้ากันพอควร แต่ไม่ว้าวสำหรับเรานะคะ ตอนดื่มแรกๆ โออยู่แ่พอหายเย็นแล้ว ปลายๆ จะมีกลิ่นเหม็นเขียวหรือกลิ่นแตงกวาแหละค่ะชัดขึ้นนะคะ
เมนูต่อไปค่ะกับยำข้าวปุ้น ตัวนี้มีกลิ่นปลาร้าอยู่จางๆ นะคะ คือมันกรุ่นๆ มาแต่ไม่ชัดอะค่ะ รสชาติออกแนวซับซ้อนอะค่ะ ปนๆ กันหลายรสอยู่ แต่รสทั้งหมดไม่ค่อยโดนสำหรับเรา จานนี้เราเลยไม่ค่อยโปรดเท่าไหร่ แหะๆ แต่ก็เห็นบางคนชอบอยู่นะคะ ปลาบปลื้มหลายคนอยู่ แต่ไม่ถูกปากเราอะค่ะ
เบียร์ของหนุ่มๆ ค่ะ มีให้เลือกตามภาพเลยนะคะ เผื่อใครเป็นคอเบียร์ แฮ่...
จากนั้นทางคุณภัคก็ได้พาคุณตี๋ ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าของร้านนี้มาคุยค่ะ คุ้นกันมั้ยคะ คุณตี๋ เดอะวอยซ์นั่นเอง (เราน่ะไปช้า สาวๆ บล็อกเกอร์คนอื่นนี่ได้ถ่ายรูปกับคุณตี๋ไปหมดแล้วววว มีแต่เราอ้ะที่อด แงๆ 
) แสงน้อย เลยเบลอหน่อยนะคะ
อ้อๆ วันนั้นไม่ได้ฟังคุณตี๋ร้องเพลงหรอกนะคะ เพราะคุณตี๋น่ะ มีคิวร้องเพลงที่ The Iron Fairies ค่ะ เสียดายเหมือนกัน แต่เอาไว้ไปใหม่ ฮาา
เมนูต่อไปค่ะ ไก่ทอดน้ำพริกส้ม
ตัวไก่ทอดทอดมาได้กรอบและใช้น้ำมันโอเคค่ะ เนื้อยังฉ่ำอยู่ด้วย แต่รสชาติเค็มนำไปนิดหนึ่งอะค่ะ
มีคนแนะนำให้เอาเมนูนี้กินคู่กับยำข้าวปุ้น แต่เราว่า...ไม่ส่งรสกันเท่าไหร่นะคะ แหะๆ เราว่ากินแยกเวิร์คกว่าค่ะ
ต่อไปค่ะกับแซลมอนอบน้ำปลา โดยตัวเครื่องที่ชอบมากคือใช้พริกขี้หนูสวนค่ะ ทำให้มีกลิ่นหอมพริกและรสจัดจ้านขึ้นค่ะ แต่จานที่เรากิน ตัวแซลมอนมันสุกไปง่ะ ซึ่งเพื่อนบล็อกเกอร์อีกคนที่เชียร์เค้าก็เลยขอชิม เค้าก็บอกว่า ของเราสุกไปจริงๆ ด้วย แต่เพื่อนคนที่เชียร์บอกว่าตอนจานของเค้าไม่สุกขนาดนี้อะค่ะ
ต่อไปค่ะกับเนื้อรมควันน้ำพริกข่าค่ะ
ตัวนี้เนื้อนิ่มละลาย อร่อยมากกกกกกค่ะ ชอบความนิ่มของเนื้อ แม้รสจะไม่ชัด แต่ก็มีกลิ่นจางๆ ของการรมควัน กินเปล่าๆ ก็อร่อยนะคะ แล้วถ้ากินกับน้ำพริกข่าก็จะอร่อยอีกแบบค่ะ มันจะเพิ่มกลิ่นและรสมากขึ้นค่ะ
จานต่อไปค่ะ น้ำพริกไข่เค็มมะเขือยาว เมนูนี้แนะนำวิธีกินก่อนเลยค่ะ ควรใช้ช้อนตักทั้งหมดกินนะคะ เพราะถ้าใช้ส้อม มันจะแยกออกจากกันฮ่ะ รสชาติตัวนี้จะมีเผ็ดตามท้ายค่ะ เครื่องมาเต็มดี รสสัมผัสในปากเวลากินหลากหลายดีค่ะ ทั้งความเด้งของเนื้อกุ้ง ความนุ่มนิ่มของมะเขือยาวค่ะ เมนุนี้ได้ความแปลก แต่ตัวรสชาติเฉยๆ นะคะ
ต่อไปค่ะกับเมนูน้ำพริกกุ้งเสียบเต้าหู้ค่ะ ตัวนี้แปลกดีค่ะ (เราว่าจุดเด่นมากๆ ของที่นี่คือความครีเอทนี่แหละค่ะ ดูจากทุกเมนูที่ผ่านมาละกันค่ะ) แต่รสชาติตัวเต้าหู้กับน้ำพริกกุ้งเสียบมันตัดกันเกินไป ทำให้รสชาติโดดและ contrast กันอย่างชัดเจนค่ะ เราเลยไม่ได้โปรดเท่าไหร่ แต่ถ้าใครชอบอะไรที่รสชัดๆ ตัดกันๆ ก็คงชอบเมนูนี้อะนะคะ
เมนูนี้ค่ะ กับพระเอก/นางเอกของงานนี้เลย เรียกได้ว่าบางคนบอกว่า แค่มาร้านนี้กินเจ้านี่ก็คุ้มแล้ว ฮาา กับขนมวงค่ะ
ตัวขนมวงเนื้อหนุบหนับเหนียวนุ่มเคี้ยวมันมากๆ ค่ะ ตัวน้ำตาลเคี่ยวที่ราดมาก็มีกลิ่นหอมอ่อนๆ หวานกำลังดีค่ะ เป็นหนึ่งจานที่อร่อยมากๆ รสชาติดีค่ะ จานนี้สั่งเบิ้ลกันหลายรอบมากๆ ค่ะ อร่อยสุดๆ อ้ะ
ขนมหวานอีกอย่างค่ะกับปาท่องโก๋ห่อกล้วย ปาท่องโก๋กรอบนอก มีรสกล้วยที่อยู่ตรงกลาง รสชาติค่อนข้างเข้ากันนะคะ แต่มันก็ทั่วไปไม่ได้ว้าวอะค่ะ อร่อยแต่ไม่ได้เด่น อาจจะเป็นเพราะได้กินขนมวงมาก่อนหน้านี้ด้วย ซึ่งมันเด่นมาก ประทับใจมาก พอเจอจานนี้เลยเฉยๆ อะค่ะ แฮ่...
ของหวานจานสุดท้ายแล้วค่ะกับข้าวเหนียวมะม่วง ตัวนี้เป็นอีกจานที่เราไม่ได้ชิม (เห็นสั่งเพิ่มไปอีกสาม แต่ไม่ยักมาถึงเราง่ะ หรือว่าไม่มาเลยก็ไม่รู้ค่ะ) แต่คนที่กินกันบอกว่าข้าวเหนียวอร่อยมากๆ มูลได้พอดีค่ะ แต่มะม่วงเนื่องจากเป็นนอกฤดูค่ะ ก็เลยค่อนข้างเปรี้ยวอะค่ะ
ปิดท้ายร้านนี้ด้วยภาพหมู่ของบล็อกเกอร์ที่ไปทั้งหมดค่ะ 
ต่อไปจะเป็นการพาไปดูอีกร้านนะคะ ซึ่งอยู่ติดกับร้านนี้เลยและคนออกแบบคนเดียวกันกับร้านนี้ค่ะ ขอบอกว่า สุดยอดมากๆ น่านั่ง มีสไตล์สุดๆ ค่ะ แถมยังกลั่นเหล้าเองอีกต่างหาก ซึ่งจะมีขายในอีกราวหนึ่งเดือนนะคะ (แบบว่าเพิ่งได้ใบอนุญาต เหอๆ) นั่นก็คือร้าน Iron Balls นั่นเองหละค่าา 
ถ้าหันหน้าเข้าร้าน Hot Rod ร้าน Iron Balls จะอยู่ทางขวามือตามภาพเลยนะคะ เปิดเที่ยงวันถึงเที่ยงคืน และเปิดทุกวันค่ะ
เข้าไปโซนแรกปุ๊บ ก็จะเจอส่วนที่เป็นที่กลั่นเหล้าเลยค่ะ (หรือแค่จำลองหว่า) แต่ที่ชัดเลยค่ะคือกลิ่นเหล้าฟุ้งไปทั่วทั้งร้านเลยค่ะ เปรี้ยวปากกันเป็นทิวแถวเลยทีเดียว
ผ่านจากโซนแรกไป ก็เดินเข้าประตูไป เลี้ยวซ้ายไปก็จะเป็นโซนของที่นั่งอินดอร์แล้วค่ะ จะเจอเคาน์เตอร์อยู่ตรงกลางก่อน ส่วนที่นั่งด้านขวากับซ้ายก็ตามภาพเลยค่ะ สวยมากกกกกกกปลาบปลื้มมากกกกกกก มีแต่คนบอกว่า เอาไว้หาเวลามานั่งดื่มดีกว่า ฮาา
เราชอบการตกแต่งที่นี่มากๆ เลยค่ะ อาร์ตมั่กๆ สวยงามน่านั่ง ขนาดไม่ใช่ขาดื่มและขาเที่ยว ยังอยากมานั่งเลยอะค่ะ แค่มานั่งเอาบรรยากาศก็พอแล้ว (สงสัยต้องชวนเพื่อ่นขาดื่มมานั่งอะค่ะ แฮ่...)
ส่วนขวดแก้วเก๋ๆ ในรูปล่างนี่ คุณภัคบอกว่าจะเป็นขวดสำหรับบรรจุเหล้ากลั่นเองของที่นี่ที่กำลังจะขายหละค่ะ ขวดก็เก๋เนาะ น่าเก็บสะสมอ้ะ
ถ่ายย้อนกลับไปที่ทางเดินเข้ามาโซนนี้ค่ะ (ถ่ายย้อนไปจากเคาน์เตอร์บาร์อะนะคะ) ตกแต่งมากมายจริงๆ คุณตี๋บอกด้วยว่า พวกของประดับหลายๆ อย่างที่เป็นงานฝีมือที่คนออกแบบทำเองด้วยนะคะ ศิลปินมากมายอ้ะ
จะเห็นว่าร้านนี้ไม่ได้มีที่นั่งเยอะมากนักนะคะ นอกจากโซนอินดอร์แล้วก็มีเอาท์ดอร์อีกไม่กี่ที่นั่งเองหละค่ะ ค่อนข้างจำกัดจำนวนลูกค้าอยู่เหมือนกันค่ะ แต่ก็ทำให้ไม่พลุกพล่านวุ่นวาย มีความเป็นส่วนตัวในระดับหนึ่งเลยหละค่ะ
ปิดท้ายรีวิวนี้ด้วยภาพต้นปาล์มที่อยู่โซนเอาท์ดอร์หน้าร้านค่ะ สวยมากๆ อ้ะ ตรงบริเวณนี้จะมีโต๊ะสำหรับสองที่นั่งอยู่ตัวหนึ่งนะคะ แฮ่...
โดยสรุปสำหรับร้านนี้นะคะ เราว่าที่เก๋และต้องชมเลยคือเรื่องของการครีเอท นำโน่นมาผสมกับนี่หละค่ะ ซึ่งก็มีทั้งเครื่องดื่มและอาหารที่เรียกได้ว่าเป็นอัตลักษณ์ที่แตกต่างจากที่อื่นอย่างค่อนข้างชัดเจนค่ะ ซึ่งการดัดแปลงดังกล่าวนี่บางอย่างก็ค่อนข้างลงตัว แต่บางอย่างก็อาจจะยังไม่ค่อยโดนนักนะคะ และเรื่องของการจัดพรีเซนเตชั่นของอาหารออกมาที่เราว่าค่อนข้างโอเคเลยค่ะ เป็นงานอาร์ทอาหารทางตาได้อย่างหนึ่งเลย ตรงนี้ขอชมค่ะ
การให้คะแนน (ความคิดเห็นส่วนตัวสุดๆ นะคะ)
รสชาติ ขนมวง A / Easten Candle B+ / เนื้อรมควันน้ำพริกข่า B++ /
ต้มยำแห้งซี่โครงหมู B+ / ยำข้าวปุ้น B /
ไก่ทอดน้ำพริกส้ม B / แซลมอนอบน้ำปลา B / สาวยาคูลท์ (เวอร์จิ้น) B / น้ำพริกไข่เค็มมะเขือยาว B / เต้าหู้น้ำพริกกุ้งเสียบ B
วัตถุดิบ B+
การบริการ B+
บรรยากาศ A
ราคา B
ความสะอาด B+
ความคุ้มค่า B+
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ
1,469,696+2516912=3974716/11684/981
ป.ล. เอนทรี่นี้เราแปะปฏิทินธรรมไม่ได้ เพราะเกินกำหนด 50000 ตัวอักษร (อย่างงง ไม่น่าจะถึง ระบบมันนับรูปเป็นกี่ตัวอักษรฟระเนี่ย) รบกวนไปดูจากเอนทรี่ที่แล้วนะคะ ขออภัยค่ะ
) แสงน้อย เลยเบลอหน่อยนะคะ 
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 202 คน [
