|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
- รวม Review หนังสั้นประจำเดือน ตุลาคม-พฤศจิกายน 2550
- รักแห่งสยาม : บทพล่ามถึงความรักที่ลอยอยู่รอบตัวเรา
- รวม Review ภาพยนตร์ประจำเดือน ตุลาคม 2550
- ร่าง พรบ. ฉบับใหม่... กูไม่ใช่เกาหลีเหนือโว้ย!!
- รวม Review ภาพยนตร์ประจำเดือน กันยายน 2550
- รวม Review ภาพยนตร์ประจำเดือน กันยายน 2550(2)
- รวม Review ภาพยนตร์ประจำเดือน กันยายน 2550(1)
- ชำแหละความชิบหายของ "เพื่อน...กูรักมึงว่ะ"
- รวม Review ภาพยนตร์ประจำเดือน สิงหาคม 2550
- รวม Review ภาพยนตร์ขนาดยาวประจำเดือน สิงหาคม 2550 (2)
- รวม Review ภาพยนตร์สั้นที่ได้ดูในเดือนสิงหาคม 2550
- รวม Review ภาพยนตร์ขนาดยาวประจำเดือน สิงหาคม 2550 (1)
- รวม Review ภาพยนตร์ 16 เรื่องจาก Bangkok Film
- รวม Review ภาพยนตร์ที่ได้ดูในเดือนกรกฎาคม 2550
- รวม Review ภาพยนตร์ที่ได้ดูในเดือนมิถุนายน 2550
- รวม Review ภาพยนตร์ที่ได้ดูในเดือนพฤษภาคม 2550
- Memories of Matsuko แค่อยากเป็นคนที่ถูกรัก แค่อยากเป็นคนที่ถูกใครสักคนเข้าใจ
- Pan's Labyrinth มันหนังรัฐศาสตร์ชัดๆเลยครับพี่น้อง!!!
- รวม Review ภาพยนตร์ที่ได้ดูในเดือนเมษายน 2550
- รวม Review ภาพยนตร์ที่ได้ดูในเดือนมีนาคม 2550
- รวม Review ภาพยนตร์ที่ได้ดูในเดือนกุมภาพันธ์ 2550
- รวม Review ภาพยนตร์ที่ได้ดูในเดือนมกราคม 2550
- Fur: An Imaginary Portrait of Diane Arbus (สหรัฐอเมริกา, Steven Shainberg, 2006)
- Open Season (สหรัฐอเมริกา, กำกับสามคน, 2006)
- Thank You for Smoking (สหรัฐอเมริกา, Jason Reitman, 2005)
- Earthcore - หนังสั้นปฐมบทของ "13 เกมสยอง" (ไทย, ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล, อนุโลมว่า 2550 ละกัน)
- Final Score-365 วัน ตามติดชีวิตเด็กเอ็นท์ (ไทย, โสรยา นาคะสุวรรณ, 2550)
- A Stranger of Mine aka Unmei janai hito (ญี่ปุ่น, Uchida Kenji, 2005)
- Velvet Goldmine (สหราชอาณาจักร+สหรัฐอเมริกา, Todd Haynes, 1998)
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาคองค์ประกันหงสา (ไทย, หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล, 2550)
- Dead Poets Society (สหรัฐอเมริกา, Peter Weir, 1989)
- ครูสมศรี (ไทย, หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล, 2528)
- Reservoir Dogs (สหรัฐอเมริกา, Quentin Tarantino, 1992)
- 10 หนังสั้นในโครงการ "ชวนเด็กดูหนัง"
- Conflict (สหภาพโซเวียต, ใครกำกับ?, ปีไหนก็ไม่รู้)
- Takeshis' (ญี่ปุ่น, Kitano Takeshi, 2005)
- Wordplay (สหรัฐอเมริกา, Patrick Creadon, 2006)
- The Black Dahlia (เยอรมนี+สหรัฐอเมริกา, Brian de Palma, 2006)
- Hidden aka Cache (ฝรั่งเศส+ออสเตรีย+เยอรมนี+อิตาลี, Michael Haneke, 2005)
- Perfume: The Story of a Murderer (เยอรมนี+ฝรั่งเศส+สเปน, Tom Tykwer, 2006)
- Blood Diamond (สหรัฐอเมริกา, Edward Zwick, 2006)
- Nanoguy Awards 2006
- Nanoguy Awards 2006 ช่วงที่ 2
- Nanoguy Awards 2006 ช่วงที่ 1
- จมโลกเซลลูลอยด์
- ปิดเทอมผลาญหนัง ตอนที่ 4 : อำมหิตพิศวาส/ เปนชู้กับผี/ Stormy Night/ หมากเตะรีเทิร์น/ mastersOFhorror
- ปิดเทอมผลาญหนัง ตอนที่ 3 : Days of Glory/ Candy/ The Pianist / Infernal Affairs /Monster House
- ปิดเทอมผลาญหนัง ตอนที่ 2 :: The Last Emperor/ DOA/ ผีคนเป็น/ Climates/ 21 Grams/ The Departed
- ปิดเทอมผลาญหนัง ตอนที่ 1 : Cars/ The Ant Bully/ 13 เกมสยอง/ A Soap/ Paris, I Love You/ Rob-B-Hood
- แซ่บหนัง ทั้งเทอม!!
- แซ่บเรื่องหนัง(7-จบ) : The Wind that Shakes the Barley, WTC, The Devil Wears Prada, The Child
- แซ่บเรื่องหนัง(6) : Me and Youฯ, The Thomas Crown Affair, The Host, Seasons Change, Death Note
- แซ่บเรื่องหนัง(5) : Jasmine Women/ My Super Ex-Girlfriend/ Dreamer/ An Inconvenient Truth/ Cube
- แซ่บเรื่องหนัง(4) : โคตรรักเอ็งเลย/ The Lake House/ House of Wax/ Miami Vice/ United 93/ Brick
- แซ่บเรื่องหนัง(3) : Superman Returns/ แก๊งชะนีกับอีแอบ/ The Alibi/ Lady in the Water/ Sad Movie
- แซ่บเรื่องหนัง(2) : Don't Tell/ X-Men 3/ หนูหิ่น เดอะมูฟวี่/ The Bow/ Pirates of the Caribbean 2
- แซ่บเรื่องหนัง(1) : Sympathy For Mr Vengeance/ The Lover/ Spirited Away/ The Omen/ Scary Movie 4
- ต้มยำรวมมิตร(3-จบ) Poseidon/ มอ๘/ Match Point/ The Da Vinci Code/ Kinsey/ Always/ ก้านกล้วย
- ต้มยำรวมมิตร(2) ลาง-หลอก-หลอน/ The Wild/ Red Lights/ Perhaps Love/ Date Movie/ Ice Age 2/ M:I:3
- ต้มยำรวมมิตร(1) Capote/ V For Vendetta/ Inside Man/ Where the Truth Lies/ Hoodwinked/ She's the Man
- จับฉ่ายตอนอวสาน : The Constant Gardener/ Transamerica/ Final Destination 3/ A History of Violence
- จับฉ่ายตอนที่ 2 : Paradise Now/ กระสือวาเลนไทน์/ Walk the Line/ Munich/ เด็กหอ/ Invisible Waves
- จับฉ่ายตอนที่ 1 : Memoirs of a Geisha/ Brokeback Mountain/ Sophie Scholl : The Final Days/ Tsotsi
- When Crash was crashed, เมื่อ Crash กลายเป็นแพะ
- Rashomon ธรรมชาติของมนุษย์
- March of the Penguins วิบากแห่งเผ่าพันธุ์
- Nanoguy Awards 2005
- The Chronicles of Narnia : The Lion, The Witch and the Wardrobe แฟนตาซีอลังการส่งท้ายระกาศก
- King Kong ลิงยักษ์ที่คนต้องเสียน้ำตาให้
- Harry Potter and the Goblet of Fire ขาดหาย ตกหล่น พอทน ดูไป
- Nana สองสาว สองฝัน แต่ชื่อเดียวกัน
- เที่ยวนี้ ว่าด้วยความตาย Corpse Bride / Saw 1-2
- คอมโบหนังโรง Into the Blue / Flightplan / 3-Iron / อหิงสา จิ๊กโก๋มีกรรม
- คอมโบอีกซักทีดีไหม? Cinderella Man/Red Eye/เพื่อนสนิท
- Charlie and the Chocolate Factory หนังเด็ก ที่น่าให้ผู้ใหญ่ดู
- คอมโบอย่างบ้าคลั่ง กับหนัง 4 เรื่องรวด
- Team America : World Police เสียดสี ดีเดือด เลือดพล่าน
- The Machinist หลอนได้ที่ สยองได้ใจ
- The Island มนุษย์หนอมนุษย์...
- A Snake of June อสรพิษ=ตัณหา
- War of the Worlds ถึงมนุษย์ผู้หลงลำพอง
- Mr and Mrs Smith อารมณ์เดียวกับ "มหาลัยเหมืองแร่"
- มหาลัยเหมืองแร่ กินได้ แต่ไม่กลมกล่อม
- Star Wars Episode 3 : Revenge of the Sith เหมือนจะไม่ดี แต่ก็เหมือนจะดี...
- Sin City โหด ซาดิสต์ ถึงลูกถึงคน ถึงเลือดถึงเนื้อ...
- Kingdom of Heaven รบกันไปเพื่อ???
- I Am David เรียบๆ เฉยๆ พอดูได้
- Bangkok:Dangerous ร่วมกันยืนไว้อาลัยออกไซด์ แปง...
- The Interpreter เมื่อสามออสการ์โคจรมาพบกัน
- Hide and Seek ใครบอกตอนจบ บ้านบึ้ม...
- The Fog of War ม่านหมอกแห่งสงคราม
- And all razzies go to........ The Eye 10
- The Chorus หนังดีแบบดูง่ายๆ
- The Motorcycle Diaries เรียบๆ แต่ลุ่มลึก
- บุปผาราตรี เฟส 2 หนังเอามันส์ กระชากจิต...
- Hotel Rwanda กับความจัญไรของใจคน
- ความแตกต่างของหนังผู้หญิงและหนังผู้ชาย
- หลวงพี่เท่ง...ง่ะ
- ย้อนอดีต อันดากับฟ้าใส...
- เก็บตกสถิติออสการ์ (น่าอ่าน)
|
|
|
|
|
แซ่บเรื่องหนัง(5) : Jasmine Women/ My Super Ex-Girlfriend/ Dreamer/ An Inconvenient Truth/ Cube

Date : 18 สิงหาคม 2549 Location : Siam
ชื่อภาษาจีน Mo Li Hua Kai แปลได้ตรงตัวว่า Jasmine Women แถมในหนังยังตั้งชื่อตัวละครที่ จางจื้ออี้ (Zhang Zi-yi) เล่นทั้งสามช่วงเวลาว่า Mo, Lili และ Hua อีกต่างหาก...
อย่างที่บอก หนังเรื่องนี้แบ่งเวลาเป็นสามช่วง บทหนักตกอยู่ที่ Zhang Zi-yi และ Joan Chen ที่ต้องเป็นตัวละครถึงสามยุคสามสมัย ตั้งแต่เจเนอเรชั่นยายยันลูก ที่สื่อถึงความเปลี่ยนไปของสังคมจีนได้อย่างชัดเจนทั้งสามยุค คือในยุคทุนนิยมอารยธรรมตะวันตก ยุคคอมมิวนิสต์ลัทธิเหมาสุดโต่ง และยุคปัจจุบันที่ความเป็นสังคมนิยมเริ่มคลายความตึงเครียดลง
อาโม เป็นเด็กสาวที่เติบโตมาในยุคตะวันตกรุ่งเรือง มีความใฝ่ฝันจะเป็นดาราดัง จนกระทั่งเผลอไผลไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับโปรดิวเซอร์ และถูกทอดทิ้งหลังจากที่ประเทศประสบภาวะเศรษฐกิจล่มและบริษัทล้มละลาย ไม่นานหลังจากนั้น อาโมก็ให้กำเนิดลูก และได้ตั้งชื่อว่า ลิลี่ ตามชื่อแม่ของเธอ
ลิลี่ รักกับประธานนักเรียนผู้เป็นสาวกลัทธิสังคมนิยมสุดโต่ง จนถึงขั้นหนีตามกันไป บ้านของแฟนเธอเป็นสาวกสังคมนิยมสุดโต่งด้วยความเป็นกรรมกร (คำพูดที่แม่ยายของลิลี่ต้อนรับเธอก็คือ ลิลี่จากบ้านของคนมีเงินมาอย่างมีเกียรติ) ก่อนที่จะรู้ตัวว่าชีวิตเธอไม่เหมาะกับวิถีชีวิตแบบสุดโต่งแบบนี้ ประกอบกับที่บ้านไม่ยอมรับเธอ เธอจึงหนีกลับมาบ้านเดิม พร้อมกับอาการจิตเภท และให้กำเนิดลูกคือ อาฮัว
อาฮัว เป็นเด็กสาวหัวสมัยใหม่ในสังคมจีนใหม่ ภายหลังยุคคอมมิวนิสต์เริ่มคลายความเข้มงวดทางสังคมลง เธอยอมรับกับยาย (อาโม) อย่างหน้าชื่นตาบานว่าท้องกับแฟน ซึ่งถ้าเป็นยุคก่อนนี้ เธอคงโดนสังคมตราหน้าไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่ในภายหลังความรักของสองผัวเมียจะเริ่มระหองระแหงกัน
แต่ว่าจุดร่วมของทั้งสามยุคสามช่วงเวลาของตระกูลนี้ก็คือ เจเนอเรชั่นลูกของแต่ละยุค ต่างก็ริรักตั้งแต่วัยที่ยังไม่พร้อมทั้งสามยุค แม้ว่าผู้เป็นแม่จะพยายามทัดทานคัดค้านตักเตือนสักเท่าไรก็ไม่ฟัง จนความรักแต่ละครั้งนำพาให้ชีวิตต้องพบกับจุดเปลี่ยน
จุดที่ชอบคือการแสดงของ จางจื้ออี้ กับ โจนเช็ง ที่แสดงเป็นตัวละครสามตัวสามเจเนอเรชั่นได้อย่างยอดเยี่ยมและกลมกลืน (แต่ส่วนที่ชอบที่สุดคือช่วงเจเนอเรชั่นสังคมนิยม -ลิลี่- รู้สึกว่าเนื้อเรื่องช่วงนี้มันมืดหม่นดี) บทภาพยนตร์ก็สื่อถึงสภาพสังคมที่เปลี่ยนไปได้ดีเหมือนกัน
แต่รู้สึกเหมือนเป็นหนังที่ทำให้คนจีนดูมากไปนิดนึงแฮะ หลายๆอย่างในเรื่องเลยเหมือนจะยังสัมผัสไม่ถึง
6.5 เต็ม 10

Date : 30 สิงหาคม 2549 Location : Grand EGV Siam Discovery
เรื่องนี้ดูฟรีครับ 555+ อยากดูเพราะว่าตัวอย่างฮาสุดๆ ยิ่งมีป้า Uma Thurman (ที่ได้ใจเจ้าของบล๊อกสุดๆจาก Kill Bill) มาเล่นเป็นซูเปอร์ฮีโร่ด้วย ยิ่งน่าดูเข้าไปใหญ่
เรื่องราวของ Matt Sonders พนักงานบริษัทหน้าจืดที่ใฝ่ฝันจะมีแฟนกะเค้าซักคน จับพลัดจับผลูไปจีบสาวเฉิ่มใส่แว่น (ตามคำยุยงของเพื่อนที่บอกว่า เฉิ่มๆแบบนี้แหละ ฮ็อตสุดใจ) Jenny Johnson บนรถไฟ และช่วยเอากระเป๋าเธอคืนมาจากโจรวิ่งราวได้ ทำให้กลายเป็นแฟนกันไปซะอย่างงั้น..
แต่เหตุการณ์พลิกผัน ไปๆมาๆ Jenny สาวเฉิ่มเบ๊อะกลับกลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่สาวสุดเซ็กซี่แห่งนิวยอร์กอย่าง G-Girl ไปเสียได้ เมื่อ Matt รู้ความลับเขาก็เริ่มทำอะไรไม่ถูก เพราะดีกรีความหึงของแม่ฮีโร่สาวก็ค่อยๆพุ่งทะยานสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามประสาคนขาดรัก
ฉากที่ชอบสุดๆ คือฉากในบาร์ที่ Matt ไปนั่งกินข้าวกับ Jenny โดยมีเพื่อนที่ทำงานของ Matt ติดไปด้วย แม่ G-Girl หึงโหดถึงขนาดที่นิวเคลียร์(ที่ยิงผิดทิศ - -*)กำลังพุ่งจะถึงนิวยอร์กอยู่รอมร่อ ชีก็ไม่สนใจ จ้องหน้าพ่อแมตต์แฟนตัวเองลูกเดียว หึงได้ใจมาก
หลังจากที่พ่อหนุ่มแมตต์เริ่มทนความหึงไม่ไหว ก็เลยขอบอกเลิก ฤทธิ์รักแรงแค้นของฮีโร่สาวก็ตามมา พร้อมกับการวางแผนของตัวร้ายของเรื่อง ที่คิดจะใช้แมตต์เป็นเครื่องมือในการจัดการจีเกิร์ล
ตอนแรกนึกว่าเข้าไปแล้วจะได้นั่งฮาสุดๆ แต่ว่าฉากที่ฮาสุดๆ ดันตัดออกมาแปะไว้ในหนังตัวอย่างหมดแล้ว (โรคเดียวกับ Scary Movie 3 เลย) เลยได้แค่นั่งหัวเราะหึหึไปทั้งเรื่อง (มีแค่ฉาก "หึงโหดไม่สนโลกภายนอก" ที่ร่ายไปเมื่อตะกี๊ ที่ไม่มีในตัวอย่าง)
บทหนังจะว่าไปพูดแบบไม่เกรงใจก็คือ.. เหมือนทำให้เด็กสามขวบดู - -* เพราะทุกอย่างจบลงเหมือนนิทานก่อนนอน ทุกคนมีความสุข และจบแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย และไร้เหตุผลด้วยคำพูดแค่ประโยคเดียว ทุกอย่างก็คลี่คลายได้หมด ซะอย่างงั้น!!
วู้..
4.5 เต็ม 10

Date : 4 กันยายน 2549 Location : Lido Multiplex
เรื่องนี้ตอนแรกชั่งใจอย่างหนัก... ว่าจะดู Dakota Fanning ดีมั้ย.. แต่ว่าถ้าดูก็ต้องทำใจกับพล็อตตามสูตรเป๊ะๆๆๆๆๆๆ นะ
ว่าแล้วก็ไปดู Dakota ในที่สุด
แล้วก็ต้องทำใจกับเนื้อเรื่องโคตรพ่อโคตรแม่ตามสูตร เมื่อลูกสาวเจ้าของคอกม้าเกิดอยากเลี้ยงม้าที่ขาหักจากการแข่งขันเอาไว้ ฟูมฟัก หาจ๊อกกี้ หาเงินทุนเพื่อให้มันลงแข่งรายการใหญ่ที่สุดแห่งปี ด้วยโอกาสต่ำเตี้ยติดดิน...
พล็อตแค่นั้นแหละ จบแค่ไหนคงไม่ต้องบอก ตามสูตรเด๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แต่ความหวังที่จะเข้าไปดูการแสดงของ Dakota Fanning ก็ห่อเหี่ยวไป.. เพราะว่าเหมือนหนังดองนานมากก.. Dakota ดูเด็กกว่าใน War of the Worlds ซะอีก.. การแสดงก็เลยเป็นแบบ "อืม..น่ารักดี" มากกว่า "เล่นดีว่ะ"
5 เต็ม 10

Date : 4 กันยายน 2549 Location : Scala
ใบปิดนี้อาจจะไม่คุ้นเคย แต่ว่าไอเดียแปลกดี แล้วก็สื่อให้เห็นความเปลี่ยนไปของโลกด้วยการให้นกเพนกวินมาเดินบนพำนทะเลทราย (ส่วนอีกอันที่น่าจะเห็นกันทั่วไปแล้วก็คือภาพควันจากโรงงานที่ออกมาเป็นรูปของพายุไต้ฝุ่น) ก็เลยเอามาให้ดูกัน
ภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้โด่งดังในเทศกาลหนังต่างๆพอสมควร ด้วยการแฉความจริงเรื่องเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมของโลกที่เริ่มเปลี่ยนไปในยุคศตวรรษที่ 20 ที่ผ่านมา ทั้งอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นมาก เพราะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มีปริมาณสูงขึ้น ซึ่งปรากฏการณ์เหล่านี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แต่อาจทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลาย และอาจถึงขั้นที่กระแสน้ำอุ่นน้ำเย็นจะหยุดไหลเวียน ทำให้โลกย้อนกลับไปสู่ยุคน้ำแข็งอีกครั้ง
Al Gore อดีตผู้สมัครประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่ได้คะแนนมากกว่า George W. Bush แต่ดันแพ้ (เพราะระบบอะไรของมันก็ไม่รู้ ดูแล้วก็ไม่เคยเข้าใจระบบการเลือกตั้งของประเทศนี้ซะที) ก็เลยกึ่งๆวางมือทางการเมืองมาเน้นการประชาสัมพันธ์เรื่องสิ่งแวดล้อมด้วยการเดินสายบรรยายสไลด์เกี่ยวกับผลกระทบที่มนุษย์ทำต่อสิ่งแวดล้อมของโลก
นอกจากเนื้อเรื่องหลักของสารคดีเรื่องนี้อย่างเรื่องสิ่งแวดล้อม น้ำจิ้มที่แทรกเข้ามาในหนังเรื่องนี้ก็มีเกร็ดชีวิตบางส่วนของ Al Gore แต่มันเหมือนกับกินหมูปิ้ง ไม่มีน้ำจิ้มก็กินได้อร่อยดี ทำให้น้ำจิ้มถ้วยนี้เหมือนกับเอามาทิ้งไว้เฉยๆซะมากกว่า (ในความคิดของเจ้าของบล๊อก ที่กินหมูปิ้งไม่ใส่น้ำจิ้ม ถ้าคนอื่นชอบกินน้ำจิ้มก็คงจะเห็นต่างกัน)
ภาพของสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปในเวลาไม่กี่สิบปีจากทั่วโลก ทำให้ผู้ชมต้องตกตะลึง ทั้งหิมะและธารน้ำแข็งในแอฟริกาและอเมริกาใต้ที่หายไปแทบไร้ร่องรอย หรืออดีตหนึ่งในทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในโลกติดท็อปเท็นที่ปัจจุบันแทบจะเป็นเพียงแอ่งน้ำขังธรรมดา
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีที่มาที่ไป.. แล้วใครเป็นคนทำ ถ้าไม่ใช่มนุษย์
8.5 เต็ม 10

Date : (Can't remember) Location : ห้องประชุมมาลัยหุวะนันทน์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
หนังแคนาดาเรื่องนี้ล้มเหลวในด้านรายได้ แต่ประสบความสำเร็จในด้านคำวิจารณ์จากเทศกาลหนังต่างๆทั่วโลก จนทำให้มีคนได้แรงบันดาลใจเอาไปสร้างภาคต่อถึงสองภาค (Hypercube และ Cube Zero)
เรื่องราวทริลเลอร์แฟนตาซีเกี่ยวกับห้องลูกบาศก์นับพันนับหมื่นห้องในตึกปริศนา เหล่าผู้คนที่ต้องเข้ามาในลูกบาศก์ปริศนานี้ต้องหาทางเอาตัวรอดออกจากห้องปริศนาเหล่านี้ให้ได้ เพราะจากแต่ละห้องๆ(ซึ่งมีประตูอยู่ 6 ประตู ซ้ายขวาหน้าหลังบนล่าง) จะมีห้องที่ปลอดภัยเพียงแค่ห้องเดียวจาก 6 ห้องรายรอบ ทุกคนต้องหาวิธีตรวจสอบว่าห้องไหนคือห้องที่ปลอดภัย และคิดหากลวิธีออกไปจากลูกบาศก์ปริศนานี้ให้ได้
นอกจากความสยองจากกับดักสุดโหดหลายอย่างที่ช่างคิดเหลือเกิน (เช่น เหล็กเส้นเล็กแสนคมที่เอามาถักทอเป็นตาข่าย เคลื่อนผ่านกายคน ร่างหล่นเป็นก้อนลูกเต๋านับร้อย) อีกเรื่องที่ในหนังนำเสนอออกมาได้ดีคือเรื่องจิตใจของคน แม้ว่าจะหนีตายอยู่ด้วยกันก็มิวายมีความขัดแย้งกันเกิดขึ้นจนถึงกับฆ่ากับแกงกันได้
โดยเฉพาะตอนจบที่เสียดสีสังคมได้อย่างเจ็บแสบ! (ต้องบังคับให้ไปหามาดูเองอีกแล้ว เหอๆๆๆ ร้านเช่าก็มีคร้าบ<br) 8.5 เต็ม 10
Create Date : 03 ตุลาคม 2549 |
Last Update : 4 ตุลาคม 2549 10:53:55 น. |
|
5 comments
|
Counter : 1196 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: 125 66 IP: 58.9.43.145 วันที่: 5 ตุลาคม 2549 เวลา:20:34:57 น. |
|
|
|
โดย: 125 66 IP: 58.9.43.145 วันที่: 5 ตุลาคม 2549 เวลา:20:36:01 น. |
|
|
|
โดย: พระเจ้า** IP: 58.9.6.10 วันที่: 5 ตุลาคม 2549 เวลา:23:56:49 น. |
|
|
|
โดย: zadwaan (cheatoneself ) วันที่: 7 ตุลาคม 2549 เวลา:23:48:27 น. |
|
|
|
โดย: mhpotrk IP: 124.157.164.205 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:03:21 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

|
คนในสังคมจารีตที่มีความคิดทางเวลาแบบไตรภูมิจะไม่ให้ความสำคัญแก่เวลาตามประสบการณ์ กล่าวคือไม่ให้ความสำคัญแก่การเปลี่ยนแปลงที่เป็นจริงของชีวิตและสังคมว่าดำเนินมาและดำเนินไปอย่างไร เชื่อในการคลี่คลายเปลี่ยนแปลงของชีวิตและสังคมซึ่งจะต้องเป็นเช่นนั้นตามกฎแห่งเวลาของพุทธศาสนา
- อรรถจักร สัตยานุรักษ์ (จากบทความ "ความเปลี่ยนแปลงความคิดทางเวลาในสังคมไทย" วารสารเศรษฐศาสตร์การเมือง 4 ตุลาคม 2531)
Let this song rhyme our souls when your voice and mine become one and whole.
Let it carry us high above When we recite our poetry of love that when there's love then there's hope.
Your love is my light, and it'll get us through this lonely night.
- รักแห่งสยาม (ซับไตเติ้ลอังกฤษเพลง กันและกัน ท่อนฮุค)
|
|
|
|
|
|
|
อยากลองไปดุอะ เหอๆ