สัตว์เลี้ยง สมาชิกแสนดีที่ต้องดูแล
โดย : ชฎาพร นาวัลย์
ไม่ใช่แค่ "คน" ในครอบครัวที่ต้องให้ความสำคัญ แต่ "สัตว์เลี้ยง" หน้าตาบ๊องแบ๊วต่างก็ต้องการ "ความรักและเข้าใจ" ไม่ต่างกัน
ภาพสลดใจของปีก่อนในช่วง เหตุการณ์น้ำท่วม หนึ่งในนั้นคือภาพน้องหมาโกลเด้นท์ตัวเบิ้มที่ถูกแขวนคอห้อยต่องแต่งจากรั้ว ระเบียงบนชั้นสองของบ้าน แม้มันจะเกิดจากความไม่ตั้งใจของทั้งเจ้าของ และตัวของมันก็คงไม่คาดคิดว่า การตัดสินใจกระโดดหนีน้ำหรือต่อสู้ตามสัญชาตญาณนั้น จะนำพามัจจุราชมาถึงตัว แต่ก็ส่งผลให้หลายคนเสียน้ำตาเพราะความรักสัตว์โลก แต่ทว่ามนุษย์โลกกลับรู้เท่าไม่ถึงการณ์
แต่เหตุการณ์นั้นจะไม่เกิดขึ้นอีกแน่นอนในปีนี้และตลอดไป หากสมาชิกทุกคนในบ้านให้ความเข้าถึงลักษณะทางกายภาพและจิตใจของสัตว์เลี้ยง และหมั่นสังเกตสังกาเมื่อเห็นความผิดปกติ
เมื่อมีสัตว์เลี้ยงทุกชนิดมาสมัครเป็นสมาชิกในบ้าน เจ้าของควรปกป้องพวกมันด้วยการฉีดวัคซีน การฉีดวัคซีนนั้นจะช่วยปกป้องสัตว์เลี้ยงจาก โอกาสที่จะติดโรคร้ายต่างๆ ได้ อีกทั้งต้องให้น้องๆ ขนปุยทั้งหลายได้รับการตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอจากสัตวแพทย์ และถ้าไม่ต้องการขยายพันธุ์ มีผลงานวิจัยทางการแพทย์ระบุว่า การคุมกำเนิดสามารถช่วยให้สุนัขมีชีวิตที่ยืนยาวเพิ่มขึ้น ด้วยชีวิตที่มีสุขภาพดีขึ้น
และถ้าสัตว์เลี้ยงอาจเกิดความตึงเครียด ทางเดียวที่จะจัดการได้ ก็คือ เจ้าของต้องหมั่นพูดคุย ให้ความใกล้ชิด หรือเล่นกับสัตว์เลี้ยงบ่อย ๆ ซึ่งนอกจากช่วยผ่อนคลายความเครียดให้สัตว์เลี้ยงแล้ว ก็จะเป็นการผ่อนคลายความเครียดในตัวเองด้วยเช่นกัน
หนาวนี้เจ้าขนปุย...ป่วย
และเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว ตามมาด้วยสภาพอาการเปลี่ยนแปลงและแปรปรวน พานให้สัตว์เลี้ยงแสนรักของเราเซื่องซึม ส่งสัญญาณว่า "หนูเริ่มป่วยแล้วนะฮาาาฟ"
สัตวแพทย์หญิงลลนา เอกธรรมสุทธิ์ ฝ่ายวิชาการ โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน ขอส่งต่อข้อมูลช่วยเหลือในการดูแลสัตว์เลี้ยงเบื้องต้น รวมถึงรวบรวมข้อมูลการใช้ยาสามัญประจำบ้านที่จำเป็นในการรักษาเบื้องต้น รวมทั้งรีบแยกสัตว์เลี้ยงที่ป่วยออกจากสัตว์ปกติ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อและเป็นการควบคุมโรคที่ดีตามหลักสุขาภิบาล
เธอเล่าว่า ทุกวันนี้ยังมีเจ้าของสัตว์เลี้ยงเข้ามาปรึกษาปัญหาสุขภาพสัตว์เลี้ยงที่ พบภายหลังน้ำท่วม ต่อเนื่องมาจนถึงอาการป่วยตามสภาพอากาศ ได้แก่ โรคระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ หวัด ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อ และสามารถติดต่อสู่สัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ ได้โดยการหายใจ และไม่มีการติดเชื้อข้ามสายพันธุ์
"จุดสังเกตง่ายๆ คือ อาการสัตว์เลี้ยงจะ ซึมลง ความอยากอาหารลดลง นอนมากกว่าปกติ มีขี้มูกขี้ตาเกรอะกรัง ไอ จาม ในตัวที่เป็นรุนแรงอาจมีอาการปอดบวมแทรกซ้อน หายใจลำบาก หอบ อาเจียนเป็นเสมหะปนเลือดได้ เยื่อเมือกซีดหรือม่วง ความรุนแรงของโรคอาจทำให้สัตว์เลี้ยงเสียชีวิตได้"
ดังนั้น หากพวกเขามีอาการดังกล่าว คุณหมอคนสวยเผยว่า ยาที่สามารถให้เพื่อการรักษาเบื้องต้นได้แก่ ยาปฏิชีวนะ ซึ่งสามารถพิจารณาตามความจำเป็นและเหมาะสม เช่น Amoxicillin ,Amoxicillin-Clavulanic, Norfloxacin ,Ciprofloxacin
ตามด้วยยาลดน้ำมูก (Chlorpheniramine, Hydroxyzine) ยาละลายเสมหะ (Carbocysteine, Acetylcysteine) และยาลดไข้แก้ปวด (Paracetamol, Aspirin)
กล่าวกันว่า หน้าหนาว เหล่ามนุษย์ก็อย่าชะล่าใจกับท้องร่วง หรือโรคระบบทางเดินอาหารทั้งหลาย สัตว์เลี้ยงก็เช่นกัน ซึ่งมันอาจมีสาเหตุได้ทั้งจากการติดเชื้อ หรือการได้รับสารเคมีปนเปื้อนที่มากับอาหาร
หากพบสัตว์เลี้ยงมี อาการท้องเสียถ่ายเหลวมีมูกหรือเลือดปน บางตัวมีอาเจียน เป็นไข้ ปวดตัว ปวดท้อง ไม่กินอาหาร นอนซึม ในรายที่เป็นรุนแรงมาก อาจต้องให้เกลือแร่และให้ดื่มน้ำสะอาดมากๆ เพื่อช่วยปรับสมดุลของร่างกายและลดภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรง
ยาที่สามารถให้เพื่อการรักษาเบื้องต้นได้แก่ ยาปฏิชีวนะ (Norfloxacin, Ciprofloxacin, Disento, Metronidazole) สามารถให้กิน Activate carbonได้ในกรณีท้องเสียไม่รุนแรงหรือได้รับสารเคมีปนเปื้อน ช่วยในการดูดซับสารพิษและขับออกทางอุจจาระได้ และยาลดไข้แก้ปวด (Paracetamol)
อย่างไรก็ตามข้อควรจำที่สำคัญคือ ห้ามให้พาราเซตามอลในแมวอย่างเด็ดขาด เนื่องจากพาราเซตามอลเป็นพิษกับแมวอย่างรุนแรงทำให้ถึงตายได้
กฤติกา ชัยสุพัฒนากุล ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ เปิดเผยว่า จากการตรวจสุขภาพของสัตว์ป่วยพบว่า อันตรายจากอาหารและเครื่องดื่มเป็นเรื่องที่พบมากที่สุด เพราะอาหารการกินหรือแม้แต่น้ำดื่ม อาจจะไม่สะอาดปลอดภัย 100 % โดยอาการที่มักพบบ่อยสุด ได้แก่ อาการท้องเสีย หรืออาหารเป็นพิษ
"เจ้าของสามารถใช้เกลือแร่ ที่เราทาน นั้นให้สุนัข หรือแมวที่มีอาการท้องเสียทานได้ แต่ถ้ามีอาการอาเจียนด้วยนั้นอาจให้ทานแต่น้ำสะอาด และงดเว้นอาหารทุกชนิด ก่อนนำเข้าพบสัตวแพทย์ ทั้งนี้ ต้องเก็บ และทำความสะอาดพื้นที่ หรือบริเวณที่พบอุจจาระ หรืออาเจียน ให้สะอาด โดยอาจใช้แอลกอฮอล์ หรือน้ำยาทำความสะอาดเช็ดบริเวณดังกล่าวและแยกขยะทิ้งทุกครั้ง"
แม้จะรู้วิธีตรวจคร่าวๆ แล้ว แต่การพาไปพบผู้เชี่ยวชาญจะปลอดภัยกว่า เพราะขนาดคนสื่อสารเป็นภาษาพูดได้ ก็ยังวินิจฉัยผิดๆ ถูกๆ กันเลย
credit : admin
| Create Date : 22 มกราคม 2555 |
| Last Update : 22 มกราคม 2555 21:28:05 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 1183 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [