|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
- รวม Review หนังสั้นประจำเดือน ตุลาคม-พฤศจิกายน 2550
- รักแห่งสยาม : บทพล่ามถึงความรักที่ลอยอยู่รอบตัวเรา
- รวม Review ภาพยนตร์ประจำเดือน ตุลาคม 2550
- ร่าง พรบ. ฉบับใหม่... กูไม่ใช่เกาหลีเหนือโว้ย!!
- รวม Review ภาพยนตร์ประจำเดือน กันยายน 2550
- รวม Review ภาพยนตร์ประจำเดือน กันยายน 2550(2)
- รวม Review ภาพยนตร์ประจำเดือน กันยายน 2550(1)
- ชำแหละความชิบหายของ "เพื่อน...กูรักมึงว่ะ"
- รวม Review ภาพยนตร์ประจำเดือน สิงหาคม 2550
- รวม Review ภาพยนตร์ขนาดยาวประจำเดือน สิงหาคม 2550 (2)
- รวม Review ภาพยนตร์สั้นที่ได้ดูในเดือนสิงหาคม 2550
- รวม Review ภาพยนตร์ขนาดยาวประจำเดือน สิงหาคม 2550 (1)
- รวม Review ภาพยนตร์ 16 เรื่องจาก Bangkok Film
- รวม Review ภาพยนตร์ที่ได้ดูในเดือนกรกฎาคม 2550
- รวม Review ภาพยนตร์ที่ได้ดูในเดือนมิถุนายน 2550
- รวม Review ภาพยนตร์ที่ได้ดูในเดือนพฤษภาคม 2550
- Memories of Matsuko แค่อยากเป็นคนที่ถูกรัก แค่อยากเป็นคนที่ถูกใครสักคนเข้าใจ
- Pan's Labyrinth มันหนังรัฐศาสตร์ชัดๆเลยครับพี่น้อง!!!
- รวม Review ภาพยนตร์ที่ได้ดูในเดือนเมษายน 2550
- รวม Review ภาพยนตร์ที่ได้ดูในเดือนมีนาคม 2550
- รวม Review ภาพยนตร์ที่ได้ดูในเดือนกุมภาพันธ์ 2550
- รวม Review ภาพยนตร์ที่ได้ดูในเดือนมกราคม 2550
- Fur: An Imaginary Portrait of Diane Arbus (สหรัฐอเมริกา, Steven Shainberg, 2006)
- Open Season (สหรัฐอเมริกา, กำกับสามคน, 2006)
- Thank You for Smoking (สหรัฐอเมริกา, Jason Reitman, 2005)
- Earthcore - หนังสั้นปฐมบทของ "13 เกมสยอง" (ไทย, ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล, อนุโลมว่า 2550 ละกัน)
- Final Score-365 วัน ตามติดชีวิตเด็กเอ็นท์ (ไทย, โสรยา นาคะสุวรรณ, 2550)
- A Stranger of Mine aka Unmei janai hito (ญี่ปุ่น, Uchida Kenji, 2005)
- Velvet Goldmine (สหราชอาณาจักร+สหรัฐอเมริกา, Todd Haynes, 1998)
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาคองค์ประกันหงสา (ไทย, หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล, 2550)
- Dead Poets Society (สหรัฐอเมริกา, Peter Weir, 1989)
- ครูสมศรี (ไทย, หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล, 2528)
- Reservoir Dogs (สหรัฐอเมริกา, Quentin Tarantino, 1992)
- 10 หนังสั้นในโครงการ "ชวนเด็กดูหนัง"
- Conflict (สหภาพโซเวียต, ใครกำกับ?, ปีไหนก็ไม่รู้)
- Takeshis' (ญี่ปุ่น, Kitano Takeshi, 2005)
- Wordplay (สหรัฐอเมริกา, Patrick Creadon, 2006)
- The Black Dahlia (เยอรมนี+สหรัฐอเมริกา, Brian de Palma, 2006)
- Hidden aka Cache (ฝรั่งเศส+ออสเตรีย+เยอรมนี+อิตาลี, Michael Haneke, 2005)
- Perfume: The Story of a Murderer (เยอรมนี+ฝรั่งเศส+สเปน, Tom Tykwer, 2006)
- Blood Diamond (สหรัฐอเมริกา, Edward Zwick, 2006)
- Nanoguy Awards 2006
- Nanoguy Awards 2006 ช่วงที่ 2
- Nanoguy Awards 2006 ช่วงที่ 1
- จมโลกเซลลูลอยด์
- ปิดเทอมผลาญหนัง ตอนที่ 4 : อำมหิตพิศวาส/ เปนชู้กับผี/ Stormy Night/ หมากเตะรีเทิร์น/ mastersOFhorror
- ปิดเทอมผลาญหนัง ตอนที่ 3 : Days of Glory/ Candy/ The Pianist / Infernal Affairs /Monster House
- ปิดเทอมผลาญหนัง ตอนที่ 2 :: The Last Emperor/ DOA/ ผีคนเป็น/ Climates/ 21 Grams/ The Departed
- ปิดเทอมผลาญหนัง ตอนที่ 1 : Cars/ The Ant Bully/ 13 เกมสยอง/ A Soap/ Paris, I Love You/ Rob-B-Hood
- แซ่บหนัง ทั้งเทอม!!
- แซ่บเรื่องหนัง(7-จบ) : The Wind that Shakes the Barley, WTC, The Devil Wears Prada, The Child
- แซ่บเรื่องหนัง(6) : Me and Youฯ, The Thomas Crown Affair, The Host, Seasons Change, Death Note
- แซ่บเรื่องหนัง(5) : Jasmine Women/ My Super Ex-Girlfriend/ Dreamer/ An Inconvenient Truth/ Cube
- แซ่บเรื่องหนัง(4) : โคตรรักเอ็งเลย/ The Lake House/ House of Wax/ Miami Vice/ United 93/ Brick
- แซ่บเรื่องหนัง(3) : Superman Returns/ แก๊งชะนีกับอีแอบ/ The Alibi/ Lady in the Water/ Sad Movie
- แซ่บเรื่องหนัง(2) : Don't Tell/ X-Men 3/ หนูหิ่น เดอะมูฟวี่/ The Bow/ Pirates of the Caribbean 2
- แซ่บเรื่องหนัง(1) : Sympathy For Mr Vengeance/ The Lover/ Spirited Away/ The Omen/ Scary Movie 4
- ต้มยำรวมมิตร(3-จบ) Poseidon/ มอ๘/ Match Point/ The Da Vinci Code/ Kinsey/ Always/ ก้านกล้วย
- ต้มยำรวมมิตร(2) ลาง-หลอก-หลอน/ The Wild/ Red Lights/ Perhaps Love/ Date Movie/ Ice Age 2/ M:I:3
- ต้มยำรวมมิตร(1) Capote/ V For Vendetta/ Inside Man/ Where the Truth Lies/ Hoodwinked/ She's the Man
- จับฉ่ายตอนอวสาน : The Constant Gardener/ Transamerica/ Final Destination 3/ A History of Violence
- จับฉ่ายตอนที่ 2 : Paradise Now/ กระสือวาเลนไทน์/ Walk the Line/ Munich/ เด็กหอ/ Invisible Waves
- จับฉ่ายตอนที่ 1 : Memoirs of a Geisha/ Brokeback Mountain/ Sophie Scholl : The Final Days/ Tsotsi
- When Crash was crashed, เมื่อ Crash กลายเป็นแพะ
- Rashomon ธรรมชาติของมนุษย์
- March of the Penguins วิบากแห่งเผ่าพันธุ์
- Nanoguy Awards 2005
- The Chronicles of Narnia : The Lion, The Witch and the Wardrobe แฟนตาซีอลังการส่งท้ายระกาศก
- King Kong ลิงยักษ์ที่คนต้องเสียน้ำตาให้
- Harry Potter and the Goblet of Fire ขาดหาย ตกหล่น พอทน ดูไป
- Nana สองสาว สองฝัน แต่ชื่อเดียวกัน
- เที่ยวนี้ ว่าด้วยความตาย Corpse Bride / Saw 1-2
- คอมโบหนังโรง Into the Blue / Flightplan / 3-Iron / อหิงสา จิ๊กโก๋มีกรรม
- คอมโบอีกซักทีดีไหม? Cinderella Man/Red Eye/เพื่อนสนิท
- Charlie and the Chocolate Factory หนังเด็ก ที่น่าให้ผู้ใหญ่ดู
- คอมโบอย่างบ้าคลั่ง กับหนัง 4 เรื่องรวด
- Team America : World Police เสียดสี ดีเดือด เลือดพล่าน
- The Machinist หลอนได้ที่ สยองได้ใจ
- The Island มนุษย์หนอมนุษย์...
- A Snake of June อสรพิษ=ตัณหา
- War of the Worlds ถึงมนุษย์ผู้หลงลำพอง
- Mr and Mrs Smith อารมณ์เดียวกับ "มหาลัยเหมืองแร่"
- มหาลัยเหมืองแร่ กินได้ แต่ไม่กลมกล่อม
- Star Wars Episode 3 : Revenge of the Sith เหมือนจะไม่ดี แต่ก็เหมือนจะดี...
- Sin City โหด ซาดิสต์ ถึงลูกถึงคน ถึงเลือดถึงเนื้อ...
- Kingdom of Heaven รบกันไปเพื่อ???
- I Am David เรียบๆ เฉยๆ พอดูได้
- Bangkok:Dangerous ร่วมกันยืนไว้อาลัยออกไซด์ แปง...
- The Interpreter เมื่อสามออสการ์โคจรมาพบกัน
- Hide and Seek ใครบอกตอนจบ บ้านบึ้ม...
- The Fog of War ม่านหมอกแห่งสงคราม
- And all razzies go to........ The Eye 10
- The Chorus หนังดีแบบดูง่ายๆ
- The Motorcycle Diaries เรียบๆ แต่ลุ่มลึก
- บุปผาราตรี เฟส 2 หนังเอามันส์ กระชากจิต...
- Hotel Rwanda กับความจัญไรของใจคน
- ความแตกต่างของหนังผู้หญิงและหนังผู้ชาย
- หลวงพี่เท่ง...ง่ะ
- ย้อนอดีต อันดากับฟ้าใส...
- เก็บตกสถิติออสการ์ (น่าอ่าน)
|
|
|
|
|
King Kong ลิงยักษ์ที่คนต้องเสียน้ำตาให้
ห่างหายจากเรื่องหนังไปนานจิ๊บๆ ช่วงนี้งานบานเบอะเละเทะอย่างร้ายกาจ...
เวลางานเยอะๆ ถ้าอัพก็จะอัพด่ากราดเรื่องงาน... ซึ่งในที่สุด งานบ้านบึ้มมหาศาล ก็จะทไห้ไม่มีเวลาอัพจนได้ เลยไม่ได้ด่ามันซะที...
เหมือนกะรอบนี้อะแหละ.. จริงๆ งานโคตรเยอะจัญไรมหาศาล แต่ตอนนี้เคลียร์ไปได้ครึ่งนึงและ เลยขี้เกียจด่ามัน...
ตอนนี้เลขมอหกเปลี่ยนสูตรการคำนวณค่าเฉลี่ยเลขคณิต และก็ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานแล้วเน่อ.. ต้องมานั่งหาว่าโจทย์มันพูดถึง "ประชากร" หรือว่า "กลุ่มตัวอย่าง"
ทีนี้มันจะมีปัญหากะโจทย์ที่มันเคยใช้ได้กับสูตรเก่าไง พอจะต้องมาใช้สูตรใหม่ ต้องมาน่งตีความ ทีนี้ไอ้โจทย์ที่มันตีความไม่ออก (คือไอ้คุณนักวิชาการทั้งหลาย ก็ตีความไม่ออกเหมือนกัน ว่ามันเป็น "ประชากร" หรือ "กลุ่มตัวอย่าง")
แกก็แก้ปัญหาด้วยการบอกว่า "ถ้าตีความไม่ออก ให้ถือเป็นประชากร"
แถกันสุดๆ... <<สมควรโดนเยี่ยงนี้อย่างยิ่ง
เอ๊ะ... นี่จะอัพเรื่องหนังใช่มะ พอพอ บ่นเยอะและ...
-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

Spoil ร้ายแรง สำหรับคนที่ไม่เคยรู้เรื่อง King Kong และยังคงอยากจะไปดูอยู่..
สำหรับคนที่ไม่เคยดู "คิงคอง" เวอร์ชั่นสมัยก่อน... โลเกชั่นของหนังอยู่ในปี 1933 เมื่อ Anne Darrow นักแสดงตลกตกอับ จับพลัดจับผลูได้ไปเล่นหนังของผู้กำกับจอมทะเยอทะยาน Carl Denham (เธอตกลงเพราะได้ยินชื่อ Jack Driscol นักเขียนบทภาพยนตร์คนโปรด) ก่อนที่เรือที่บรรทุกนักแสดงและทีมงานของหนังเรื่องนี้ จะได้ไปถึง Skull Island เกาะลึกลับในลายแทงของผู้กำกับคาร์ล
และที่นั่น พวกเขาก็ได้พบกับ Kong ลิงกอริลลายักษ์สูง 25 ฟุต โดย Anne ถูกพวกคนพื้นเมืองจับตัวไปบูชายัญให้กับ Kong ดังที่พวกเขาเคยทำมาตลอด แต่ว่า Anne กลับมีเสน่ห์ดึงดูดใจเจ้า Kong จนกระทั่งมันตกหลุมรักนางเอกสาวผมทองคนนี้
ไม่นานเท่าไรนัก คณะตามหาก็เจอ Anne จนได้ แต่ผู้กำกับ Carl ไม่ได้ต้องการเพียงแค่ช่วยนางเอกสาวกลับไปเท่านั้น เพราะเมื่อเขาต้องสูญเสียฟิล์มหนังทั้งเรื่อง รวมถึงกล้องไปบนเกาะนั้น เขาก็ต้องการสิ่งตอบแทนที่คุ้มค่ากับราคาที่เสียไป
และสิ่งนั้นคือ Kong!!!
-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
หนังแบ่งออกเป็นสามช่วง ประมาณช่วงละชั่วโมงนึงได้มั้ง (น่าจะนะ)
ช่วงแรก หนังเสนอภาพของ New York ช่วงปี 1933 ที่เศรษฐกิจกำลังตกต่ำ พร้อมกับเป็นช่วงเวลาแนะนำตัวละครสำคัญแต่ละตัว
Ann Darrow ทำงานหากินเป็นนักแสดงละครเวทีตลก ก่อนที่โรงละครที่เปรียบเสมือนชีวิตของเธอจะถูกทางการปิดตาย เธอตกอับจนต้องขโมยแอปเปิ้ลที่ร้านขายของชำ แต่ด้วยความไม่ชำนาญงานในด้านการขโมย เธอถูกเจ้าของร้านคว้าข้อมือไว้ได้อย่างรวดเร็ว...
และเธอก็ได้พบกับ Carl Denham...
Carl Denham เป็นผู้กำกับหนังหัวสมัยใหม่ ที่มีทั้งความทะเยอทะยาน และมักใหญ่ใฝ่สูง เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะยอมก้มหัวแล้วทำตามผู้ลงทุนสร้างหนัง ทำให้เขาถูกบอยคอตอยู่กลายๆ จนกระทั่งพล็อตหนังเรื่องล่าสุดของเขากำลังจะถูกระงับ เขาต้องรีบเร่งดำเนินการ ทั้งการหานางเอกใหม่ และรีบออกเดินทางไปยัง Location เขาต้องตาต้องใจ Ann Darrow ตั้งแต่แรกพบ และเกลี้ยกล่อมเธอจนเธอยอมมาเล่นหนังของเขา
เหตุผลหลักที่ Ann ยอมเล่นหนังเรื่องนี้คือชื่อของ Jack Driscoll
Jack Driscoll เป็นนักเขียนบทละครที่ไม่ค่อยแน่นอนกับชีวิต... อีกทั้งยังเป็นคนลังเล และปากหนักพอสมควร เขาถูก Carl ใช้เล่ห์เหลี่ยมหลอกให้ขึ้นเรือมาด้วย ก่อนที่เขาจะตกหลุมรักนางเอกสาวผมทองคนนี้เข้าเต็มเปา
ชะตากรรมของเรือลำนี้... มุ่งหน้าสู่ Skull Island...
-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
ช่วงที่สอง เป็นช่วงที่เรื่องราวอยู่บนเกาะ Skull Island ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะสุมาตรา
ทีมงานภาพยนตร์ขึ้นเกาะได้แบบหวุดหวิดที่สุด หลังจากรอดพ้นจากคลื่นที่ถาโถม พร้อมสายลมพายุพัดกระหน่ำ และกองทัพโขดหินที่เรียงรายอยู่รอบเกาะ เรือลำนี้ก็ไปถึงเกาะจนได้
Carl และทีมงานขึ้นไปที่เกาะ ก่อนที่จะพบกับชาวพื้นเมืองผิวดำ และกำแพงสูงตั้งตระหง่านราวกับป้องกันอะไรที่อันตรายล้นเหลือ และไม่นานนัก ชาวพื้นเมืองชายฉกรรจ์ก็กรูออกมารุมจับรุมทึ้ง "ผู้บุกรุก" อย่างบ้าคลั่ง แต่อาวุธที่แหลมคมของชาวพื้นเมือง ไม่อาจต้านทานความรวดเร็วและรุนแรงของ "ปืน" ได้
ทีมงานรีบแจ้นกลับขึ้นเรือ แต่ด้วยความชำนาญในการใช้ไม้ค้ำถ่อระดับเหนือเทพ ชาวพื้นเมืองจึงได้ตัว Ann Darrow ไปอย่างง่ายดาย
Ann Darrow ถูกลดฐานะจากนางเอกหนัง กลายเป็นเพียงเครื่องเซ่นของ Kong
ชาวพื้นเมืองทำพิธีถวายเครื่องบรรณาการให้แก่ Kong Kong มาหยิบเอาตัว Ann ไปพอดีกับช่วงที่เหล่า "ทีมงาน" กลับลำเรือมาที่เกาะเพื่อช่วยเธอพอดี แต่ Kong ก็พาเธอลับหายเข้าไปในป่ารกทึบหลังกำแพงตระหง่านเรียบร้อยแล้ว
ด้วยไหวพริบของ Ann เธอรอดจากคมเขี้ยวและหลอดอาหารของ Kong มาได้ เธอหนีไปแบบไม่รู้ทิศทาง และประสบพบเจอกับสรรพสัตว์แปลกประหลาดมากมาย และท้ายที่สุด เธอก็เจอกับเจ้า T-Rex
Kong ช่วยเธอจากอสูรร้าย Jurassic Park ตัวนี้ได้อย่างหวุดหวิด
Ann จึงได้รับรู้ความรู้สึกที่ Kong มีต่อเธอ...
แต่หลังจากนั้นไม่นานนัก Jack Driscoll ก็บุกป่าฝ่าดงเข้ามาช่วยเธอได้สำเร็จ ทำให้เจ้า Kong อาละวาดอย่างหนัก โดยที่ไม่รู้เลยว่า ที่มันตาม Ann ไปในครั้งนี้ ทำให้มันต้องพบกับจุดจบ
ผู้กำกับ Carl สูญเสียทั้งฟิล์มหนังและกล้อง รวมถึงบุคลากรสำคัญในทีมไปมาก เขาต้องการสิ่งตอบแทนที่คุ้มค่าสาสมกับสิ่งที่เขาต้องสูญเสียไปบน Skull Island นี้...
และสิ่งนั้น ก็กำลังไล่ตาม Ann มา...
ในช่วงที่สองนี้ ถือเป็นช่วงขายเอฟเฟกต์ นับตั้งแต่ตัว Kong ที่เอฟเฟกต์ทำได้เนียนร้ายกาจ รวมไปถึงสรรพสัตว์ประหลาดโลกทั้งหลายทั้งปวง และป่าที่ให้ความรู้สึกลึกลับ น่ากลัว แต่ก็น่าค้นหา
นอกจากตัว Kong สัตว์ที่ขโมยซีนได้เด็ดที่สุดคือเหล่าแมลงและปลิงยักษ์ (บางคนบอกว่าเป็นหนอนยักษ์) ลองจินตนาการถึงแมลงคล้ายๆผึ้ง แต่ขนาดพอ ๆ กับโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวย่อมๆ หรือว่าปลิงยักษ์ที่ขนาดพอๆกับงูเหลือมงูหลาม และสามารถ "สูบ" คนเข้าไปได้ทั้งคน ตอนดูไปมันให้ความรู้สึกทั้งน่ากลัวและขยะแขยงไปพร้อมๆกัน
เอฟเฟกต์บางส่วนยังดูออกว่าเป็นเอฟเฟกต์ และไม่เนียนเท่าที่ควร อย่างบางฉากที่ต้องถ่ายวิวป่ามุมกว้างด้านหลังตัวละคร มันไม่ค่อยมีมิติ มันแบนจนดูออก ว่านี่คือการถ่ายหน้า Bluescreen (แต่อย่างน้อย... มันก็ไม่ได้ "แบนราบ" แบบ "อังกอร์ 2" ก็แล้วกัน อันนั้นดูแล้วเหนื่อยใจกว่ามากมาย )
ในช่วงนี้ คนดูจะเริ่มเห็นด้านมืดของ Carl ในหลายๆ ฉาก ที่หัวสมองของเขามีแต่เรื่องหนังที่เขาต้องการจะถ่าย ไม่ได้อยู่ที่การช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีม เมื่อเขาต้องสูญเสียกล้องและฟิล์มอันล้ำค่าไปตอนตกเหว เขาจึงต้องการตัว Kong เพื่อทดแทนหนังที่เขาไม่อาจถ่ายได้อีกต่อไป...
Ann เหมือนกับเริ่มทำใจได้ ที่เธอต้องมาอยู่บนเกาะนี้ และเมื่อเธอได้รับความช่วยเหลือจาก Kong เธอก็คงรู้สึกว่า ถ้าเธอมี Kong อยู่ใกล้ๆ เธอก็จะปลอดภัยจากบรรดาสรรพสัตว์กินเนื้อทั้งหลายทั้งปวงบนเกาะลึกลับแห่งนี้ (น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกาะนี้อุดมผืนป่าเหลือเกิน เพราะดูเหมือนไม่มีสัตว์กินพืชอยู่บนเกาะนี้เลยซักตัว) แต่ว่า Jack ก็โผล่มาแบบไม่คาดฝัน...
Kong เป็นสิ่งมีชีวิตที่โดดเดี่ยวที่สุดในโลก เมื่อมันไม่มีคู่ที่เป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับมันอยู่เลย... เมื่อมันตกหลุมรัก Ann มันจึงยอมทำทุกอย่าง เพื่อปกป้องคนที่มันรัก... แม้ว่ามันจะต้องพบจุดจบก็ตาม...
-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
ช่วงที่สาม เมื่อทั้งหมดจับ Kong ไปได้ และไปโชว์ตัวที่ New York
ด้วยอานุภาพแห่งรัก Kong ตาม Ann และ Jack มาที่กำแพง ก่อนจะถูกมนุษย์ผู้ชั่วร้ายวางเล่ห์เหลี่ยมจับตัวไปแทนหนังที่ฟิล์มเสียไปแล้ว...
ที่เมือง... มันได้รับขนานนามให้เป็น The Eighth Wonder of the World ซึ่งสร้างความฮือฮาให้แก่วงการไฮซ้อไฮโซทั้งหลาย ต่างก็แห่กันมาซื้อตั๋ว และดันให้ชื่อของ Carl Denham ขึ้นทำเนียบคนดังไปในพริบตา
Kong ถูกล่ามโซ่ไว้ทั้งมือและเท้า เพื่อให้เป็นหุ่นเชิดในโชว์ห่วยๆ ที่มนุษย์จัดขึ้นเพื่อจำลองเหตุการณ์บน Skull Island
เมื่อถึงตอนที่จำลองการถวายตัว Ann ให้ Kong ทีมงานต้องใช้ Ann ตัวปลอม เพราะ Ann ตัวจริงไม่ยอมเข้าร่วมการแสดงนี้ ทำให้ Kong โกรธ และอาละวาดเพื่อตามหา Ann
มันพังทุกอย่างทั้งตึกรามบ้านช่อง รถยนต์ และอื่นๆ ที่มันรู้สึกว่าอันตราย...
หลังจากนั้นพักใหญ่ มันจึงได้พบกับโฉมงามของมัน
มันสงบลงในที่สุด และประคอง Ann ขึ้นมาบนมือยักษ์ของมันอย่างนุ่มนวล
แต่มนุษย์ยังไม่ยอมหยุดแม้ว่ามันจะหยุดแล้วก็ตาม การไล่ล่าผ่านไปหนึ่งคืน จนรุ่งสาง มันปีนขึ้นไปบนยอดตึก Empire State พร้อมกับ Ann
ตึก...ที่มันต้องพบจุดจบ
ในช่วงสุดท้ายของหนัง หลังจากที่สร้าง Kong ให้เป็นตัวละครที่มีมิติ มีความรู้สึก ไม่ได้เป็นเพียงสัตว์เดรัจฉานมาแล้ว... ในช่วงที่สามนี้ ถือว่าเป็นช่วงที่กระแทกใจคนดูมากที่สุด
หลังจากที่ Kong เจอกับโฉมงามผมทองของมัน ทั้งคู่ต่างก็ยิ้มและส่งสายตาให้กัน ราวกับอยู่ในโลกนี้กันสองคน..
ฉากที่ลานน้ำแข็ง เป็นฉากที่ซาบซึ้งและสวยงาม เพราะภาพที่เห็นไม่ได้เป็นเพียงลิงกับหญิงสาว แต่มันคือคนรักกัน ที่กำลังหัวร่อต่อกระซิกกันอย่างมีความสุขบนผืนน้ำแข็งกลางมหานครแห่งนั้น... ก่อนที่ความสุขจะถูกทำลายไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อ Kong ปีนขึ้นไปบนยอดตึก Empire State เวลานั้น พระอาทิตย์กำลังโผล่พ้นขอบฟ้า ราวกับ deja vu กับช่วงบนเกาะ ที่ Kong กับ Ann เคยนั่งชมพระอาทิตย์ตกด้วยกัน...
สองฉากนี้ เรียกน้ำตาคนได้ง่ายมาก พูดได้ เพราะว่าโดนมาแล้ว
-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
ด้วยความที่เคยได้ยินแต่ชื่อ King Kong พอหนังเข้า ก็เลยตัเดสินใจไปดูอย่างรวดเร็ว ไม่ได้เอาไปเทียบกับฉบับคลาสสิก เพราะหาดูไม่ได้แน่ๆ
เอฟเฟกต์คิงคองเนียนมาก ต้องชมทั้งทีม CG และ Andy Serkis ที่ต้องยอมสวมชุดติดเซนเซอร์เต็มหน้าเต็มตัวเพื่อรับบท Kong
ที่ชอบที่สุดคือการที่ Kong กลายเป็นตัวละครที่มีมิติ มีชีวิตจิตใจ มากกว่าเพียงแค่สัตว์เดรัจฉานตัวยักษ์ที่คอยแต่อาละวาดทำลายบ้านเมือง รวมถึงการแสดงขั้นเทพของ Naomi Watts และขึ้นเกือบเทพของ Adrien Brody และ Jack Black ที่เปลี่ยนบทบาทจากบทตลกกวนตีน มาเล่นบทซีเรียสได้กลมกล่อมดีทีเดียว
ขนาด Million Dollar Baby ที่เรียกว่าเศร้าๆ หรือว่า "เพื่อนสนิท" ที่ว่าซึ้งๆ ยังทำได้แค่น้ำตาซึมๆ
แต่ King Kong ทำให้เราเสียน้ำตาให้ลิงยักษ์ไปแล้ว...
-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
 
  
5 เรื่องข้างบนนี้เป็นเรื่องที่ดูในโรงแล้วไม่มีเวลาเขียน ก็เลยได้แค่เป็นน้ำจิ้ม...
Oliver Twist ---เรื่องนี้ตีแผ่สภาพสังคมได้โหดสะใจดีมาก ดูแล้วรู้สึกเหมือนกรุงเทพสมัยนี้เหลือเกิ๊นนนน... ลุง Ben Kingsley เล่นได้สุดยอดมาก...
เด็กโต๋ --- เรื่องนี้ดูแล้วรู้สึกดี อยากเจอคนอย่างครูใหญ่มากๆๆ แต่เรื่องการถ่ายทำ การอัดเสียง ยังไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ แต่ด้วยเนื้อหา ทำให้โดยรวมพอให้อภัยกันได้
Aeon Flux --- อันนี้ดูเพราะ Charlize Theron คนเดียว สวยมากกก ชุดก็รัดซ้า.. (โดยเฉพาะชุดนอน ) เสียดาย น้องของอิออนออกจะน่ารัก ดันโผล่มาแป๊บเดียว
ลองของ --- เรื่องนี้ถูกใจคอซาดิสต์ เพราะความสร้างสรรค์ในการออกแบบการทรมานคน บทถือว่าเขียนได้โอเค แต่การแสดงของนักแสดงใหม่ ไม่ได้ถือว่าดีมาก บางคนยังแข็งเป็นไม้อัดปลวกแทะอยู่
Chicken Little --- เป็นหนังที่ "น่าจะ" โอเค เพราะหลายๆ อย่างมันยังไม่สุด เหมือนมันอยากเล่นหลายประเด็น แต่ไม่ได้ดีเลิศอะไรซักอัน โดยเฉพาะไคลแมกซ์ระหว่างชิกเก้นกับพ่อ ไม่ได้กระแทกอารมณ์คนดู... แต่ว่าชอบ "มนุษย์ต่างดาวน้อยสีส้ม" น่าร้ากกก
Create Date : 22 ธันวาคม 2548 |
Last Update : 22 ธันวาคม 2548 15:36:41 น. |
|
29 comments
|
Counter : 11381 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: merf1970 วันที่: 22 ธันวาคม 2548 เวลา:16:53:49 น. |
|
|
|
โดย: Mr.Vop วันที่: 22 ธันวาคม 2548 เวลา:17:42:09 น. |
|
|
|
โดย: 125 66 IP: 58.10.18.194 วันที่: 22 ธันวาคม 2548 เวลา:18:51:04 น. |
|
|
|
โดย: nanoguy IP: 203.151.140.118 วันที่: 22 ธันวาคม 2548 เวลา:22:53:20 น. |
|
|
|
โดย: ying_tisa IP: 61.90.241.251 วันที่: 23 ธันวาคม 2548 เวลา:0:02:24 น. |
|
|
|
โดย: KT IP: 203.151.140.118 วันที่: 23 ธันวาคม 2548 เวลา:22:58:42 น. |
|
|
|
โดย: ~SOS~ IP: 61.91.65.49 วันที่: 23 ธันวาคม 2548 เวลา:23:36:43 น. |
|
|
|
โดย: PADAPA--DOO วันที่: 24 ธันวาคม 2548 เวลา:5:12:57 น. |
|
|
|
โดย: MadSatan IP: 202.133.139.58 วันที่: 24 ธันวาคม 2548 เวลา:18:06:44 น. |
|
|
|
โดย: มิ้งค์ IP: 61.91.254.132 วันที่: 24 ธันวาคม 2548 เวลา:18:36:10 น. |
|
|
|
โดย: จั่น * IP: 61.91.75.49 วันที่: 24 ธันวาคม 2548 เวลา:23:31:42 น. |
|
|
|
โดย: ตุ๊กตาไขลาน วันที่: 25 ธันวาคม 2548 เวลา:0:33:51 น. |
|
|
|
โดย: vbio IP: 202.28.27.3 วันที่: 25 ธันวาคม 2548 เวลา:11:29:24 น. |
|
|
|
โดย: มัชฌิมา วันที่: 25 ธันวาคม 2548 เวลา:12:49:52 น. |
|
|
|
โดย: merf1970 วันที่: 25 ธันวาคม 2548 เวลา:14:54:54 น. |
|
|
|
โดย: อะ-โล-ฮ่า วันที่: 26 ธันวาคม 2548 เวลา:11:02:59 น. |
|
|
|
โดย: เมตามอฟอซิส IP: 61.91.80.152 วันที่: 28 ธันวาคม 2548 เวลา:20:13:30 น. |
|
|
|
โดย: myo วันที่: 29 ธันวาคม 2548 เวลา:15:05:56 น. |
|
|
|
โดย: zonya~ IP: 203.156.89.228 วันที่: 29 ธันวาคม 2548 เวลา:21:09:46 น. |
|
|
|
โดย: Dr.Garden IP: 58.10.132.90 วันที่: 31 ธันวาคม 2548 เวลา:23:48:58 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

|
คนในสังคมจารีตที่มีความคิดทางเวลาแบบไตรภูมิจะไม่ให้ความสำคัญแก่เวลาตามประสบการณ์ กล่าวคือไม่ให้ความสำคัญแก่การเปลี่ยนแปลงที่เป็นจริงของชีวิตและสังคมว่าดำเนินมาและดำเนินไปอย่างไร เชื่อในการคลี่คลายเปลี่ยนแปลงของชีวิตและสังคมซึ่งจะต้องเป็นเช่นนั้นตามกฎแห่งเวลาของพุทธศาสนา
- อรรถจักร สัตยานุรักษ์ (จากบทความ "ความเปลี่ยนแปลงความคิดทางเวลาในสังคมไทย" วารสารเศรษฐศาสตร์การเมือง 4 ตุลาคม 2531)
Let this song rhyme our souls when your voice and mine become one and whole.
Let it carry us high above When we recite our poetry of love that when there's love then there's hope.
Your love is my light, and it'll get us through this lonely night.
- รักแห่งสยาม (ซับไตเติ้ลอังกฤษเพลง กันและกัน ท่อนฮุค)
|
|
|
|
|
|
|
ส่วนตัวแล้ว เคยดูทั้ง คิงคองยุคแรกๆ ทุกตอนด้วย
ตอนนั้นกับตอนนี้ คงเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้ แต่ถ้าถามว่าชอบแบบไหน ต้องบอกว่า ชอบแบบสมัยก่อนมากกว่า ตอนนั้นเป็นเด็ก ได้ดูหนังอะไรที่แปลกก็สุดยอดแล้ว แล้วยิ่งได้ดูหนังแบบลิงยักษ์ อีก ยิ่งรู้สึกว่า น่าตื่นเต้นเข้าไปอีก
แต่คิงคองยุคใหม่นี้ ไม่ประทับใจซักเท่าไหร่น่ะ ยิ่งได้ที่นั่งใกล้กับใครก็ไม่รู้ (สงสัยไม่ค่อยได้ดูหนัง มันพากษ์เกือบทั้งเรื่อง) คิดดูว่า 2 ชม. กว่าๆ จะทรมานขนาดไหน แต่ไม่ได้เสียอารมณ์อะไรหรอก เพราะหนังมันไม่ต้องใช้ความดิด แต่จำได้ว่า คิงคองยุคก่อน มันดูพระจันทร์เต็มดวงนะ
ถามว่าชอบไหม ตอบเลยว่าไม่ค่อยชอบ แต่ก้ต้องดุ เพราะว่ามันเราได้ดูภาคต้นๆของคิงคองมาทโดยตลอด เหมือนกับว่า ทำอะไรก็ต้องทำให้มันจนจบ น่ะ