|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
- รวม Review หนังสั้นประจำเดือน ตุลาคม-พฤศจิกายน 2550
- รักแห่งสยาม : บทพล่ามถึงความรักที่ลอยอยู่รอบตัวเรา
- รวม Review ภาพยนตร์ประจำเดือน ตุลาคม 2550
- ร่าง พรบ. ฉบับใหม่... กูไม่ใช่เกาหลีเหนือโว้ย!!
- รวม Review ภาพยนตร์ประจำเดือน กันยายน 2550
- รวม Review ภาพยนตร์ประจำเดือน กันยายน 2550(2)
- รวม Review ภาพยนตร์ประจำเดือน กันยายน 2550(1)
- ชำแหละความชิบหายของ "เพื่อน...กูรักมึงว่ะ"
- รวม Review ภาพยนตร์ประจำเดือน สิงหาคม 2550
- รวม Review ภาพยนตร์ขนาดยาวประจำเดือน สิงหาคม 2550 (2)
- รวม Review ภาพยนตร์สั้นที่ได้ดูในเดือนสิงหาคม 2550
- รวม Review ภาพยนตร์ขนาดยาวประจำเดือน สิงหาคม 2550 (1)
- รวม Review ภาพยนตร์ 16 เรื่องจาก Bangkok Film
- รวม Review ภาพยนตร์ที่ได้ดูในเดือนกรกฎาคม 2550
- รวม Review ภาพยนตร์ที่ได้ดูในเดือนมิถุนายน 2550
- รวม Review ภาพยนตร์ที่ได้ดูในเดือนพฤษภาคม 2550
- Memories of Matsuko แค่อยากเป็นคนที่ถูกรัก แค่อยากเป็นคนที่ถูกใครสักคนเข้าใจ
- Pan's Labyrinth มันหนังรัฐศาสตร์ชัดๆเลยครับพี่น้อง!!!
- รวม Review ภาพยนตร์ที่ได้ดูในเดือนเมษายน 2550
- รวม Review ภาพยนตร์ที่ได้ดูในเดือนมีนาคม 2550
- รวม Review ภาพยนตร์ที่ได้ดูในเดือนกุมภาพันธ์ 2550
- รวม Review ภาพยนตร์ที่ได้ดูในเดือนมกราคม 2550
- Fur: An Imaginary Portrait of Diane Arbus (สหรัฐอเมริกา, Steven Shainberg, 2006)
- Open Season (สหรัฐอเมริกา, กำกับสามคน, 2006)
- Thank You for Smoking (สหรัฐอเมริกา, Jason Reitman, 2005)
- Earthcore - หนังสั้นปฐมบทของ "13 เกมสยอง" (ไทย, ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล, อนุโลมว่า 2550 ละกัน)
- Final Score-365 วัน ตามติดชีวิตเด็กเอ็นท์ (ไทย, โสรยา นาคะสุวรรณ, 2550)
- A Stranger of Mine aka Unmei janai hito (ญี่ปุ่น, Uchida Kenji, 2005)
- Velvet Goldmine (สหราชอาณาจักร+สหรัฐอเมริกา, Todd Haynes, 1998)
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาคองค์ประกันหงสา (ไทย, หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล, 2550)
- Dead Poets Society (สหรัฐอเมริกา, Peter Weir, 1989)
- ครูสมศรี (ไทย, หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล, 2528)
- Reservoir Dogs (สหรัฐอเมริกา, Quentin Tarantino, 1992)
- 10 หนังสั้นในโครงการ "ชวนเด็กดูหนัง"
- Conflict (สหภาพโซเวียต, ใครกำกับ?, ปีไหนก็ไม่รู้)
- Takeshis' (ญี่ปุ่น, Kitano Takeshi, 2005)
- Wordplay (สหรัฐอเมริกา, Patrick Creadon, 2006)
- The Black Dahlia (เยอรมนี+สหรัฐอเมริกา, Brian de Palma, 2006)
- Hidden aka Cache (ฝรั่งเศส+ออสเตรีย+เยอรมนี+อิตาลี, Michael Haneke, 2005)
- Perfume: The Story of a Murderer (เยอรมนี+ฝรั่งเศส+สเปน, Tom Tykwer, 2006)
- Blood Diamond (สหรัฐอเมริกา, Edward Zwick, 2006)
- Nanoguy Awards 2006
- Nanoguy Awards 2006 ช่วงที่ 2
- Nanoguy Awards 2006 ช่วงที่ 1
- จมโลกเซลลูลอยด์
- ปิดเทอมผลาญหนัง ตอนที่ 4 : อำมหิตพิศวาส/ เปนชู้กับผี/ Stormy Night/ หมากเตะรีเทิร์น/ mastersOFhorror
- ปิดเทอมผลาญหนัง ตอนที่ 3 : Days of Glory/ Candy/ The Pianist / Infernal Affairs /Monster House
- ปิดเทอมผลาญหนัง ตอนที่ 2 :: The Last Emperor/ DOA/ ผีคนเป็น/ Climates/ 21 Grams/ The Departed
- ปิดเทอมผลาญหนัง ตอนที่ 1 : Cars/ The Ant Bully/ 13 เกมสยอง/ A Soap/ Paris, I Love You/ Rob-B-Hood
- แซ่บหนัง ทั้งเทอม!!
- แซ่บเรื่องหนัง(7-จบ) : The Wind that Shakes the Barley, WTC, The Devil Wears Prada, The Child
- แซ่บเรื่องหนัง(6) : Me and Youฯ, The Thomas Crown Affair, The Host, Seasons Change, Death Note
- แซ่บเรื่องหนัง(5) : Jasmine Women/ My Super Ex-Girlfriend/ Dreamer/ An Inconvenient Truth/ Cube
- แซ่บเรื่องหนัง(4) : โคตรรักเอ็งเลย/ The Lake House/ House of Wax/ Miami Vice/ United 93/ Brick
- แซ่บเรื่องหนัง(3) : Superman Returns/ แก๊งชะนีกับอีแอบ/ The Alibi/ Lady in the Water/ Sad Movie
- แซ่บเรื่องหนัง(2) : Don't Tell/ X-Men 3/ หนูหิ่น เดอะมูฟวี่/ The Bow/ Pirates of the Caribbean 2
- แซ่บเรื่องหนัง(1) : Sympathy For Mr Vengeance/ The Lover/ Spirited Away/ The Omen/ Scary Movie 4
- ต้มยำรวมมิตร(3-จบ) Poseidon/ มอ๘/ Match Point/ The Da Vinci Code/ Kinsey/ Always/ ก้านกล้วย
- ต้มยำรวมมิตร(2) ลาง-หลอก-หลอน/ The Wild/ Red Lights/ Perhaps Love/ Date Movie/ Ice Age 2/ M:I:3
- ต้มยำรวมมิตร(1) Capote/ V For Vendetta/ Inside Man/ Where the Truth Lies/ Hoodwinked/ She's the Man
- จับฉ่ายตอนอวสาน : The Constant Gardener/ Transamerica/ Final Destination 3/ A History of Violence
- จับฉ่ายตอนที่ 2 : Paradise Now/ กระสือวาเลนไทน์/ Walk the Line/ Munich/ เด็กหอ/ Invisible Waves
- จับฉ่ายตอนที่ 1 : Memoirs of a Geisha/ Brokeback Mountain/ Sophie Scholl : The Final Days/ Tsotsi
- When Crash was crashed, เมื่อ Crash กลายเป็นแพะ
- Rashomon ธรรมชาติของมนุษย์
- March of the Penguins วิบากแห่งเผ่าพันธุ์
- Nanoguy Awards 2005
- The Chronicles of Narnia : The Lion, The Witch and the Wardrobe แฟนตาซีอลังการส่งท้ายระกาศก
- King Kong ลิงยักษ์ที่คนต้องเสียน้ำตาให้
- Harry Potter and the Goblet of Fire ขาดหาย ตกหล่น พอทน ดูไป
- Nana สองสาว สองฝัน แต่ชื่อเดียวกัน
- เที่ยวนี้ ว่าด้วยความตาย Corpse Bride / Saw 1-2
- คอมโบหนังโรง Into the Blue / Flightplan / 3-Iron / อหิงสา จิ๊กโก๋มีกรรม
- คอมโบอีกซักทีดีไหม? Cinderella Man/Red Eye/เพื่อนสนิท
- Charlie and the Chocolate Factory หนังเด็ก ที่น่าให้ผู้ใหญ่ดู
- คอมโบอย่างบ้าคลั่ง กับหนัง 4 เรื่องรวด
- Team America : World Police เสียดสี ดีเดือด เลือดพล่าน
- The Machinist หลอนได้ที่ สยองได้ใจ
- The Island มนุษย์หนอมนุษย์...
- A Snake of June อสรพิษ=ตัณหา
- War of the Worlds ถึงมนุษย์ผู้หลงลำพอง
- Mr and Mrs Smith อารมณ์เดียวกับ "มหาลัยเหมืองแร่"
- มหาลัยเหมืองแร่ กินได้ แต่ไม่กลมกล่อม
- Star Wars Episode 3 : Revenge of the Sith เหมือนจะไม่ดี แต่ก็เหมือนจะดี...
- Sin City โหด ซาดิสต์ ถึงลูกถึงคน ถึงเลือดถึงเนื้อ...
- Kingdom of Heaven รบกันไปเพื่อ???
- I Am David เรียบๆ เฉยๆ พอดูได้
- Bangkok:Dangerous ร่วมกันยืนไว้อาลัยออกไซด์ แปง...
- The Interpreter เมื่อสามออสการ์โคจรมาพบกัน
- Hide and Seek ใครบอกตอนจบ บ้านบึ้ม...
- The Fog of War ม่านหมอกแห่งสงคราม
- And all razzies go to........ The Eye 10
- The Chorus หนังดีแบบดูง่ายๆ
- The Motorcycle Diaries เรียบๆ แต่ลุ่มลึก
- บุปผาราตรี เฟส 2 หนังเอามันส์ กระชากจิต...
- Hotel Rwanda กับความจัญไรของใจคน
- ความแตกต่างของหนังผู้หญิงและหนังผู้ชาย
- หลวงพี่เท่ง...ง่ะ
- ย้อนอดีต อันดากับฟ้าใส...
- เก็บตกสถิติออสการ์ (น่าอ่าน)
|
|
|
|
|
ปิดเทอมผลาญหนัง ตอนที่ 3 : Days of Glory/ Candy/ The Pianist / Infernal Affairs /Monster House

Days of Glory (Indigenes)
Location :: Lido Multiplex Date :: 26 ตุลาคม 2549
นี่คือหนังสงครามที่ได้รางวัลนำชาย(กลุ่ม)จากเทศกาลหนังเมืองคานส์ และเป็นตัวแทนของประเทศแอลจีเรียเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมปี 2006
เรื่องราวของสงครามโลกครั้งที่สอง section ระหว่างฝรั่งเศสกับเยอรมนีด้วยศึกแห่งศักดิ์ศรีในการกู้ทุ่ง Alsace-Lauren คืนมาจากเยอรมนี ฝรั่งเศสจึงดำเนินกลยุทธศึกด้วยการเกณฑ์ทหารมาจากเหล่าประเทศอาณานิคมอย่างแอลจีเรีย ตูนีเซีย และโมร็อคโค ให้มารบเพื่อประเทศของตัวเอง
เหล่าทหารแอฟริกันที่ภักดีต่อ "แผ่นดินพ่อ" อย่างฝรั่งเศส และชาวแอฟริกันยากจนผู้ต้องการเบี้ยเลี้ยงสงครมมาประทังชีวิตก็ได้สมัครเข้าร่วมทัพนี้อย่างเต็มใจเป็นจำนวนมาก
หลังจากร่วมรบไปได้ไม่นานนัก ความไม่ชอบมาพากลก็เริ่มเกิดขึ้น ตั้งแต่เรื่องเล็กๆอย่างการที่ทหารแอฟริกันไม่ได้กินมะเขือเทศตอนมื้อเที่ยง ในขณะที่ทหารฝรั่งเศสได้ จนถึงการเลื่อนชั้นยศ ทหารฝรั่งเศสเท่านั้นที่ได้เลื่อนยศ ทั้งที่พวกเขาก็รบกับเยอรมนีแบบเคียงบ่าเคียงไหล่ แถมยังเป็นแนวหน้าเสี่ยงชีวิตกว่าพวกฝรั่งเศสตั้งมากตั้งมาย!!
ตลอดทั้งเรื่อง เราจะเห็นทหารแอฟริกันมากมายที่พร่ำบอกว่า กูจงรักภักดีต่อฝรั่งเศส กูจะรบเพื่อนฝรั่งเศส กูคือฝรั่งเศส ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นทหารฝรั่งเศสแทบจะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนร่วมชาติของพวกเขาเมื่อตอนเยาว์วัย มาตอนนี้กลับถูกล้างสมองเสียนี่
ความจริงในใจของแอฟริกันเหล่านี้ได้ประจักษ์ออกมาเมื่อพวกเขา walk out จากเวทีแสดงโชว์บัลเลต์ของฝรั่งเศส นี่แหละที่แสดงว่า แท้จริงแล้วพวกเขาเป็นแอลจีเรียน เป็นตูนีเซียน เป็นโมร็อคคัน ไม่ใช่ฝรั่งเศส!
ปิดท้ายด้วยการรบที่ Alsace-Lauren ด้วยหมู่กองหน้า 11 คนที่เสี่ยงชีวิตจนรอดกลับมาไม่ถึงครึ่ง กลับได้รับความดีความชอบเท่ากับทัพอีกหนึ่งกองร้อยที่เพิ่งยุรยาตรตามมาโดยที่ไม่ได้ทำอะไรซักนิด!!!
Days of Glory... ช่างเป็นชื่อเรื่องที่ประชดประชันอะไรอย่างนี้... เพราะนี่เป็น glory ของฝรั่งเศส และแอฟริกันอาณานิคมก็ไม่ได้อะไรคืนมา เบี้ยเลี้ยงสักฟรังค์ก็ยังไม่ได้!
9 เต็ม 10!!

Candy
Location :: Scala Date :: 27 ตุลาคม 2549
Dan และ Candy คู่รักที่ใช้ชีวิตแบบเสเพล หวือหวา และโลดโผน โดยหารู้ไม่ว่าพฤติกรรมต่างๆนั้น พาชีวิตพวกเขาลงเหว
ทั้งคู่ใช้ชีวิตด้วยการหาเงินมาเพื่อยา ยา และยา ยาสำคัญที่สุดในชีวิต แม้กระทั่งต้องให้ Candy ไปขายตัวหาเงินก็ต้องทำ เพื่อให้ได้ยามาเสพ จนกระทั่งชีวิตของผัวเมียคู่นี้ดิ่งเหวแทบกู่ไม่กลับ...
สิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในหนังก็คือพฤติกรรมของทั้ง Dan และ Candy ล้วนแต่ส่งผลมาจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่ทั้งสิ้น
Casper พ่อของ Dan เลี้ยงลูกแบบปล่อย ตามใจทุกอย่าง เสพยาต่อหน้าลูก นอนกับผู้ชายไม่ซ้ำหน้า แล้วแบบนี้ Dan จะไม่เป็นไอ้ขี้ยาได้ยังไง? ในขณะที่ Elaine แม่ของ Candy ก็เลี้ยงลูกด้วยวิธีการ "ตีกรอบ" มาตั้งแต่เด็ก ส่งผลให้ Candy กลายเป็นคนเก็บกด และมุ่งที่จะแหกกรอบของแม่ เมื่อ Dan นำพา "ยา" เข้ามาในชีวิต เธอก็หักกรอบที่แม่สร้างไว้ไม่มีชิ้นดี และปล่อยตัวเองให้ล่องลอยไปกับรสแห่งความรักอันหวือหวาที่ Dan มอบให้
ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกัน ทั้งที่ฐานะตัวเองยังไม่พร้อมเพียงพอ และยังไม่มีความสามารถที่จะดำรงตนอยู่ อีกทั้งความตั้งใจจริงยังไม่มากพอ...
ไม่งั้นตอนที่ทั้งคู่บอก Schumann ว่าจะไปเลิกยาที่ชนบท จะโดนตอกกลับมาว่า "What's the difference?" หรือ?
ฉากประติมากรรมนิทาน สวย... มีพลัง ฉากเปิดเรื่อง... ช่างคิด Abby Cornish... น่าติดตาม
8.5 เต็ม 10

The Pianist
Location :: VCD เช่า Date :: 29 ตุลาคม 2549
ชะตากรรมของคนยิวในยุคสงครามโลกครั้งที่สองช่างน่าเศร้านัก จากภาพที่พวกเขาถูกทรมาทรกรรมต่างๆนานา แต่ในยุคปัจจุบันคนยิวกลับกลายเป็นผู้ก่อสงครามเสียเอง สงสัยจะเก็บกด...
ลืมไป ไม่เกี่ยวกับหนัง วะฮะฮ่า..
Vladislaw Szpilmann นักเปียโนชื่อดังของโปแลนด์ผู้มีเชื้อสายยิว เขียนเล่าเรื่องราวชีวิตตัวเองระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ที่มีฝ่ายนาซีของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ไล่ล่าฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนยิวอย่างไร้ความปรานี
ภาพที่ทหารเยอรมันทำร้ายคนยิวอย่างสนุกสนานนั้นช่างบีบหัวจิตหัวใจยิ่งนัก... เริ่มตั้งแต่การจำกัดเขตที่อยู่คนยิวโดยการก่อกำแพงล้อมเขตไว้ การไล่ล่าข่มเหงชาวยิวตามบ้าน... ทหารสั่งให้คนยิวยืน เมื่อชายชราพิการนั่งรถเข็นยืนไม่ได้ พวกมันถือว่าไม่ทำตามคำสั่ง มันเข็นเขามาที่ระเบียง แล้ว flip ลงไป...
คนอื่นในครอบครัวถูกลากลงมาหน้าบ้านแล้วสั่งให้วิ่ง ก่อนที่กระสุนจากกระบอกปืนของทหารเยอรมันจะค่อยๆพุ่งเจาะร่างพวกเขาทีละคน... คนที่รอดชีวิตนานที่สุด คือคนที่นอนตายอยู๋ริมกำแพง
Szpilmann เร่ร่อนไปตามทหาร ไปอยู่ในค่ายกักกัน ก่อนจะหนีออกมาและหลบซ่อนตัวในหลายๆที่ เพียงเพื่อให้รอดพ้นจากทหารเยอรมันใจโฉดเหล่านั้น...
ภาพความโหดทำออกมาได้ "โหด" และ "บีบคั้น" มาก (อย่างฉากที่เล่าไปเมื่อกี้..) ในขณะที่ชีวิตของคนคนหนึ่งกำลังจะสิ้นหวัง ได้แต่หาของมาประทังชีวิต ต้องใช้ชีวิตหลบๆซ่อนๆ จากที่เป็นคนดังของชาติ...
ฉากที่เข้าเล่นเปียโนอย่างเกรี้ยวกราดที่ตึกร้างในตอนท้ายเรื่อง จึงเป็นฉากที่มีพลังอย่างเปี่ยมล้น...
Roman Polanski สมกับออสการ์ผู้กำกับยอดเยี่ยมจริงๆ ในขณะที่ Adrien Brody ก็เล่นได้พอตัว แต่ยังไม่ได้ดูเรื่องอื่นเทียบ ไม่อาจบอกได้ว่าเขาเหมาะกับออสการ์หรือเปล่า..
8.75 เต็ม 10

Infernal Affairs Trilogy
Location :: DVD ลิขสิทธิ์ Date :: 30 ตุลาคม 2549
ภาพยนตร์ฮ่องกงไตรภาคต้นฉบับนี้เรียงลำดับจากภาค 2 ไปหา 1 และจบด้วย 3.. ทั้งสามภาคถูกฮอลลีวู้ดเอาไปรีเมคและได้ชื่อใหม่ว่า The Departed
เรื่องราวแบ่งเป็นสามส่วนใหญ่ๆ (ก็คงเป็นสามภาคนั่นเอง) สำหรับในดีวีดี ส่วนแรกจะเป็นที่มาของการเป็นเจ้าพ่อของ "หานเซิน" (เจิ้งจื้อเหว่ย) โดยในภาคนี้ตัวเอกอย่าง "เฉินหยงหยั่น" และ "หลิวเจิ้นหมิง" ยังเป็นวัยรุ่นอยู่ และหานเซินยังเป็นเพียงหนึ่งในคนสนิทของหัวหน้าตระกูลไหงที่มีอิทธิพลมาก
ส่วนที่สอง(ภาคแรก) จึงเป็นเรื่องราวของ "เฉินหยงหยั่น" (เหลียงเฉาเหว่ย) ตำรวจที่เข้าไปเป็นสายในแก๊งของหานเซินอย่างลับๆ และ "หลิวเจิ้นหมิง" (หลิวเต๋อหัว) ตำรวจระดับสูงที่มีความเชื่อมโยงกับหานเซิน ตรงนี้เป็นที่มาของการหักเหลี่ยมเฉือนคม
ส่วนที่สาม คือเรื่องราวหลังจากการหักเหลี่ยมระหว่างอาหยั่นกับอาหมิงจบลง คราวนี้อาหมิงกลับใจและพยายามสืบหาสายของหานเซินที่ยังหลงเหลืออยู่ในกรม โดยมี "ผู้กำกับหยาง" (หลี่หมิง) เป็นคนที่น่าสงสัยด้วยบุคลิกที่เย็นชาและเจ้าเล่ห์เพทุบาย การหักเหลี่ยมระหว่างสายมาเฟียด้วยกันเองจึงอุบัติขึ้น
ถ้าจะเทียบกับ The Departed แล้ว Infernal Affairs มีหลายอย่างที่ดูดีกว่า อย่างเช่นการใช้รหัสมอร์สส่งรหัสกันระหว่างสารวัตรหว่องกับอาหยั่น ในขณะที่ The Departed ใช้การส่ง sms (ที่เสี่ยงกว่าและดูโลว์กว่าการใช้รหัสเยอะเลย)
อีกอย่างที่สังเกตได้ก็คือ The Departed ก๊อปปี้ฉากใน Infernal Affairs แบบช็อตต่อช็อตไปหลายฉากเหมือนกัน และถึงแม้บางฉากจะมีการปรับเปลี่ยนไปบ้าง กลับทำให้อารมณ์ต่างกันโดยสิ้นเชิง อย่างเช่นจุดจบของหานเซิน ที่ของฮ่องกงนั้นทำได้ขลังกว่าและน่าตกตะลึงกว่า (เรียกว่า The Departed เลือกจุดจบให้ Jack Nicholson ได้น่าเกลียดมาก) หรืออย่างฉากเล็กๆแค่อาหมิงขอรหัสเข้าไปดูข้อมูลของอาหยั่น ของฮ่องกงยังทำได้ดูดีกว่า..
แต่ว่า The Departed เองก็ใส่อะไรใหม่ๆเข้าไปเหมือนกัน ทั้งเรื่องความลับของหานเซินที่ไม่มีใครรู้ ที่ในเวอร์ชั่นต้นฉบับไม่มี รวมไปถึงตอนจบที่จบแบบ "กูไม่ทำภาคต่อแน่" ของฮอลลีวู้ดก็ทำได้ดี
อารมณ์การแสดงของ Matt Damon เมื่อเอามาเทียบกับ หลิวเต๋อหัว แล้ว เป็นอารมณ์คล้ายๆกัน เพียงแต่ว่าในเนื้อเรื่องภาคเดียวจบและไม่มีประเด็นคนเลวอยากกลับใจเหมือนในเวอร์ชั่นฮ่องกง (ที่ส่งเรื่องต่อไปเป็นภาคสามอีก) การแสดงอารมณ์ของ Matt ทำให้ตัวละครนี้ดู "เลว" น้อยไปหน่อย
สำหรับ Infernal Affairs นักแสดงที่โดดเด่นออกมากลับไม่ใช่สองตัวหลัก แต่กลายเป็น "หลี่หมิง" ในบท ผู้กำกับหยาง ผู้เย็นชาและลึกลับ รายนี้เข้าข่ายเล่นน้อยแต่ได้มากจริงๆ ไม่อยากเชื่อเลยว่านี่คือคนคนเดียวกับสามีผู้แสนดีใน Going Home และพระเอกหนังรักโรแมนติกอีกสองสามเรื่องของไต้หวัน
อาจจะเพราะว่าเนื้อเรื่องไม่ซ้อนทับกับ The Departed ทำให้ชอบเนื้อเรื่องช่วง "ล้มตระกูลไหง" มากเป็นพิเศษ เพราะนั่นก็หักเหลี่ยมเฉือนคมกันไม่ใช่น้อย
แล้ว Infernal Affairs ก็ใช้เพลง Auld Lang Syne ในการสั่งลาได้ "จี๊ด" สุดๆ ยิ่งเป็นเสียงฮาร์โมนิก้าแล้วยิ่ง "จี๊ด" และ "บาด" มากขึ้นไปอีก
9.5 เต็ม 10

Monster House
Location :: SF Cinema MBK Date :: 31 ตุลาคม 2549
สารภาพว่าจำชื่อตัวละครไม่ได้ - -* เนื้อเรื่องก็คือกลุ่มเด็กตัวเอกต้องเข้าไปหาความจริงในบ้านผีสิงที่อยู่ตรงข้ามบ้านของเขา จบ
การ์ตูนเรื่องนี้วาดสิ่งที่ "ไม่ใช่คน" ได้ดีในระดับ "ดีมาก" ทั้งต้นไม้ใบหญ้าบ้านเรือนพื้นถนน และตัวเอกของเรา "บ้านผีสิง" ที่ทำได้น่ากลัวสุดๆ แต่ตัวละครที่เป็น "คน" มันดูแข็งๆยังไงบอกไม่ถูก
เนื้อเรื่องส่วนที่เป็นความจริงเรื่องที่มาของบ้าน เรื่องนี้ถือว่าทำได้ดี..และค่อนข้างมีประเด็นทีเดียวสำหรับเรื่องของคนที่ถูกข่มเหงมาตลอด เพียงแต่ว่าเนื้อเรื่องช่วงแรกเหมือนกับถูกทิ้งไปซะเฉยๆ ทั้งเรื่องของพี่เลี้ยงสาวที่มาระรานตัวเอกของเรื่อง ก็เงียบไปซะเฉยๆ โผล่มาอีกทีก็ปลายเรื่อง
7 เต็ม 10
Create Date : 02 พฤศจิกายน 2549 |
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2549 5:49:09 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1368 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: zadwaan (cheatoneself ) วันที่: 2 พฤศจิกายน 2549 เวลา:7:46:44 น. |
|
|
|
โดย: amoderndog (amoderndog ) วันที่: 2 พฤศจิกายน 2549 เวลา:17:32:20 น. |
|
|
|
โดย: amoderndog (amoderndog ) วันที่: 2 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:09:25 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

|
คนในสังคมจารีตที่มีความคิดทางเวลาแบบไตรภูมิจะไม่ให้ความสำคัญแก่เวลาตามประสบการณ์ กล่าวคือไม่ให้ความสำคัญแก่การเปลี่ยนแปลงที่เป็นจริงของชีวิตและสังคมว่าดำเนินมาและดำเนินไปอย่างไร เชื่อในการคลี่คลายเปลี่ยนแปลงของชีวิตและสังคมซึ่งจะต้องเป็นเช่นนั้นตามกฎแห่งเวลาของพุทธศาสนา
- อรรถจักร สัตยานุรักษ์ (จากบทความ "ความเปลี่ยนแปลงความคิดทางเวลาในสังคมไทย" วารสารเศรษฐศาสตร์การเมือง 4 ตุลาคม 2531)
Let this song rhyme our souls when your voice and mine become one and whole.
Let it carry us high above When we recite our poetry of love that when there's love then there's hope.
Your love is my light, and it'll get us through this lonely night.
- รักแห่งสยาม (ซับไตเติ้ลอังกฤษเพลง กันและกัน ท่อนฮุค)
|
|
|
|
|
|
|
จบแบบเศร้าๆทำให้คิดถึงหนังสงครามเรื่องนึงที่ทอม แฮงค์แสดงนำ ว่าแต่ซาอิดนี่ก็รักจ่าของตัวเองดีมากเลยอะแก จงรักภักดีโคตร...
Candy ไม่มีอะไรจะพูด ชอบๆเรื่องนี้ เฮียฮีธเล่นเป็นขี้ยาได้ดี แคสเปอร์ก็เป็นตัวละครที่มีสีสันโคตร บอกคนอื่นเลิกยาแต่ตัวเองทำไม่ได้ซักกะที ไอ้ที่คนขายยาบอก"แล้วมันแตกต่างกันยังไง"เนี่ยก็หลอกด่าได้อีก
The Pianist ครั้งก่อนเช่ามายังไม่ทันดูครบกำหนดคืนก่อน แอบเศร้า(เดี๋ยวเช่าใหม่ก็ได้ฟะ) ว่าแต่เฮียโบรดี้เค้าแสดงเก่งน้า ว่าจะเช่าเรื่องอื่นของเอียแกมาดูเหมือนกัน
Internal Affairs ยังไม่ได้ดูครบ 3 ภาคเลย เดี๋ยวเสาร์นี้ดูภาค 1 อีกรอบ แกภูมิใจเสนอชั้นก็ภูมิใจดูฟะ
Monster House กรี๊ดดด แอบให้น้อยนะเนี้ย สำหรับชั้นอนิเมชั่นเรื่องนี้สวยสุดในรอบปีเลยนะแก แถมเนื้อเรื่องยังออกแนวเด็กโตดูดี ผู้ใหญ่ดูได้อีกด้วย มีหลากหลายอารมณ์ Horror,Comedy การเติบโตเข้าสูวัยรุ่นของเด็ก แต่ก็จริงของแกว่าช่วงแรกๆเนี้ยโดนทิ้งไปเลย แต่ชอบหลายตอนอะ ตลกดี คุณนายคอนสแตน์ก็ตายอย่างน่าเวทนาจริงๆ
อัพทีเป็นเบือ ช่วงนี้แกแอบดูหนังเยอะ ว่างจัดพอกันเหอะ