“ในฐานะนักทำหนังคนหนึ่ง ผมปฏิบัติกับหนังของผมประดุจลูกชายและลูกสาว เมื่อผมให้กำเนิดเขา พวกเขาก็มีชีวิตเป็นของตนเอง ผมไม่ใส่ใจว่าผู้คนจะรักหรือเกลียดลูกของผม ตราบใดที่ผมสร้างเขาขึ้นมาด้วยความตั้งใจและความพยายามอย่างสูงสุด ถ้าลูกๆ ของผมไม่สามารถอาศัยอยู่ในประเทศของเขาเองไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอันใดก็ตาม ก็ปล่อยเขาเป็นอิสระเถิด เพราะมันยังมีพื้นที่อื่นๆ ที่ต้อนรับเขาอย่างอบอุ่นในแบบอย่างที่เขาเป็น มันไม่มีเหตุผลเลยที่ต้องทำให้พวกเขาพิกลพิการจากระบบแห่งความกลัวหรือความละโมบ มิฉะนั้นแล้วมันก็ไม่มีเหตุผลอันใดที่คนสักคนหนึ่งจะสร้างงานศิลปะต่อไป”
-- อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล
(คำปรารภหลังจาก "แสงศตวรรษ" ผลงานภาพยนตร์จากผู้กำกับคนไทย พูดภาษาไทย ใช้ดาราคนไทย ถูกกองเซนเซ่อประเทศไทยบังคับให้ตัดฉากสำคัญ 4 ฉากออกหากต้องการฉายในโรงภาพยนตร์ของประเทศไทย)




“ผมคิดว่าพระกลุ่มนี้โดนจี้จุดจึงร้อนตัวเกินไป หรือเป็นพวกอยากดัง จึงต้องทำตัวเป็นข่าว อยากถามว่าทำไมไม่ไปเรียกร้องหรือแก้ปัญหาพระที่ออกมาแก้ผ้า มั่วสีกา หรือใช้มีดกรีดร่างกาย หลอกลวงประชาชน ทั้งนี้หากจะฟ้องก็ยินดีให้ฟ้องได้ทุกศาล หรือว่าจะไปฟ้องจตุคาม ศาลเจ้าแม่กวนอิม พระอินทร์ พระอิศวร ก็เชิญ ผมไม่สนใจ แต่เห็นว่าพระกลุ่มนี้ไม่เหมาะสมในสมณะ และเป็นพระหน้าเดิมที่ออกมาเดินขบวนเรียกร้องการบรรจุพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ”
-- ถวัลย์ ดัชนี
(คำตอบโต้ภายหลังกลุ่มพระสงฆ์ที่ชุมนุมประท้วง ขู่ฟ้องคดีอาญาต่ออธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร นายอนุพงษ์ผู้วาดภาพภิกษุสันดานกาและหมานุษย์ และคณะกรรมการที่ตัดสินรางวัลศิลปกรรมแห่งชาติ ในข้อหาหมิ่นศาสนา)
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2550
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
30 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 
รวม Review ภาพยนตร์ที่ได้ดูในเดือนมิถุนายน 2550


First Love aka Hatsu Koi
(ญี่ปุ่น, Hanawa Yukinari, 2006)


- 3 ส่วน 4 เรื่องแรก ไม่มีความจำเป็นเลยแม้แต่น้อย น่าเบื่อ เพราะใจความสำคัญของหนังอยู่แค่ตอนหลังที่เริ่มปฏิบัติการปล้นเพื่อสั่นสะเทือนรัฐบาลและหน่วยงานยุติธรรมเท่านั้น
- Miyazaki Aoi เรื่องนี้จะว่าสวยก็สวย แต่ว่าชอบยิ้มแบบไม่เต็มปาก (อืม... เข้าใจว่าเป็นที่บท) ไม่สวย - -*




Shrek the Third
(สหรัฐอเมริกา, Chris Miller+Raman Hui, 2007)


- ความเป็น Shrek หายไปเยอะมาก เพราะตามปกติแล้ว Shrek ต้องล้อเลียนเทพนิยาย จิกกัดแขวะให้ไส้ทะลัก แต่ว่าภาคสามนี้ดันทำตัวเป็นเทพนิยายน้ำเน่าซะเอง




Crazy Stone aka Fengkuang de Shitou
(จีน+ฮ่องกง, Ning Hao, 2006)


- บทหนังกวนตีนดี แย่งของกันไปแย่งของกันมา
- ถ้ามองลึกๆ หนังเสียดสีคนจีนพอสมควรอยู่... โดยเฉพาะการที่ให้ของที่แย่งกันไปแย่งกันมานั้นคือ "หยก" ลองคิดเล่นๆ ว่าหนังมันจะสื่อว่าคนหลายกลุ่มพยายามอ้างว่า "กูคือจีน" หรือเปล่า (ทั้งรัฐบาลเผด็จการ ฟาหลุนกง และอื่นๆ) แต่เนื้อเรื่องตรงที่สลับหยกจริงหยกปลอมแล้วไม่มีใครรู้ น่าจะเสียดสีว่าเอาเข้าจริงแล้วก็ไม่มีใครรู้จัก "ความเป็นจีน" แท้จริงซักฝ่าย




Conan the Movie: Captured in Her Eyes
(ญี่ปุ่น, Kadama Kenji, 2000)


- หน้าหนังน่าสนใจ แต่ดูไปๆตอนจบจืดชืด ไม่สมกับเป็นโคนัน




Conan the Movie: The Phantom of the Baker Street
aka Meitantei Conan: Baker Street no bourei
(ญี่ปุ่น, Kodama Kenji, 2002)


- นอกเหนือจากการเป็นการ์ตูนนักสืบ เรื่องนี้ยังสอดแทรกการวิพากษ์สังคมญี่ปุ่นในองค์รวมเข้ามาได้ไม่แย่นัก




พลอย
(ไทย, เป็นเอก รัตนเรือง, 2550)


- หนังดีสำหรับคนมีสมาธิ ถ้าตามเรื่องไม่ทันหรือหลุด ก็จะนั่งเอ๋อต่อไปจนจบเรื่อง 555+
- สายป่าน + หมิว = ชนะเลิศ
- อะไรจริงอะไรฝัน ขี้เกียจคิดแล้ว ใครอยากรู้อยากพิสูจน์ก็ดูเองคิดเองจัดการสมองตัวเองก็แล้วกัน




Ocean's Thirteen
(สหรัฐอเมริกา, Steven Soderbergh, 2007)


- ฮาดี...
- Ellen Barkin หน้าเหมือน Cameron Diaz ไม่รู้จงใจเสียดสีอะไรหรือเปล่า 555+




La vie en Rose aka La Môme
(ฝรั่งเศส+สหราชอาณาจักร+สาธารณรัฐเช็ค, Olivier Dahan, 2007)


- Marion Cotillard เอาใจไปเลย โดยเฉพาะลองเทค "จากสุขเป็นโศก" ช่วงเกือบท้ายเรื่อง
- ถ้าเปลี่ยนคนเล่นเป็นคนอื่นไม่แน่อาจจะน่าเบื่อ เพราะว่าหนังก็ออกแนวดราม่าชีวประวัติธรรมดาๆ




Conan the Movie: Countdown to Heaven
(ญี่ปุ่น, Kodama Kenji, 2001)


- ขายจอมโจรคิด...




The Passenger aka Le Passager
(ฝรั่งเศส, Eric Caravaca, 2005)


- เรื่องนี้ตายคาโรงไปครึ่งเรื่อง ยังกะดู Invisible Waves




Borat: Cultural Learnings of America for Make Benefit Glorious Nation of Kazakhstan
(สหรัฐอเมริกา, Larry Charles, 2006)


- หนังฮาแบบบัดซบ สถุลยิ่งกว่าไพร่ ไม่เกรงใจใครบนโลก
- แม้ว่าตัวละคร Borat จะทั้งลามก สถุล เหยียดเพศ เหยียดเชื้อชาติ พฤติกรรมต่ำทราม แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าบุคคลในโลกแห่งความเป็นจริงบางคนที่พฤติกรรมไม่ได้ออกมาต่ำทรามแบบใสซื่อเหมือน Borat หากแต่ใส่หน้ากากผู้ดีว่ากูไม่ได้เป็น (ในเรื่องเองก็มีไม่น้อยนักหรอก โดยเฉพาะไอ้คนนึงที่บอกให้ Borat ไปโกนหนวด เพียงเพราะว่ามันดูเหมือนพวกอาหรับ!!)
- อีกอย่างที่ Boratฯ แสดงออกได้ชัดเจนคือความโลกแคบของคนอเมริกัน ผู้ทำหน้าขยะแขยงทันทีที่ได้ยินว่าคาซัคสถานเป็นอย่างนั้นอย่างนี้จากปาก Borat โดยไม่ไตร่ตรองเลยว่ามันจะมีประเทศห่าอะไรที่สุดโต่งได้ขนาดนั้น ประเภทที่ว่าเอาผู้หญิงขังไว้ในกรง ส่งออกขนเพชรเป็นรายได้หลักเนี่ย!!!




Immortal aka Immortel (Ad Vitam)
(ฝรั่งเศส+อิตาลี+สหราชอาณาจักร, Enki Bilal, 2004)


- หนังเนื้อเรื่องล้ำดี แต่ไม่ชอบส่วนอนิเมชั่น มันดูแข็งๆ ห่วยๆ - -*
- ชอบอีกอย่างตรงที่หนังมันเสียดสีสังคม (โดยเฉพาะ "อเมริกา") แม้ว่าเวลาผ่านไปเป็นร้อยปี อเมริกาก็ยังแสแสร้งว่ากูคือศูนย์รวมวัฒนธรรม กูไม่แบ่งแยก (สังเกตจากป้ายหลากภาษาทั้งเรื่อง) แต่ว่ากฎหมายกลับแบ่งแยกประเภทความเป็นคนเหมือนสมัยก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรม




สวยลากไส้ aka Sick Nurses
(ไทย, ทศพล ศิริวิวัฒน์+พีระพันธ์ เหล่ายนต์, 2550)


- หนังบ้า โรคจิต คนไทยไม่เคยมีใครทำ
- ผู้หญิงเยอะ แต่บทเด่นแค่ 2 คน
- ชลลี่ กับ โอซา น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกก... เลิศ!!
- ชอบเป็นบ้าเป็นหลังกับการที่หนังเล่นกับเวลาแค่ 30 นาที เหอๆๆ...
- ชอบแบบไม่มีเหตุผล




The Page Turner aka La Tourneuse de Pages
(ฝรั่งเศส, Denis Dercourt, 2006)


- โรคจิตดี แต่ตอนจบง่ายไปหน่อย
- ตานางเอกน่ากลัวมาก T T




Notes on a Scandal
(สหราชอาณาจักร, Richard Eyre, 2006)


- เชือดเฉือนกับแบบเอาให้ตายไปข้าง ทั้ง Cate Blanchett และ Judi Dench
- แต่คนที่น่าอิจฉาที่สุดในโลกคือ Andrew Simpson ที่ดันได้เล่นฉากเซ็กส์ซีนกับนางฟ้าเคต!!!
- ขออนุญาตตั้งชื่อไทยว่า "ครูเย่อนักเรียน กับ อีเลสเบี้ยนโรคจิต"




Fracture
(สหรัฐอเมริกา, Gregory Hoblit, 2007)


- ไม่สนุก ไม่สุดซักทาง ใช้นักแสดงไม่คุ้ม น่าเบื่อ



Firewall
(สหรัฐอเมริกา+ออสเตรเลีย, Richard Loncraine, 2006)


- ตอนจบง่ายไปหน่อย ดูได้พอเพลินๆ




Dying for Drugs
(สหราชอาณาจักร, Brian Woods+Michael Simkin, 2003)


- ชอบที่หนังเอาเรื่องเกี่ยวกับบริษัทยาในแต่ละประเทศมานำเสนอ ทั้งไนจีเรีย แคนาดา ฮอนดูรัส เกาหลีใต้ มีทั้งบริษัทยาโขกราคายาแพงหูฉี่จนคนจนไม่มีเงินซื้อ ไปถึงใช้อำนาจเงินกดดันศาสตราจารย์ที่ตรวจเจอผลข้างเคียงอันตรายในยาที่กำลังมีแววจะทำเงิน




The Embalmer aka L'Imbalsamatore
(อิตาลี, Matteo Garrone, 2002)


- หนังมาสนุกตอนท้ายๆ ตอนแรกๆน่าเบื่อจนวูบหลับไปเป็นช่วงๆ - -*




The Consequences of Love aka Le Consequenze dell'Amore
(อิตาลี, Paolo Sorrentino, 2004)


- เริ่มเรื่องง่วงๆ วูบนิดๆ แต่พอดูจบแล้วชอบแบบไม่มีเหตุผล




Children of Men
(ญี่ปุ่น+สหราชอาณาจักร+สหรัฐอเมริกา, Alfonso Cuarón, 2006)


- ลองเทคแอคชั่นในเรื่องนี้เจ๋งสะเด็ดสะเด่ามากๆ... ตอนนั่งดู พอรู้ตัวว่า "เฮ้ย.. นี่แม่งลองเทคนี่หว่า เจ๋งโคตร" แล้วก็กรอกลับไปดูตั้งแต่เริ่มฉากใหม่
- "อนาคต" ในหนังเรื่องนี้เป็นอะไรที่บัดซบมาก ซกมก สกปรก โทรม เละเทะ อาชญากรรมเกลื่อน ศีลธรรมทราม ความโมเดิร์นทางวัตถุไม่ได้ช่วยอะไรเลยจริงๆ
- ดูแล้วเศร้ากับ "ความเห็นแก่ตัว" ของคนแต่ละฝ่าย ทั้งๆที่มีของที่โลกในเวลานั้นต้องการเป็นที่สุด แต่แทนที่แม่เด็กจะมีชีวิตที่ดีขึ้นกลับต้องมาหนีหัวซุกหัวซุน เพราะแต่ละคนก็ต้องการเด็ก แต่ละฝ่ายต่างก็ต้องการใช้เด็กเป็นเครื่องมือสร้างความชอบธรรมและชื่อเสียงให้ตัวเอง
- นักแสดงทุกคนทั้งชื่อดังและโนเนม เล่นได้เจ๋งสุดๆ




The Last King of Scotland
(สหราชอาณาจักร, Kevin MacDonald, 2006)


- เป็นหนังการเมืองที่น่าเบื่ออย่างไม่น่าเชื่อ หนังพูดถึงจอมเผด็จการที่เนื้อเรื่องสร้างเป็นหนังได้ไม่ยากนักแค่ผิวเผิน ไม่มีมิติ และน่ารำคาญ
- Forest Whitaker ได้ออสการ์ไปก็ไม่น่าเกลียด แต่ในใจ จขบ. ดูเรื่องนี้จบแล้วอยากให้ Peter O'Toole จาก Venus ได้ไปมากกว่า




The Golden Door aka Nuovomondo
(อิตาลี+เยอรมนี+ฝรั่งเศส, Emanuele Crialese, 2006)


- ชอบครึ่งชั่วโมงสุดท้ายมาก หนังวิพากษ์สังคมสมัยใหม่ผ่านตัวละครชาวบ้านธรรมดาได้ถึงแก่น
- ติดอยู่ตรงที่ว่าประเด็นสำคัญของหนังมันอยู่แค่นั้น เวลาเกือบสองชั่วโมงก่อนหน้านี้แทบจะเรียกได้ว่าเสียเวลาเปล่า ให้กูมานั่งหลับในโรงหนังเพื่ออะไรไม่ทราบ
- ชอบการสื่อสัญลักษณ์ "ทะเลน้ำนม" กับ "ผักยักษ์" มันสื่ออะไรได้หลายอย่างดี แล้วก็ตรงตามประเด็นของหนังในท้ายที่สุด




I Not Stupid aka Xiaohei bu ben
(สิงคโปร์, Jack Neo, 2002)


- จริงๆเคยดูพากย์ไทยเมื่อหลายปีก่อน คราวนี้ได้ดูเวอร์ชั่นเสียง Singlish แบบยาวๆเต็มเรื่องซะที ถือว่าเรื่องนี้มีสิทธิ์เข้าประกวดใน Nanoguy Awards 2007 ด้วย...
- หนังเรื่องนี้ควรเอาไปให้พวกผู้กำกับหนังตลกไทยส่วนใหญ่ดู จะได้รู้กันว่าหนังที่ตลกแบบไม่ยัดเยียด และไม่ได้สักแต่ใส่คำด่าพ่อล่อแม่ คำด่าสารพัดสัตว์ เข้ามาจนเกินพอดีฟังแล้วน่ารำคาญ มันก็ฮาได้ และทำกันยังไง!!
- นอกจากนี้ หนังตลกที่เปี่ยมสาระเรื่องนี้เสียดสีสังคมองค์รวมของประเทศตัวเองได้สะใจอย่างยิ่งยวด เมื่อไหร่พวกผู้กำกับตลกไร้สมอง(ส่วนใหญ่)จะสำเหนียกได้ซะที




Transformers
(สหรัฐอเมริกา, Michael Bay, 2007)


- ระเบิด ตึกพัง บ้านไฟไหม้ อเมริกันฮีโร่




Requiem
(เยอรมนี, Hans-Christian Schmid, 2006)


- ไม่ใช่หนังผี แม้จะเกี่ยวกับพิธีไล่ผี หนังนิ่งๆเนิบๆ พาเราไปดูมากกว่าว่า ตกลงอาการของนางเอกมันคืออะไรกันแน่
- ดูจบแล้วเกลียดพวกคลั่งศาสนาจนโงหัวไม่ขึ้นมากกว่าเดิมประมาณสี่ล้านเท่า...




Rain Dogs aka Tai yang yue
(ฮ่องกง+มาเลเซีย, Ho Yuhang, 2006)


- หนังอืดถืด เหมือนจะแสดงหรือสะท้อนอะไร แต่ก็จับไม่ค่อยได้เท่าไหร่นัก


Create Date : 30 มิถุนายน 2550
Last Update : 7 กรกฎาคม 2550 0:09:19 น. 25 comments
Counter : 2100 Pageviews.

 
มานั่งดูนาโนรีพอร์ท



อื่ม !


โดย: จั่น* IP: 58.8.76.97 วันที่: 7 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:27:22 น.  

 
พลอย-ชอบ สนุกดี กลับมารักเป็นเอกอีกครั้งหลังจากผ่านๆมา น้องสายป่านกับหมิวน่ารักมาก แต่แอบไม่ชอบสุดท้าย ฉากที่หนีๆ......ไปแล้วเกิดเสียงปืนดัง รู้สึกไม่ชอบยังไงก็ไม่รู้

Ocean's Thirteen-คิดเหมือนกันว่าหน้าเหมือนคาเมรอน ดิแอซ แต่เราแอบไม่รู้เรื่องว่าแกทำไมบอกว่า"เสียดสีอะไร" เอ๊ะ!!!มันมีเรื่องอะไรด้วยเหรอ ช่วยเล่าให้ฟังด้วย กูไม่รุ้เรื่องอะว่าเสียดสีตรงไหน

Borat-ลืมเอาแผ่นกลับมาจากบ้านนอก ทำให้ไม่ได้ดู รอบแรกดูซับอังกฤษเลยไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะโบแรทพูดเร็วมากๆ อ่านซับไม่ทันกันทีเดียว เดี๋ยวกลับบ้านแล้วคงจะดูอีกรอบ

สวยลากไส้-ไม่คิดจะดูอะ แถมยังมีคนมาสปอยก่อนแล้ว เลยไม่ดูดีกว่าเอาไว้ดูแผ่น
อ๋อ...เราชอบโอซา แต่ไม่ชอบชลอะ หน้าเค้าแปลกๆ(แต่ยิ้มแล้วน่ารักนะ ไม่เถียง)

The page tuner-ทำไมเราไปดูมันยังไม่เข้าโรงฟะ รอดูอยู่เหมือนกัน (ถ้าเงินไม่หมดก่อน รุ้สึกว่าช่วงนี้เสียค่าต่างๆที่มหาลัยเยอะเหลือเกิน)

Notes on a Scandal-สุดๆ ชอบหนังเลสเบี๊ยนเป็นทุนเดิมอยุ่แล้ว ก็ยิ่งชอบไปใหญ่ ฮ่าฮ่า

Fracture-รอดูกะเป้ ก็ซึ่งไม่ว่างกันซักที จนคงไม่ได้ดูแล้ว

Children of Men-ดูนานมากแล้วสี่เดือนแล้วมั้ง แต่ชอบมากเหมือนกัน ตรงที่บอกว่าอนาคตโลกจะแหลวแหลกมาก เด็กคนเดียวที่มีค่ามากขนาดนั้นมึงยังคิดจะเอาเค้ามาใช้ให้เป็นประโยชน์ อ๋อ ลองเทคแอ๊คชั่น สุดยอด รีกลับไปดูใหม่เหมือนกัน ฉากในตึกใกล้จบเนี้ยแหล่ะ สุดๆ ชอบอะ!!!

ที่เหลือไม่ได้ดู ว่าแต่ไปดูโคนันภาคหนังยังไงฟะ ยืมมาดูเหรอ สุดๆแล้วแกอะ


โดย: zadwaan IP: 203.153.175.24 วันที่: 7 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:40:44 น.  

 
หมั่นไส้ สวยลากไส้
แม่งมีอะไรดี 55+


โดย: พระเจ้า** IP: 58.9.3.237 วันที่: 7 กรกฎาคม 2550 เวลา:1:12:33 น.  

 
เขียนดีเหมือนเดิม



โดย: ฟ้าดิน วันที่: 9 กรกฎาคม 2550 เวลา:1:14:04 น.  

 
ถึง คุณnanoguy

มีหนังสือของอ.เสกสรรค์ให้ยืมอ่านฟรี
สนใจติดตามรายละเอียดได้ในบลอกนะครับ

ขอบคุณครับ


โดย: ฟ้าดิน วันที่: 9 กรกฎาคม 2550 เวลา:7:10:12 น.  

 
+ อุๆ รีวิวเดือน มิ.ย. มาเร็วเกินคาดแฮะ
+ Shrek III ดูได้เพลินๆ ... แต่จุดอ่อนที่สำคัญก็อย่างที่ตี้ว่าแหละครับ ว่าจิตวิญญาณความเป็นเชร็คนั้นหายไป (อย่างเช่น ความ sensitive, เข้าใจคนอื่น, เข้าใจโลกและชีวิต) ... สงสัยคนเขียนบทลืมตัว นึกว่าเขียนการ์ตูนในดีสนีย์อยู่กระมัง เหอะๆ
+ พลอย ... เพิ่งเสพหนังคุณเป็นเอกเรื่องแรก ก็ทำเอามึนๆ ลอยๆ พอสมควร เหมือนอัพยายังไงยังงั้น (พูดยังกะเคยแน่ะ 555) ... ก็นับถือนะครับที่เค้ายังสามารถยืนหยัดแนวทาง และ 'ลายเซ็น' ในหนังของตัวเองเอาไว้ได้เช่นเดิม ... เพราะมี ผกก.ไทยเพียงไม่กี่คน ที่ยังสามารถทำได้อย่างเค้าเช่นนี้
+ 's 13 ... เพิ่งเคยดูหนังตระกูล Ocean ก็หักเหลี่ยมเฉือนคมกันได้มันส์ดี ... เออ แต่เจ๊เอลเลน บาร์กิ้น เหมือนเจ๊แคมตอนชราภาพ เจงๆ แหละ เพิ่งนึกได้ตอนอ่านบล็อกนี้เลยนะครับเนี่ย ตอนดูแค่คุ้นๆ หน้า แต่นึกไม่ออก เหอๆๆ
+ La Môme นับถึงวันนี้จากครึ่งปีที่ผ่านไป อ่านจากเอนเตอร์เทนเห็นว่าชื่อของ Marion Cotillard ยังติดโผนำหญิงยอดเยี่ยม 1 ใน 3 อยู่นะครับ แต่พอถึงปลายปี ไม่รู้ผู้คนจะลืมเลือนเธอกันไปรึยัง ... แต่นอกเหนือจากการแสดงระดับเทพแล้ว เธอลิปซิงค์เสียงอีดิธ เพียฟตัวจริงได้เนียนดีเหลือเกิน
+ Borat ... หุๆ ไว้จะไปหามาดูครับ
+ Immortal เหมือนกันตรงชอบความ 'ล้ำ' ของไอเดีย (ที่บางส่วนก็ยังคงไม่เข้าใจ) ... อีกอย่างพี่เป็นพวกชอบดูภาพในโลกอนาคตอยู่แล้ว (คงเป็นเพราะอ่านโดราเอมอนตอนเดะๆ เยอะ)
+ The Page Turner นางเอกทำหน้านิ่งๆ แต่ตาโรคจิตได้ใจเจงๆ แหละ ... และพอมีเสียงดนตรีด้วยก็เลยทำให้หนังดราม่าทริลเลอร์เรื่องนี้ ดูแล้วไม่เครียดจนเกินไป ... และช่วยตอบคุณ zadwaan#2 ว่า ดูกันมาจากงานเทศกาลหนังฝรั่งเศสเมื่อเดือนที่แล้วจ้า ... ส่วนรอบปกติ จะเข้าที่ลิโดเดือนเนี้ยแหละ
+ Notes on a Scandal + Children of Men อยากดูน้ำลายหก อิๆ
+ Fracture ตอนพี่ดูถือว่าพอดูได้อ่ะครับ ไปดูรุ่นใหญ่เชือดเฉือนกับรุ่นเล็ก
+ The Embalmer พี่เสียดายตรงที่หนังอุตส่าห์สร้างคาแรคเตอร์ที่โดดเด่นขึ้นมาแล้ว (นักดองศพร่างแคระ) แต่เหมือนไม่ได้เอามาใช้ทำประโยชน์ ไปๆ มาๆ เลยกลายเป็นแค่หนังรัก 3 เส้าที่ตัวอิจฉากลายเป็นเกย์ซะงั้น
+ The Consequences of Love มึนงงอยู่ค่อนเรื่องกับกิจวัตรซ้ำๆ ซากๆ ของตัวเอก เริ่มมาระทึกเอาก็ตอนใกล้จะจบนั่นเอง ... ซึ่งเรื่องนี้ก็คงดีสุดใน 3 เรื่องของหนังเทศกาลอิตาลีที่ได้ดูแล้วล่ะเนอะครับ
+ The Golden Door อิๆ ชวนง่วงนอนเป็นที่ยิ่งอ่ะครับ
+ Requiem ก็โอเชนะครับ ช่วงท้ายๆ นางเอกจิตดี แต่หนังเนือยๆ ไปนิด (คงเป็นเพราะพี่ดันดู Rain dogs ก่อน แล้วมาดูเรื่องนี้ กับเพิ่งดูเทศกาลฝรั่งเศส (5) + อิตาลี (3) ที่เป็นอารมณ์ยุโร๊ป ยุโรป มาจนเริ่มเอียนด้วยมั้ง เหอะๆ)
+ Rain dogs อืม ... มันก็เหมือนจะเหงา เศร้าในแนว coming-of-age ที่ไม่มีบทสรุป ... แต่มันเหมือนจะไปไม่สุดอ่ะแหละครับ (คือพอหนังจบ ก็เหมือนตัวเอกผ่านอะไรไปพอสมควร แต่ก็เหมือนกับเค้าก็ยังไม่รู้จะทำยังไงต่อกับชีวิตตัวเองดี ... คือเหมือนกับว่าเป็นการเฝ้าดูชีวิตวัยรุ่นของเค้าช่วงนึงแค่นั้น)


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 9 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:47:43 น.  

 
Crazy Stone
หนังเรื่องนี้ไปดูที่ house ดูเพราะว่าเป็นคนทำเรื่องเดียวกับ ปิงปองมองโกเลีย...

หนังแนวตัวละครแบบเวียนมาบรรจบพบกันหมดนี่ ไม่ใช่ทำง่ายๆนะผมว่า ... ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องต้นๆของยุคคนทำหนังแบบนี้ ผมคงยกนิ้วให้เลย แต่ว่าบังเอิญมีหนังลักษณะแบบนี้มาก่อนหน้านี้หลายเรื่องแล้ว โดยเฉพาะเรื่อง 11.14 เรื่องนี้สุดยอดของการเกี่ยวโยงจริงๆ

ส่วนเรื่อง Requiem ดูแล้วนึกถึงตอนไปนวดแผนโบราณที่เลย วันนั้นหมดนวดที่นวดเราอยู่ ดันเกิดเป้นลมบ้าหมูขึ้นมาซ่ะงั้น... เอาไว้จะเก็บมาเล่าให้อ่านกันใน blog ดีกว่า อิๆ


โดย: merf1970 วันที่: 10 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:47:07 น.  

 
เออนะ...ชักอยากดูพลอย กับเรื่องอะไรอ่ะ ที่หน้าปกเป็นรูปเด็กทารกอ่ะ

แต่พวกเสียว เอ๊ย สวยลากไส้ หรือครูเย่อนักเรียน กับอีเลสเบี้ยนโรคจิตพวกนั้นขอบายดีฝ่า
สยอง....


โดย: UnEdiTED วันที่: 10 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:34:23 น.  

 
ได้ดู Children of Men กะ Borat โดนเซี๊ยะ

อืมม อยากดู I Not Stupid เวอร์ชั่น Singlish มั่งง่ะ

ต้องหาเวลา


โดย: bua ja วันที่: 11 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:12:08 น.  

 
กรี๊ดดดด...มีการแอบไปแก้ให้ด้วยวุ้ย

ก้อแหม...คนแปลมันก้อเอ๋อๆเบลอๆ อ่ะนะ
เอาๆ เดี๋ยวแก้ให้คร้าบบบบ


โดย: UnEdiTED วันที่: 11 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:40:24 น.  

 
จ๊ากกก กลับมาอีกครั้ง
ไม่รู้จะแก้ยังไง เกิดเหตุไม่ลงรอยทางความคิด
งั้นไม่ก้ง ไม่แก้มันแล้ว555


โดย: UnEdiTED วันที่: 11 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:43:04 น.  

 
อ่าขอบคุณเฮียบลูยอชท์มากๆคะ อ๋อ...อินุงตี้ไปดูมาจากเทศกาลนี่เอง ยังว่าอยู่

เราดู Notes on a Scandal แล้วนะเฟ้ย
+ชื่อภาษาไทยของตี้ช่างเหมาะกับเนื้อเรื่องเลยทีเดียว
+เคตเล่นดีมาก หน้าใสกิ๊ง ส่วนจูดี้ก็สุดๆแล้ว โรคจิตได้อีก แต่ในชีวิตจริงเราก็เคยเจอนะคนอย่าง"บาบาร่า"อะ แต่ไม่ได้เป็นเลสเบี๊ยนนะยะ
+ชอบตรงที่เคทด่าสามีว่า"คุณเองก็ยังเป็นครูชั้นมาก่อนเลย" เป็นชั้นโดนอย่างนี้ก็คงเจ็บอะ

เทศกาลบางกอกฟิล์มจะไปดูเรื่องไรชวนด้วย แต่ไม่ไปฟังสัมมนานะขี้เกียจ


โดย: zadwaan IP: 203.153.171.66 วันที่: 11 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:57:25 น.  

 
โบราด
ไม่ชอบอย่างแรงงง ดูแล้วเหมือนดูถูกอารมณ์ขันของคนดูอย่างไรไม่รู้

โน้ท ออน อะ
ชอบ โดยเฉพาะฉากที่เคทตบสั่งสอนเดมจูดี้ (สม)

ชิลเด้น ออฟ เมน
ฉากลองเทคในสนามรบนี้มันเหนือคำบรรยายเลย สรุปว่าเรื่องนี้สุดยอดดดมาก

ลาสคิง
เจม แมคไอวอรี่ นี้ก้อเล่นได้ดีน่ะ (ดูเรื่อง Starter for 10 แล้วจะชอบเค้าอีกจม)



โดย: BloodyMonday IP: 211.136.200.134 วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:7:29:19 น.  

 
ดูเยอะโพดดดดดดดดดดดดดด


โดย: >>...++"J:o:Y"++...<< IP: 58.8.193.254 วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:04:43 น.  

 

สมัยวัยระเริงพี่ก็ดูเยอะแบบนี้แหละ


โดย: merveillesxx วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:2:35:00 น.  

 
เกี่ยวกับ borat ที่ผมให้แค่ดาวเดียว
ผมมองที่เจตนาของผู้สร้างน่ะครับ

เหตุที่โบแรต(และตัวละครอื่นๆ จากรายการทีวีของนายซาช่า บารอน โคน) ย้ายจากการป่วนอังกฤษ มาป่วนอเมริกา กระทั่งกลายเป็นหนังใหญ่
ก็เพราะตลาดและเม็ดเงินที่ใหญ่กว่าเท่านั้น

ผมมองว่าผู้สร้างไม่ได้ต้องการเสียดสีคนอเมริกัน หรือประเทศอเมริกา(อาจมีบ้าง แต่น้อยมาก)
แต่จุดประสงค์หลักคือ "ทำอะไรก็ได้" ให้คนอเมริกันขำกลิ้ง โดยเฉพาะคนชั้นกลางค่อนไปทางชั้นล่าง
สังเกตจากเป้าหมายในการอำที่เป็นไฮไลท์ล้วนแต่เป็นกลุ่มคนที่ถูกหมั่นไส้จากคนอเมริกันส่วนใหญ่อยู่แล้ว
ทั้งนักการเมือง ผู้ดี และเฟมินิสต์
ถ้าได้หัวเราะเยาะใส่คนพวกนี้ กลุ่มเป้าหมายย่อมแฮปปี้สุดๆ
ขณะที่ฉากอำหมอหรือคนดูแลหมาจรจัด ถูกตัดทิ้งเพราะแค่ขำ แต่ไม่สะใจ

เมื่อรวมกับมุขหยาบช้า เหยียดเพศ เหยียดเชื้อชาติ
ผมจึงยกหนังเรื่องนี้เป็น "หนังเลว"
และให้แค่ดาวเดียวพอ ในฐานะที่ช่างคิดและบ้าบิ่นดี


โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ วันที่: 16 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:00:50 น.  

 
First Love * ชอบอ่ะ

Shrek the Third * อ่ะ นะ


Crazy Stone * ยังไม่ได้ดูเลย

Conan * ตามจากการ์ตูนหนุกกว่า

พลอย * แค่เห็น หมิว เล่นหนัง ก็ดีใจเหลือล้น

Ocean's Thirteen * หนุกดี ชอบเพลง ชอบบรรยากาศ เก๋าดี


La vie en Rose * สุดยอด..ได้รู้จักเธอขึ้นอีกเยอะ

The Passenger * ตามมันไปเรื่อยๆ ง่วงๆ แต่ชอบนะ

Borat:บลา บลา บลา * เถื่อน ฮา

Immortal * ยังไม่ได้ดูเลย

สวยลากไส้ * ...

The Page Turner * ชอบ..จิตดี จิตแบบนิ่งๆ

Notes on a Scandal * ยังไม่ได้ดู

Fracture * ดูไปยิ้มไป 555+

Firewall * น่าเบื่อ จึงเซ็ง

Dying for Drugs * น่าดูจัง

The Embalmer * เห็นด้วยว่ามาสนุกช่วงท้ายๆ และ มีงีบด้วยเหมือนกัน หุหุ

The Consequences of Love * ชอบบบ

Children of Men * ยังไม่ได้ดูเลยอ่ะ

The Last King of Scotland * ขอเป็นยกรางวัลให้คุณครู Half Nelson ละกัน หุหุ

The Golden Door * วูบไปหลายยก...ชอบภาพเซอร์ๆ จี๊ดใจ

I Not Stupid * เคยดูนานมาละ แต่จำได้ว่า ตลก

Transformers * เริ่มเรื่องก็เบื่อแล้ว ชอบมันแปลงร่าง ครึ่งหลัง..หลับครับ

Requiem * อยากดูอ่ะ

Rain Dogs * อืม..จนวันนี้ยังคิดอยู่เลยว่าเรื่องมันเป็นไงมาไง 555+






โดย: renton_renton วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:51:05 น.  

 
พลาดไปหลายเรื่องนะครับผมเนี่ย
อยากดู Notes on a Scandal
มากมาย

enjoy your day


โดย: Holden Caulfield วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:09:39 น.  

 
+ แว่บมาเยี่ยมเยียนครับ ... พอดีพี่ยังไม่ได้ดูทั้ง Hula girls และ Harry V ก็เลยไม่รู้จะไปเขียนอะไรที่บล็อกหมอพีฯ ดี ... แล้วก็ไม่เห็นตี้โผล่ไปที่บล็อกพี่ด้วย (พอดีขึ้นหน้าใหม่ไปแล้ว ... และกำลังจะขึ้นอีกอันแว้ว คาดว่าน่าจะเป็นวันพรุ่งนี้)
+ เห็นมีคนในบอร์ดเฮาส์มาตั้งกระทู้ไว้ว่า 13 Tzameti นี่ 'thrill' สุดๆ เลยนี่คับ อย่างงี้เด๋วต้องรีบไปดูซะแล้น
+ ตี้เล็งหนัง BKK. IFF. เรื่องไรไว้บ้างอ่ะคับเนี่ย? ของพี่ว่าจะเข้าไปซื้อตั๋วเย็นนี้แล้ว ยังเลือกไม่ค่อยถูกเลยอ่า ... แต่คาดว่าคงจะดูแค่ 2-3 เรื่องเองละมั้งครับ


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:51:51 น.  

 
+ เพิ่งได้ดู Hula girls ไปที่เฮาส์เมื่อวานครับ หลังจากเข้าไปซื้อตั๋ว BKK. IFF. ... หนัง "บิ๊วต์" อารมณ์ไปนิด แต่ก็โออยู่นะ ... ส่วน Harry โดนพี่สาวขอร้องให้ไปดูพร้อมกัน (+ พี่เขยหมาดๆ ด้วย) วันเสาร์ที่จะถึงนี้ ก็เลยยังต้องรอต่อไปอ่ะครับ
+ ที่เฮาส์เอารายชื่อหนังเทศกาล 28 วันขึ้นผนังแล้วนะครับ ... ส่วน 13 Tzameti ก็คงมีชีวิตยืนยาวได้แค่ 2 อาทิตย์เองอ่า ก่อนจะถึงเทศกาล
+ ตั๋วหนัง BKK.IFF. ที่ได้มา ... ตอนแรกอยากดู Reneissance แต่ในใบรายชื่อบอกว่า Eng. no sub. เลยบายดีกว่า ... ก็เลยเหลือแค่ Shortbus (ติดเรทเยี่ยงนี้ ไม่พลาดอยู่แล้น อิๆ), Lost in Beijing (หนังแรงๆ จากจีน), Children of glory (ถูกเลือกเป็นหนังเปิดเทศกาล), Pingpong (ไซโคอีโรติค (มั้ง?) จากเยอรมนี - ช่วงหลังๆ ไม่รู้ทำไมชอบดูแนวนี้แฮะ) ... ส่วนสารคดีดังๆ 2-3 เรื่องที่มาฉายด้วย ก็กลัวติดตามเนื้อหาไม่ทัน (แค่ซับฯ ไทยก็จะแย่อยู่แล้น ก็เลยไม่ดูดีฝ่าอ่ะครับ)

+ โห! หล่อเลือกได้ ... มาทีเดียว 2 รายซ้อนเลยเหรอคับ?!? อิๆ (แต่ไม่ 'คลิก' ทั้งคู่นี่ก็ลำบากเหมือนกันเนอะ แบบนี้จะเลือกลองคบดู 1 หรือ 2 หรือจับทำเพื่อนหมดทั้ง 2 คนอ่ะครับเนี่ย ?!?)


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 19 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:10:27 น.  

 
เป็นนักวิจารณ์หนังไปซะแล้ว
ว่างๆมาวิจารณ์นิยายเฮามั้งจิ ^ ^


โดย: blueocynia วันที่: 19 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:40:38 น.  

 
ไมดูมึงว๊างว่างวะ

ดูหนังเดือนกี่เรื่องเนี่ย

คิดถึงนะเว้ย


โดย: Om IP: 203.153.169.146 วันที่: 20 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:29:09 น.  

 
หายไป เอ๋อแดก กะฉาวๆฉองคนรึ เอิ๊กๆ


โดย: UnEdiTED วันที่: 20 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:21:04 น.  

 
ขอบคุณมากนะคะที่ไป COMMENT ในบล็อกของดิฉัน

ขอเรียงลำดับหนังที่คุณ NANOGUY ดูตามความชอบส่วนตัวของดิฉันนะคะ

1.RAIN DOGS (2006, Ho Yuhang, A+)
ดิฉันถูกโฉลกกับหนังที่ไม่มีเนื้อหาสาระแบบนี้แหละค่ะ ดูแล้วรู้สึกว่า WAVELENGHTS ของตัวเองจูนติดกับจังหวะของหนัง ก็เลยดูแล้วรู้สึกมีความสุขมากๆ โดยไม่ต้องคิดอะไร แค่ปล่อยอารมณ์ไปเรื่อยๆ


2.REQUIEM (2006, Hans-Christian Schmid, A+)
เคยดูหนังของผู้กำกับคนนี้มาแล้ว 3 เรื่อง ดูแล้วชอบแค่ในระดับปานกลางเท่านั้น แต่เรื่องนี้รู้สึกว่าผู้กำกับทำหนังเรื่องนี้ได้ตรงใจดิฉันมากๆ

หนังอีก 3 เรื่องที่เคยดูได้แก่
2.1 23 (1998, A-)
2.2 IT’S A JUNGLE OUT THERE (1995, B+)
2.3 CRAZY (2000, C+)


3.THE PASSENGER (2005, Eric Caravaca, A+)
ชอบฉากที่พระเอกสองคนขี่มอเตอร์ไซค์ไปด้วยกันมากๆ โดยเฉพาะดนตรีประกอบในฉากนั้นที่รู้สึกว่าจะเน้นเสียงเครื่องสายเป็นหลัก


4.PLOY (2007, Pen-ek Ratanaruang, A+)


5.HATSU-KOI (2006, Hanawa Yukinari, A+)
ดิฉันชอบบรรยากาศชีวิตวัยรุ่นในยุคนั้นน่ะค่ะ ก็เลยชอบช่วงแรกๆของหนังมาก โดยเฉพาะตัวละครนักแสดงละครเวทีหญิง


6.THE PAGE TURNER (2006, Denis Dercourt, A+)
ชอบตอนจบของหนังอย่างสุดๆ


7.FRACTURE (2007, Gregory Hoblit, A)
ดิฉันชอบหนังแนวเฉื่อยๆอย่างนี้แหละค่ะ และก็ชอบการตัดสินใจของพระเอกที่ไม่ยอมใช้วิธีการที่ไม่ถูกต้องในการกำจัดคนเลว อย่างไรก็ดี ถึงแม้การตัดสินใจของพระเอกหนังเรื่องนี้จะตรงข้ามกับการตัดสินใจของพระเอกหนังเรื่อง SHOOTER (2007, Antoine Fuqua, A) ที่ใช้วิธีการแบบศาลเตี้ยในการกำจัดคนเลว แต่ก็ชอบพระเอกของหนังสองเรื่องนี้ทั้งคู่


8.THE EMBALMER (2002, Matteo Garrone, A)


9.LA MOME (2007, Olivier Dahan, A)


10.SICK NURSES (2007, Thodsapol Siriwiwat + Piraphan Laoyont, A)


11.IMMORTEL (AD VITAM) (2004, Enki Bilal, A-)
เพิ่งซื้อหนังสือการ์ตูนของเรื่องนี้มา แต่ยังไม่ได้อ่าน แต่รู้สึกว่าพระเอกในหนังจะหน้าตาดีกว่าในการ์ตูนมาก พอเห็นอย่างนี้แล้วก็เลยทำให้รู้สึกชอบหนังมากยิ่งขึ้น ฮ่าๆๆ


12.CRAZY STONE (2006, Ning Hao, A-)


13.TRANSFORMERS (2007, Michael Bay, A-)

14.SHREK THE THIRD (2007, Chris Miller, A-)

15.OCEAN’S THIRTEEN (2007, Steven Soderbergh, A-)

16.FIREWALL (2006, Richard Loncraine, A-/B+)
ผู้ร้ายในหนังเรื่องนี้หล่อดี


โดย: celinejulie or MdS IP: 58.10.103.177 วันที่: 22 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:44:36 น.  

 
I love you ...Run


โดย: shinichi IP: 125.27.30.210 วันที่: 23 ธันวาคม 2550 เวลา:19:46:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nanoguy
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




คนในสังคมจารีตที่มีความคิดทางเวลาแบบไตรภูมิจะไม่ให้ความสำคัญแก่เวลาตามประสบการณ์ กล่าวคือไม่ให้ความสำคัญแก่การเปลี่ยนแปลงที่เป็นจริงของชีวิตและสังคมว่าดำเนินมาและดำเนินไปอย่างไร เชื่อในการคลี่คลายเปลี่ยนแปลงของชีวิตและสังคมซึ่งจะต้องเป็นเช่นนั้นตามกฎแห่งเวลาของพุทธศาสนา

- อรรถจักร สัตยานุรักษ์
(จากบทความ "ความเปลี่ยนแปลงความคิดทางเวลาในสังคมไทย" วารสารเศรษฐศาสตร์การเมือง 4 ตุลาคม 2531)




Let this song rhyme our souls
when your voice and mine become one and whole.

Let it carry us high above
When we recite our poetry of love
that when there's love then there's hope.

Your love is my light,
and it'll get us through this lonely night.

- รักแห่งสยาม (ซับไตเติ้ลอังกฤษเพลง กันและกัน ท่อนฮุค)









Friends' blogs
[Add nanoguy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.