|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
- รวม Review หนังสั้นประจำเดือน ตุลาคม-พฤศจิกายน 2550
- รักแห่งสยาม : บทพล่ามถึงความรักที่ลอยอยู่รอบตัวเรา
- รวม Review ภาพยนตร์ประจำเดือน ตุลาคม 2550
- ร่าง พรบ. ฉบับใหม่... กูไม่ใช่เกาหลีเหนือโว้ย!!
- รวม Review ภาพยนตร์ประจำเดือน กันยายน 2550
- รวม Review ภาพยนตร์ประจำเดือน กันยายน 2550(2)
- รวม Review ภาพยนตร์ประจำเดือน กันยายน 2550(1)
- ชำแหละความชิบหายของ "เพื่อน...กูรักมึงว่ะ"
- รวม Review ภาพยนตร์ประจำเดือน สิงหาคม 2550
- รวม Review ภาพยนตร์ขนาดยาวประจำเดือน สิงหาคม 2550 (2)
- รวม Review ภาพยนตร์สั้นที่ได้ดูในเดือนสิงหาคม 2550
- รวม Review ภาพยนตร์ขนาดยาวประจำเดือน สิงหาคม 2550 (1)
- รวม Review ภาพยนตร์ 16 เรื่องจาก Bangkok Film
- รวม Review ภาพยนตร์ที่ได้ดูในเดือนกรกฎาคม 2550
- รวม Review ภาพยนตร์ที่ได้ดูในเดือนมิถุนายน 2550
- รวม Review ภาพยนตร์ที่ได้ดูในเดือนพฤษภาคม 2550
- Memories of Matsuko แค่อยากเป็นคนที่ถูกรัก แค่อยากเป็นคนที่ถูกใครสักคนเข้าใจ
- Pan's Labyrinth มันหนังรัฐศาสตร์ชัดๆเลยครับพี่น้อง!!!
- รวม Review ภาพยนตร์ที่ได้ดูในเดือนเมษายน 2550
- รวม Review ภาพยนตร์ที่ได้ดูในเดือนมีนาคม 2550
- รวม Review ภาพยนตร์ที่ได้ดูในเดือนกุมภาพันธ์ 2550
- รวม Review ภาพยนตร์ที่ได้ดูในเดือนมกราคม 2550
- Fur: An Imaginary Portrait of Diane Arbus (สหรัฐอเมริกา, Steven Shainberg, 2006)
- Open Season (สหรัฐอเมริกา, กำกับสามคน, 2006)
- Thank You for Smoking (สหรัฐอเมริกา, Jason Reitman, 2005)
- Earthcore - หนังสั้นปฐมบทของ "13 เกมสยอง" (ไทย, ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล, อนุโลมว่า 2550 ละกัน)
- Final Score-365 วัน ตามติดชีวิตเด็กเอ็นท์ (ไทย, โสรยา นาคะสุวรรณ, 2550)
- A Stranger of Mine aka Unmei janai hito (ญี่ปุ่น, Uchida Kenji, 2005)
- Velvet Goldmine (สหราชอาณาจักร+สหรัฐอเมริกา, Todd Haynes, 1998)
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาคองค์ประกันหงสา (ไทย, หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล, 2550)
- Dead Poets Society (สหรัฐอเมริกา, Peter Weir, 1989)
- ครูสมศรี (ไทย, หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล, 2528)
- Reservoir Dogs (สหรัฐอเมริกา, Quentin Tarantino, 1992)
- 10 หนังสั้นในโครงการ "ชวนเด็กดูหนัง"
- Conflict (สหภาพโซเวียต, ใครกำกับ?, ปีไหนก็ไม่รู้)
- Takeshis' (ญี่ปุ่น, Kitano Takeshi, 2005)
- Wordplay (สหรัฐอเมริกา, Patrick Creadon, 2006)
- The Black Dahlia (เยอรมนี+สหรัฐอเมริกา, Brian de Palma, 2006)
- Hidden aka Cache (ฝรั่งเศส+ออสเตรีย+เยอรมนี+อิตาลี, Michael Haneke, 2005)
- Perfume: The Story of a Murderer (เยอรมนี+ฝรั่งเศส+สเปน, Tom Tykwer, 2006)
- Blood Diamond (สหรัฐอเมริกา, Edward Zwick, 2006)
- Nanoguy Awards 2006
- Nanoguy Awards 2006 ช่วงที่ 2
- Nanoguy Awards 2006 ช่วงที่ 1
- จมโลกเซลลูลอยด์
- ปิดเทอมผลาญหนัง ตอนที่ 4 : อำมหิตพิศวาส/ เปนชู้กับผี/ Stormy Night/ หมากเตะรีเทิร์น/ mastersOFhorror
- ปิดเทอมผลาญหนัง ตอนที่ 3 : Days of Glory/ Candy/ The Pianist / Infernal Affairs /Monster House
- ปิดเทอมผลาญหนัง ตอนที่ 2 :: The Last Emperor/ DOA/ ผีคนเป็น/ Climates/ 21 Grams/ The Departed
- ปิดเทอมผลาญหนัง ตอนที่ 1 : Cars/ The Ant Bully/ 13 เกมสยอง/ A Soap/ Paris, I Love You/ Rob-B-Hood
- แซ่บหนัง ทั้งเทอม!!
- แซ่บเรื่องหนัง(7-จบ) : The Wind that Shakes the Barley, WTC, The Devil Wears Prada, The Child
- แซ่บเรื่องหนัง(6) : Me and Youฯ, The Thomas Crown Affair, The Host, Seasons Change, Death Note
- แซ่บเรื่องหนัง(5) : Jasmine Women/ My Super Ex-Girlfriend/ Dreamer/ An Inconvenient Truth/ Cube
- แซ่บเรื่องหนัง(4) : โคตรรักเอ็งเลย/ The Lake House/ House of Wax/ Miami Vice/ United 93/ Brick
- แซ่บเรื่องหนัง(3) : Superman Returns/ แก๊งชะนีกับอีแอบ/ The Alibi/ Lady in the Water/ Sad Movie
- แซ่บเรื่องหนัง(2) : Don't Tell/ X-Men 3/ หนูหิ่น เดอะมูฟวี่/ The Bow/ Pirates of the Caribbean 2
- แซ่บเรื่องหนัง(1) : Sympathy For Mr Vengeance/ The Lover/ Spirited Away/ The Omen/ Scary Movie 4
- ต้มยำรวมมิตร(3-จบ) Poseidon/ มอ๘/ Match Point/ The Da Vinci Code/ Kinsey/ Always/ ก้านกล้วย
- ต้มยำรวมมิตร(2) ลาง-หลอก-หลอน/ The Wild/ Red Lights/ Perhaps Love/ Date Movie/ Ice Age 2/ M:I:3
- ต้มยำรวมมิตร(1) Capote/ V For Vendetta/ Inside Man/ Where the Truth Lies/ Hoodwinked/ She's the Man
- จับฉ่ายตอนอวสาน : The Constant Gardener/ Transamerica/ Final Destination 3/ A History of Violence
- จับฉ่ายตอนที่ 2 : Paradise Now/ กระสือวาเลนไทน์/ Walk the Line/ Munich/ เด็กหอ/ Invisible Waves
- จับฉ่ายตอนที่ 1 : Memoirs of a Geisha/ Brokeback Mountain/ Sophie Scholl : The Final Days/ Tsotsi
- When Crash was crashed, เมื่อ Crash กลายเป็นแพะ
- Rashomon ธรรมชาติของมนุษย์
- March of the Penguins วิบากแห่งเผ่าพันธุ์
- Nanoguy Awards 2005
- The Chronicles of Narnia : The Lion, The Witch and the Wardrobe แฟนตาซีอลังการส่งท้ายระกาศก
- King Kong ลิงยักษ์ที่คนต้องเสียน้ำตาให้
- Harry Potter and the Goblet of Fire ขาดหาย ตกหล่น พอทน ดูไป
- Nana สองสาว สองฝัน แต่ชื่อเดียวกัน
- เที่ยวนี้ ว่าด้วยความตาย Corpse Bride / Saw 1-2
- คอมโบหนังโรง Into the Blue / Flightplan / 3-Iron / อหิงสา จิ๊กโก๋มีกรรม
- คอมโบอีกซักทีดีไหม? Cinderella Man/Red Eye/เพื่อนสนิท
- Charlie and the Chocolate Factory หนังเด็ก ที่น่าให้ผู้ใหญ่ดู
- คอมโบอย่างบ้าคลั่ง กับหนัง 4 เรื่องรวด
- Team America : World Police เสียดสี ดีเดือด เลือดพล่าน
- The Machinist หลอนได้ที่ สยองได้ใจ
- The Island มนุษย์หนอมนุษย์...
- A Snake of June อสรพิษ=ตัณหา
- War of the Worlds ถึงมนุษย์ผู้หลงลำพอง
- Mr and Mrs Smith อารมณ์เดียวกับ "มหาลัยเหมืองแร่"
- มหาลัยเหมืองแร่ กินได้ แต่ไม่กลมกล่อม
- Star Wars Episode 3 : Revenge of the Sith เหมือนจะไม่ดี แต่ก็เหมือนจะดี...
- Sin City โหด ซาดิสต์ ถึงลูกถึงคน ถึงเลือดถึงเนื้อ...
- Kingdom of Heaven รบกันไปเพื่อ???
- I Am David เรียบๆ เฉยๆ พอดูได้
- Bangkok:Dangerous ร่วมกันยืนไว้อาลัยออกไซด์ แปง...
- The Interpreter เมื่อสามออสการ์โคจรมาพบกัน
- Hide and Seek ใครบอกตอนจบ บ้านบึ้ม...
- The Fog of War ม่านหมอกแห่งสงคราม
- And all razzies go to........ The Eye 10
- The Chorus หนังดีแบบดูง่ายๆ
- The Motorcycle Diaries เรียบๆ แต่ลุ่มลึก
- บุปผาราตรี เฟส 2 หนังเอามันส์ กระชากจิต...
- Hotel Rwanda กับความจัญไรของใจคน
- ความแตกต่างของหนังผู้หญิงและหนังผู้ชาย
- หลวงพี่เท่ง...ง่ะ
- ย้อนอดีต อันดากับฟ้าใส...
- เก็บตกสถิติออสการ์ (น่าอ่าน)
|
|
|
|
|
แซ่บเรื่องหนัง(2) : Don't Tell/ X-Men 3/ หนูหิ่น เดอะมูฟวี่/ The Bow/ Pirates of the Caribbean 2

Date : 11 มิถุนายน 2549 Location : Siam
Don't Tell เป็น 1 ใน 5 หนังเข้าชิงออสการ์สาขาหนังภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมปีล่าสุด (แต่แพ้ Tsotsi จากแอฟริกาใต้ไป) จากอิตาลี ที่เนื้อเรื่องดราม่าหนักกบาลสุดๆ
ถ้าจะให้เรียงลำดับ 4 เรื่องที่ดูไป (Sophie Scholl, Tsotsi, Paradise Now และ Tsotsi) เรื่องนี้เป็นที่สาม รองจาก Sophie Scholl จากเยอรมนี และ Paradise Now หนังปาเลสไตน์ แต่ชนะหนังแอฟริกาใต้ที่ดันเสือกได้รางวัลไปซะนี่...
ถ้าแปลความจริงๆจากชื่อภาษาอิตาเลียนว่า La Bestia nel Cuore จะแปลได้ว่า The Beast in the Heart (จะแปลเป็นชื่อไทยลิเกๆว่า "นรกในใจ" ได้ล่ะมั้ง) น่าจะเข้ากับเนื้อเรื่องมากกว่า Don't Tell
Sabina นางเอกของเรื่องมีชีวิตเหมือนปกติธรรมดาสามัญทั่วไป ตามแบบฉบับครอบครัวยุโรป แต่ว่าทุกคืนๆ ฝันร้ายที่เห็นผู้ชายรูดซิปกางเกงลงแล้วเดินเข้ามาหาเธอ ก็คอยตามหลอกหลอนทุกคืนๆ แล้วเธอก็ยังไม่เห็นหน้าของชายคนนั้น..
เมื่อมันตามหลอกหลอนนานเข้า นานเข้า.. เธออดคาใจไม่ได้ จึงบินไปหาแดเนียลเล่ พี่ชายของเธอที่อเมริกา เพื่อถามเรื่องราวในวัยเด็กที่เชื่อมโยงกับฝันร้ายที่ตามหลอกหลอน
ถ้าจะพูดแค่ในแง่อารมณ์ดราม่า เรื่องนี้เป็นอารมณ์ดราม่ากดดันคนดูอย่างหนัก แต่จุดอ่อนของ 1 ใน 5 แคนดิเดตออสการ์ต่างประเทศเรื่องนี้มีสองข้อใหญ่ก็คือ
1. จุดจบที่เดาง่ายเกินไป เพราะหนังช่วงนี้หลายๆเรื่องที่ใช้อารมณ์ดราม่ากดดัน มักจะเชื่อมโยงกับเรื่อง "นี้" เกือบทุกเรื่อง ทำให้เจ้าของบล๊อกเดาได้ตั้งแต่กลางเรื่อง - -* 2. ซับพล็อตที่เยอะเกินไป.. เพราะเรื่องราวของ Sabina ควรจะเป็นแกนหลักของเรื่อง แต่เรื่องนี้ให้ความสำคัญกับ subplot เรื่องความรักแบบเลสเบียนของ Emilia กับ Maria เพื่อนของ Sabina มากเกินไปจนเบียดบังเนื้อหาที่ควรจะเป็นแก่นหลักของเรื่อง เพราะเนื้อเรื่องมันเอื้อให้มีแก่นหลักของเรื่องแค่อย่างเดียว ไม่เหมือนกับ Me and You and Everyone We Know ที่เป็น subplot หลายเรื่องมารวมกันใน theme เดียว
สองข้อนั้นเป็นเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้ชอบหนังอิตาลีเรื่องนี้ น้อยกว่าหนังเยอรมันกับหนังปาเลสไตน์ แม้ว่านางเอกของเรื่องอย่าง Giovanna Mezzogiorno จะเล่นได้ดีมากก็ตาม
ให้ 6.5 เต็ม 10

Date : 12 มิถุนายน 2549 Location : Lido Multiplex
ภาคสุดท้าย(?)ของไตรภาคมนุษย์กลายพันธุ์ฮอลลีวู้ด เมื่อด๊อกเตอร์คนหนึ่งในรัฐบาลคิดค้นยาสลายยีนกลายพันธุ์ขึ้นมาได้ (ด้วยแรงบันดาลใจที่อยากให้ลูกชายหายเป็นมนุษย์กลายพันธุ์) ทำให้มีมาตรการรักษามนุษย์กลายพันธุ์ระดับชาติ ประมาณนั้น...
สองฝ่ายก็มีความเห็นไม่ตรงกัน (แต่มีจุดร่วมเดียวกันคือไม่เห็นด้วยกับการออกมาตรการนี้) ฝ่ายนึงต้องการความสงบ ในขณะที่อีกฝ่ายต่อต้านเต็มตัว (ก็คือฝ่ายของแม็คนีโต) โดยการจัดตั้ง "พันธมิตร" ต่อต้านรัฐบาล
แล้วเนื้อเรื่องก็ดำเนินไปตามครรลองระบอบหนังแอ็คชั่นโดนไม่มีการรัฐประหารแต่อย่างใด..
จะว่าไป เนื้อเรื่องภาคนี้สนุกที่สุดในบรรดาสามภาค ดูได้สนุกแบบไม่ง่วงนอน แต่ก็มีจุดอ่อนข้อใหญ่ก็คือ ตัวละครเกลื่อนกลาดเต็มเรื่องแบบไม่ได้ใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะ Angel ลูกชายของคนคิดยารักษามนุษย์กลายพันธุ์ ที่ออกแบบคาแรกเตอร์ซะเท่ แต่ออกมาทั้งเรื่องสองฉาก - -*
อีกอย่างที่ชอบในหนังเรื่องนี้คือการกำจัดตัวละครสำคัญแบบไม่กลัวทำร้ายจิตใจคนดู (บางตัวเป็นขวัญใจแฟนๆซะด้วย) ทั้งการเขียนบทให้ตายตั้งแต่ฉากที่สองที่ปรากฎตัวของมนุษย์กลายพันธุ์ตาแดง และการเขียนบทให้มนุษย์กลายพันธุ์พลังจิ้งจกกลายเป็นมนุษย์ธรรมดาตั้งแต่กลางเรื่อง.. เรียกว่าเขียนบทได้ได้ใจมาก!
ถึงแม้จะประชาสัมพันธ์ว่า น่าจะเป็นภาคสุดท้ายของ X-Men แล้ว แต่ว่าตอนจบของภาคสามก็ยัง "แทงกั๊ก" เหมือนจะมีต่อภาคสี่ถ้ามีตังค์ทำ ซึ่งตามความเห็นของเจ้าของบล๊อก คิดว่าถ้าจะทำภาคสี่คงต้องรื้อบทใหม่หมด 
7 เต็ม 10

Date : 13 มิถุนายน 2549 Location : SF Cinama MBK
หนังตลกฮาแตกจากการ์ตูนหนูหิ่นเรื่องนี้ไม่มีอะไรให้พูดมาก เพราะมันก็ไม่ได้โดนใจเท่าไหร่..
แต่ก็ยังมีคะแนนความดีอยู่บ้างจากการแสดงของ รุ้งลาวัณย์ โทนะหงสา ที่เล่นเป็น หนูหิ่น บทก็เด่น เล่นก็ดี คนอื่นนี่ถึงขั้นตายสนิทคาหนัง (แม้แต่หน้าอกหน้าใจของคุณมิลค์กับคุณส้มโอยังมิอาจแทงตาคนดูได้มากไปกว่าดั้งหักๆ ของหนูหิ่นในหนัง)
เนื้อเรื่องที่ mix มาจากหลายๆตอนของการ์ตูน บวกกับแต่งใหม่เพิ่มเอาเล็กๆน้อยๆ ส่วนใหญ่ทำได้แค่หัวเราะหึๆ โดยเฉพาะบางมุขที่เป็นมุขคาเฟ่มากๆ (อย่างฉากที่ชาวบ้านดีใจสุดขีดที่หนูหิ่นตัววุ่นวายออกไปจากหมู่บ้าน คาเฟ่สุดๆ) แต่ก็พยายามจะมีสาระและเป็นตลกร้ายอยู่บ้างอย่างซีนในโรงงานนรก
ไม่โดนใจเท่าไหร่ ให้ 5 เต็ม 10

Date : 4 กรกฎาคม 2549 Location : Lido Multiplex
หนังเรื่องที่สามของผู้กำกับเกาหลีโรคจิต Kim Ki-duk ในชีวิตเจ้าของบล๊อก เรื่องนี้ดำเนินเรื่องแบบเนิบนาบเหมือนเดิม
เนื้อเรื่องเหมือนหนังไทยน้ำเน่า ชายแก่ที่ทำธุรกิจให้เช่าเรือตกปลากลางทะเลเฝ้ารอวันที่จะแต่งงานกับเด็กสาววัยกำดัดที่ขโมยมาเลี้ยงเมื่อเธออายุครบ 17 พล็อตจริงๆตอนแรกมีแค่นี้...
จนวันนึงคนที่มาตกปลาที่เรือ ดันมาผู้ชายวัยรุ่นหน้าตาดีตามสไตล์เกาหลี เข้ามาทำให้หัวใจสาวน้อยหวั่นไหวเพราะทั้งชีวิตเจอแต่คนแก่มาตลอด แถมดูท่าทางว่าไอ้หนุ่มหน้าหล่อก็จะสนใจว่าที่เมียของตาแก่นี่อยู่ด้วย
เกิดอะไรขึ้นล่ะทีนี้? ตาแก่รู้ตัวว่าสู้ไม่ได้อยู่แล้วก็ต้องยอมทำทุกวิถีทางสิครับ ใครจะว่าตัณหากลับก็ยอม
สไตล์หนังมาแบบเรียบๆ เนิบๆ นิ่งๆ และเงียบ ชวนให้เทียบกับ 3-Iron ที่เข้าฉายในไทยก่อนหน้านี้ตอนต้นปี เพราะว่าเรื่องนั้นพระนางก็ใบ้ใส่กันทั้งเรื่องเหมือนกัน ส่วนในเรื่องนี้เป็นการใบ้ใส่กันของเด็กสาวและตาแก่
เมื่อเอามาเทียบกันแล้ว กลายเป็นว่าการไม่มีบทพูดของ 3-Iron ดูมีสไตล์กว่า The Bow เพราะว่าเรื่องนั้นบทมันส่งให้คนสองคนไม่พูดกัน แต่แสดงความรู้สึกถึงกันได้เนียนกว่า ในขณะที่ The Bow ยังมีการกระซิบกระซาบกัน เหมือนพยายามหลีกเลี่ยงการพูดออกเสียงเพราะตั้งโจทย์กับตัวเองไว้ว่า "ไอ้สองคนนี้ต้องไม่มีบทพูดกันเอง"
และเมื่อมันไม่มีสไตล์มากขนาดนั้น ทำให้ความเบื่อค่อยๆแทรกเข้ามา แม้ว่าตอนท้ายจะมีอะไรให้ดูบ้างก็ตาม... เช่นฉากโดนใจอย่างฉากชายชราพยนายามฆ่าตัวตายด้วยเชือกที่ผูกติดกับเรือที่สองพระนางจะนั่งออกไปด้วยกัน... คิดได้ไง!
6 เต็ม 10

Date : 6 กรกฎาคม 2549 Location : SF Cinema MBK
ภาคต่อของหนังโจรสลัดที่ฮิตเกินคาด แถมยังไล่ล่าดาหน้ากวาดรางวัลจากเวทีรางวัล ไม่เว้นแม้แต่ออสการ์ ที่ให้ Johnny Depp เข้าชิงดารานำชายยอดเยี่ยมจากบทกัปตัน Jack Sparrow ในภาคแรก..
ในฐานะของหนังภาคต่อ แน่นอนว่าต้องทำให้เกิดการเปรียบเทียบกับภาคแรก แต่สำหรับไพเรทภาคสองนี้คงไม่ต้องเปรียบอะไรมากมาย เพราะแค่ในอเมริกาก็ซัดรายได้ไปเกือบห้าพันล้านบาทแล้ว (ในเมืองไทยก็ร่วมร้อยล้านได้) แม้ว่าคุณภาพของหนังจะตกลงจากภาคแรกก็ตาม
ในภาคแรกนั้น บทหนังดีมากเพราะมีความกลมกล่อมอยู่ในตัว และที่สำคัญก็คือ ไม่ได้เขียนเพื่อเตรียมตัวทำภาคต่อ เหมือนกับภาคสองที่เขียนเพียงเพื่อเชื่อมกับภาคสามที่ถ่ายทำไปพร้อมกันเท่านั้น ทำให้ข้อสงสัยอะไรต่อมิอะไรที่ปรากฎในภาคสองนี้ ต้องไปดูภาคสามเพื่อให้หายสงสัย สรุปก็คือ มันเขียนปูทางหาเงินนั่นเอง - -*
ในภาคแรกนั้นตอนแรกหนังก็คงไม่ได้คิดว่าจะฮิตและได้รับการเหลียวแลจากเวทีรางวัลใหญ่อย่างออสการ์ ทำให้ภาคสองนี้แปรสภาพเป็น Johnny Depp Show ในช่วงซีนเกาะมนุษย์กินคน ที่พี่เด๊ปป์แกเล่นได้ดุเด็ดเผ็ดจี๊ดและแย่งซีนชาวบ้านได้ทั้งเรื่อง (แม้แต่กะคนที่หน้าตาได้ใจสาวกว่าอย่าง Orlando Bloom ยังไม่อาจแย่งซีนพี่แกได้)
ภาคนี้งานด้าน CG ตกต่ำลงมาก.. ใครที่ยังติดตาติดใจฉากคนค่อยๆกลายเป็นกระดูกใต้แสงจันทร์ในภาคแรก คงต้องผิดหวังกับงานซีจีในภาคนี้ เพราะบางฉากเหมือนทำลวกๆ และดูยังไงมันก็คือหน้าบลูสกรีน ที่เห็นได้ชัดมากๆก็คือฉากสู้กันในกงล้อยักษ์
ตัวร้ายอย่าง Davy Jones แม้ว่า Bill Nighy(ตาแก่นักร้องจาก Love Actually) จะเล่นได้ดีสมบท แต่เสน่ห์ของตัวร้ายยังสู้ Captain Barbossa ในภาคแรกไม่ได้ และน่าเชื่อว่าภาคสามคงจะมันส์ เพราะมีอย่างน้อยสามสลัดมาปะทะกัน (เด๊ปป์, เดวี่โจนส์ และ บาร์บอสซ่า) แถมยังมี โจวเหวินฟะ มาร่วมด้วยอีกต่างหาก (น่าคิดๆ จะมาเล่นเป็นตัวอะไรเนี่ย)
ดูสนุก ให้ความบันเทิง คลายเครียด และอยากกินปลาหมึก!
7.7 เต็ม 10
Create Date : 02 ตุลาคม 2549 |
Last Update : 4 ตุลาคม 2549 10:51:19 น. |
|
1 comments
|
Counter : 2713 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: zadwaan (cheatoneself ) วันที่: 8 ตุลาคม 2549 เวลา:0:29:02 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

|
คนในสังคมจารีตที่มีความคิดทางเวลาแบบไตรภูมิจะไม่ให้ความสำคัญแก่เวลาตามประสบการณ์ กล่าวคือไม่ให้ความสำคัญแก่การเปลี่ยนแปลงที่เป็นจริงของชีวิตและสังคมว่าดำเนินมาและดำเนินไปอย่างไร เชื่อในการคลี่คลายเปลี่ยนแปลงของชีวิตและสังคมซึ่งจะต้องเป็นเช่นนั้นตามกฎแห่งเวลาของพุทธศาสนา
- อรรถจักร สัตยานุรักษ์ (จากบทความ "ความเปลี่ยนแปลงความคิดทางเวลาในสังคมไทย" วารสารเศรษฐศาสตร์การเมือง 4 ตุลาคม 2531)
Let this song rhyme our souls when your voice and mine become one and whole.
Let it carry us high above When we recite our poetry of love that when there's love then there's hope.
Your love is my light, and it'll get us through this lonely night.
- รักแห่งสยาม (ซับไตเติ้ลอังกฤษเพลง กันและกัน ท่อนฮุค)
|
|
|
|
|
|
|
แต่นิดนึงเหอะ ดูแล้วอยากกินปลาหมึก อี๊!!!