อ้าว หุงไม่สุกแล้วกินได้เหรอคะ มันดิบหรือแฉะค่ะ ถ้าแฉะพี่จุ๋มค่อนข้างชอบนะ เพราะมันคล้ายๆ ข้าวต้มเลย แต่ถ้าดิบอันนี้พี่จุ๋มขอผ่านค่ะ อิ อิ
...
ปาร์ตี้ก็สนุกค่ะ เสียแต่ห้ามใจตัวเองเรื่องกินไม่ได้ค่ะ นี่ดีนะที่พี่จุ๋มต้องขับรถ ไม่อย่างนั้น คงเมากลิ้งไปแล้วเหมือนคนอื่นๆ อ่ะค่ะ

นั่นน่ะสิ ... ทำไมไม่ไปล่ะ ฟิตเนส?? บอกตรงๆว่าพี่เข้าใจอาการนี้นะ เพราะเคยเป็นมาก่อน + ดันไปเจอ อิเทรนเน่อร์ PT ที่หวังจะโกยแต่เงินเข้ากระเป๋า ทำให้พี่เป๋ไปอีกตั้งครึ่งค่อนปีแน่ะ (แบบว่าเกลียดมันง่ะ 555 ไม่อยากเจอหน้ามัน) แต่.... ในที่สุด พี่ก็บอกกับตัวเองว่า "ชั้นทำได้ และชั้นจะทำให้ดู ว่าสามารถมีหุ่นที่ดีได้ โดยไม่ต้องพึ่งแก...." ฮ่าๆๆๆๆๆ ทุกวันนี้มันพยายามเอาพี่เป็นตัวอย่างว่า มันเคยเทรนมากะมือ ..พี่บอก PT คนนี้ไปตรงๆว่า "ถ้าไม่อยากตกงาน กรุณาอยู่ห่างๆชั้น" ฮ่าๆๆๆๆ และจากนั้นก็ไม่พูดกะมันอีกเลย โอ๊ย...เรื่องมันยาวค่ะ ไว้ว่างๆจะมาเล่าให้ฟัง ...

พี่คิดว่าของน้องเบนซ อาจจะเริ่มต้นตรงที่ "ควบคุมและเปลี่ยนแปลงการทานอาหาร" ก่อน น่าจะดีที่สุด โดยเริ่มจากการ ดืี่มน้ำสะอาดให้ได้วันละ 3 ลิตร (ไม่ต้องสนรายละเอียด เพราะสิ่งทีสำคัญคือ ต้องเป็นน้ำสะอาด ก็พอแล้วค่ะ) และ ต่อมาก็คือเรื่องอาหารที่ทาน ... ลองปรับเปลี่ยนดูก่อนซัก 3 อาทิตย์ พออาทิตย์ที่ 4 เราค่อยๆมาคิดเรื่องการออกกำลังกายดู หนูเบนซลองเข้าไปอ่านบล๊อกเก่าๆของพี่ดูนะคะ เพราะมันมีอยู่ช่วงนึงที่พี่เองก็ปรับการกินอาหารเช่นกัน เคยเขียนไว้นานแล้ว เพราะการปรับเปลี่ยนการกินอาหารเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด และแค่ปรับและเปลียนอาหารที่กิน ...อย่างเดียว เราก็สามารถที่จะลดน้ำหนักได้ และการออกำลังกายที่ต้องเอามาเสริมเพราะ ร่างกายของคนเราถ้าลดน้ำหนัก ลดน้ำ ลดไขมันออกไปแล้ว เนื้อมันจะเหี่ยวย้อยห้อยต่องแต่งน่ะค่ะ เราต้องสร้างกล้ามเนื้อขึ้นมาเพื่อกระชับมัน เพื่อให้เรามีแรงและสุขภาพที่ดีขึ้น ลองดูนะคะ พี่เป็นกำลังใจให้ มีอะไรอยากถาม อยากคุย เขียนหลังไมค์หาได้ตลอดเวลาค่ะ สู้ๆนะเบนซ ห้ามยอมแพ้