“ในฐานะนักทำหนังคนหนึ่ง ผมปฏิบัติกับหนังของผมประดุจลูกชายและลูกสาว เมื่อผมให้กำเนิดเขา พวกเขาก็มีชีวิตเป็นของตนเอง ผมไม่ใส่ใจว่าผู้คนจะรักหรือเกลียดลูกของผม ตราบใดที่ผมสร้างเขาขึ้นมาด้วยความตั้งใจและความพยายามอย่างสูงสุด ถ้าลูกๆ ของผมไม่สามารถอาศัยอยู่ในประเทศของเขาเองไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอันใดก็ตาม ก็ปล่อยเขาเป็นอิสระเถิด เพราะมันยังมีพื้นที่อื่นๆ ที่ต้อนรับเขาอย่างอบอุ่นในแบบอย่างที่เขาเป็น มันไม่มีเหตุผลเลยที่ต้องทำให้พวกเขาพิกลพิการจากระบบแห่งความกลัวหรือความละโมบ มิฉะนั้นแล้วมันก็ไม่มีเหตุผลอันใดที่คนสักคนหนึ่งจะสร้างงานศิลปะต่อไป”
-- อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล
(คำปรารภหลังจาก "แสงศตวรรษ" ผลงานภาพยนตร์จากผู้กำกับคนไทย พูดภาษาไทย ใช้ดาราคนไทย ถูกกองเซนเซ่อประเทศไทยบังคับให้ตัดฉากสำคัญ 4 ฉากออกหากต้องการฉายในโรงภาพยนตร์ของประเทศไทย)




“ผมคิดว่าพระกลุ่มนี้โดนจี้จุดจึงร้อนตัวเกินไป หรือเป็นพวกอยากดัง จึงต้องทำตัวเป็นข่าว อยากถามว่าทำไมไม่ไปเรียกร้องหรือแก้ปัญหาพระที่ออกมาแก้ผ้า มั่วสีกา หรือใช้มีดกรีดร่างกาย หลอกลวงประชาชน ทั้งนี้หากจะฟ้องก็ยินดีให้ฟ้องได้ทุกศาล หรือว่าจะไปฟ้องจตุคาม ศาลเจ้าแม่กวนอิม พระอินทร์ พระอิศวร ก็เชิญ ผมไม่สนใจ แต่เห็นว่าพระกลุ่มนี้ไม่เหมาะสมในสมณะ และเป็นพระหน้าเดิมที่ออกมาเดินขบวนเรียกร้องการบรรจุพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ”
-- ถวัลย์ ดัชนี
(คำตอบโต้ภายหลังกลุ่มพระสงฆ์ที่ชุมนุมประท้วง ขู่ฟ้องคดีอาญาต่ออธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร นายอนุพงษ์ผู้วาดภาพภิกษุสันดานกาและหมานุษย์ และคณะกรรมการที่ตัดสินรางวัลศิลปกรรมแห่งชาติ ในข้อหาหมิ่นศาสนา)
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2550
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
5 พฤษภาคม 2550
 
All Blogs
 
รวม Review ภาพยนตร์ที่ได้ดูในเดือนมีนาคม 2550

หนังยาว





The Lives of Others aka Das Leben der Anderen
(เยอรมนี, Florian Henckel von Donnersmarck, 2006)


- Ulrich Muhe เล่นได้เทพมาก
- หนังดราม่าเอื่อยสุดๆช่วงแรก ดูแล้วงีบเป็นแพนด้า (ช่วงๆ) แต่พอผ่านครึ่งชั่วโมงแรก หนังน่าติดตามขึ้นมาทันที
- เนื้อเรื่องเกี่ยวกับช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 กับเยอรมนีที่แยกเป็นสองประเทศ เรื่องราวเกิดในเยอรมนีตะวันออก ว่าด้วยสิทธิเสรีภาพและความเป็นเผด็จการ
- ยุคนั้นนักคิดนักเขียนถูกจำกัดสิทธิ ความเป็นประชาธิปไตยเท่ากับกบฎต่อประเทศ และการตามติดสอดส่องชีวิตของคนในประเทศถือเป็นเรื่องปกติ
- แต่ว่าหนังนำเสนอถึงคนของเกสตาโปเยอรมนีตะวันออกที่เมื่อได้ฟังแนวคิดเรื่องเสรีภาพ ความจงรักภักดีต่ออำนาจเผด็จการก็เริ่มสั่นคลอน
- เนื้อเรื่องแบบนี้เหนือความคาดหมายมาก... เพราะไม่งั้นหนังจะเป็นหนังเกี่ยวกับสภาวะสงครามดาษๆอีกเรื่องนึงแหงๆ
- ชอบตอนจบโคตรๆ



Somersault
(ออสเตรเลีย, Cate Shortland, 2006)


- หนังดราม่าดี.. คนอื่นเขาชอบกัน แต่ดูแล้วไม่ได้กระแทกใจขนาดนั้น
- Abbie Cornish เล่นได้เทพมาก!!



Little Miss Sunshine
(สหรัฐอเมริกา, Jonathan Dayton+Valerie Faris, 2006)


- หนังดีกว่า The Departed ล้านเท่า ดูดีกว่า Babel นิดหน่อย
- เตรียมตัวเข้าชิงทีมนักแสดงยอดเยี่ยม Nanoguy Awards 2007 ไว้แต่เนิ่นๆได้เลย
- หนังพูดถึงความหมายที่แท้จริงของคำว่า Loser ได้ดีมากๆ ยิ่งฉากช่วงท้ายๆ จิกกัดสังคมองค์ประกอบใหญ่ด้วยการประกวดนางงามเด็กได้ดีจริงๆ
- Paul Dano + Toni Collette + Steve Carell เล่นได้เทพมาก!!!!
- แต่ Alan Arkin ที่ได้ออสการ์ไม่เห็นจะดูดีขนาดน่าได้รางวัลตรงไหน
- ชอบรถตู้สีเหลืองจริงๆ ให้ตายเถอะโรบิ้น
- ตัวละครในครอบครัวนี้มีแต่คนที่สังคมรอบข้างลอยแพ มีทั้งนักวิชาการที่ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต แม่บ้านติดบุหรี่ที่กำลังกลุ้มกับสภาวะถังแตก เกย์ และเด็กผู้หญิงอ้วนๆที่อยากเป็นนางงาม
- ฉากท้ายๆ ตอนที่โอลีฟเข้าไปคุยกับนางงามของรัฐแฝงนัยยะไว้ดีมาก.. เพราะนางงามรัฐคนนั้นไม่ใช่คนผิวขาว ไม่ใช่คนหน้าฝรั่งตาม typical นางงามของอเมริกา.. แต่เธอทั้งผิวแทน แล้วยังมีเชื้อสายจีน แถมยังกินไอติมที่เป็นศัตรูกับความผอมเพรียวอีกต่างหาก!!!
- "ถึงเราจะไม่เหมือนใคร ก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวเองให้เหมือนชาวบ้าน" - nanoguy




ยังไงก็รัก
(ไทย, ต่อพงศ์ ตันกำแหง, 2550)


- กิ๊กสุวัจนีเล่นดีมาก.. มีสิทธิ์เข้าชิงนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม
- ดาราใหม่ก็เล่นดี แต่ว่าติดสำเนียงฝรั่งเกินไป ส่วนไก่สมพลก็งั้นๆ ออกแข็งๆนิดนึงด้วยซ้ำ
- หนังมันฮาไม่สุด ดราม่าไม่พีค เลยออกมากึ่งๆ ไม่ลงตัว
- ถ้าหนังทำแบบหนังเกาหลีที่ช่วงแรกตลก แล้วตอนหลังมาเป็นดราม่าบีบน้ำตาแบบพีคๆ น่าจะรู้สึกดีกว่านี้เยอะ




Charlotte's Web
(สหรัฐอเมริกา, Gary Winick, 2006)


- ซีจีเนียนมากๆ สัตว์น้อยน่ารักสุดๆ
- ดาโกต้าคืนสู่ความน่ารักแบบสามัญอีกครั้ง หลังจากมัวแต่ไปกรี๊ดแตกใน War of the Worlds
- แต่นี่คงเป็นเรื่องสุดท้ายที่จะเห็นดาโกต้าใสๆ แบบเด็กๆ เพราะเรื่องหน้าดาโกต้าจะเป็นสาว และข้ามวัยในหนังด้วยบทเด็กที่โดนข่มขืน...
- Julia Roberts น่าได้รางวัลพากย์เสียงยอดเยี่ยม เพราะเสียงเจ๊ปากกว้างทำให้ Charlotte กลายเป็นตัวละครที่น่าจดจำ และเป็นที่รักของคนดูตามแบบที่ควรเป็น




Venus
(สหราชอาณาจักร, Roger Michell, 2006)


- ปู่ Peter O'Toole สร้างประวัติศาสตร์เป็นดาราชายที่เข้าชิงออสการ์แล้ววืดหมดมากครั้งที่สุด คือ 8 รอบ
- ใจจริงเอาใจช่วยให้ได้ออสการ์จากเรื่องนี้มากๆ.. เพราะว่าแกจะเหลือแรงมาเข้าชิงอีกครั้งรึเปล่าก็ไม่รู้
- Jodie Whittaker หน้าตาไม่สวยมากแต่ว่าดูดีจริงๆ.. และร้ายได้ใจมาก สงสารปู่
- เนื้อเรื่องว่าด้วยโคแก่อยากกินหญ้าอ่อน เมื่อหญ้าอ่อนรู้ทันก็หลอกใช้.. แต่ทำออกมาได้โรแมนติกและไม่ดูวิปริตโรคจิต สมกับเป็นผู้กำกับ Notting Hill



300
(สหรัฐอเมริกา, Zack Snyder, 2006)


- หนังเลือดสาดแบบมีศิลปะ
- กองเซนเซ่อมันไม่รู้จักศิลปะ มันเลยเซนเซ่อนม แถมยังตามมาเซ็นถึงในโรง ไม่ทราบว่ามึงว่างมากเหรอครับ?
- หนังไม่ได้ดีอะไรมากมาย แต่ว่าเป็นหนังที่ entertain คนดูได้ดี เหมาะสำหรับไว้ดูแก้เครียด




Sympathy for Lady Vengeance
(เกาหลีใต้, Park Chan-wook, 2005)


- ลียองเอ พลิกภาพจากแม่นางจังกึมผูใสซื่อบริสุทธิ์โคตรแห่งคนดีจอมนางแห่งวังหลวง มาเป็นอดีตนักโทษผู้มีความแค้นอัดแน่นอยู่ในจิตใจ... และเล่นดีในระดับเทพ!!!
- ภาคนี้ถ้าคนไหนชอบก็จะชอบมาก คนไม่ชอบก็จะไม่ชอบ เพราะว่าโทนหนังเปลี่ยนไปคนละทางกับ Oldboy ที่สร้างชื่อให้ไตรภาคล้างแค้นของ Park Chan-wook
- ภาคนี้ลดความเป็นแอ็คชั่น แต่เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นหนังตลกร้ายแทน...
- ลียองเอ กับ ชอยมินซิก(พระเอก Oldboy) ขับเคี่ยวบทกันได้ดี โดยเฉพาะคนหลังที่โผล่มาก็ครึ่งเรื่องหลังแต่เล่นดีได้ใจไม่ใช่น้อย
- คนอื่นเขาบอกว่าหนังมันยืดย้วย แต่สงสัยเพราะอคติในใจเจ้าของบล๊อก ไม่เห็นจะรู้สึกว่ามันเกินตรงไหน หนังเจ๋งออก...
- ตอนจบ กระชากใจอย่างแรง




บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม 2
(ไทย, เพ็ชรทาย วงศ์คำเหลา, 2550)


- หนังอุดมไปด้วยคำหยาบมากกว่าธรรมชาติมนุษย์จะพูดกัน
- แต่อย่างน้อย หม่ำก็พัฒนาการเล่นมุขในบางส่วนให้ดูดีกว่าแค่เอามุขคาเฟ่มาขึ้นจอ เช่น การไปล้อหนังฝรั่ง ล้อหนังจอห์นวู หรือล้อข่าวบันเทิงเช่น "ครูถลากับเมียสาวเอ๊าะๆ หน้าคล้ายๆ นักร้องลูกทุ่งสาวคนหนึ่ง"
- ดาราหญิงลูกครึ่งที่เล่นเป็นซีไอเอเมาเหมือนจริงดี
- ส่วนที่เหลือหนังก็งั้นๆอะ... ทุ่มงบร้อยล้านแต่ฉากแอ็คชั่นดูก๊อกแก๊กๆ มาก
- รำคาญตอนโหน่งด่าสุดๆ




Bridge to Terabithia
(สหรัฐอเมริกา, Gabor Csupo, 2007)


- ใครหวังจะไปดูแฟนตาซีอลังการแบบนาร์เนียคงได้ด่าเช็ด เพราะหนังเรื่องนี้เป็นหนังดราม่า
- แต่หนังดีไม่ได้อยู่ที่อลังการซะหน่อย.. น้อยใจนะเนี่ย
- Josh Hutcherson พระเอกเด็กเล่นดี... Zooey Deschanel ในบทคุณครูทั้งสวยทั้งเล่นดี
- แต่คนที่เกิดสุดๆ น้อง Annasophia Robb ขอรับ.. กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
- ยอมรับแบบไม่อายว่าดูแล้วน้ำตาไหล




Flushed Away
(สหราชอาณาจักร+สหรัฐอเมริกา, David Bowers+Sam Fell, 2006)


- เรื่องนี้เป็นอนิเมชั่นสามมิติ ที่คงรูปแบบตัวการ์ตูนเหมือน clay animation ของค่าย Aardman เจ้าของอนิเมชั่นรางวัลออสการ์อย่าง Wallace&Gromit
- ธีมหนังออกเดิมๆ ตัวละครเอกอยู่ในสังคมสมบูรณ์แบบ หลงไปสังคมอีกแบบ และได้เรียนรู้โลกกว้าง เปลี่ยนทัศนคติของตัวเอง คล้ายๆกับ Cars
- แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่านางเอกที่ห้าวๆ แบบนี้คนพากย์กลับเป็นสาวหวานร่างอวบอย่าง Kate Winslet ซะยังงั้น
- บ้านนางเอกน่ารักดี.. อยู่กันเป็นร้อยตัว
- เผ่าพันธุ์ทากบ้าเพลง ขโมยซีนสุดๆ
- หนังอังกฤษ เลยแขวะฟุตบอลทีมชาติอังกฤษซะเละเทะเลย "อังกฤษชนะได้ อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้นแหละโลกนี้" 55555




ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ
(ไทย, ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ+บรรจง ปิสัญธนะกุล, 2547)


- อนันดา กับ วีเจจ๋า เล่นได้เยี่ยงสาก
- ขออนุญาตกราบตีนอิมอชิตะ... สาวไฮเปอร์กลายเป็นผีนังเนตรได้เนียนโคตรเนียน
- เรื่องนี้หลอนแบบไม่เน้นเสียง.. ชอบฉากในห้องอัดมากๆ "เจนเหรอ วันนี้มาเร็วนะ"
- ผีเนตร หลอนสัดๆ ตอนเป็นคนก็หลอน
- ตอนจบ หลอนกว่า... บรื๋อออ.. หนักคอว้อยยย




Nana 2
(ญี่ปุ่น, Otani Kentaro, 2006)


- เพลงไม่ติดหูเท่า Glamorous Sky กับ Endless Story
- Ichikawa Yui หน้าตากร้านโลกราวนางเอกเอวี ไม่เหมาะกับบทนานะฮาจิอย่างมาก... หนังเสียไปเยอะเพราะเธอคนนี้
- กลับไปดูภาคแรกดีกว่า ชิ...




The Good Shepherd
(สหรัฐอเมริกา, Robert de Niro, 2006)


- หนังยาว และเล่าเรื่องสองประเด็นสลับกันจนแทบจะผ่าหนังเป็นสองเรื่องได้เลย
- Michael Gambon เหมาะกับบทสายลับเก๋าๆแบบนี้ มากกว่าไปเป็นดัมเบิลดอร์ในแฮร์รี่พอตเตอร์ล้านเท่า
- Matt Damon ก็ยังหน้าตายเหมือนเดิม
- Angelina Jolie เล่นตั้งแต่อายุ 20 ถึง 50 กว่า... เป็นส่วนที่ดีที่สุดของหนัง แต่ใช้ไม่คุ้มเท่าไหร่ เหมือน Alexander เลย - -*
- ถือว่าเดอนีโรมีสกิลในการกำกับหนังที่ดีพอควรอยู่ เพราะหนังสามชั่วโมงกว่าแต่ จขบ.ดูแล้วไม่หลับ ทั้งที่หนังก็เอื่อย




I'm a Cyborg, But that's OK.
(เกาหลีใต้, Park Chan-wook, 2006)


- เรนเล่นดีกว่าที่คิด แต่อิมซูจองเล่นดีเลิศ
- มีฉากแฟนเรนเซอร์วิสสองฉาก ได้แก่ เรนถอดเสื้อ - - และ เรนร้องเพลง - -*
- ใครที่หวังว่าจะดูหนังโรแมนติกน้ำเน่าเหมือนซีรี่ส์ไอทีวีก็คงด่าเช็ดอีกตามเคย ช่วยกลับไปดูเครดิตหนังเฮียปาร์คด้วยว่าแกทำหนังแบบไหน
- แต่ จขบ. ดูแล้วคิดว่าเรื่องนี้ก็โรแมนติกดีออกนะ... แต่มันไม่ได้ออกมา เน๊า เน่า แค่นั้นเอง...
- และก็ยังมีฉากเซ็กส์กับเลือดสาดตามแนวเฮียปาร์คเหมือนเดิม 555+




Taxidermia
(ฮังการี+ออสเตรีย+ฝรั่งเศส, Palfi Gyorgy, 2006)


- หนังน่ากลัวและสยดสยองพองขนมาก แต่โรคจิตได้ใจ 555+
- ชอบประเด็นเรื่อง "การเป็นตำนาน" และ "ความสำเร็จ" ที่เอามาโยงกับการสตัฟฟ์สัตว์ได้ดี... (Taxidermia คือการสตัฟฟ์สัตว์น่ะจ้า)
- ตอนจบ ทั้งหลอกหลอน รบกวนจิตใจ และประชดประชัน




Mr. Bean's Holiday
(สหราชอาณาจักร, Steve Bendelack, 2007)


- ฮาไม่เท่าซีรี่ส์
- Willem Dafoe ขโมยซีนมิสเตอร์บีนได้ทุกช็อต ดีนะที่เป็นแค่บทสมทบ
- ฉากที่เทศกาลเมืองคานส์ฮาระดับเทพ




แฝด
(ไทย, ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ+บรรจง ปิสัญธนะกุล, 2550)


- มาช่าเล่นดีระดับเทพ!!
- เข้าโรงสายไปประมาณสิบนาทีเพราะเพื่อนเลตเข้าขั้นเทพ - -*
- หนังใช้วิธีผีหลอกแบบเดิมๆ.. เช่น เดินทำเหมือนจะเจอแล้วไม่เจอ จังหวะต่อมาถึงเจอ ซึ่งอีพวกขวัญอ่อนมันก็จะกรี๊ดกันล่วงหน้า เป็นที่เสียอารมณ์ระดับเทพ
- อีกแบบคือฟาดกลองกระหน่ำลงมาอย่างแรง เสียงเหมือนกับบ้านโดนสึนามิถล่ม อีพวกขวัญอ่อนก็จะกรี๊ดกันล่วงหน้า เสียอารมณ์ระดับเทพคูณสอง
- โดยรวม ชอบชัตเตอร์มากกว่า...
- นี่ถ้าไม่ได้มาช่า กับ แฝดพลอยพิมตอนวัยรุ่น หนังแป้กนะเนี่ย!!




The Fountain
(สหรัฐอเมริกา, Darren Aronofsky, 2006)


- นี่คือหนังที่ถูกมองข้ามจากทุกสถาบัน เพียงเพราะคนตะวันตกดูแล้วไม่คลิก ไม่เว้นแม้แต่สาขางานศิลป์ งานถ่ายภาพ ทั้งที่เรื่องนี้น่าจะได้รางวัลด้วยซ้ำ!!!
- ดูที่โรงพารากอน ราคา 160 บาท แต่รู้สึกไม่เสียดายเงินเลยแม้แต่น้อย รอดีวีดีอยู่
- Hugh Jackman เล่นดีมาก.. ส่วน Rachel Weisz เล่นดีในระดับโคตรเทพพระอินทร์กลับชาติมาเกิด
- ความหมายแท้จริงของคำว่า Eternity และ Immortality คืออะไร หาได้จากเรื่องนี้...
- ใครแสวงหาหนังโรแมนติกซาบซึ้งตรึงจิต เรื่องนี้ตอบโจทย์ได้ร้อยเปอร์เซนต์
- เสร็จเรื่องนี้คงต้องไปหา Pi กับ Requiem for a Dream ของ Darren Aronofsky มาดูซะแล้ว (แม้ว่าจะมีคนบอกว่า The Fountain คืองานที่อาโรนอฟสกี้ "เกิดใหม่")




Copying Beethoven
(สหรัฐอเมริกา+เยอรมนี, Agnieszka Holland, 2006)


- หนังแป้กมาก...
- ถ้าไม่มี Ed Harris กับฉากบรรเลงซิมโฟนี่หมายเลข 9 คงกลายเป็นหนังที่ชุ่ยโคตรไปเลย
- หนังกำลังจะพูดประเด็นเรื่อง copying กับ ตัวตน แต่พูดได้ผิวๆ หนังก็จบซะแล้ว.. เป็ดจริง!!


Create Date : 05 พฤษภาคม 2550
Last Update : 7 พฤษภาคม 2550 4:36:48 น. 20 comments
Counter : 1946 Pageviews.

 
แค่จะเข้ามาดีใจ แมนยูแชมป์แล้วจ้า!!!


พี่ก็ชอบLittle Miss Sunshine มากเลยอ่ะ ฮาฉากขึ้นรถตู้สุดๆ หนังน่ารักมาก เสียดสีสังคมได้ดีด้วยแหละ โดยเฉพาะตอนพวกนางงามเด็กมาแสดงความสามารถ - -"


โดย: อะ-โล-ฮ่า วันที่: 7 พฤษภาคม 2550 เวลา:13:00:24 น.  

 
เด๋วจะไปนั่งดูลิตเติ้ลมิสซันฉ่ายต่อ



ดีมาก อัพหนังซะเยอะๆนะ


โดย: จั่น* IP: 58.8.73.228 วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:0:45:27 น.  

 
อุๆ กลับมาเป็นตี้ เดอะมูวี่มาเนีย คนเดิมแว้วแฮะ หลังจากไปเย้วๆ เรื่องการบ้านการเมืองอยู่ซะตั้งนาน ... อ่านแล้วมีบทสรุปที่สั้นและได้ใจความเหมือนเดิมนะครับ
... ว่าแต่ เพิ่งได้ดู ชัตเตอร์ เดือนนี้เองเหรอคับเนี่ย?!? ... พี่ก็เสียดายที่พลาดหนังดีๆ ไปหลายเรื่องอยู่เหมือนกันอ่า


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:11:02:46 น.  

 
เห็นด้วยกะเม้นข้างบน

กลับมาดูหนังเหมือนเดิมละ

พี่ชอบทากในฟลัชอะเวโคตรๆๆๆๆ


น่ารักกกกกกกกก


โดย: PADAPA--DOO วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:14:29:27 น.  

 
ยังไม่ได้ดู The Lives of Others และอยากด ูรอแผ่นอยู่ไม่รู้จะมีมั๊ยอ่ะ...

ดูแล้วชอบหลายเรื่องเหมียนกัลเลย โดยเฉพาะ Little Miss Sunshine, BBT, The Fountain, Flushed Away ... หลายเรื่องจริงวุ๊ย

เพิ่งหาชัตเตอร์ มาดูเหมือนกัน เพราะอยากเลิกกลัวผี ดูแล้วก็... กลัวเหมือนเดิม...แต่เจ๋งแฮะ โดยเฉพาะตอนจบ ... ออย ตอนนี้ปวดคออีกแล้ว เหวอ! ...


โดย: bua ja วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:17:12:17 น.  

 
อ่านแล้วก็ถอนหายใจเฮืออกกกกก

เพราะมีหนังหลายเรื่องที่พลาดการดูไป

ไม่ว่าจะเป็นนางสาวพระอาทิตย์เล็กๆ

หรือสะพานสู่ทิราบีเทีย

เฮ้อ..อยากดูๆๆๆ



แต่คงห่างการดูหนังไปอีกพักใหญ่ๆ เลยแหละ


อ่านหนังสือเอาแทนก็ได้วะ (มันแทนกันได้หรือนั่น)




อาไร ดูไม่เป็นหน้านางฟ้าเรอะ


ไปดูที่บล็อกบอกอปุกปุยสิ พี่ชำแหละไว้ให้ดูแระ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:17:25:59 น.  

 
Ichikawa Yui หน้าตากร้านโลกราวนางเอกเอวี ไม่เหมาะกับบทนานะฮาจิอย่างมาก... หนังเสียไปเยอะเพราะเธอคนนี้
^
^

ไม่ชอบเหมือนกัน แต่ก็ไม่คิดว่าเป็นขนาดนางเองAVน่ะ ฮาจิคนก่อนน่ารักกว่ามาก
แต่เปลี่ยนเรน นี้เราโอเคเลย


โดย: li_goro วันที่: 11 พฤษภาคม 2550 เวลา:15:20:01 น.  

 
อยากดู Little Miss Sunshine
ชอบโปสเตอร์หนัง



โดย: พระเจ้า** IP: 58.9.9.95 วันที่: 11 พฤษภาคม 2550 เวลา:23:12:16 น.  

 
เข้าเทศกาลเยี่ยมบล้อกเพื่อนบ้านแว้วววว

... อยากดู วีนัส รอแผ่นไม่รู้ว่าจะมาหรือเปล่า เดือนนี้กลับมาบางกอก ได้เสพหนังจนเปรมแล้วนะครับ แต่น่าเสียดาย ช่วงนี้ใยแมงมุมเยอะไปหน่อย

ป.ล. The lives of other แผ่นมาแว้ววว


โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" วันที่: 12 พฤษภาคม 2550 เวลา:19:37:27 น.  

 
สวัสดีอีกรอบ

จะบอกว่า หลายๆ ประเทศนะที่รักษาวัฒนธรรมเค้าไว้ได้ดีๆ น่ะ

อาจเป็นเพราะเค้าภาคภูมิใจในวัฒนธรรมเก่าแก่ยืนนานของเค้า

ไม่คิดว่าเชยเหมือนคนบ้านเราน่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 14 พฤษภาคม 2550 เวลา:14:37:25 น.  

 
อ่านเพลินดี แอบเห็นด้วยหลายเรื่องอยู่นะครับเนี่ย

คนเขียนเทพมาก!!!! (ขอลอกสำนวนหน่อย)


โดย: ฟ้าดิน วันที่: 15 พฤษภาคม 2550 เวลา:3:42:05 น.  

 
แง้...ไม่นะ ลูกทัวร์เค้าไม่ใจร้ายค่ะ เค้าแค่ขี้เกียจเที่ยวแค่นั้นเอง แหะๆ





อยากไปวังเวียงเหมือนกัน อยากไปหลวงพระบางง่ะ ลาวพี่เคยไปแต่เวียงจันทน์กับปากเซ







อืมม์..ถ้าจะคุยเรื่องวัฒนธรรมน่ะต้องคุยกันยาวจ้ะ เหอๆ หน้าบล็อกอาจจะไม่พอ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 15 พฤษภาคม 2550 เวลา:8:47:09 น.  

 

MySpaceGlitter.com


มีแต่หนังที่ชอบทั้งนั้นเลย
รอแผ่น แฝดออก จะเก็บไว้ดูอีก เหอๆ


โดย: seroza วันที่: 16 พฤษภาคม 2550 เวลา:19:13:31 น.  

 
Borat มาแล้ว และแนะนำให้ดู Thank you for smoking อ้อ แล้วถ้ารับความอุบาทว์ของแก๊ง Jackass ได้ก็แนะนำให้ดูเช่นกัน ฮาทุกเรื่อง ^ ^


โดย: runtboy วันที่: 17 พฤษภาคม 2550 เวลา:23:31:51 น.  

 
พี่อัพบล็อกตอนใหม่เสร็จแว้วนะคร้าบ ... เชิญไปเที่ยวต่อที่บล็อกพี่ได้เลยครับผม

... แล้วมะวานไปดู 28 Weeks มาเป็งไงบ้างอ่า? เด๋วจะไปรออ่านฟามเห็นในบล็อกคุณหมอพีฯ นะครับ


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 18 พฤษภาคม 2550 เวลา:10:08:04 น.  

 
บล๊อกบูดละ นาโนเอ้ย


โดย: PADAPA--DOO วันที่: 18 พฤษภาคม 2550 เวลา:11:52:37 น.  

 
ไม่ได้ดูตั้งหลายเรื่องตามที่เล่ามา
ชอบไอเดียของI'm a Cyborg, But that's OK


โดย: renton_renton วันที่: 18 พฤษภาคม 2550 เวลา:16:54:03 น.  

 
อุตส่าห์ดีใจนึกว่าอัพบล็อกเพิ่มแล้ว ยังยุ่งอยู่หรือตี้?


เชอรี่ที่พี่ซื้อกินที่โน่นคนละเชอรี่กับที่ขายเยาวราชมั้ง ที่เยาวราชจะเหมือนที่ฮ่องกงมากกว่า


อันนี้เป็นเชอรี่บ้านๆ ง่ะ ลูกเล้กๆ ผิวเปล่งๆ ไม่แน่นแข็ง ออกนิ่มๆ หน่อย แต่หวานๆ เปรี้ยวๆ อร่อยดี


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 19 พฤษภาคม 2550 เวลา:9:10:47 น.  

 
อยากดูบ้าง..
แงๆๆๆ...กลับไทยเมื่อไหร่จะหาดูให้หมด


โดย: N'SinE วันที่: 20 พฤษภาคม 2550 เวลา:14:56:44 น.  

 
น้องตี้ nano กั๊บ ช่วยรับ Tag นี้ไว้ดูเล่นอีกอันนะขอรับ

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=buaja&month=05-2007&group=19&date=20&gblog=3


โดย: bua ja วันที่: 20 พฤษภาคม 2550 เวลา:20:45:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nanoguy
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




คนในสังคมจารีตที่มีความคิดทางเวลาแบบไตรภูมิจะไม่ให้ความสำคัญแก่เวลาตามประสบการณ์ กล่าวคือไม่ให้ความสำคัญแก่การเปลี่ยนแปลงที่เป็นจริงของชีวิตและสังคมว่าดำเนินมาและดำเนินไปอย่างไร เชื่อในการคลี่คลายเปลี่ยนแปลงของชีวิตและสังคมซึ่งจะต้องเป็นเช่นนั้นตามกฎแห่งเวลาของพุทธศาสนา

- อรรถจักร สัตยานุรักษ์
(จากบทความ "ความเปลี่ยนแปลงความคิดทางเวลาในสังคมไทย" วารสารเศรษฐศาสตร์การเมือง 4 ตุลาคม 2531)




Let this song rhyme our souls
when your voice and mine become one and whole.

Let it carry us high above
When we recite our poetry of love
that when there's love then there's hope.

Your love is my light,
and it'll get us through this lonely night.

- รักแห่งสยาม (ซับไตเติ้ลอังกฤษเพลง กันและกัน ท่อนฮุค)









Friends' blogs
[Add nanoguy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.